Saturday, 18 May 2024
TODAY SPECIAL

วันที่ 7​ สิงหาคม พ.ศ. 2112 เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาตร์ เมื่อพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ราชวงค์ตองอู ทรงตีอาณาจักรอยุธยาแตก ทำให้เกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่​ 1​

วันที่ 7​ สิงหาคม พ.ศ. 2112 เกิดเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาตร์ เมื่อพระเจ้าบุเรงนอง กษัตริย์ราชวงค์ตองอู ทรงตีอาณาจักรอยุธยาแตก ทำให้เกิดเหตุการณ์เสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่​ 1​ โดยพระเจ้าบุเรงนองทรงนำทัพเข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยาในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2111 ยกเข้ามาทางด่านแม่ละเมา เมืองตาก รวมทั้งหมด 7 ทัพ รวมจำนวนได้กว่า 500,000 นาย และยกทัพลงมาถึงพระนครในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน 

โดยให้พระมหาธรรมราชาเป็นกองหลังดูแลคลังเสบียง ทัพพระเจ้าบุเรงนองก็ตั้งค่ายรายล้อมพระนครอยู่ไม่ห่าง การตั้งรับภายในพระนครส่งผลให้มีการระดมยิงปืนใหญ่ของข้าศึกทำลายอาคารบ้านเรือนอยู่ตลอด ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก

ฝ่ายกรุงศรีอยุธยาเมื่อทราบว่าหัวเมืองทางเหนือเป็นของพม่าแล้ว จึงเตรียมรบอยู่ที่พระนคร นำปืนนารายณ์สังหารยิงไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีที่ตั้งอยู่บริเวณทุ่งลุมพลี ทำให้ทหาร ช้าง ม้าล้มตายจำนวนมาก พม่าจึงถอยทัพมาตั้งที่บ้านพราหมณ์ให้พ้นทางปืน 

พระเจ้าหงสาวดีจึงเรียกประชุมการศึก พระมหาอุปราชเห็นสมควรให้ยกทัพเข้าตีไทยทุกด้านเพราะมีกำลังมากกว่า แต่พระเจ้าหงสาวดีไม่เห็นด้วยเพราะกรุงศรีอยุธยามีทำเลดีมีน้ำล้อมรอบ จึงสั่งให้ตีเฉพาะด้านตะวันออกเพราะคูเมืองแคบที่สุด 

ฝ่ายพม่าพยายามจะทำสะพานข้ามคูเมืองโดยนำดินมาถมเป็นสะพาน พระมหาเทพนายกองรักษาด่านอย่างเต็มสามารถ โดยให้ทหารไทยใช้ปืนยิงทหารพม่าที่ขนดินถมเป็นสะพานเข้ามา ทำให้พม่าล้มตายจำนวนมากจึงถอยข้ามคูกลับไป

พระเจ้าบุเรงนองทรงพยายามโจมตีอยู่นานจนถึงเดือนเมษายน พ.ศ. 2112 ก็ยังไม่ได้กรุงศรีอยุธยา อีกทั้งยังสูญเสียกำลังพลเป็นจำนวนมาก โดยในภายหลังทรงย้ายค่ายเข้าไปใกล้กำแพงเมืองจนทำให้สูญเสียพลอย่างมาก ระหว่างการสงครามสมเด็จพระมหาจักรพรรดิประชวรและสวรรคตในเวลาต่อมา โดยสมเด็จพระมหินทร์ขึ้นครองราชและทรงบัญชาการรบแทน

พระเจ้าบุเรงนองจึงถามพระมหาธรรมราชาว่าจะ ทำอย่างไรให้ชนะศึกโดยเร็ว พระมหาธรรมราชาทรงแนะว่าพระยารามเป็นแม่ทัพสำคัญหากได้ตัวมาการยึดพระนครจักสำเร็จ จึงมีสาสน์มาถึงพระอัครชายาว่า "...การศึกเกิดจากพระยารามที่ยุยงให้พี่น้องต้องทะเลาะกัน ถ้าส่งตัวพระยารามมา ให้พระเจ้าหงสาวดีจะยอมเป็นไมตรี..." 

สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงอ่านสาสน์แล้ว ปรึกษากับข้าราชการต่าง ๆ จึงเห็นสมควรสงบศึกเพราะผู้คนล้มตายกันมากแล้ว สมเด็จพระมหินทร์ฯมีรับสั่งให้ส่งพระสังฆราชออกไปเจรจาและส่งตัวพระยารามให้พระเจ้าบุเรงนองเพื่อเป็นไมตรี แต่พระเจ้าบุเรงนองตระบัดสัตย์ไม่ยอมเป็นไมตรี ทำให้สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงพิโรธโกรธแค้นในการกลับกลอกของพระเจ้าบุเรงนองอย่างมาก มีรับสั่งให้ขุนศึกทหารทั้งปวงรักษาพระนครอย่างเข้มแข็ง พระเจ้าบุเรงนองเห็นว่ายังไม่สามารถตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ จึงส่งพระมหาธรรมราชามาเกลี้ยกล่อมให้ยอมแพ้ แต่ถูกทหารไทยเอาปืนไล่ยิงจนต้องหนีกลับไป

พระเจ้าหงสาวดีจึงคิดอุบายจะใช้พระยาจักรีที่จับตัวได้เป็นประกันเมื่อครั้งสงครามช้างเผือกเป็นไส้ศึก จึงให้พระมหาธรรมราชาทรงเกลี้ยกล่อมพระยาจักรีให้เป็นไส้ศึกในกรุงศรีอยุธยา แล้วแกล้งปล่อยตัวออกมา รุ่งเช้าพม่าทำทีเป็นตามหาแต่ไม่พบเลยจับตัวผู้คุมมาตัดหัวเสียบไว้ริมแม่น้ำเพื่อให้ไทยหลงกล

สมเด็จพระมหินทร์ฯทรงดีพระทัยที่พระยาจักรีหนีมาได้จึงทรงแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับบัญชาการรบแทนที่พระยาราม ครั้นพระยาจักรีได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรักษาพระนครแล้วจึงดำเนินการสับเปลี่ยนหน้าที่ของฝ่ายต่าง ๆ จนกระทั่งการป้องกันพระนครอ่อนแอลง 

พระยาจักรีได้ใส่ร้ายให้พระศรีสาวราชว่าเป็นกบฏจึงถูกสำเร็จโทษ เมื่อเห็นว่าได้เวลาอันควรพระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาทุกด้าน และทำให้กองทัพพม่าเข้าสู่พระนครสำเร็จโดยใช้เวลาเพียง 1 เดือน โดยในวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2112 พระยาจักรีจึงให้สัญญาณแก่พม่าเข้าตีกรุงศรีอยุธยาและเปิดประตูเมือง ทำให้ทัพพม่าเข้ายึดพระนครสำเร็จ กรุงศรีอยุธยาจึงตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรตองอู


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/การเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่หนึ่ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 107 ปี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศสยาม ‘เป็นกลาง’ ในสงครามโลกครั้งที่ 1

วันนี้เมื่อ 107 ปี ที่แล้ว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงประกาศสยาม ‘เป็นกลาง’ ในสงครามโลกครั้งที่ 1 เหตุที่พระองค์ตัดสินพระทัยไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งที่ปะทุขึ้น อยู่ห่างไกลจากสยาม 

ซึ่งการประกาศเป็นกลางในครั้งนี้ เพื่อให้สยามสามารถรักษาความเป็นกลางได้อย่างแท้จริง จึงมีการดำเนินความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด โดยในวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2457 ได้มีการประกาศห้ามไม่ให้มีการสื่อสารบนเรือเดินสมุทรของประเทศคู่สงครามในน่านน้ำสยาม เพื่อป้องกันการละเมิดความเป็นกลางของสยาม 

รวมไปถึงการการออกกฎอัยการศึกเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2457 เพื่อป้องกันการแทรกแซงจากภายนอก และรักษาความมั่นคงภายใน โดยสยามดำรงนโยบายเป็นกลางอย่างเคร่งครัดมาตลอด 3 ปีของสงคราม

ก่อนจะเริ่มโอนเอนเมื่อทราบรายงานว่าฝ่ายเยอรมันมีส่วนในการปลุกปั่นชาวอินเดียในสยามให้กระด้างกระเดื่องต่อจักรวรรดิอังกฤษ บวกกับการดำเนินการสงครามเรือดำน้ำแบบไม่จำกัดขอบเขตของฝ่ายเยอรมันที่โจมตีเรือโดยไม่ประกาศล่วงหน้า ส่งผลให้เรือ อาร์เอ็มเอส ลูซิเทเนีย อับปาง เป็นสาเหตุให้สหรัฐฯ เข้าร่วมสงคราม

อีกทั้งสยามในขณะนั้นมีการดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่ร่วมกับเยอรมัน ทั้งทางรถไฟสายเหนือ ซึ่งกำลังก่อสร้างโดยตกอยู่ใต้อิทธิพลของนายช่างวิศวกรและผู้ควบคุมชาวเยอรมัน รวมไปถึงธนาคารของรัฐบาลสยามที่เพิ่งก่อตั้งก็อยู่ภายใต้การการบริหารของชาวเยอรมันเช่นกัน ซึ่งถ้าหากเยอรมนีชนะสงคราม ก็จะทำให้สยามจะตกอยู่ในฐานะลำบาก

นอกจากนี้สยามยังมีความประสงค์ที่จะแก้ไขสนธิสัญญาไม่เป็นธรรมที่ทำไว้กับชาติอื่น วันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงทรง ‘ประกาศสงคราม’ ต่อฝ่ายมหาอำนาจกลาง สั่งจับกุมพลเมืองชาวเยอรมันและออสเตรีย-ฮังการีในราชอาณาจักร และยึดทรัพย์สินและเรือที่เทียบท่าในเดือนกันยายน พ.ศ. 2460 

มีการจัดตั้งกองทหารอาสาสยามที่ประกอบด้วยหน่วยขนส่งยานยนต์ บุคลากรทางการแพทย์ และกองบิน จำนวน 1,284 นาย ต่อมาในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2461 กองทหารอาสาสยามเดินทางถึงมาร์แซย์ โดยกองบินถูกส่งไปฝึกที่เมืองอิสตร์ ส่วนหน่วยขนส่งยานยนต์ถูกส่งไปฝึกที่เมืองลียง 

หน่วยขนส่งยานยนต์มีส่วนในการส่งกำลังพล ยุทธภัณฑ์และเสบียงในการรุกเมิซ-อาร์กงทางตะวันออกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส และภายหลังได้รับเหรียญครัวซ์เดอแกร์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีศักดิ์รามาธิบดีจากความชอบนี้ ขณะที่กองบินยังอยู่ในช่วงฝึกซ้อมเมื่อมีการลงนามสงบศึกในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2461

โดยหลังสงคราม สยามเป็นประเทศหนึ่งที่เข้าร่วมการประชุมสันติภาพปารีส พ.ศ. 2462 และเป็นหนึ่งในสมาชิกก่อตั้งสันนิบาตชาติ มีโอกาสแก้ไขสนธิสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ด้านกองทหารอาสาสยามเสียกำลังพล 19 นาย ซึ่งอัฐิถูกบรรจุที่อนุสาวรีย์ทหารอาสา นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังโปรดให้สร้างวงเวียน 22 กรกฎาคม เพื่อระลึกถึงการเข้าร่วมสงคราม


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ประเทศสยามในสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

‘สมรักษ์ คำสิงห์’ สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของไทย โดยกลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรก หลังเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่น

วันนี้เมื่อ 25 ปีที่แล้ว ได้เกิดเหตุการณ์สำคัญ ที่กลายเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเมืองไทย เมื่อ ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ ได้กลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทย หลังเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ ในการแข่งขันมวยสากลสมัครเล่นในโอลิมปิกฤดูร้อน 1996 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2539

เมื่อย้อนกลับไปถึงเส้นทางสู่สังเวียนของสมรักษ์ เขาเริ่มต้นชกมวยตั้งแต่เด็ก และได้ขึ้นแข่งขันครั้งแรกตอน 7 ขวบ โดยชกทั้งมวยไทยและมวยสากลสมัครเล่น เขาได้ตระเวนชกตามเวทีต่าง ๆ จนทั่วจนได้รับการทาบทามจากสโมสรราชนาวีให้ชกมวยสากลสมัครเล่นและประสบความสำเร็จได้ทั้งแชมป์ประเทศไทยและเหรียญทองกีฬาแห่งชาติ

ในปี พ.ศ. 2535 สมรักษ์ ได้เข้าสู่ทีมชาติครั้งแรก ในการแข่งขันโอลิมปิกที่บาร์เซโลนา และเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมาเป็นครั้งแรก จากการเป็นนักกีฬาไทย ที่ได้เหรียญทองเพียงคนเดียว ในการแข่งขันเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 12 ในปี พ.ศ. 2537 ที่ประเทศญี่ปุ่น

กระทั่งในปี พ.ศ. 2538 สมรักษ์ได้เหรียญทองจากกีฬาซีเกมส์ที่เชียงใหม่ และผ่านการคัดเลือกไปแข่งกีฬาโอลิมปิกรอบสุดท้ายได้ โดยเส้นทางสู่เหรียญทองครั้งประวัติศาสตร์นี้ เริ่มจากรอบแรกเอาชนะแดเนี่ยล เซต้า นักชกเปอร์โตริโก 13-2, รอบสอง ชนะฟิลิป เอ็นดู จากแอฟริกาใต้ 12-7, รอบสามหรือรอบก่อนรองชนะ รามาส พาเลียนี่ จากรัสเซีย 13-4 นั่นหมายถึงว่าได้เหรียญทองแดงคล้องคอไว้แล้ว และสมรักษ์ชนะ พาโบล ชาคอน จากอาร์เจนตินาไปได้ 20-8 และท้ายที่สุดเอาชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรียไปได้ 

ซึ่งก่อนการชกในรอบชิงชนะเลิศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้พระราชทานกระเช้าผลไม้มายังสมรักษ์และทีมงานพร้อมทั้งทรงอวยพรให้สมรักษ์ได้รับชัยชนะด้วย โดยการแข่งขันโอลิมปิคในครั้งนี้ สมรักษ์ ใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า "Kamsing Somluck" โดยเจตนาให้มีนัยทางโชคด้วย (แต่ผู้บรรยายภาษาอังกฤษอ่านออกเสียงว่า คำซิง สมลุก)

ซึ่งการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกในครั้งนี้ ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของประเทศไทย ที่ทำให้สมรักษ์โด่งดังถึงขีดสุดในปี พ.ศ. 2539 จากการที่สามารถคว้าเหรียญทองจากโอลิมปิกมาได้ โดยชนะ เซราฟิม โทโดรอฟ จากบัลแกเรีย ด้วยคะแนน 8-5

นอกจากนี้ทางกองทัพเรือ (ทร.) ต้นสังกัดก็ได้เลื่อนยศให้สมรักษ์เป็นเรือตรี (ร.ต.) ซึ่งเดิมสมรักษ์มียศเป็นจ่าเอก (จ.อ.) และการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ยังได้ออกแสตมป์ที่มีรูปการชกรอบชิงชนะเลิศของสมรักษ์ ราคาดวงละ 6 บาท เพื่อเป็นที่ระลึกถึงเหตุการณ์นี้ เพื่อบันทึกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ที่ ‘สมรักษ์ คำสิงห์’ กลายเป็นฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิกเป็นคนแรกของประเทศไทย


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/สมรักษ์_คำสิงห์


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“ภราดร ศรีชาพันธุ์” หรือ "ซูเปอร์บอล" นักเทนนิสอันดับ 1 ของทวีปเอเชีย ขึ้นอันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้วยอันดับ 9 ของโลก

‘ภราดร ศรีชาพันธุ์’  หรือ บอล เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2522 มีฉายาว่า "ซูเปอร์บอล" เป็นนักเทนนิสชาวไทย และเป็นอดีตนักเทนนิสชายชาวเอเชียที่มีอันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ด้วยอันดับ 9 ของโลกในปี 2546 เริ่มเล่นในระดับอาชีพเมื่อปี 2540 และในรายการเอทีพี ปี 2541 โดยจบปีด้วยอันดับท้าย ๆ ของมือวางร้อยอันดับแรกของเอทีพีมาหลายปี จนกระทั่งปี 2545 สามารถเป็นขึ้นมือวาง 30 อันดับแรก ภายหลังจากสามารถเอาชนะอานเดร แอกัสซีในรายการเทนนิสวิมเบิลดัน และขึ้นเป็นอันดับ 9 ของโลกในปี 2546

ในปี 2547 ภราดรได้เป็นตัวแทนของประเทศไทยในการถือธงชาติในกีฬาโอลิมปิก ที่เอเธนส์ ประเทศกรีซ ผลงานในทีมชาติไทยคือ เหรียญทอง ชายเดี่ยว ซีเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่อินโดนีเซีย, 3 เหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 20 ที่บรูไน, เหรียญทอง ชายคู่ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 ที่ประเทศไทย, เหรียญทอง ชายเดี่ยว เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 14 เมืองปูซาน ประเทศเกาหลีใต้, ทีมชาติไทย ชุดแชมป์ เดวิส คัพ โซนเอเชีย

เดือนมีนาคม พ.ศ. 2549 ภราดรสามารถเอาชนะมือวางถึง 4 คน จนเข้าสู่รอบรองชนะเลิศการแข่งขันรายการแปซิฟิกไลฟ์โอเพน ทำให้อันดับโลกที่ตกลงไปที่ 61 ดีดกลับมาอยู่ที่ 38 สูงกว่าอันดับโลกเมื่อสิ้นปี 2548 เล็กน้อย อย่างไรก็ตามภราดรประสบปัญหาเจ็บข้อมือเรื้อรัง จนวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2550 อันดับโลกตกไปอยู่ที่ 83 กลายเป็นมืออันดับสองของไทยตามหลัง ดนัย อุดมโชค ซึ่งอยู่ที่อันดับ 79 และในปี 2550 ภราดรแทบไม่ได้ลงแข่งเทนนิสเลย จนกระทั่งอันดับได้หล่นลงไปที่ 900 กว่าแล้ว เพราะไม่มีคะแนนสะสม อย่างไรก็ตามภราดรจะได้สิทธิ์ลงแข่งในรายการระดับ ATP 9 รายการในการกลับมาเล่นอีกครั้ง โดยระหว่างพักอาการบาดเจ็บนั้นภราดรรับหน้าที่เป็นพิธีกรในรายการ เช้านี้...ที่หมอชิต

เดือนตุลาคม พ.ศ. 2552 ภราดรสามารถกลับมาลงแข่งขันได้อีกครั้งในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ โอเพ่น 2009 หลังจากห่างหายจากการเล่นเทนนิสไป 2 ปี และเดือนมกราคม พ.ศ. 2553 ภราดรได้กลับมาแข่งเทนนิสอีกครั้ง 2 รายการในประเทศไทยและฮ่องกง โดยรายการแรกแข่งเทนนิสนัดพิเศษฉลองครบ 100 ปีหัวหิน "หัวหิน เซ็นเท็นเนียล อินวิเทชั่น" ที่สนามเซ็นเท็นเนียลปาร์ค อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2553 แข่งเทนนิสรายการพิเศษ "ฮ่องกง เทนนิส คลาสสิก 2010" ที่วิคตอเรีย พาร์ค เทนนิส สเตเดี้ยม ฮ่องกง เมื่อวันที่ 6-9 มกราคม พ.ศ. 2552 

หลังจากนั้นภราดรได้มีผลงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกคือ บางระจัน 2 และเป็นผู้ปั้นนักกีฬาโครงการ "เดอะสตาร์" ของลอนเทนนิสสมาคมฯ เป็นกัปตันทีมเดวิสคัพให้กับทีมชาติไทยอีกด้วย แต่เมื่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2553 ภราดรประสบอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์คว่ำแขนหัก 2 ข้าง และขาหัก 1 ข้าง ทำให้กระดูกข้อมือทั้ง 2 ข้างเคลื่อน และเท้าซ้ายฉีก ทำให้ภราดรไม่มีความพร้อมที่จะกลับสู่สนามแข่งขันเทนนิสอาชีพได้ตามที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่แรก และประกาศแขวนแร็กเก็ตอย่างเป็นทางการในรายการ พีทีที ไทยแลนด์ โอเพน 2010 โดยปัจจุบันภราดรผันตัวเองมาจับธุรกิจหลายต่อหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ฝึกสอนเทนนิส ร้านอาหาร รวมไปถึง บริษัทผลิตยาสมุนไพรบำรุงกำลังเพศชาย "แมจิก ไอริส"

เดือนตุลาคม พ.ศ. 2553 ภราดรได้กลับมาแข่งเทนนิสอีกครั้งในรายการพิเศษ "เอทีพี แชมเปี้ยนส์ ทัวร์" ที่ศูนย์เทนนิสนานาชาตินครเฉิงตู สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 21-24 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งเป็นรายการที่ได้เชิญนักเทนนิสอดีตมือ 1 โลก และ นักเทนนิสที่มีชื่อเสียงในอดีตและได้เลิกเล่นเทนนิสไปแล้วมาลงสนามแข่งขัน

เดือนมกราคม พ.ศ. 2555 ภราดรได้กลับมาแข่งเทนนิสอีกครั้งในการแข่งขันเทนนิสการกุศล "เวิลด์ เทนนิส แชริตี้ อินวิเทชั่น" เพื่อระดมทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ ที่สนามเซ็นเทนเนียล ปาร์ค อินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท จ.ประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2555 ชนะ จอห์น อิสเนอร์ (มือ 18 ของโลก) 2-0 เซต ด้วยคะแนน 6-4, 7-5


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ภราดร_ศรีชาพันธุ์


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 

>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย

***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 64 ปีที่แล้ว งานการประกาศผล “รางวัลตุ๊กตาทอง” ได้จัดขึ้นเป็นครั้งแรก ณ เวทีลีลาศ สวนลุมพินี เป็นรางวัลเพื่อมอบให้แก่บุคคลในวงการผลิตภาพยนตร์ไทย

รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี หรือ รางวัลตุ๊กตาทอง เป็นรางวัลที่มอบให้แก่บุคคลในวงการผลิตภาพยนตร์ไทย ที่มีผลงานดีเด่นที่สุดในสาขาต่าง ๆ ในแต่ละปี โดยหอการค้ากรุงเทพ จัดพิธีมอบรางวัลนี้เป็นครั้งแรก เมื่อ พ.ศ. 2500 และผลัดเปลี่ยนผู้จัดทุกปี

รางวัลตุ๊กตาทองเกิดขึ้นจากการริเริ่มของ นายสงบ สวนสิริ หรือ "สันตศิริ" บรรณาธิการนิตยสารตุ๊กตาทอง มีแนวคิดที่จะจัดขึ้นตั้งแต่ พ.ศ. 2496 แต่แล้วก็ไม่ได้จัด จัดขึ้นเป็นครั้งแรกที่เวทีลีลาศ ลุมพินีสถาน สวนลุมพินี เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2500 จัดโดย หอการค้ากรุงเทพ นักแสดงนำยอดเยี่ยมจะได้รับรางวัล ละครรำ เป็นตุ๊กตารูปนางละครรำ อันเป็นที่มาของการเรียกชื่อรางวัลนี้ว่า รางวัลตุ๊กตาทอง ส่วนรางวัลอื่นจะได้รับโล่สำเภาทอง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของหอการค้าไทย ซึ่งเป็นผู้จัดงาน

ต่อมา มีการออกแบบรางวัลขึ้นใหม่ เป็นรูปพระสุรัสวดี ซึ่งเป็นเทพีแห่งความรู้และภาษาของอินเดีย เป็นผู้อุปถัมภ์ การศิลปะ การดนตรี และการศึกษา ออกแบบโดยนายจิตร บัวบุศย์ อาจารย์ใหญ่โรงเรียนเพาะช่าง โดยความเห็นชอบของนายธนิต อยู่โพธิ์ อธิบดีกรมศิลปากร จึงเปลี่ยนชื่อเรียกเป็น รางวัลพระสุรัสวดี แต่สื่อมวลชนและประชาชนยังคงนิยมเรียกว่ารางวัลตุ๊กตาทอง พิธีมอบรางวัลตุ๊กตาทอง จัดต่อเนื่องทุกปีตั้งแต่ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2500 จนถึงครั้งที่ 8 พ.ศ. 2509 ก็ได้หยุดการจัดงานเป็นเวลา 9 ปี และได้รื้อฟื้นขึ้นใหม่ ในปี พ.ศ. 2517 โดยสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทย

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธาน และพระราชทานรางวัล ในงานประกาศผลรางวัลตุ๊กตาทอง ครั้งที่ 7 ประจำปี พ.ศ. 2507 เมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2508 ณ หอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ครั้งที่ 8 ประจำปี พ.ศ. 2508 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 ณ เวทีลีลาศ สวนอัมพร ยังความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงมีต่อผู้จัดงาน และผู้รับพระราชทานรางวัลเป็นอย่างสูง เมื่อสมาคมผู้สื่อข่าวบันเทิงแห่งประเทศไทยรื้อฟื้นพิธีมอบรางวัลขึ้นมาเมื่อ พ.ศ. 2517 จึงใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดีตราบจนปัจจุบัน


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/รางวัลพระราชทานพระสุรัสวดี 


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้ในอดีต ‘อดอล์ฟ ฮิตเลอร์’ ได้ขึ้นเป็นผู้นำเยอรมนี พรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน หรือ ‘พรรคนาซี’ ผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สองในทวีปยุโรป และเห็นชอบการ ‘ฮอโลคอสต์’ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

“อดอล์ฟ ฮิตเลอร์” (Adolf Hitler) เป็นนักการเมืองเยอรมันเชื้อชาติออสเตรีย หัวหน้าพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมันหรือที่รู้จักกันทั่วไปในชื่อ ‘พรรคนาซี’ ฮิตเลอร์ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนี ระหว่าง ค.ศ. 1933-1945 และเป็นฟือเรอร์ของเยอรมนี ตั้งแต่ ค.ศ. 1934-1945 ฮิตเลอร์เป็นผู้นำสูงสุดของไรช์เยอรมัน ผู้จุดชนวนสงครามโลกครั้งที่สองในทวีปยุโรป และเป็นผู้เห็นชอบการฮอโลคอสต์

ฮิตเลอร์เป็นทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่หนึ่งผู้ได้รับเหรียญกางเขนเหล็ก ต่อมา ฮิตเลอร์ได้เข้าร่วมพรรคกรรมกรเยอรมันใน ค.ศ. 1919 ซึ่งเป็นพรรคการเมืองก่อนหน้าพรรคนาซี ก่อนจะได้เป็นหัวหน้าพรรคนาซีใน ค.ศ. 1921 เขาพยายามก่อรัฐประหารซึ่งเป็นที่รู้จักกันในชื่อ กบฏโรงเบียร์ ในเมืองมิวนิก เมื่อวันที่ 8-9 พฤศจิกายน ค.ศ. 1923 แต่ล้มเหลว ฮิตเลอร์ถูกจำคุกเป็นเวลาหนึ่งปี ซึ่งในระหว่างนั้นเองที่เขาเขียนบันทึกความทรงจำ ไมน์คัมพฟ์ (การต่อสู้ของข้าพเจ้า) 

หลังได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ค.ศ. 1924 เขาได้รับการสนับสนุนจากประชาชนโดยการโจมตีสนธิสัญญาแวร์ซาย และการเสนออุดมการณ์รวมกลุ่มเยอรมัน การต่อต้านยิว และการต่อต้านคอมมิวนิสต์ ด้วยวาทศิลป์อันมีเสน่ห์ดึงดูดและการโฆษณาชวนเชื่อนาซี หลังได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 1933 เขาเปลี่ยนสาธารณรัฐไวมาร์เป็นไรช์ที่สาม รัฐเผด็จการพรรคการเมืองเดียว ภายใต้อุดมการณ์นาซีอันมีลักษณะเป็นเผด็จการเบ็ดเสร็จและอัตตาธิปไตย เป้าหมายของเขาคือ ระเบียบโลกใหม่ ที่ให้นาซีเยอรมนีครอบงำยุโรปภาคพื้นทวีปอย่างสมบูรณ์

นโยบายต่างประเทศและในประเทศของฮิตเลอร์มีความมุ่งหมายเพื่อยึดเลเบินส์เราม์ (พื้นที่อยู่อาศัย) เป็นของชาวเยอรมัน เขานำการสร้างเสริมกำลังอาวุธขึ้นใหม่และการบุกครองโปแลนด์ ในเดือนกันยายน ค.ศ. 1939 อันนำไปสู่การปะทุของสงครามโลกครั้งที่สองในทวีปยุโรป ภายในสามปีใต้การนำของฮิตเลอร์ กองทัพเยอรมันและพันธมิตรในยุโรปยึดครองดินแดนยุโรปและแอฟริกาเหนือส่วนใหญ่ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ค่อยพลิกผันหลัง ค.ศ. 1941 กระทั่งกองทัพสัมพันธมิตรเอาชนะกองทัพเยอรมันใน ค.ศ. 1945 นโยบายความสูงสุดและที่กระตุ้นด้วยการถือชาติพันธุ์ของฮิตเลอร์ลงเอยด้วยการฆาตกรรมผู้คนนับ 17 ล้านคนอย่างเป็นระบบ ในจำนวนนี้เป็นชาวยิวเกือบหกล้านคน

ปลายสงคราม ระหว่างยุทธการเบอร์ลินใน ค.ศ. 1945 ฮิตเลอร์แต่งงานกับเอฟา เบราน์ ทั้งสองทำอัตวินิบาตกรรมเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1945 เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกกองทัพแดงของโซเวียตจับตัว และสั่งให้เผาร่างของตน

ฮอโลคอสต์ (The Holocaust) หรืออีกชื่อหนึ่งว่า โชอา เป็นพันธุฆาตระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง ซึ่งนาซีเยอรมนีและผู้ให้การสนับสนุนท้องถิ่น ฆ่ายิวยุโรปประมาณหกล้านคนอย่างเป็นระบบ คิดเป็นสองในสามของประชากรยิวในทวีปยุโรป ระหว่างปี 1941 ถึง 1945 ยิวตกเป็นเป้าหมายการกำจัดโดยเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ที่ใหญ่กว่าระหว่างสมัยฮอโลคอสต์ ซึ่งเยอรมนีและผู้ให้การสนับสนุนบีฑาและฆ่ากลุ่มอื่น รวมทั้งชาวสลาฟ (ส่วนใหญ่ได้แก่ ผู้มีชาติพันธุ์โปแลนด์ เชลยศึกโซเวียต และพลเมืองโซเวียต) ชาวโรมา "ผู้ป่วยรักษาไม่หาย" ผู้คัดค้านทางการเมืองและศาสนา เช่น นักคอมมิวนิสต์และคริสต์ศาสนิกชนพยานพระยะโฮวา และชายรักร่วมเพศ เมื่อรวมผู้เสียหายทั้งหมดจากการบีฑาของนาซีแล้ว จะมียอดผู้เสียชีวิตถึง 17 ล้านคน


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/อดอล์ฟ_ฮิตเลอร์


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อปี พ.ศ. 2475 เป็นวันสถาปนา ‘โรงเรียนช่างกล’ ขึ้นเป็นแห่งแรกของประเทศไทย โดยปัจจุบันชื่อ “สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน”

สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน (ชื่อย่อ สปท.) เป็นสถาบันการศึกษาในประเทศไทย ยกฐานะขึ้นมาจาก "วิทยาลัยช่างกลปทุมวัน" เป็นสถาบันการศึกษาที่เน้นด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นให้ผู้สำเร็จการศึกษาด้านอาชีวศึกษาเข้ามาศึกษาต่อเฉพาะทางในระดับปริญญา

โรงเรียนช่างกลแห่งแรกของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ในนาม "โรงเรียนอาชีพช่างกล" ณ ตึกพระคลังข้างที่ ตรอกกัปตันบุช ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยคณะนายทหารเรือ นำโดย น.อ. พระประกอบกลกิจ ร.น. และพลเรือตรีสงบ จรูญพร ร.น. พลเรือตรีพระยาวิจารณ์จักรกิจ นามเดิมบุญรอด สวาทะสุข (อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ) กับเรือเอกทิพย์ ประสานสุข ร.น. เป็นผู้ช่วยเหลือในการก่อกำเนิดโรงเรียน ด้วยเหตุผลที่ต้องการให้ปลูกฝังอาชีพช่างให้กับเยาวชนไทย 

อีกสองปีต่อมาคือในปี พ.ศ. 2477 โรงเรียนอาชีพช่างกลจึงย้ายไปตั้งแทนที่กรมแผนที่ทหารบก ซึ่งได้ย้ายไปจากบริเวณท่าเรือ โรงเรียนราชินีล่าง จนปีต่อมาได้โอนโรงเรียนอาชีพช่างกลมาอยู่ในสังกัดกระทรวงธรรมการ เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม พร้อมชื่อโรงเรียนใหม่ว่า โรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกล ในปี พ.ศ. 2480 ได้มีการดำเนินการเช่าที่ดินตรงข้ามสนามกีฬาแห่งชาติของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นวังของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสวัสดิโสภณ กรมพระสวัสดิวัดนวิศิษฎ์ เดิม มีเนื้อที่ประมาณ 18 ไร่ ได้จัดสร้างอาคารเรียน 1 หลัง โรงฝึกงานอีก 8 หลัง แล้วย้ายโรงเรียนมัธยมอาชีพช่างกลมาอยู่ที่โรงเรียนใหม่นี้

ในระหว่างเกิดสงครามมหาเอเชียบูรพา ทหารญี่ปุ่นประมาณร้อยนาย ได้เข้ายึดโรงเรียนช่างกลปทุมวัน เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2485 เวลา 19.00 น. ปีการศึกษา 2484 ทางโรงเรียนจึงได้อพยพนักเรียนไปอาศัยเรียนที่โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ จนจบปีการศึกษา 2484 ต่อมาในวันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2485 ได้ย้ายไปทำการสอนที่เชิงสะพานเฉลิมโลก ประตูน้ำปทุมวัน ซึ่งเป็นโรงเรียนการช่างอินทราชัยในขณะนั้น และในระหว่างเกิดสงครามนั้น โรงเรียนช่างกลปทุมวันได้ส่งนักเรียนแผนกช่างยนต์ปีสุดท้ายจำนวน 32 คนและคุณครูอีกสองท่าน ไปช่วยงานด้านการซ่อมพาหนะที่แนวหน้ากองทัพสนามภาคพายัพของกระทรวงกลาโหม เมื่อสงครามสงบ กองทัพทหารสหประชาชาติ ได้เข้ายึดโรงเรียนช่างกลปทุมวันคืนจากญี่ปุ่นได้ นักเรียนจึงได้กลับมาเรียนที่ช่างกลปทุมวันดังเดิม

ในปี พ.ศ. 2511 โรงเรียนช่างกลปทุมวัน ได้อยู่ในการพัฒนาอาชีวศึกษา ตามแผนโครงการเงินกู้เพื่อปรับปรุงโรงงาน เครื่องมือ เครื่องจักร และส่งครูอาจารย์ฝึกงานและดูงานต่างประเทศ ต่อมาในปี พ.ศ. 2518 ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็นวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน เปิดสอนหลักสูตร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ในปี พ.ศ. 2533 เริ่มเปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรครูเทคนิคชั้นสูง (ปทส.) และ พ.ศ. 2537 เปิดสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรวิศวกรรมศาสตร์ (ป.วศ.) สาขาวิศวกรรมเมคคาทรอนิกส์ ในปี พ.ศ. 2540 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อวิทยาลัยช่างกลปทุมวัน ว่า "ปทุมวัน" 

ต่อมาเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2541 วิทยาลัยช่างกลปทุมวัน ได้ยกฐานะเป็นสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน ตามพระราชบัญญัติการจัดการศึกษาระดับปริญญาตรีในสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน พ.ศ. 2541 และเปิดสอนหลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต (วศ.บ.) และหลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต (วท.บ.) เป็นครั้งแรกในปีเดียวกัน


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน


Q : ประกันอะไร? ได้ตั้ง 4 ต่อ!!
A : ก็ประกันภัยรถยนต์จาก @THESHOPTIMES ไง!! 
>> ฟรี!!! ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล (PA) 100,000 บาท
>> รับคอมมิชชั่นหรือส่วนลดทันที ในอัตราที่สูงกว่า แถมได้สิทธิซื้อประกัน พ.ร.บ.ราคาถูกตลอดชีพ
>> สามารถผ่อนได้สูงสุด 6 งวด ดอกเบี้ย 0% โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต
>> แถมขายดีมีรายได้เพิ่มให้กับตัวเองด้วย
***สนใจติดต่อ Line@ THE SHOPS TIMES คลิก????https://lin.ee/vfTXud9
 

‘รถแท็กซี่’ ถูกนำมาใช้บริการในประเทศไทยครั้งแรก เมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2466 โดยมี ‘พระยาเทพหัสดิน’ เป็นผู้ริเริ่ม

วันนี้เมื่อ 98 ปีที่แล้ว ประเทศไทยเริ่มมีแท็กซี่ให้บริการเป็นครั้งแรก ในปี พ.ศ. 2466 โดยผู้ริเริ่ม คือ พระยาเทพหัสดิน (ผาด เทพหัสดิน ณ อยุธยา) ร่วมกับพระยาพิไชยชาญฤทธิ์ ก่อตั้ง บริษัท แท็กซี่สยาม ขึ้นในประเทศไทย จุดประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อช่วยทหารอาสาในสงครามโลกครั้งที่ 1 มีอาชีพหลังจากปลดจากราชการ 

โดยแรกเริ่มมีรถให้บริการเพียง 14 คันเท่านั้น โดยนำเอารถเก๋งออสติน (Austin) ขนาดเล็ก ติดป้ายรับจ้างไว้ด้านหน้าและหลังของตัวรถ ในส่วนของอัตราค่าบริการคิดตามไมล์ โดยคิดไมล์ละ 0.15 บาท หรือ 15 สตางค์  (1 ไมล์ = 1.609344 กิโลเมตร) เมื่อเทียบกับราคาค่าโดยสารในปัจจุบันถือว่าแพงมาก และเนื่องจากการคิดอัตราค่าโดยสารตามเลขไมล์ จึงทำให้ในสมัยนั้นเรียกกันว่า “รถไมล์” 

แต่ท้ายสุด บริษัท แท็กซี่สยาม ต้องประสบกับปัญหาขาดทุน เนื่องจากค่าโดยสารที่มีราคาแพง อีกทั้งผู้คนในสมัยนั้นไม่คุ้นเคยจึงไม่นิยมใช้บริการ ประกอบกับเมืองกรุงเทพฯ ในขณะนั้นมีขนาดเล็กและมีรถรับจ้างอื่น ๆ อยู่มากอีกทั้งราคาถูกกว่าจึงต้องล้มเลิกกิจการไป 

จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ปี 2490 เจ้าของธุรกิจเอกชนบางราย ได้ฟื้นฟูกิจการแท็กซี่ในประเทศไทยขึ้นมาใหม่ โดยในช่วงแรกจะนิยมใช้รถยนต์ยี่ห้อเรโนลต์ (Renault) สมัยนั้นจึงเรียกแท็กซี่ว่า “เรโนลต์” ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากสะดวก รวดเร็วกว่ารถจักรยานสามล้อถีบ ซึ่งมีอยู่มากมายในสมัยนั้น 

ด้วยเหตุนี้ทำให้อาชีพขับรถแท็กซี่กลายเป็นที่จับตาอีกครั้ง มีผู้นำรถเก๋งไปทำเป็นรถแท็กซี่กันมากขึ้นจนแพร่หลายไปต่างจังหวัด จนต้องมีการควบคุมกำหนดจำนวนรถ และต่อมารถที่นำมาใช้บริการรับจ้าง ก็ได้เปลี่ยนกลับมานิยมใช้รถยี่ห้อออสติน และ ดัทสัน, บลูเบิร์ด, และโตโยต้าในที่สุด

ซึ่งก็นับเป็นเวลากว่า 98 ปี แล้วที่ ‘รถแท็กซี่’ ได้เริ่มให้บริการและกลายเป็นที่นิยม เหมือนที่เราสามารถเห็น ‘รถแท็กซี่’ วิ่งขวักไขว่ สัญจรไปมาบนท้องถนนเมืองไทยในปัจจุบัน


ที่มา : https://www.nanitalk.com/interesting-story/important-day/this-day-in-history/8622


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันคล้ายวันเกิด ‘อาร์โนลด์ อาลอยส์ ชวาร์เซเน็กเกอร์’ ครบ 74 ปี นักแสดงผู้สร้างชื่อเสียงจากภาพยนตร์ในตำนาน เรื่อง ‘คนเหล็ก’

อาร์โนลด์ อาลอยส์ ชวาร์เซเน็กเกอร์ เกิดในเมืองทาล ประเทศออสเตรีย ในปี พ.ศ. 2490 เขาเริ่มยกน้ำหนัก ตั้งแต่อายุ 14 ปี ทั้ง ๆ ที่พ่อของเขาเห็นว่าฟุตบอลน่าจะทำให้ชีวิตดีขึ้น อาร์โนลด์เข้าเป็นทหารเกณฑ์ในกองทัพออสเตรีย แม้ว่าเขาจะชอบทหารมาก แต่ก็ไม่ชอบกองทัพสักเท่าไร อยู่ได้ 1 เดือน จึงหนีทหารเข้าร่วมแข่งขันยกน้ำหนัก และได้ตำแหน่ง มิสเตอร์ ยุโรป จูเนียร์ แต่เขาก็ต้องติดคุกเสีย 1 สัปดาห์ พอออกจากคุก เขาได้รับอนุญาตให้ใช้เวลาช่วงที่เป็นทหาร ไปกับการฝึกการยกน้ำหนักได้ เพื่อจะเข้าร่วมการแข่งขันระดับนานาชาติหลังจากรับใช้กองทัพ หลังจากออกจากทหาร เขาได้ร่วมแข่งขันเพาะกายและยกน้ำหนักในระดับนานาชาติ ได้รับตำแหน่ง มิสเตอร์ยุโรป และตำแหน่ง ชายรูปร่างดีที่สุดในยุโรปไปครอง จนอายุ 20 ปี ได้รับตำแหน่งมิสเตอร์ยูนิเวิร์ส

เมื่อเขามาอเมริกา เขาใช้เงินรางวัลที่เขาได้รับรางวัลลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และขายอุปกรณ์เพาะกายทางไปรษณีย์ ธุรกิจของเขาเป็นไปได้ด้วยดี เขาทำงานการแสดงไปด้วย และเขายังได้ปริญญาทางด้านธุรกิจจากมหาวิทยาลัยแห่งวิสคอนซิน เขาคว้าตำแหน่ง มิสเตอร์ยูนิเวิร์ส อีกถึง 4 สมัย และได้ตำแหน่ง มิสเตอร์โอลิมเปีย อีก 6 ครั้งติดต่อกัน

ในปี พ.ศ. 2513 เขาแสดงเรื่อง Hercules in New York จากนั้นเขามีงานแสดงอีก 2-3 บท จากนั้นมารับบท โคแนน ของดิโน เดอ ลอเรนติส หนังเรื่องนี้ถูกนักวิจารณ์สับเละ แต่ว่าประสบความสำเร็จในด้านความนิยม และทำให้เขาได้รับบทต่อเนื่องอีก และยังได้รับบทใน The Terminator (คนเหล็ก 2029) ของ เจมส์ คาเมรอน ด้วย และได้แสดงในหนังแอ็กชั่น อีกหลายเรื่องอย่าง Commando, Predator (คนไม่ใช่คน) และ Total Recall (คนทะลุโลก) ซึ่งล้วนแต่ทำเงินทั้งสิ้น และยังมารับบทชายร่างใหญ่ใจดีในเรื่อง Kindergarten Cop (ตำรวจเหล็ก ปราบเด็กแสบ) และ Twins (แฝดผิดฝา ซ่าส์ผิดกัน)

ในปี พ.ศ. 2529 เขาได้แต่งงานกับ มาเรีย ไชรเวอร์ ซึ่งเป็นหลานสาวของอดีตประธานาธิบดี เคนเนดี้ ปีถัดมา หนังเรื่อง Terminator 2 (คนเหล็ก 2029 ภาค 2) ของเขากวาดรายได้ถึงกว่า 314 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ 30 เรื่องที่ทำรายได้สูงสุดตลอดกาล และยังได้แสดง The Last Action Hero (คนเหล็กทะลุมิติ) หรือ Jingle All the Way (คนเหล็กคุณพ่อต้นแบบ) ที่ไม่ประสบความสำเร็จสูงขนาดที่ผู้สร้างหวังไว้ ส่วนที่ประเทศออสเตรีย มีการฉลองความสำเร็จให้เขา ด้วยการตั้งชื่อสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งตามชื่อของเขาเพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติ อาร์โนลด์ยังคงมีเข้ามาเรื่อย ๆ เช่น The Sixth Day (วันล่าฅนเหล็กอหังการ) ในปี 2545 ก็มีผลงานเรื่อง Collateral Damage (คนเหล็กทวงแค้น วินาศกรรมทมิฬ) และ Terminator 3 : Rise of the Machines (คนเหล็ก 3 กำเนิดใหม่เครื่องจักรสังหาร)

หลังจากนั้นอาร์โนลด์เข้าสู่บทบาททางการเมือง เป็นนักการเมืองสังกัดพรรคริพับลิกัน และได้เป็นผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย คนที่ 38


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/อาร์โนลด์_ชวาร์เซเน็กเกอร์


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

“สมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เสด็จขึ้นครองราชย์ ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 เมื่อพระชนมายุได้ 35 พรรษา และครองราชสมบัติ 15 ปี

สมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่าพระนเรศ หรือ "พระองค์ดำ" เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราชและพระวิสุทธิกษัตรีย์ เสด็จพระราชสมภพเมื่อ พ.ศ. 2098 ที่พระราชวังจันทน์ เมืองพิษณุโลก มีพระเชษฐภคินีคือพระสุพรรณกัลยา มีพระอนุชาคือสมเด็จพระเอกาทศรถ (องค์ขาว) เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2133 ครองราชสมบัติ 15 ปี เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษา

ราชการสงครามในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่และสำคัญยิ่งของชาติไทย พระองค์ได้กู้อิสรภาพของไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด นั่นคือ จากฝั่งมหาสมุทรอินเดียทางด้านตะวันตก ไปจนถึงฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกทางด้านตะวันออก ทางด้านทิศใต้ตลอดไปถึงแหลมมลายู ทางด้านทิศเหนือก็ถึงฝั่งแม่น้ำโขงโดยตลอด และยังรวมไปถึงรัฐไทใหญ่บางรัฐ

สมเด็จพระนเรศวร กับสมเด็จพระเอกาทศรถ เสด็จยกกองทัพออกจากพระนคร เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 8 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พ.ศ. 2148 เสด็จโดยกระบวนเรือจากพระตำหนักป่าโมก แล้วเสด็จขึ้นบนที่ตำบลเอกราช ไปตั้งทัพชัย ณ ตำบลพระหล่อ แล้วยกกองทัพบกไปทางเมืองกำแพงเพชรสู่เมืองเชียงใหม่ ครั้นเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็หยุดพักจัดกระบวนทัพอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้กองทัพสมเด็จพระเอกาทศรถยกไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหางหลวง ครั้นเสด็จถึงเมืองหางแล้วก็ให้ตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว 

สมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วกลายเป็นบาดทะพิษพระอาการหนัก จึงโปรดให้ข้าหลวงรีบไปเชิญเสด็จสมเด็จพระเอกาทศรถมาเฝ้า สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จฯ มาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวรก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษาเศษ ดำรงราชสมบัติ 14 ปีเศษ สมเด็จพระเอกาทศรถจึงได้อัญเชิญพระบรมศพกลับกรุงศรีอยุธยา


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระนเรศวรมหาราช


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top