Saturday, 4 May 2024
TODAY SPECIAL

วันนี้ถือเป็นวันที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ด้านการบินของประเทศ โดยเป็นวันที่มีการลงนามถือกำเนิด ‘การบินไทย’ บริษัทการบินแห่งชาติขึ้นเป็นครั้งแรก

ย้อนเวลากลับไปเมื่อกว่า 62 ปีก่อน หรือวันที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2502 รัฐบาลไทยได้ดำเนินการให้ บริษัท เดินอากาศไทย จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจสายการบินภายในประเทศอยู่ในขณะนั้น กับสายการบินสแกนดิเนเวียน (SAS) ซึ่งเป็นสายการบินร่วมของประเทศในกลุ่มสแกนดิเนเวียน ได้ทำสัญญาร่วมทุนระหว่างกัน เพื่อดำเนินธุรกิจการบริการสายการบินระหว่างประเทศขึ้น

หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2503 จึงได้มีการจดทะเบียนจัดตั้ง บริษัท การบินไทย จำกัด ด้วยทุนประเดิม 2 ล้านบาท โดยบริษัท เดินอากาศไทย จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 70 และ SAS ถือหุ้นร้อยละ 30 ของทุนจดทะเบียน 

โดยเที่ยวบินแรกของ ‘การบินไทย’ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2503 เป็นการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปยังฮ่องกง กิจการดำเนินต่อมาถึงปี พ.ศ. 2520 บริษัทเดินอากาศไทย จำกัด ได้ทำการซื้อหุ้นทั้งหมดคืนจาก SAS จึงทำให้ ‘การบินไทย’ กลายเป็นของคนไทยมานับตั้งแต่นั้น

ต่อมาคณะรัฐมนตรีได้มีมติให้นำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อระดมทุนจากภาคเอกชน เมื่อปี พ.ศ. 2534 และเปลี่ยนชื่อเป็น ‘บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน)’ ปัจจุบันการบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ในสังกัดกระทรวงคมนาคม ดำเนินกิจการในด้านการบินพาณิชย์ในประเทศและระหว่างประเทศ ในฐานะสายการบินแห่งชาติ และมีฉายาที่คนไทยรู้จักกันดีว่า ‘เจ้าจำปี’

แม้ช่วงเวลาที่ผ่านมา ‘เจ้าจำปี’ จะประสบกับภาวะวิกฤติทางธุรกิจ จนต้องมีการเร่งฟื้นฟู แต่ ‘การบินไทย’ ก็ยังคงเป็นสัญลักษณ์หนึ่งที่สะท้อนความเป็นไทยในสายตาของชาวโลกได้เหมือนเช่นเดิม...


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/การบินไทย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 13 ปีก่อน แฟนกีฬาชาวไทยได้เฮกันดังๆ เมื่อ สมจิตร จงจอหอ นักกีฬามวยสมัครเล่นของไทย สามารถเอาชนะนักชกคู่แข่งในรอบชิงชนะเลิศ กีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่ประเทศจีน คว้าเหรียญทองมาได้สำเร็จ

ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 13 ปีก่อน ในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2008 ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ประเทศไทยสามารถคว้าเหรียญทองจากกีฬามวยสากลสมัครเล่นมาครอง จากผลงานของผู้ชายที่ชื่อ สมจิตร จงจอหอ

สมจิตร สามารถเอาชนะนักมวยจากประเทศคิวบาไปได้ในรอบชิงชนะเลิศ ด้วยคะแนน 8 ต่อ 2 คว้าเหรียญทองสำคัญให้ทัพนักกีฬาไทยในครั้งนั้น และนับเป็นเหรียญทองที่ 4 ที่นักชกไทยสามารถทำได้ในโอลิมปิกเกมส์ทุกครั้งที่ผ่านมา

กล่าวถึง สมจิตร จงจอหอ เป็นชาวโคราช จังหวัดนครราชสีมา จบการศึกษาจากสถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตสุโขทัย เริ่มต้นอาชีพชกมวย ด้วยการต่อยมวยไทย โดยใช้ชื่อว่า ‘ศิลาชัย ว.ปรีชา’ ต่อมาได้เข้ามาเป็นหนึ่งในนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย

สมจิตร ได้รับการคาดหมายให้เป็นตัวเต็งในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2004 และเอเชี่ยนเกมส์ 2006 แต่เจ้าตัวไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลได้ตามคาด ทำให้เกิดความท้อใจ จนคิดจะแขวนนวมถึง 2 ครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็กลับมาตั้งต้นพยายามใหม่

โดยในการแข่งขันโอลิมปิก 2008 สมจิตรติดเป็นหนึ่งในทัพนักชกไทย ที่ไปแข่งขันยังประเทศจีนด้วย เขาผ่านนักชกกัวเตมาลา, อาร์เซอร์ไบจาน, ทาจิกิสถาน, อิตาลี จนมาเจอกับ อันดริส ลาฟฟิตา นักชกจากคิวบา ที่เจ้าตัวเคยพ่ายแพ้ในการแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพมาแล้ว แต่ในรอบชิงฯ ครั้งนี้ สมจิตรกลับเป็นฝ่ายเอาชนะไปได้

หลังคว้าเหรียญทองประวัติศาสตร์มาได้ สมจิตรก็ประกาศปิดฉากอำลาชีวิตนักมวย แม้ในวันนี้ เจ้าตัวจะหันมาโลดแล่นทำงานในแวดวงบันเทิง เป็นทั้งนักแสดง พิธีกร พรีเซนเตอร์มากมาย แต่ภาพการเป็น ‘นักชกหัวใจนักสู้’ ก็ยังถูกกล่าวถึงอยู่เสมอ


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/สมจิตร_จงจอหอ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของ ผู้นำชาวจีน ที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นผู้ออกแบบประเทศจีนสมัยใหม่ เขาคือ เติ้ง เสี่ยวผิง

เติ้ง เสี่ยวผิง เกิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคม ค.ศ. 1904 (หรือ พ.ศ. 2447) ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เขามีโอกาสได้ไปร่ำเรียนและทำงานอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศสในช่วงปี ค.ศ. 1920 (ราวปี พ.ศ. 2463) ภายหลังกลับสู่ประเทศจีน เติ้ง เสี่ยวผิงได้มีโอกาสร่วมงานกับองค์กรพรรคในเซี่ยงไฮ้ และได้รับการสนับสนุนจากเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างมาก

กระทั่งในปี ค.ศ. 1976 เหมา เจ๋อตุงได้ถึงแก่อสัญกรรม เติ้ง เสี่ยวผิง ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำจีนในปี ค.ศ. 1978 ในช่วงเวลานั้น จีนมีเรื่องราวความขัดแย้งทางสังคม ความไม่ลงรอยกันของพรรคคอมมิวนิสต์ และความวุ่นวายของสถาบัน อันเป็นผลมาจากนโยบายที่ยุ่งเหยิงในยุคของเหมา เจ๋อตุง 

แต่ครั้นเมื่อเติ้ง เสี่ยวผิง ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ เขาค่อย ๆ แก้ปัญหาทุกอย่างให้กลับคืนสู่ความเรียบร้อย มากไปกว่านั้น เขายังได้ริเริ่มการปฏิรูปและเปิดประเทศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสร์ โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ จีนเปิดประเทศเพื่อการลงทุนจากต่างประเทศและตลาดโลก จนทำให้ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในประเทศที่เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว และยกระดับมาตรฐานการครองชีพประชาชนอีกหลายร้อยล้านคนให้ดีกว่าเดิม

ภายหลัง หลายคนเรียกเขาว่า ‘ผู้ออกแบบประเทศจีนสมัยใหม่’ นิตยสาร TIME แห่งสหรัฐอเมริกา ถึงกับยกย่อง และมอบรางวัลบุคคลแห่งปี แต่ถึงกระนั้น เติ้ง เสี่ยวผิง ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในกรณีการออกคำสั่งสลายเหตุการณ์ประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ในปี ค.ศ. 1989 จนมาซึ่งความสูญเสียครั้งใหญ่

แต่ไม่ว่าจะเป็นชื่อเสียงในด้านบวก หรือลบ โลกก็ต้องจารึกผู้นำคนนี้ไว้ ในฐานะผู้ที่นำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย แม้วันนี้ เติ้ง เสี่ยวผิงจะลาลับไปแล้วกว่า 24 ปี แต่เรื่องราวของเขาก็ยังคงถูกพูดถึงในหมู่ผู้คนยุคใหม่อยู่เสมอ


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เติ้ง_เสี่ยวผิง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 123 ปีมาแล้ว เป็นวันที่ประเทศไทย เปลี่ยนมาตราเงิน โดยใช้หน่วยเป็น สตางค์ และ บาท เพื่อความสะดวกต่อการคำนวณและทำบัญชี รวมทั้งเป็นมาตรฐานสากล

ย้อนกลับไปเมื่อกว่าร้อยปีก่อน มาตราเงินของไทยมีหลากหลาย ทั้ง ชั่ง ตำลึง สลึง เฟื้อง ฯลฯ ซึ่งมีความยุ่งยากต่อการทำบัญชี จนเมื่อล่วงเข้าสู่รัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระราชประสงค์ให้ประเทศสยามมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเทียบเท่าหลักสากลในหลายเรื่องราว

หนึ่งในนั้น คือมาตราเงิน และเพื่อให้เป็นมาตรฐานแบบเดียวกับที่สากลใช้ จึงมีการประกาศเปลี่ยนแปลงมาตราเงินแบบใหม่ จาก ชั่ง ตำลึง สลึง และเฟื้อง ให้ใช้หน่วยเป็น ‘บาท’ และ ‘สตางค์’ โดยนำเอาระบบทศนิยมตามแบบสากลมาใช้ กล่าวคือ 100 สตางค์ มีค่าเท่ากับ 1 บาท

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำพระบรมรูปของพระองค์ประทับลงบนเหรียญ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่มีการนำพระบรมรูปของพระมหากษัตริย์ไทย ประทับลงบนเหรียญกษาปณ์

การโปรดเกล้าฯ เปลี่ยนแปลงนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ.2441 นับถึงวันนี้ผ่านมาแล้วกว่า 123 ปี ที่ประเทศไทยได้มีเปลี่ยนแปลงทั้งมาตราของเงิน และรูปลักษณ์ของเงินตรา อาทิ เหรียญ ธนบัตร โดยใช้กันมาจนถึงปัจจุบัน


ที่มา: http://www.royalthaimint.net/ewtadmin/ewt/mint_web/ewt_news.php?nid=46&filename=index

https://hilight.kapook.com/view/141069


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 11 ปีก่อน พลตำรวจเอกประมาณ อดิเรกสาร นักการเมืองชื่อดัง ผู้บุกเบิกพรรคชาติไทยในอดีต เสียชีวิตลงด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ในวัย 96 ปี

พลตำรวจเอกประมาณ อดิเรกสาร เกิดเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2456 เป็นชาวสระบุรี จบการศึกษาจากโรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เริ่มต้นชีวิตข้าราชการด้วยการเป็นนายทหารปืนใหญ่ กองทัพบก จังหวัดลพบุรี 

พลตำรวจเอกประมาณ เข้าสู่แวดวงการเมืองในช่วงปี พ.ศ. 2494 โดยเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม ต่อมาได้เข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม 

กระทั่งในปี พ.ศ. 2518 ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และในปี พ.ศ. 2519 ควบตำแหน่งรองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตามลำดับ

ในปี พ.ศ. 2500 พลตำรวจเอกประมาณ ได้ร่วมกับพลตรีศิริ สิริโยธิน และพลตรีชาติชาย ชุณหะวัณ (ยศ ณ ขณะนั้น) ก่อตั้งพรรคการเมืองขึ้นในชื่อ พรรคชาติไทย ซึ่งในเวลาต่อมา กลายเป็นพรรคการเมืองที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในการเมืองไทยเป็นอย่างมาก

ในปี พ.ศ. 2531 พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี พลตำรวจเอกประมาณได้เข้าไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ก่อนที่ในเวลาต่อมา จะได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

พลตำรวจเอกประมาณถือเป็นนักการเมืองที่อยู่ในแวดวงการเมืองไทยมายาวนาน และมากไปด้วยประสบการณ์คนหนึ่ง รวมทั้งยังเป็นผู้บุกเบิกวงการอุตสาหกรรมของไทย เคยได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายกสมาคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ปัจจุบันคือสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย)

พลตำรวจเอกประมาณ ถึงแก่อนิจกรรม เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว และอาการไตวาย สิริอายุได้ 96 ปี แม้ตัวจะจากไป แต่ชื่อเสียงและผลงานมากมาย ยังคงถูกกล่าวถึงมาจนทุกวันนี้


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ประมาณ_อดิเรกสาร


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้ถือเป็นวันแห่งประวัติศาสตร์ ที่ถูกเล่าขานสืบต่อกันมากว่า 70 ปี โดยเป็นวันที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงเสด็จกลับไปศึกษาต่อยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีพสกนิกรมาเฝ้าส่งเสด็จเนืองแน่น พร้อมประโยคที่เป็นเสมือนดังคำสัญญาที่มีต่อประชาชน

ราวปี พ.ศ.2489 ภายหลังการขึ้นครองราชย์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระองค์ยังทรงมีพระราชภารกิจด้านการศึกษา จึงต้องเสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อทรงศึกษาต่อ ณ มหาวิทยาลัยโลซานน์ 

โดยเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ.2489 ซึ่งเป็นวันที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินกลับไปศึกษาต่อ ได้มีบทบันทึกเหตุการณ์และบรรยากาศไว้ในพระราชนิพนธ์บันทึกประจำวันของพระองค์ โดยทรงบรรยายไว้ว่า สองข้างทางขณะรถยนต์พระที่นั่งแล่นผ่าน มีประชาชนเฝ้าส่งเสด็จมากมาย

ขณะรถยนต์พระที่นั่งแล่นไปไม่ถึง 200 เมตร มีผู้หญิงคนหนึ่งส่งกระป๋องมาให้ เมื่อทรงเปิดดู ภายในเป็นทอฟฟี่ที่ประชาชนได้นำมาถวาย จนเมื่อรถยนต์พระที่นั่งแล่นถึงวัดเบญจมบพิตร ท่ามกลางเสียงโห่ร้องถวายพระพร พระองค์กลับได้ยินเสียงใครคนหนึ่งร้องขึ้นมาดังๆ เข้าพระกรรณ์ ว่า....

"ในหลวง อย่าละทิ้งประชาชน"

ในช่วงเวลานั้น พระองค์ทรงเปรยอยู่ในพระราชหฤทัย "ถ้าประชาชนไม่ทิ้งข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าจะทิ้งประชาชนอย่างไรได้"

วันเวลาผ่านไป เสียงนั้นกลายเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พระองค์ทรงนึกถึงประชาชนอยู่ตลอดเวลา และทรงพระวิริยะอุตสาหะศึกษาเล่าเรียน เพื่อนำความรู้ ความสามารถ กลับมาพัฒนาประเทศ และดูแลทุกข์สุขของประชาชน 

ตลอด 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระองค์ทรงเป็นร่มโพธ์ร่มไทร เป็นขวัญและกำลังใจให้กับประชาชน สมดังที่ตั้งพระราชปณิธานไว้อย่างแท้จริง


ที่มา: https://www.tnews.co.th/contents/210106/


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็น ‘วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ’ และถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของประเทศ โดยมีที่มา เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 เสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรสุริยุปราคา โดยทรงคำนวณการเกิดปรากฎการณ์ล่วงหน้าไว้กว่า 2 ปี 

ย้อนเวลาไปกว่า 153 ปี พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ทรงมีความสนพระทัยวิชาคณิตศาสตร์และวิชาดาราศาสตร์ในตำราโหราศาสตร์ของไทยเป็นทุนเดิม โดยในพระราชฐานของพระองค์ มีการสร้างหอดูดาวขึ้น ด้วยมีพระราชประสงค์ใช้เพื่อสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์

ต่อมาในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ.2411 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินทางชลมารค ไปยังบ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง โดยพระองค์เป็นผู้ทรงคำนวณพยากรณ์ไว้ล่วงหน้า 2 ปี ว่าจะเกิดในวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง จุลศักราช 1230 

นอกจากนี้ สถานที่ที่จะเห็นสุริยุปราคาแบบเต็มดวงและชัดเจนที่สุด คือที่หมู่บ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ การเสด็จครั้งนั้นยังได้เชิญคณะนักดาราศาสตร์จากประเทศฝรั่งเศส และเจ้าเมืองสิงคโปร์ที่เดินทางมาเข้าเฝ้าฯ ร่วมไปในการสังเกตการณ์ด้วย 

จนเมื่อถึงวันอังคาร ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 10 ปีมะโรง จุลศักราช 1230 หรือวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ.2411 เหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่พระองค์ทรงพยากรณ์ทุกประการ ไม่คลาดเคลื่อนแม้แต่วินาทีเดียว

วันเวลาผ่านมา สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยฯ จึงได้นำเรื่องเสนอต่อคณะรัฐมนตรี โดยกำหนดให้ วันที่ 18 สิงหาคม ของทุกปี เป็นวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ พร้อมเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ให้เป็น ‘พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย’ 

และต่อมาได้มีการสร้าง ‘อุทยานวิทยาศาสตร์’ และพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขึ้น ณ บ้านหว้ากอ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์อีกด้วย

ในสัปดาห์ของวันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ จะมีกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระปรีชาสามารถด้านวิทยาศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รวมทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมและเผยแพร่ผลงานการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาประเทศต่อไป


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 6 ปีก่อน เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญขึ้นกลางกรุงเทพมหานคร เมื่อมีเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ ฝั่งหน้าศาลพระพรหม ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

เหตุการณ์สะเทือนขวัญครั้งนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.50 น. ของวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2558 ในขณะที่เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างปกติ จู่ ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว บริเวณรอบศาลท้าวมหาพรหม หน้าโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ สี่แยกราชประสงค์ แรงระเบิดส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บกว่า 130 คน และมีผู้เสียชีวิต 20 คน เป็นชาวไทย 6 คน และชาวต่างชาติอีก 14 คน

ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เก็บวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ ประกอบด้วย ชิ้นส่วนเป้, ชิ้นส่วนลูกเหล็กกลม และชิ้นส่วนของท่อเหล็ก ซึ่งตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีหลักฐานชิ้นสำคัญ นั่นคือ ภาพจากกล้องวงจรปิด ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายใส่เสื้อสีเหลือง 

วันต่อมา ยังมีระเบิดเกิดขึ้นอีกบริเวณท่าเรือย่านสาทร ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถแกะรอยเพิ่มเติม จนเข้าทำการจับกุม นายอาเดม คาราดัก และนายเมียไรลี ยูซุฟู ชายชาวอุยกูร์ พร้อมหลักฐาน อาทิ อุปกรณ์ประกอบระเบิด สารเคมีเอทีพี รวมทั้งเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุ

ในเวลาต่อมา ยังมีการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกกว่า 17 คน ในจำนวนนั้นมีคนไทยร่วมขบวนการด้วยอยู่สองคน แรกทีเดียว การก่อเหตุรุนแรงถูกเชื่อมโยงไปยังเรื่องการก่อการร้ายข้ามชาติ แต่ต่อมามีประเด็นเรื่องความขัดแย้งในธุรกิจค้ามนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย 

ปัจจุบัน ผ่านมาแล้วกว่า 6 ปี แต่คดีความยังอยู่ในขั้นตอนสืบพยาน ด้านจำเลยก็มีการต่อสู้ทางคดี แต่ไม่ว่าผลคดีจะออกมาเป็นเช่นใด เหตุการณ์สะเทือนขวัญนี้ควรเป็นบทเรียนครั้งสำคัญต่อผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ในเรื่องการดูแลความปลอดภัย ทั้งชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนต่อไป 


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/เหตุระเบิดในกรุงเทพมหานคร_พ.ศ._2558


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้ในอดีต เป็นวันที่มีการสูญเสียบุคคลสำคัญในแวดวงการเพลง โดย 16 สิงหาคม พ.ศ. 2511 สุรพล สมบัติเจริญ นักร้องคนดังของไทยได้เสียชีวิต และต่อมา 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520 ราชาร็อกแอนด์โรล เอลวิส เพรสลีย์ ก็เสียชีวิตลงในวันนี้เช่นกัน

สองซูเปอร์สตาร์ในวงการเพลงเสียชีวิตในวันเดียวกัน แต่แตกต่างกันที่ห้วงเวลา โดย สุรพล สมบัติเจริญ เสียชีวิตจากการถูกลอบยิง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2511 ส่วนเอลวิส เพรสลีย์ ราชาร็อกแอนด์โรลของโลก เสียชีวิตด้วยโรคที่รุมเร้า โดยพบร่างไร้สติภายในบ้านพักของตัวเอง เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520

กล่าวถึง สุรพล สมบัติเจริญ ได้รับฉายาว่าเป็น ‘ราชาเพลงลูกทุ่งไทย’ เส้นทางการเป็นศิลปินเพลงของเขา เริ่มต้นจากการรับราชการประจำกองดุริยางค์ทหารอากาศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2496 เขามีผลงานบันทึกเสียงเป็นครั้งแรก ในเพลง ‘น้ำตาลาวเวียง’ จากนั้นชื่อเสียงของสุรพลก็เริ่มเป็นที่นิยม และมีผลงานเพลงดัง ๆ มากมาย อาทิ สาวสวนแตง, เป็นโสดทำไม, หัวใจผมว่าง. น้ำตาจ่าโท, มอง, 16 ปีแห่งความหลัง และอีกมากมาย

นอกจากเป็นนักร้องชื่อก้อง สุรพลยังถูกยกให้เป็นครูเพลงที่มีลูกศิษย์ลูกหาให้ความเคารพมากมาย กระทั่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2511 เขาถูกลอบยิง หลังจากการแสดงบนเวทีที่วิกแสงจันทร์ จ.นครปฐม ในช่วงเวลาตีหนึ่งเศษ ทำให้ต้องจบชีวิตลงในวัยเพียง 37 ปีเท่านั้น

ด้านราชาร็อกแอนด์โรล เอลวิส เพรสลีย์ หรือฉายา เดอะคิง เส้นทางการเป็นศิลปินของเขาเริ่มต้นเมื่อปี พ.ศ. 2497 เมื่อ แซม ฟิลลิปส์ เจ้าของค่ายเพลงซันเรเคิดส์ รับเขาเข้าเป็นศิลปินในสังกัด โดยร่วมวงกับมือกีต้าร์ที่ชื่อ สก็อตตี มัวร์ และมือเบสชื่อ บิล แบล็ก

ต่อมา เอลวิสได้เซ็นสัญญากับค่ายอาร์ซีเอวิกเตอร์ และออกซิงเกิลแรกที่ถือเป็นซิงเกิลในตำนาน คือเพลง Heartbreak Hotel ไม่นานนัก เพลงนี้ก็ทะยานขึ้นสู่อันดับ 1 พร้อมกับส่งให้เอลวิสกลายเป็นศิลปินป็อปรูปแบบใหม่ ที่เรียกขานกันว่า ร็อกแอนด์โรล

ในช่วงเวลาดังกล่าว เอลวิสยังปล่อยเพลงดัง ๆ ออกมาอีกมากมาย อาทิ Love Me Tender, Can’t help falling in love, Jailhouse Rock และอีกมากมายที่กลายเป็นบทเพลงดังมาจนถึงทุกวันนี้

เอลวิสได้ชื่อว่าเป็นศิลปินที่ทรงอิทธิพลคนหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 20 เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลแกรมมี่ถึง 14 ครั้ง แต่ภายหลังตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 เป็นต้นมา เอลวิสต้องประสบกับปัญหาด้านสุขภาพ

เขาป่วยเป็นโรคปอดบวม, โรคเยื่อหุ้มปอดอักเสบ, โรคลำไส้ใหญ่อักเสบ นอกจากนี้ยังมีปัญหาเรื่องการควบคุมน้ำหนัก กระทั่งเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520 เอลวิสในวัย 42 ปี ถูกพบว่านอนหมดสติอยู่ในห้องน้ำที่คฤหาสน์เกรสแลนด์ของเขา ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความเสียใจแก่แฟนเพลงไปทั่วโลก

วันนี้ถือเป็นวันครบรอบการเสียชีวิตของศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง แม้ตัวจะจากไป แต่ผลงานเพลงของพวกเขา ยังคงถูกขับขาน และกลายเป็นตำนานให้ถูกพูดถึงตลอดไป


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/เอลวิส_เพรสลีย์

https://th.wikipedia.org/wiki/สุรพล_สมบัติเจริญ


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็นวันครบรอบ 122 ปี การประกาศสร้าง ‘ถนนราชดำเนิน’ ถนนหลวงสายสำคัญของกรุงเทพมหานคร ที่ผ่านกาลเวลา และเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ของประเทศมาแล้วมากมาย

‘ถนนราชดำเนิน’ ถือเป็นถนนสายประวัติศาสตร์สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ตัดผ่านพื้นที่เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย และเขตดุสิต โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2442 ทั้งนี้เพื่อทรงใช้ในการพระราชดำเนินระหว่างพระบรมหาราชวังกับพระราชวังดุสิต 

รวมทั้งยังมีพระราชประสงค์เพื่อความสง่างามของบ้านเมือง และเพื่อให้ประชาชนได้เดินเที่ยวพักผ่อน ด้วยเหตุนี้ จึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างถนนที่มีขนาดกว้างที่สุด พร้อมพระราชทานนามว่า ‘ราชดำเนิน’ 

ถนนราชดำเนินสร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2446 และในเวลาต่อมา ในหลวงรัชกาลที่ 5 ยังทรงโปรดเกล้าฯ ให้มีการสร้างส่วนต่อขยายออกไป จนทำให้ถนนสายนี้ ถูกแบ่งแยกออกเป็น 3 ช่วง คือ ถนนราชดำเนินใน มีความยาว 525 เมตร ถนนราชดำเนินกลาง มีความยาว 1,200 เมตร และถนนราชดำเนินนอก มีความยาว 1,475 เมตร 

วันนี้ ถนนราชดำเนิน มีอายุกว่า 122 ปีมาแล้ว สองข้างทางกลายเป็นที่ตั้งของหน่วยงาน องค์กรสำคัญของประเทศหลายแห่ง ตลอดจนเป็นถนนสายประวัติศาสตร์ ที่ผ่านเรื่องราวทางวัฒนธรรม ประเพณี รวมถึงเหตุการณ์สำคัญของบ้านเมืองมาแล้วมากมาย

แต่เหนืออื่นใด ‘ราชดำเนิน’ ยังคงเป็นถนนที่สง่างาม และทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์ไม่เสื่อมคลาย


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top