Tuesday, 21 May 2024
ไสยศาสตร์

คุณปู่ชาวญี่ปุ่น ทำตุ๊กตาฟางสาปแช่ง 'ปูติน' เหตุไม่พอใจที่รัสเซียรุกรานยูเครน

คุณปู่ชาวญี่ปุ่นวัย 72 ปี ถูกจับกุมเมื่อวันพุธ (15 มิ.ย.) ตามคำกล่าวหาเอาตุ๊กตาฟางติดภาพใบหน้าของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ตอกตะปูติดกับต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นหนึ่ง บริเวณศาลเจ้าใกล้กรุงโตเกียว ในความพยายามสาปแช่งขอให้ผู้นำแดนหมีขาวเสียชีวิต จากความขุ่นเคืองที่มีต้นตอจากปฏิบัติการรุกรานยูเครน

ตำรวจในเมืองมัตสึโดะ จังหวัดชิบะ ระบุว่านายมิตซูโนบุ ฮิโนะ ถูกจับกุมฐานต้องสงสัยก่อความเสียหายแก่ทรัพย์สินและบุกรุก

ภาพที่ปรากฏบนสื่อสังคมออนไลน์ พบเห็นตุ๊กตาฟางไม้ที่ติดภาพใบหน้าของปูติน ถูกตอกตะปูติดกับต้นไม้ และมีข้อความเขียนสาปแช่งให้ผู้นำรัสเซียเสียชีวิต

ฮิโนะ ถูกกล่าวหาบุกรุกเข้าไปในบริเวณศาลเจ้ามิคาซูกิของเมืองมัตสึโดะ ตอนเวลาราวๆ 14.20 น. ของวันที่ 19 พฤษภาคม และทำให้ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ของศาลเจ้าเป็นรู ด้วยการตอกตะปูยึดตุ๊กตาฟางติดกับต้นไม้

‘มูเตลู’ ศาสตร์แห่งเวทมนตร์คาถา ของวิเศษเปื้อนกิเลส ที่คนกำลังงมงาย

(10 ก.พ. 67) จากช่องยูทูบ ‘Nomad Media Thailand’ โดยคุณวารินทร์ สัจเดว ผู้ประกาศข่าว TNN ได้นำเสนอเนื้อหาในหัวข้อ ‘มูเตลูเลือด แลกชีวิต หยุดบ้า… อยากสมหวังในความรัก ฟังทางนี้’ ระบุว่า…

จากข่าวของ ‘น้องพร’ จากกรณี #ฆ่าหนุ่มโรงงาน ที่เป็นประเด็นร้อนอยู่ตอนนี้ เพราะมีคนเสียชีวิต ซึ่งก็คือ สามีของเธอเอง เป็นข่าวที่กําลังทําให้สังคมนั้นไขว้เขว เนื่องจากมีข่าวในลักษณะเชิงว่า มีการคบซ่อน มีชู้หลายคน ออกมา อีกทั้งสื่อและสังคมยังไปให้ความสนใจกับ ‘ของ’ ที่อยู่ในตัวเธอ ซึ่งเป็น ‘ไสยศาสตร์’ เป็นสิ่งที่ตอนนี้กำลังฮิตกัน กับคําว่า ‘มูเตลู’ ซึ่งในช่องของเราก็ได้พูดกันหลายครั้งแล้วว่า คําว่า ‘มูเตลู’ นั้น ถ้าเกิดคุณไหว้สิ่งที่เป็น ‘สิ่งศักดิ์สิทธิ์, สิ่งที่เป็นเทพ’ หรือแม้แต่การเข้าวัดของศาสนาพุทธ เข้าไปกราบพระพุทธเจ้า ห้ามใช้คําว่า ‘มูเตลู’ เด็ดขาด

คุณทราบไหมครับว่า ‘มูเตลู’ นั้น มันมาจากคําสองคํา ใช้คําว่า ‘มู’ หรือ ‘สายมู’ จนฮิตกันไปทั่วบ้านทั่วเมือง จนติดเป็นแฮชแท็ก ‘#สายมู’

เหล่าสายมูตัวแม่ สายมูตัวพ่อ ถ้ารู้ความหมายแล้วจะยังกล้าใช้อีกหรือไม่?

‘มูเตลู’ มาจากคําสองคํา เป็นภาษาอินโดนีเซีย คือคำว่า ‘อิลมู’ (ilmu) แปลว่า ‘วิทยาศาสตร์ หรือศาสตร์’ (Science) ส่วน ‘เตลู’ (Tehlu) คือ ‘ไสยศาสตร์ หรือมนต์ดํา’ (Witchcraft) นั่นเอง

บรรดาเกจิอาจารย์ต่างๆ ที่นําเอาศาสตร์เหล่านี้เข้ามาทําหากิน ยังกล้าใช้คําว่า ‘พุทธคุณ’ กับสิ่งเหล่านี้ ที่เป็นมนต์ดํา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดและอย่าได้ไปหลงเชื่อ จนทําให้ชีวิตของพวกเราทุกคนพังเด็ดขาดเลยนะครับ

ข่าวของ ‘น้องพร’ ที่เกิดขึ้นเรื่องและกำลังเป็นประเด็นในสังคมอยู่ขณะนี้ พวกสื่อได้ไปให้น้ำหนักในเรื่องของ ‘ลายสัก’ ที่ทําเพื่อให้คนหลงจนโงหัวไม่ขึ้น อีกทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์เธอว่า หน้าตาก็ไม่ได้ดูดีขนาดนั้น ทําไมผู้ชายถึงหลงกันได้ขนาดนี้ สิ่งเหล่านี้มันสะท้อนว่า สังคมของเรา ‘ป่วย’ นะครับ

เวลาไปดูดวงหรือไปทําของเหล่านี้ มันทำให้คุณวนเวียน จดจ่ออยู่แต่กับเรื่องเดิมๆ เช่น เรื่องของคู่ครอง เรื่องของความรัก เรื่องของความสมหวัง หรือแม้แต่เรื่องของหน้าที่การงาน แต่มันไม่มีอะไรที่ได้มาภายในชั่วข้ามคืนหรอกนะครับ ของวิเศษเหล่านี้ไม่มีจริง การรับเอาสิ่งเหล่านี้เข้ามา ก็คือการให้ ‘ผี’ มาครอบงำจิตใจของคุณ จนบางครั้งอาจดลบันดาลให้คุณไปทำในสิ่งต่างๆ ที่มันไม่ใช่ ‘ปกติวิสัย’ ของมนุษย์ ดังเช่นเคสนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเจนที่สุด นี่คือ ‘มูเตลูเลือด’ ซึ่งแลกมาด้วยชีวิต…

แล้วเราจะยังหลงทางกับสิ่งเหล่านี้อยู่อีกหรือ?

การกราบไหว้ ‘เทพ’ เราสามารถกราบไหว้ได้นะครับ อย่างในกรณีของ ‘พระแม่ลักษมี’ ที่คนชอบไปขอเรื่องของคู่ครองกัน ซึ่งนี่ก็ถือว่าผิดนะครับ ท่านประทานพรเรื่องความรัก ใช่ครับ แต่เมื่อคุณพบกับความรัก ซึ่งจะเข้ามาเมื่อถึงเวลาที่สมควร เข้ามาเมื่อชะตาชีวิตคุณลิขิตไว้ให้เป็นเช่นนั้นนะครับ เมื่อเวลานั้นมาถึง คุณก็จะได้พบกับคนรักเอง ไม่ใช่ไปขอคู่ครอง เพราะทำเช่นนั้น หากได้คู่ครองมาก็ไม่จีรังยั่งยืนหรอกครับ เมื่อของหมดฤทธิ์ คู่รักของคุณก็จากไป เพราะฉะนั้น การที่คุณไปไหว้พระแม่ลักษมีกันนั้น ก็ควรจะไหว้ให้ถูกต้องด้วย

และเมื่อคุณมีความรักแล้ว ก็ควรขอให้ความรักของคุณยั่งยืน มีครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ มั่งมี เจริญสุข แต่ถ้ายังไม่เจอคู่รัก ก็ไม่ควรไปขอคู่จากพระแม่ลักษมี ควรทำเพียงแค่ขอพรจากท่านว่า ถ้าในชีวิตของเราบนโลกนี้มีคู่ครอง เมื่อถึงเวลาก็ขอให้เราและเขาได้พบกัน

เราต้องทําหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดก่อน อย่าได้เข้าใจผิด อย่าได้หลงทาง ว่าของวิเศษเหล่านี้มีจริง สิ่งเหล่านั้นเป็นมนต์ดําทั้งนั้นนะครับ และอาจารย์ต่างๆ ที่นําเอาสิ่งเหล่านี้เข้ามาในสังคมไทย แม้กระทั่งพระที่มาปลุกเสก อ้างเรื่องนู้นเรื่องนี้ โชว์พลังวิเศษ ไปเอาของจากพม่า จากเขมรเข้ามา จงรู้ไว้ว่าสิ่งเหล่านี้ มันกําลังกัดกร่อน และทําลายคุณภาพชีวิตของคนในสังคมไทย อย่าได้หลงงมงายกับสิ่งเหล่านี้ เตือนด้วยความปรารถนาดีนะครับ

เทพไหว้ได้ พลังเหนือธรรมชาติมีอยู่จริง แต่ก็ต้องมาในทางที่ถูกต้องด้วยเช่นเดียวกัน ทุกอย่างเริ่มต้นที่การกระทําของคุณ และของพวกเราเอง ลงมือปฏิบัติ ลงมือทําในสิ่งที่เราอยากจะให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเรา ตั้งหน้าตั้งตาทํามาหากิน ตั้งใจทํางาน ตั้งใจเรียน ตั้งใจดํารงชีวิต ทําความดี และไม่เบียดเบียนใคร

และการขอพร ขอพลังจากสิ่งที่เป็นพลังเหนือธรรมชาติ ที่เราไหว้กันอยู่ ก็คือ ‘เทพ’ แม้แต่การเข้าวัดไทย วัดพุทธ เพื่อไปขอสิ่งเหล่านู้น เหล่านี้ ก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องนะครับ เพราะเราก็ทราบกันดีว่า พระพุทธเจ้านั้นนิพพาน ไม่กลับมาเวียนว่ายตายเกิดแล้ว และสอนให้เราละสิ้นกิเลส ดังนั้น การเข้าวัดเพื่อไปขอนั่นขอนี่ จึงเป็นเรื่องที่ผิด และไม่ควรทำนะครับ

เพราะฉะนั้น ตั้งสติกันใหม่นะครับ ขอเตือนด้วยความหวังดี อย่าได้หลงงมงายไปกับสิ่งของที่เป็นสิ่งวิเศษเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นลายสัก หรืออะไรก็ตาม การสักเพื่อความสวยงามก็ควรระวังนะครับ การไปรับของอะไรเข้ามาจากอาจารย์ที่เป็นผู้สักให้ ซึ่งมุ่งแต่จะทํามาหากินจนไม่ได้แคร์ในเรื่องของชีวิต ของมนุษย์เลย บางทีสิ่งที่น้องพรทำลงไปนั้น อาจจะไม่ได้เป็นตัวตนของเธอ อาจจะทำโดยไม่ได้มีสติ หรือโดนผีครอบงําอยู่ จนดลบันดาลให้ทําในสิ่งต่างๆ ที่เธอทําลงไปก็เป็นได้

ตั้งสติกันให้ดีนะครับ ไม่มีอะไรได้มาภายในชั่วข้ามคืน ไม่มีของวิเศษที่เสกสิ่งเหล่านี้ได้ นอกจากเป็นวิชามาร เป็นวิชาของผี

ถ้าเชื่อในพลังธรรมชาติ ก็ขอให้มั่นใจในความสามารถของตัวเอง และลงมือปฏิบัติ และมีสติในการขอพร ขอพลังจากสิ่งเหนือธรรมชาติ เมื่อถึงเวลาท่านก็จะบันดาลให้เองครับ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top