Saturday, 18 May 2024
TODAY SPECIAL

๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 

พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่เปี่ยมด้วยพระอัจฉริยภาพและความสามารถ พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายในการประกอบพระราชกรณียกิจ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติและร่วมแสดงความจงรักภักดี ขสมก. จึงขอประมวลพระราชกรณียกิจของพระองค์ ซึ่งมีดังต่อไปนี้... 

ด้านการทหารและการบิน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงสนพระราชหฤทัยในวิทยาการด้านการทหารมาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ นอกจากทรงรับการศึกษาทางด้านการทหารจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังทรงพระวิริยอุตสาหะในการเพิ่มพูนความรู้ และพระประสบการณ์ด้านการทหารอยู่ตลอดเวลา

โดยหลังสิ้นสุดการศึกษาด้านการทหารจากประเทศออสเตรเลียแล้ว ยังทรงเข้ารับการฝึกเพิ่มเติมระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนตุลาคม ๒๕๑๙ และทรงศึกษางานทางการทหารในประเทศออสเตรเลีย โดยทุนกระทรวงกลาโหม ทรงประจำการ ณ กองปฏิบัติการทางอากาศพิเศษ การทำลาย และยุทธวิธีรบนอกแบบ หลักสูตรต้นหนชั้นสูง หลักสูตรการลาดตระเวน และต้นหนชั้นสูง หลักสูตรส่งทางอากาศ และยังทรงเข้ารับการศึกษาหลักสูตรต่าง ๆ ทางด้านการบินอีกมากมาย ทำให้พระองค์ทรงมีพระประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านการบินในระดับสูงมาก

ด้านการกีฬา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจทั้งในฐานะผู้แทนพระองค์และในส่วนพระองค์เอง อาทิ การพระราชทานไฟพระฤกษ์กีฬาเยาวชนแห่งชาติ พระราชทานพระราชวโรกาสให้นักกีฬาไทยผู้นำความสำเร็จนำเกียรติยศมาสู่ประเทศชาติ เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทานรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยม

นอกจากนี้ พระองค์ทรงเป็นประธานในกิจกรรม Bike For Mom ปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๓ พรรษา ๑๒ สิงหาคม ๒๕๕๘ โดยวัตถุประสงค์นอกจากจะให้ประชาชนแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แสดงออกถึงความรักที่มีต่อแม่ของตนและแม่ของแผ่นดินแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพในการร่วมออกกำลังกายทำให้สุขภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงและปลูกฝังให้ ประชาชนรักการออกกำลังกาย รวมถึงเสริมสร้างความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาอีกด้วย

อีกทั้งยังมีกิจกรรม Bike For Dad “ปั่นเพื่อพ่อ” เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๘๘ พรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงนำขบวนผู้ที่มาเข้าร่วมกิจกรรมปั่นจักรยานเฉลิมพระเกียรติ เพื่อแสดงความจงรักภักดีกตัญญูกตเวทีต่อพระมหากษัตริย์ ร่วมเทิดพระคุณพ่อและเพื่อแสดงพลังความสามัคคีของชาวไทยทั้งชาติ

ด้านการศึกษา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศให้มีคุณภาพ ทรงสนับสนุนด้านการศึกษาให้กับประชาชนได้เรียนรู้สามารถนำมาใช้ประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองและครอบครัว รวมถึงสามารถนำความรู้มาพัฒนาสังคมและประเทศชาติได้ ทั้งทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโรงเรียนมัธยมศึกษาในถิ่นทุรกันดาร ๖ แห่งไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้แก่... 

๑.) โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๑ จ.นครพนม
๒.) โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๒ จ.กำแพงเพชร
๓.) โรงเรียนมัธยมพัชรกิติยาภา ๓ จ.สุราษฎร์ธานี
๔.) โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี ๑ จ.อุดรธานี
๕.) โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี ๒ จ.สงขลา
๖.) โรงเรียนมัธยมสิริวัณวรี ๓ จ.ฉะเชิงเทรา

โดยพระองค์ทรงทราบดีว่า เยาวชนในถิ่นทุรกันดารยังด้อยโอกาสในด้านการศึกษา ซึ่ง ๖ โรงเรียนดังกล่าว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงวางศิลาฤกษ์เอง พร้อมพระราชทานคำแนะนำและทรงส่งเสริมให้โรงเรียนดำเนินโครงการอันเป็นประโยชน์แก่นักเรียน อาทิ โครงการอาชีพอิสระ พระราชทานวัสดุอุปกรณ์การศึกษาอันทันสมัยต่าง ๆ รวมถึงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียน และทรงติดตามผลการศึกษาอยู่เสมอ

ด้านศาสนา
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ ไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจทางศาสนาเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ อาทิ ทรงเปลี่ยนเครื่องทรงพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร ณ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ตามฤดูกาล เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศลในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา อาทิ วันมาฆบูชา วันวิสาขบูชา วันอาสาฬหบูชา วันเข้าพรรษา และการถวายกฐินหลวงตามวัดต่าง ๆ รวมถึงการเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชทานถ้วยรางวัล การทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัลกุรอานระดับประเทศ

นอกจากนี้ ยังทรงแสดงพระองค์เป็นพุทธมามกะที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เมื่อวันที่ ๓ มกราคม ๒๕๐๙ ก่อนเสด็จพระราชดำเนินไปศึกษาที่ประเทศอังกฤษ และทรงผนวช เมื่อวันที่ ๖ พฤศจิกายน ๒๕๒๑ ซึ่งระหว่างทรงผนวชพระองค์ก็ได้ทรงศึกษา และปฏิบัติพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด

พระราชกรณียกิจด้านพระพุทธศาสนาอื่น ๆ อาทิ เป็นองค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการก่อสร้างพระพุทธรูปเขาชีจรรย์ ณ เขาชีจรรย์ ตำบลจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ที่จัดสร้างขึ้นเพื่อน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี และเพื่อเป็นศูนย์รวมของผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนา ตลอดจนเป็นสถานที่ดำเนินกิจกรรมทางศาสนาและขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย

ด้านการเกษตรกรรม
เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศเป็นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ได้เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชพิธีพืชมงคล ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นประจำ รวมทั้งทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้านเกษตรกรรมแทนพระองค์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร มาโดยตลอด และทรงติดตามความก้าวหน้าด้านการชลประทาน การสร้างเขื่อนต่าง ๆ โดยพระราชทานแนวพระราชดำริให้กรมชลประทานแก้ปัญหาตามที่ชาวบ้านกราบทูล ทำให้มีน้ำใช้ในการเกษตรอย่างอุดมสมบูรณ์และช่วยบรรเทาปัญหาอุทกภัยในฤดูฝน

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงตระหนักว่า สุขภาพพลานามัยของประชาชนเป็นปัจจัยและพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ จึงทรงสนพระราชหฤทัยในการประกอบพระราชกรณียกิจด้านการแพทย์และสาธารณสุข โปรดให้สร้างโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ๒๑ แห่งทั่วประเทศ เพื่อให้การรักษาพยาบาลผู้เจ็บป่วยในถิ่นทุรกันดาร โดยที่พระองค์ทรงเป็นองค์นายกกิตติมศักดิ์ของมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ทรงประกอบพิธีเปิดโรงพยาบาลทุกแห่ง และทรงเยี่ยมโรงพยาบาลอย่างสม่ำเสมอ รวมทั้งพระราชทานพระราชทรัพย์สนับสนุนให้มีอุปกรณ์การแพทย์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่ทันสมัย

ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงเจริญพระราชไมตรีระหว่างประเทศ โดยเมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนมิตรประเทศทั่วทุกทวีปอย่างเป็นทางการเป็นประจำทุกปี ปีละหลายครั้ง อาทิ เสด็จเยือนประเทศอิตาลี, สาธารณรัฐประชาชนจีน, ญี่ปุ่น, อิหร่าน, เนปาล, ออสเตรเลีย และสิงคโปร์ เป็นต้น ซึ่งในการเสด็จพระราชดำเนินไปทุกครั้ง ทรงเตรียมพระองค์ด้วยการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประเทศที่จะทรงเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยือนและระหว่างประทับอยู่ในประเทศนั้น ๆ 

เมื่อครั้งที่ประเทศเพื่อนบ้าน หรือประเทศต่าง ๆ ได้รับความสูญเสียจากเหตุการณ์ต่าง ๆ รัชกาลที่ ๑๐ ทรงส่งข้อความเสียพระราชหฤทัยไปยังผู้นำประเทศนั้น อาทิ... 

- ข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา กรณีเครื่องบินลำเลียงของกองทัพอากาศเมียนมา ตกในทะเลอันดามัน นอกชายฝั่งใกล้เมืองทวาย ภาคตะนาวศรี สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐

- ข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยัง ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน กรณีเกิดเหตุก่อการร้ายที่รัฐสภาอิหร่านและสุสานของอายาตุลลอห์ โคมัยนี อดีตผู้นำสูงสุดแห่งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน ในกรุงเตหะราน เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๐

- ข้อความพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ ๒ แห่งสหราชอาณาจักร กรณีเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ใจกลางกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ ๓ มิถุนายน ๒๕๖๐

โครงการจิตอาสา
ความเป็นมาของจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้หน่วยราชการในพระองค์ ๙๐๔ ร่วมกันจัดโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขของประชาชน 

ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีความสมัครสมานสามัคคี มีความสุข และประเทศชาติมีความมั่นคงอย่างยั่งยืน โดยมีหน่วยราชการในพระองค์ 904 เป็นผู้กำกับดูแลการปฏิบัติงานร่วมกับหน่วยงานภายนอก ทั้งภาครัฐและเอกชน และให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการใหญ่โครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ มีหน้าที่ควบคุมอำนวยการและประสานการปฏิบัติเพื่อให้การจัดกิจกรรมจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริเป็นไปอย่างต่อเนื่องถูกต้องตามพระบรมราโชบายและสมพระเกียรติ การแบ่งประเภทของจิตอาสามี ๓ ประเภท จิตอาสาพัฒนา จิตอาสาภัยพิบัติ จิตอาสาเฉพาะกิจ มีรายละเอียดในกิจกรรมดังนี้... 

๑.) จิตอาสาพัฒนา ได้แก่ กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาท้องถิ่นของแต่ละชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การอำนวยความสะดวก และความปลอดภัยในการดำรงชีวิตประจำวัน การประกอบอาชีพรวมทั้งการสาธารณสุข ฯลฯ

๒.) จิตอาสาภัยพิบัติ ได้แก่ กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเฝ้าตรวจ เตือน และเตรียมการรองรับภัยพิบัติ ทั้งที่เกิดจากธรรมชาติและที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่โดยรวม และการเข้าช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากภัยพิบัติดังกล่าว เช่น อุทกภัย วาตภัย อัคคีภัย เป็นต้น

๓.) จิตอาสาเฉพาะกิจ ได้แก่ กิจกรรมจิตอาสาพระราชทานที่มีวัตถุประสงค์ในงานพระราชพิธี หรือการรับเสด็จในโอกาสต่าง ๆ เป็นการใช้กำลังพลจิตอาสาร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ในการช่วยเหลือหรืออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่มาร่วมงาน รวมทั้งการเตรียมการ การเตรียมสถานที่ภายหลังการในราชพิธี และการเสด็จฯ นั้น ๆ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย


ที่มา : http://www.bmta.co.th/th/content/ในวันที่-28-กรกฎาคม-2564-เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา

         https://king.kapook.com/kingrama10/sec3_detail_all.html https://www.025798899.com/news/1904

         https://www.thairath.co.th/news/royal/1558893 http://www.tratpt.ac.th/Volunteer/content/content7.html

         https://prec.coj.go.th/cms/s203/u552/พระราชกรณียกิจ.pdf

         https://king.kapook.com/kingrama10/sec3_detail_all.html

         http://phralan.in.th/downloaddetail.php?d=1


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็นวันครบรอบ 14 ปี ของการสร้างพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุด มีนามว่า พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือ ‘หลวงพ่อใหญ่’ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดม่วง จังหวัดอ่างทอง

ความเป็นมาของการสร้าง ‘พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ’ เกิดขึ้นโดยดำริของ พระครูวิบูลอาจารคุณ (เกษม อาจารสุโภ) เจ้าอาวาสองค์แรกของวัดม่วง จังหวัดอ่างทอง ที่ได้ร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธาทั่วประเทศ สมทบทุนสร้างพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่สุดในโลก 

ทั้งนี้ เพื่อน้อมถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 และราชวงศ์จักรี โดยตั้งนามว่า พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ เริ่มวางศิลาฤกษ์เมื่อวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2534 แล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ใช้ทุนทรัพย์ในการสร้างราว 104,261,089 บาท จากการบริจาคของผู้มีจิตศรัทธา รวมระยะเวลากว่า 16 ปี

ปัจจุบัน พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ ประดิษฐานอยู่ ณ วัดม่วง ตำบลหัวตะพาน อำเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง มีความสูงจากฐานองค์พระถึงยอดเกศา 95 เมตร เทียบเท่ากับตึก 40 ชั้น และมีความกว้างของหน้าตัก 63.05 เมตร หากเดินวนรอบองค์พระต้องใช้เวลากว่า 3 นาที

พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ หรือหลวงพ่อใหญ่ ถือเป็นพระพุทธรูปที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกองค์หนึ่ง สามารถมองเห็นได้จากระยะไกล แต่เหนือสิ่งอื่นใด นับเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นจากความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อพุทธศาสนาอย่างแท้จริง


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ

          https://travel.mthai.com/news/3364.html


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย โดยเจ้าตัวถือเป็นนักธุรกิจที่มีชื่อเสียง ที่ผันตัวมาทำงานด้านการเมือง ก่อนจะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในที่สุด

ทักษิณ ชินวิตร เกิดเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 ปัจจุบันอายุ 72 ปี โดยเจ้าตัวถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ดำรงตำแหน่งในช่วงปี พ.ศ. 2544-2549  

ก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำงานการเมือง ทักษิณเป็นที่รู้จักในนามของนักธุรกิจเจ้าของธุรกิจโทรคมนาคม และเป็นผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กระทั่งในปี พ.ศ. 2537 เจ้าตัวเข้าสู่แวดวงการเมืองภายใต้สังกัดพรรคพลังธรรม และต่อมาได้ก่อตั้งพรรคการเมืองของตัวเองในชื่อ พรรคไทยรักไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2541

และหลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไปในปี พ.ศ. 2544 พรรคไทยรักไทยได้รับเสียงข้างมากในสภา จึงส่งผลให้ทักษิณ ในฐานะหัวหน้าพรรค ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสมัยแรก ก่อนที่อีก 4 ปีต่อมา พรรคไทยรักไทยยังสามารถกุมฐานเสียงในการเลือกตั้งเอาไว้ได้อีกครั้ง ทำให้ทักษิณ ชินวัตร ก้าวสู่การเป็นนายกฯ ของประเทศไทยเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน

ต่อมา รัฐบาลภายใต้การบริหารงานของทักษิณ ถูกกล่าวหาทั้งในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การฉ้อราษฎร์บังหลวง รวมทั้งเจ้าตัวยังถูกเพ่งเล็งในเรื่องการหลบเลี่ยงภาษี จนเป็นที่มาของเหตุการประท้วง 

กระทั่งเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เกิดเหตุการณ์รัฐประหาร ในช่วงที่เจ้าตัวเดินทางไปยังต่างประเทศ ส่งผลให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในเวลาต่อมา เจ้าตัวเดินทางกลับเมืองไทยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 

แต่หลังจากที่ศาลพิพากษาคดีทุจริตที่ดินย่านรัชดาฯ ซึ่งเจ้าตัวมีความผิด ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปี ทักษิณก็เดินทางออกนอกประเทศอีกครั้ง และไม่ยอมเดินทางกลับนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ปัจจุบัน ทักษิณ ชินวัตรใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน และยังปรากฎตัว วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล ตลอดจนแสดงทัศนะ เรื่องราวกระแสสังคมต่าง ๆ ผ่านสื่อโซเชียลมีเดียเป็นประจำ และมีชื่อฉายาใหม่ที่ถูกเรียกขานเพิ่มเติมว่า Tony 

วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 72 ปีของอดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นบทบาทใด ปฏิเสธไม่ได้ว่า เจ้าตัวยังคงสร้างความสนใจต่อสังคมไทยได้อยู่เสมอ แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือการยอมรับใน ‘หลักการและกฎหมาย’ ซึ่งจะช่วยสร้างให้เกิดบรรทัดฐานใหม่ที่ดีร่วมกันในสังคม


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/ทักษิณ_ชินวัตร


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 21 ปีก่อน เกิดอุบัติเหตุทางอากาศครั้งใหญ่ สร้างความตกใจให้กับผู้คนทั่วโลก เมื่อเครื่องบินคองคอร์ด สายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบิน 4590 เกิดอุบัติเหตุตก ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 113 คน

ย้อนเวลากลับไปกว่า 21 ปี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2543 สายการบินแอร์ฟรานซ์ เที่ยวบินที่ 4590 บรรทุกผู้โดยสารกว่า 100 คน และลูกเรืออีก 9 คน เตรียมเดินทางออกจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เพื่อไปยังมหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยใช้เครื่องบินคองคอร์ดเป็นพาหนะในการเดินทางครั้งนี้

หลังจากที่เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เจ้าหน้าที่หอบังคับการบินได้แจ้งว่า เห็นเพลิงไหม้ที่ด้านท้ายเครื่อง ต่อมานักบินได้ตรวจสอบแล้วแจ้งว่า เกิดปัญหากับเครื่องยนต์หมายเลข 1 และ 2

สัญญาณเตือนไฟไหม้ดังขึ้น นักบินพยายามนำเครื่องร่อนลงที่สนามบินใกล้เคียง แต่แล้วเครื่องบินก็สูญเสียการควบคุมความเร็ว ดิ่งหัวลงสู่โรงแรมที่อยู่บริเวณด้านล่างอย่างรวดเร็ว เกิดระเบิดและไฟไหม้อย่างรุนแรง เป็นผลทำให้มีผู้เสียชีวิต 113 คน เป็นผู้โดยสาร 100 คน ลูกเรือ 9 คน และผู้ที่อยู่ในโรงแรมที่เครื่องบินตกใส่อีก 4 คน

ภายหลังมีการตรวจสอบ พบสาเหตุที่น่าเหลือเชื่อว่า มีชิ้นส่วนโลหะที่หลุดออกมาจากเครื่องบินดีซี-10 ของคอนติเนนตัลแอร์ไลน์ ซึ่งบินขึ้นก่อนหน้านั้น 4 นาที ลอยมากระแทกกับยางล้อด้านข้างซ้ายของคองคอร์ดลำดังกล่าว ขณะกำลังเร่งเครื่องเพื่อเทคออฟ เป็นผลทำให้ยางล้อเกิดระเบิด และมีชิ้นส่วนของยางกระเด็นไปกระแทกกับถังน้ำมัน และสายไฟ จนเกิดการลุกไหม้ และนำมาซึ่งการตกในที่สุด

หลังเหตุการณ์สะเทือนขวัญ หน่วยงานความปลอดภัยทางการบิน ได้สั่งระงับการใช้เครื่องบินคองคอร์ดทุกเที่ยวบิน เพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด ก่อนจะนำกลับมาใช้งานอีกครั้งในปีถัดไป

แต่ด้วยความที่มีผู้ใช้บริการน้อยลง และมีต้นทุนค่อนข้างสูง ต่อมาทางสายการบินแอร์ฟรานซ์และบริติชแอร์เวย์ จึงประกาศยกเลิกการใช้งานเครื่องบินคองคอร์ดลงทั้งหมดในปี พ.ศ.2546 ปิดตำนานเครื่องบินโดยสารที่มีความเร็วเหนือเสียง และมีอายุการใช้งานกว่า 27 ปี ลงในที่สุด


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/คองคอร์ด


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 56 ปีก่อน มีข่าวอันน่ายินดีเกิดขึ้นในประเทศไทย เมื่อ อาภัสรา หงสกุล นางสาวไทยที่เป็นตัวแทนไปประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์ส สามารถคว้าตำแหน่งชนะเลิศ กลายเป็นนางงามจักรวาลคนแรกของประเทศไทย

อาภัสรา หงสกุล เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม พ.ศ.2490 มีชื่อเล่นว่า ปุ๊ก เธอจบการศึกษาระดับมัธยมจากรัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย กระทั่งต่อมา ได้มีโอกาสเข้าประกวดในเวทีการประกวดนางสาวไทย และได้รับตำแหน่งนางสาวไทย ในปี พ.ศ.2507

อาภัสราถือเป็นนางสาวไทยคนที่ 3 ที่เป็นตัวแทนเข้าร่วมประกวดในเวทีนางงามจักรวาล ต่อจาก อมรา อัศวนนท์ ที่เข้าประกวดในปี ค.ศ.1956 และ สดใส วานิชวัฒนา เข้าประกวดในปี ค.ศ.1959 

โดยอาภัสราเข้าประกวดในปี ค.ศ.1965 ซึ่งครั้งนั้นการประกวดจัดขึ้นไมอามี่ รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา และผลปรากฎออกมา เธอสามารถคว้าตำแหน่งสูงสุดในการประกวด นั่นคือ มิสยูนิเวิร์ส ประจำปี 1965 ได้เป็นผลสำเร็จ โดยมีนางงามจากประเทศฟินแลนด์ สหรัฐฯ สวีเดน และเนเธอร์แลนด์ เป็นรองนางงามจักรวาล

อาภัสรา หงสกุล ถือเป็นนางงามจักรวาลคนที่ 14 ของเวทีการประกวด และเป็นคนที่ 2 ของทวีปเอเชีย และแน่นอนว่า เป็นคนแรกของประเทศไทย แม้ว่าในเวลาต่อมา ประเทศไทยจะมีนางงามจักรวาลคนที่สอง นั่นคือ ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ที่คว้าตำแหน่งมาได้อีกครั้งในปี ค.ศ.1988 

แต่ถึงอย่างนั้น ชื่อเสียงของเธอก็ยังถูกกล่าวถึง ในฐานะสาวไทยคนแรกที่ไปสร้างชื่อเสียงบนเวทีความงามระดับโลกมาโดยตลอด


ที่มา : https://th.wikipedia.org/อาภัสรา_หงสกุล


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 76 ปีก่อน เป็นวันสิ้นพระชนม์ของพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ ปราชญ์คนสำคัญของประเทศไทย พระองค์มีผลงานด้านการนิพนธ์หนังสือเอาไว้มากมาย รวมถึงยังเป็นบิดาแห่งการสหกรณ์ไทยอีกด้วย

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ มีพระนามเดิมว่า พระบวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารัชนีแจ่มจรัส เป็นพระราชโอรสในกรมพระราชวังบวรวิไชยชาญ (พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว) กับจอมมารดาเลี่ยมเล็ก ประสูติเมื่อวันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2420 

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์ เริ่มเข้ารับราชการตั้งแต่มีพระชันษา 16 ปี ก่อนที่จะมีโอกาสติดตามพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสยุโรป ช่วงปี พ.ศ. 2440 และมีโอกาสศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ประเทศอังกฤษ

กระทั่งในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ดำรงตำแหน่งป็นองคมนตรี ต่อมาในวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2456 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ สถาปนาให้เป็นพระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิมยาลงกรณ์ เป็นผู้ทรงดำริให้จัดสร้าง ‘สหกรณ์วัดจันทร์’ ซึ่งถือเป็นสหกรณ์แห่งแรกของไทย จนได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘บิดาแห่งการสหกรณ์ไทย’ นอกจากนี้ ยังทรงเป็นกวีเอก ที่มีนามปากกาที่ผู้คนรู้จักกันในนาม น.ม.ส. 

พระองค์มีผลงานด้านการนิพนธ์ทั้งร้อยแก้ว และร้อยกรอง ผลงานที่ยังถูกพูดถึงมาจนถึงทุกวันนี้ ได้แก่ หนังสือนิทานเวตาล, กนกนคร และประมวลนิทาน น.ม.ส. รวมทั้งยังนิพนธ์บทร้อง ‘อโหกุมาร’ ประทานให้เป็นบทร้องประจำโรงเรียนเทพศิรินทร์ ใช้มาจนถึงปัจจุบัน

พระราชวรวงศ์เธอ กรมหมื่นพิมยาลงกรณ์ สิ้นพระชนม์เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2488 ด้วยพระโรคหลอดเลือดในสมองตัน สิริพระชันษา 68 ปี มีพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2491 ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส 

ผ่านมาถึงวันนี้ เป็นเวลากว่า 76 ปีแห่งการสิ้นพระชนม์ แต่ชื่อเสียงและผลงานของปราชญ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ท่านนี้ ยังคงถูกนำมาถ่ายทอดแก่คนรุ่นหลังได้รู้จักอยู่ต่อไป


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชวรวงศ์เธอ_กรมหมื่นพิทยาลงกรณ์


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อกว่า 104 ปีมาแล้ว เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 ทรงตัดสินพระราชหฤทัย นำประเทศไทยเข้าร่วมในสงครามโลกครั้งที่ 1

สงครามโลกครั้งที่ 1 เกิดขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2457-2461 โดยเป็นความขัดแย้งระหว่าง ฝ่ายสัมพันธมิตร ซึ่งมีประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส และรัสเซีย เป็นผู้นำ กับฝ่ายมหาอำนาจกลาง ซึ่งมีเยอรมนี และออสเตรีย-ฮังการี เป็นผู้นำ ในเหตุการณ์ครั้งนั้น ประเทศสยาม ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ดำเนินนโยบายรักษาความเป็นกลางอย่างเคร่งครัด

กระทั่งในปี พ.ศ. 2460 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นว่าฝ่ายมหาอำนาจกลางได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และปราศจากมนุษยธรรม ส่งผลให้เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 พระองค์ทรงตัดสินพระราชหฤทัยประกาศสงครามต่อฝ่ายมหาอำนาจกลาง และเข้าร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร พร้อมทั้งส่งกองทหารอาสาไปร่วมรบ ณ สมรภูมิทวีปยุโรป

ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 สิ้นสุดลง เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2461 โดยฝ่ายสัมพันธมิตรได้รับชัยชนะ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชดำริให้สร้างถาวรวัตถุ เพื่อเป็นอนุสรณ์ถึงเหตุการณ์ดังกล่าว 

เป็นที่มาของการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวงเวียน ที่เป็นอนุสรณ์สถานแห่งแรกของประเทศไทยขึ้น โดยทำการสร้างบริเวณถนน 3 สาย (ปัจจุบันคือ ถนนไมตรีจิตต์ ถนนมิตรพันธ์ และถนนสันติภาพ) ซึ่งอยู่ในท้องที่อำเภอป้อมปราบศัตรูพ่าย ต่อมาได้พระราชทานนามวงเวียนว่า ’22 กรกฎาคม’

ปัจจุบัน วงเวียน 22 กรกฎาคม กลายเป็นแหล่งการค้าของกรุงเทพมหานครชั้นใน ทั้งนี้ที่บริเวณวงเวียน ยังปรากฎป้ายหินที่จารึกเป็นภาษาไทยและภาษาจีน มีใจความว่า...

อนุสรณ์แห่งนี้เป็นวงเวียนแห่งแรกของประเทศไทย สร้างเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงนำประเทศไทยเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 1 ร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2460 ก่อนจะได้รับชัยชนะในเวลาต่อมา
.
ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/วงเวียน_22_กรกฎาคม


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อในอดีต ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ชาติไทย เมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย พระมหากษัตริย์องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์จักรี เสด็จสวรรคต

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย มีพระนามเดิมว่า ฉิม พระราชสมภพเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2310 เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 4 ในพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ประสูติแต่ท่านผู้หญิงนาค (ภายหลังเฉลิมพระนามเป็นสมเด็จพระอมรินทราบรมราชินี) 

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงเสวยราชสมบัติเมื่อปี พ.ศ. 2352 ขณะมีพระชนมพรรษาได้ 42 พรรษา ตลอดรัชสมัยของพระองค์ ได้รับการยกย่องว่า เป็นยุคทองของวรรณคดี พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์ผลงานด้านบทกลอนไว้มากมาย อาทิ รามเกียรติ์ อุณรุท อิเหนา ฯลฯ นอกจากนี้ยังมีบทละครนอกที่มีชื่อเสียงมาจนถึงทุกวันนี้ อาทิ ไกรทอง สังข์ทอง ไชยเชษฐ์ หลวิชัยคาวี ฯลฯ

พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ยังทรงมีพระปรีชาสามารถด้านดนตรี ทรงถนัดและโปรดปรานเครื่องดนตรีประเภทซอสามสาย โดยมีบทเพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีคือ เพลงบุหลันลอยเลื่อน ซึ่งปัจจุบันยังเป็นเพลงที่ถูกนำมาบรรเลงและถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังได้รู้จักอยู่เสมอ

ราวปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ทรงพระประชวรด้วยโรคพิษไข้ เป็นเหตุให้ทรงไม่รู้สึกพระองค์เป็นเวลากว่า 8 วัน ต่อมาพระอาการประชวรได้ทรุดลงตามลำดับ และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2367 สิริพระชนมพรรษาได้ 56 พรรษา และครองราชย์สมบัติเป็นเวลา 15 ปี 


ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อ 52 ปีก่อน ถือเป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของโลก เมื่อยานอวกาศที่ชื่อ ‘อพอลโล 11’ ขององค์การนาซ่า สามารถทำการลงจอดบนพื้นผิวของดวงจันทร์ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก

ยานอวกาศอพอลโล 11 เป็นยานอวกาศที่ถูกส่งขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศโดยจรวดแซทเทิร์น 5 ที่ฐานยิงจรวดแหลมเคเนดี้ มลรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ.2512 กระทั่งอีก 4 วันต่อมา หรือเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ.2512 ก็สามารถนำยานลงจอดได้ ณ บริเวณที่เรียกว่า ‘ทะเลแห่งความสงบ’ (Mare Tranquilitatis) บนดวงจันทร์

โดย นีล อาร์มสตรอง ผู้บังคับการของยานอวกาศ เป็นผู้ก้าวเท้าลงสัมผัสพื้นผิวของดวงจันทร์ ได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์โลก ก่อนจะตามมาด้วย เอดวิน อัลดริน และ ไมเคิล คอลลินส์ สองนักบินอวกาศที่โดยสารมาด้วยกัน

ภารกิจของทั้งสามนักบินในครั้งนั้น คือการติดตั้งเครื่องวัดแผ่นดินไหว และเครื่องวัดลมสุริยะ รวมทั้งเก็บตัวอย่างหิน-ดินปริมาณราว ๆ 20.8 กิโลกรัม นำกลับไปยังโลก รวมเวลาอยู่บนดวงจันทร์ทั้งสิ้น 21 ชั่วโมง 36 นาที และใช้เวลานับตั้งแต่ออกเดินทางจนกลับถึงโลก 195 ชั่วโมง 18 นาที 35 วินาที โดยทั้งหมดกลับถึงโลกเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ.2512

ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ดังกล่าว มีผู้คนราว 530 ล้านคนทั่วโลก ที่เฝ้ารับชมการถ่ายทอดสด พร้อมกับการจดจำประโยคสำคัญที่ นีล อาร์มสตรอง ได้เอ่ยขึ้นในช่วงเวลาที่สัมผัสกับพื้นผิวดวงจันทร์เป็นครั้งแรกว่า ‘นี่เป็นก้าวเล็ก ๆ ของมนุษย์คนหนึ่ง แต่เป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ’

ปัจจุบันวิวัฒนาการของโลกก้าวล้ำไปอย่างมาก มีการวางแผนสร้างสถานีอวกาศ เพื่อเดินทางออกไปยังส่วนอื่น ๆ ของระบบสุริยะอีกมากมาย แต่ถึงอย่างนั้น ‘ก้าวแรก’ ของการเหยียบดวงจันทร์ ก็ยังเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำสำหรับมนุษยชาติอยู่เสมอ


ที่มา: https://th.wikipedia.org/wiki/อะพอลโล_11


โปรเด็ด! ถึง 31 ก.ค. นี้ Ford Ranger, MG ZS, Mazda 2 และ Nissan อัลเมร่า ทักไลน์ @THESHOPSTIMES 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

วันนี้เมื่อกว่า 72 ปีก่อน ถือเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติ โดยเป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ทรงประกอบพระราชพิธีหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร (พระอิสริยยศ ณ ขณะนั้น) ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

จุดเริ่มต้นของการสืบสานความผูกพันของทั้งสองพระองค์ เกิดขึ้นในช่วงปี พ.ศ. 2491 เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้เสด็จจากเมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มายังกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส โดยการเสด็จครั้งนั้น มีหม่อมเจ้านักขัตรมงคล กิติยากร ในฐานะเอกอัครราชทูต ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ พร้อมด้วยครอบครัว

ทั้งนี้ หนึ่งในสมาชิกของครอบครัวที่ให้การเฝ้ารับเสด็จฯ ในครั้งนั้น มีหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ กิติยากร ซึ่งเป็นบุตรีของหม่อมเจ้านักขัตรมงคล เข้าร่วมเฝ้ารับเสด็จฯ ด้วย จึงเป็นที่มาของการที่ทั้งสองพระองค์ทรงได้พบกันเป็นครั้งแรก

ต่อมา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2491 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์ หม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ได้เข้าเฝ้าฯ เยี่ยมพระอาการ และถวายการพยาบาลอย่างใกล้ชิดเป็นประจำ จึงกลายเป็นความรักความเข้าพระราชหฤทัยซึ่งกันและกัน และสืบสานความผูกพันมากขึ้นเป็นลำดับ

ราวเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ได้มีรับสั่งให้หม่อมเจ้านักขัตรมงคลไปเฝ้าที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก่อนที่ในวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 พระองค์จะเสด็จไปพบหม่อมเจ้านักขัตรมงคล ที่โรงแรมที่พัก และทรงมีรับสั่งถึงเรื่องการหมั้น 

จากนั้นเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 จึงได้มีการประกอบพระราชพิธีหมั้นเป็นการภายใน ณ โรงแรมวินเซอร์ เมืองโลซานน์ อันเป็นที่พักของหม่อมเจ้านักขัตรมงคลและครอบครัว โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงสวมพระธำมรงค์เป็นของหมั้นต่อหม่อมราชวงศ์สิริกิติ์ ซึ่งพระธำมรงค์วงนี้ เป็นวงเดียวกับที่สมเด็จพระบรมราชชนกทรงมอบต่อสมเด็จพระบรมราชชนนี ในพระราชพิธีหมั้น เมื่อปี พ.ศ. 2462 

ต่อมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ราชเลขานุการประจำพระองค์ ทำหนังสือแจ้งข่าวที่ทรงหมั้นมายังรัฐบาลไทย ซึ่งมี จอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลานั้น รัฐบาลได้แจ้งประกาศข่าวอันเป็นมงคลนี้ให้พสกนิกรทราบ ยังความปลื้มปีติยินดีแก่เหล่าประชาชนชาวไทยถ้วนทั่วหน้ากัน


ที่มา : https://www.komchadluek.net/news/today-in-history/380155, https://th.wikipedia.org/wiki/พระราชพิธีราชาภิเษกสมรส_พุทธศักราช_2493


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top