Friday, 26 April 2024
แอมไซยาไนด์

ตร.-กรมโรงงานฯ-อย. บุกค้นบริษัทนำเข้าสารเคมี ย่านลาดกระบัง เตรียมตรวจสอบรายชื่อสั่งซื้อ หาจุดเชื่อมโยงคดี ‘แอม ไซยาไนด์’

เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 66 เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พร้อมตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวนนครบาล 3 นำหมายค้นศาลอาญามีนบุรี เข้าตรวจค้นห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 2 คูหา สูง 4 ชั้น ประกอบธุรกิจจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ตั้งอยู่บนถนนเจ้าคุณทหารลาดกระบัง แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ

โดยการตรวจค้นครั้งนี้ ตำรวจได้ข้อมูลมาจากการเก็บหลักฐานขวดไซยาไนด์ ที่พบในถุงดำที่ แอม ว่าจ้างให้นายตะวัน หลานของนายแด้ นำถุงดังกล่าวไปทิ้ง โดยเมื่อตรวจสอบหมายเลขการผลิตข้างขวดไซยาไนด์ดังกล่าว พบว่าตรงกับหมายเลขการผลิตที่บริษัทนี้ได้ทำการจำหน่าย

จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน พร้อมด้วย สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม และชุดขยายผลของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้ามาตรวจค้น หาพยานหลักฐานเพิ่มเติม

สำหรับบริษัทนี้ ลักษณะเป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น 2 คูหา ด้านหน้าปิดประตูเหล็กเอาไว้ ส่วนด้านในมีกล่องเก็บผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จำนวนมาก ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงหมายค้น พนักงานที่ดูแลบริษัทก็ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นด้านใน แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ

ขณะที่ นายวราวุฒิ พิทักษ์จำนงค์ อายุ 46 ปี เจ้าของร้านฮาร์ดแวร์ ซึ่งอยู่ติดกับบริษัทที่ตำรวจเข้าตรวจค้น บอกว่า บริษัทนี้เปิดมาได้ 3-4 ปีแล้ว เป็นโกดังเก็บสินค้าประเภทสารเคมี และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ ตนรู้จักกับเจ้าของ แต่ไม่ได้คุยกันลึก ๆ ก่อนหน้านี้ โกดังไม่ปิดประตูด้านหน้า แต่ที่ปิด เพราะฝุ่นเยอะ เจ้าของกลัวของจะเสียหาย ซึ่งมีพนักงาน 3-4 คน คอยดูแลแพ็กของอยู่ แต่ถ้ามีลูกค้ามารับของก็จะเปิดโกดังและปิดทันที และเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ตนเห็นว่าตำรวจสอบสวนกลาง เข้ามาตรวจค้นแล้ว ประมาณ 2 ครั้ง

ด้าน พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย คณะทำงานชุดคลี่คลายคดี เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการตรวจค้น แต่เบื้องต้นไม่พบสารไซยาไนด์ และมีข้อมูลว่า มีการจำหน่ายจริง ซึ่งทางบริษัทให้การว่า บริษัทจะรับสารไซยาไนด์ต่อมาจากบริษัทที่นำเข้ามาอีกทีหนึ่ง แล้วนำมาจำหน่ายให้กับผู้ซื้อ ซึ่งไม่ได้มีการสต็อกสินค้า แต่จะต้องให้ผู้ซื้อสั่งสินค้าเข้ามาแล้ว จึงจะสั่งจากบริษัทนำเข้ามาแล้วส่งให้ผู้ซื้อทันที

สำหรับการซื้อขายสารไซยาไนด์ ในปริมาณไม่เกิน 1,000 กิโลกรัม หรือ 1 ตัน ไม่ต้องมีใบอนุญาต โดยยอมรับว่า จุดนี้เป็นช่องโหว่ให้บุคคลทั่วไปสามารถครอบครอง และซื้อขายสารดังกล่าวได้ โดยหลังจากนี้ จะดำเนินการตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ซื้อสารไซยาไนด์จากบริษัทนี้ทุกราย เพื่อหาความเชื่อมโยงกับคดีของแอม เพราะยังไม่มีข้อมูลว่า แอม ซื้อสารไซยาไนด์จากบริษัทนี้โดยตรงหรือไม่ แต่เบื้องต้นพบว่า เลขการผลิตตรงกันกับขวดที่เป็นหลักฐานที่พบในคดี

ทั้งนี้ กรณีนางสรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ หรือ ‘แอม ไซยาไนด์’ ก่อเหตุวางต่อเนื่อง ตำรวจยังคงเดินหน้ารวบรวมพยานหลักฐาน ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกรายคดี โดยทางสำนักข่าวได้รวบรวมหมายจับทั้งหมด เป็นข้อมูล ณ วันที่ 2 พฤษภาคม 2566 มีรายละเอียด ดังนี้

‘แอม ไซยาไนด์’ ซุ่มหอบทองของสามีขาย-จ้องสแกนม่านตาศพ หลังเสียชีวิตได้วันเดียว พร้อมขวางการผ่าตัดชันสูตรของ ‘จนท.’

เปิดอีกพฤติกรรม ‘แอม’ แด้ตายวันเดียว ซุ่มเอาทองขาย-จ้องสแกนม่านตาศพ

(4 พ.ค.66) ความคืบหน้าคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ ผู้ต้องหาคดีฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ข้อหาลักทรัพย์ และพยายามฆ่า หลังพบว่ามีผู้เสียชีวิตปริศนานับสิบคน ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวโยง ‘แอม’ โดยหนึ่งในนั้น คือ นายแด้ สามีของแอม ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มี.ค.66 

พล.ต.ต.พิษณุ อุณหะเสรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี (ผบก.ภ.จว.อุดรธานี) เปิดเผยทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าว ว่า คดีแอม ก่อนที่จะถูกออกหมายจับ ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบประจักษ์พยาน ทั้งที่ปั๊มน้ำมัน หอพักที่อยู่ มีพยานบุคคลและหลักฐานอย่างอื่นๆ รวมทั้งสิ่งของนายแด้ ที่แอมส่งไปให้ญาติที่ จ.ราชบุรี มีไซยาไนด์ด้วย ทำให้ศาลออกหมายจับ แอม หลังนายแด้เสียชีวิต

ทั้งนี้ นางแอม ได้นำทองของนายแด้ไปขาย ครั้งแรกนำไปขายในวันที่ 13 มี.ค. เป็นเลสข้อมือ หนัก 3 บาท ขายได้ราคา 85,800 บาท ครั้งที่ 2 ในวันที่ 18 มี.ค. เป็นพระเลี่ยมทอง 3 บาท ขายได้ในราคา 79,000 บาท โดยทางร้านทองให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างดี ส่วนกรณีมีตำรวจยศ รอง ผกก. คนใกล้ชิดแอมเดินทางมา จ.อุดรธานี ทางตำรวจอุดรธานีตรวจสอบพบว่ารถเซฟโรเลตของนายแด้สวมทะเบียน มีคนสนิทของแอม เดินทางขึ้นมาเอารถเอากลับไป แล้วไปจำนำ และศาลได้ออกหมายจับไปแล้ว

‘ทราย เจริญปุระ’ แจงปมนางเอก 100 ล้าน ซื้อไซยาไนด์ ลั่น!! ชีวิตนี้สั่งแต่ทรายแมวกับเครื่องสำอาง

เป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจในวันนี้ หลังมีกระแสข่าวตำรวจขยายผลคดี ‘แอม ไซยาไนด์’ พบมีนางเอก 100 ล้าน สั่งซื้อไซยาไนด์ล็อตเดียวกับแอม ทำเอาชาวเน็ตคาดเดาชื่อนางเอก 100 ล้านกันไปต่างๆ นานา หนึ่งในนั้นมีชื่อของ 'ทราย เจริญปุระ' ด้วย

งานนี้ ทราย เจริญปุระ ไม่นิ่งนอนใจรีบออกมาโพสต์ชี้แจงทันทีว่า “ผิดคนแล้วววววว คอมเมนต์ไม่ต้องใบ้ชื่ออ้อมไปอ้อมมาจ้า ไม่ใช่เราาาาาาา” และอีกหนึ่งโพสต์ที่บอกว่า “โอ๊ยตาย อยู่ๆ มีคนมาใบ้ว่าเป็นชื่อเรา ไม่ใช่ค่าาาา ชีวิตนี้สั่งแต่ทรายแมวกับเครื่องสำอางงงง”

เผาแล้ว ‘ก้อย’ เหยื่อแอม พร้อม ‘4 ครอบครัวเหยื่อ’ ร่วมไว้อาลัย ด้าน ‘น้องข้าวหอม’ ลูกสาว 9 ขวบ ขอให้คนที่ฆ่าแม่ได้รับผลกรรมไว ๆ

(10 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณวัดสิงห์ไพบูลย์ประชา หมู่ 2 ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ครอบครัวของน.ส.ศิริพร ขันวงษ์ หรือ ก้อย อายุ 32 ปี ได้ร่วมกันประกอบพิธีฌาปนกิจศพ เพื่อส่งดวงวิญญาณของก้อยขึ้นสู่สรวงสวรรค์ หลังจากเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวาย ริมแม่น้ำแม่กลอง ที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ต่อมามีการจับกุม นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ อายุ 36 ปี หรือ แอม ไซยาไนด์ เพื่อนผู้ตายที่มาด้วยกันแต่ไม่ยอมช่วยเหลือกลับเดินหนี ดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เหตุเกิดวันเมื่อวันที่ 14 เมษายน 2566

โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้า ทางครอบครัวของก้อยได้ร่วมกันนำโลงศพของก้อยที่ตั้งอยู่บนศาลาการเปรียญ เคลื่อนมายังเมรุเผาศพ โดยมีพี่สาวของก้อย และลูกสาว ร่วมเดินนำโลงศพเข้าสู่เมรุเผาศพ ซึ่งบริเวณเมรุเผาศพ ได้มีการนำจดหมายที่น้องข้าวหอม ลูกสาวของก้อยเขียนถึงแม่ ขึ้นป้ายไวนิลมาติดที่บริเวณหน้าเมรุเผาศพ รวมทั้งขึ้นป้ายไวนิลรูปเหยื่อผู้เสียชีวิตจำนวน 13 ราย มาติดไว้ด้วย เพื่อเป็นการระลึกถึงผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นเหยื่อของ แอม ไซยาไนด์ ด้วย ขณะที่ครอบครัวของเหยื่อ 4 ราย ได้นำภาพถ่ายของผู้เสียชีวิต มาร่วมส่งดวงวิญญาณของก้อยสู่สรวงสวรรค์ในครั้งนี้ด้วย

โดยก่อนพิธีฌาปนกิจศพก้อย ญาติได้ร้องเพลง อยู่ตรงนี้-ปู พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ฉันจะมีเธออยู่-สิงโต นำโชค ทำได้เพียง-25hours ทำให้บรรยากาศเศร้าโศก เพื่อนๆของก้อย ถึงกับกลั่นน้ำตาไม่อยู่ จากนั้นนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานเหยื่อคดีแอม พร้อมเพื่อนร่วมงานของก้อย ได้ยืนหน้าศพ พร้อมกล่าวขอให้ดวงวิญญาณ ก้อย รับทราบว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ทุกคนจะดูแลครอบครัวก้อยให้ และขอให้ก้อยไปเป็นนางฟ้า มีแต่รอยยิ้มตลอดไป ขณะที่ครอบครัวของก้อยได้อ่านจดหมายของน้องข้าวหอม ลูกสาวของก้อยเขียนถึงผู้เป็นแม่ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า

สำหรับการฌาปนกิจศพก้อย ได้มีเพื่อนๆ รวมถึง พล.ต.ศรชัย มนตริวัต หรือ เสธ.นิด อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พ.ต.อ.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.กาญจนบุรี นายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค กำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ พระจากวัดต่างๆ ไปร่วมงานประมาณ 500 คน รวมถึง อ๊อด โฟร์เอส ก็ไปร่วมงานด้วย เนื่องจากก้อยเป็นที่รักของชาวบ้าน ชอบช่วยเหลือเพื่อนบ้านตลอด รวมถึงชอบไปทำบุญตามวัดต่างๆ ในช่วงที่มีชีวิตอยู่ ไม่เคยขาด

และเมื่อเวลา 14.30 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผู้บัญชาการประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานพิธีฌาปนกิจศพ ก้อย จากนั้นทาง พล.ต.ท.อาชยน ได้เป็นตัวแทนผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบเงินช่วยเหลือให้กับแม่ของก้อย โดยแม่ได้ฝากขอบคุณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยเหลือ ก้อย จนได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย

น้องข้าวหอม อายุ 9 ปี ลูกสาวของก้อย กล่าวว่า จนถึงตอนนี้ก็ยังอยากถามน.ส.แอมที่เป็นคนลงมือวางยาคุณแม่ของตนจนเสียชีวิตว่า เหตุใดจึงต้องมาฆ่าแม่ เพราะชีวิตตนตอนนี้ก็ไม่เหลือใคร พ่อกับแม่ก็แยกทางกันอยู่ ตนอาศัยอยู่กับแม่มาตลอด เมื่อแม่มาเสียชีวิตไป ตนก็คล้ายกับต้องอยู่ตัวคนเดียว แต่ก็อยากจะบอกแม่ว่า ขอให้ดวงวิญญาณของแม่ขึ้นไปอยู่บนสวรรค์ และขอให้คนที่ฆ่าแม่ได้รับผลกรรมที่ทำอย่างถึงที่สุด

ขณะที่ แม่ของก้อย กล่าวว่า หลังจากที่เห็นการทำงานของตำรวจที่เก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด ทางครอบครัวก็วางใจลง และค่อนข้างมั่นใจว่าจะสามารถเอาผิดกับแอมได้ จึงได้จัดพิธีฌาปนกิจศพในวันนี้ขึ้น เพื่อหวังให้ดวงวิญญาณของก้อยไปสู่สรวงสวรรค์ ส่วนตัวแอมที่เป็นผู้ก่อเหตุ ก็อยากขอให้ได้รับโทษอย่างถึงที่สุด ให้ติดคุกไปนานๆ ไม่ต้องออกมาอีก จะได้ไม่ไปสร้างความเดือดร้อนให้กับใคร

แม่ของทราย 1 ในเหยื่อของแอม เปิดเผยว่า วันนี้มาส่งน้องก้อย ซึ่งลูกสาวตนก็เสียชีวิตในลักษณะเดียวกับน้องก้อย ซึ่งแอมเป็นคนสุดท้ายที่ไปส่งลูกสาวตน แต่ตอนนั้นไม่ได้สงสัยการเสียชีวิตของลูก แต่น้องก้อยทำให้รู้ว่าแอมเป็นคนทำ ตอนนี้รู้สึกดีใจมากที่รู้ว่าใครเป็นคนฆ่าลูกสาวเรา เพราะมั่นใจ และเสียใจกับครอบครัวของก้อยด้วย วันนี้จึงเดินทางมาส่งน้องก้อยให้ไปภพภูมิที่ดี โดยตนได้บอกลูกสาวว่าแม่จะทำให้ดีที่สุด ซึ่งขณะนี้เรื่องราวก็กระจ่างขึ้นแล้ว เพราะตำรวจไทยเก่งมาก และต้องขอขอบคุณ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ตำรวจ สน.ทองหล่อ และทีมงานทั้งหมด ที่ทำให้ลูกสาวของตนได้รับความยุติธรรม

ด้าน นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา รองผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวว่า ในส่วนของครอบครัวผู้เสียชีวิตสามารถไปติดต่อที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัด เพื่อขอรับเงินเยียวยารายละไม่เกิน 1.5 แสนบาท โดยทาง ร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้กำชับให้เร่งรัดดูแลครอบครัวผู้สูญเสียอย่างเต็มที่

‘ทนายธันย์พิชา’ ยืนยันเลิกเป็นทนายให้ ‘แอมไซยาไนด์’ ชี้ สุดสิ้นหน้าที่ตั้งแต่ 1 พ.ค. ลั่น!! ใครวิจารณ์เสียหายเจอฟ้อง

(12 พ.ค. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.ธันย์พิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ทนายความของนางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์ หรือ ‘แอม ไซยาไนด์’ ได้ติดต่อผ่าน อมรินทร์ทีวี แจ้งว่าขณะนี้อย่ามาเรียกว่าทนายแอม เพราะตนไม่ทำคดีให้แอมแล้ว ตอนนี้แอมมีการเปลี่ยนทนายใหม่ ตอนแรกตนสอบถามแอมในชั้นพนักงานสอบสวนว่าจะเปลี่ยนทนายหรือไม่ ถ้ายังรับได้กับการทำคดีของตน ซึ่งแอมบอกไม่เปลี่ยน

“แต่พอเข้าไปสู่เรือนจำ เมื่อถามแอมอีกครั้ง แอมบอกเปลี่ยน ดิฉันจึงสิ้นสุดการทำคดีให้แอม ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. จึงอยากให้รับทราบโดยทั่วกัน หลังจากนี้เรื่องคดีความของแอม ขอให้สื่อมวลชนไปติดตามกับทนายคนใหม่ คือนายชินคุปต์ ไทยยะกร”

น.ส.ธันย์พิชา บอกอีกว่า ส่วนตัวไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับแอม แต่มาทำหน้าที่ในฐานะของทนายความในชั้นพนักงานสอบสวนเท่านั้น วันนี้แอมได้แต่งตั้งทนายใหม่เรียบร้อยแล้ว ถือว่าหน้าที่ทนายความของตนสิ้นสุดลงแล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.

“ส่วนคนที่ทำหน้าที่วิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของดิฉันให้เกิดความเสียหายหลังจากนี้ ตอนนี้จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย จะฟ้องกลับทุกคดี” น.ส.ธันย์พิชา ระบุ

‘บิ๊กโจ๊ก’ เผย ‘แอม ไซยาไนด์’ เล่นพนันสูงสุดวันละ 10 ล้าน!! เตรียมจับเจ้าของเว็บฯ ก่อนส่งสำนวนอัยการ 15 คดี อาทิตย์หน้า

(19 พ.ค. 66) พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังจากเมื่อวานที่ผ่านมาได้เข้าไปสอบปากคำนางสาวสรารัตน์ หรือ ‘แอม’ ภายในทัณฑสถานหญิงกลาง แล้วพบว่า ไม่ยอมให้การเพิ่มเติมกับพนักงานสอบสวน และไม่ยอมลงลายมือชื่อในคำให้การที่ให้ไว้เดิม

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ไม่เหนือความคาดหมายที่ผู้ต้องหาไม่ให้การ หลังจากที่ได้รับคำปรึกษาจากทนายความซึ่งยังคงเป็นนางสาวธันย์พิชา เอกสุวรรณวัฒน์ หรือ ‘ทนายพัช’ และยังไม่มีการเปลี่ยนตัวทนายความ และแม้ว่าผู้ต้องหายังไม่ได้รับสารภาพในข้อหาฆ่าผู้อื่น แต่รับในข้อเท็จจริง ซึ่งก็ยังยืนยันว่าตำรวจมีพยานหลักฐานที่แน่นหนา สามารถดำเนินคดีในชั้นศาลได้

ส่วนการกลับคำให้การไปมาของนางสาวแอม ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาในการดำเนินคดี แต่จากการเข้าไปสอบปากคำด้วยตัวเองในเรือนจำ ยังพบว่านางสาวแอม ยังไม่สำนึกผิด ส่วนจะมีที่ปรึกษาทางกฎหมายให้กับนางสาวแอมจะมีความผิดหรือ ขณะนี้ยังไม่พบความผิด

นอกจากนั้น ยังได้สืบสวนถึงแหล่งที่มาของไซยาไนด์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยปละละเลย รวมทั้งกลุ่มเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่พบว่านางสาวแอมโอนเงินไปเล่นพนันกว่า 78 ล้านบาท ขณะนี้ทราบถึงเจ้าของเว็บไซต์ทั้งหมดแล้ว และพบว่าไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว

ส่วนนางสาวแอม ยังยอมรับว่า เล่นการพนันมาตั้งแต่ปี 2563 โดยรวมเงินจากกลุ่มเพื่อน และวงแชร์ วงจำนำรถ และกลุ่มเงินกู้ เพื่อไปเล่นพนัน โดยบางวันเข้าเว็บพนันมียอดเงินสูงถึง 10 ล้านบาท และจากการตรวจสอบยังไม่พบว่า พันตำรวจโทวิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ อดีตสามีของนางสาวแอม เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเล่นพนัน แต่ได้ช่วยเหลือด้านการเงิน ทั้งกู้เงินจากสหกรณ์ และจำนองบ้าน เพื่อเอาเงินไปให้นางสาวแอม

โดยภายในสัปดาห์หน้าจะพบความชัดเจนในการแจ้งข้อกล่าวหา และการออกหมายจับกับบุคลที่เกี่ยวข้อง ส่วนนางสาวแอม ก็จะถูกแจ้งข้อความหา ใช้เอกสารปลอมเพิ่มเติม หลังจากพบว่าปลอมทะเบียนรถของนายแด้ อดีตสามี

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ยังระบุว่า สำนวนคดีนี้ได้ปรึกษาร่วมกับอัยการอยู่โดยตลอด เพื่อให้การส่งสำนวน และการตรวจสอบสำนวนไปในทิศทางเดียวกัน และพร้อมที่จะส่งสำนวนคดีทั้ง 15 คดี ไปให้อัยการพิจารณาภายในสัปดาห์หน้า โดยคดีนี้จะรวมทั้ง 15 สำนวน ดำเนินคดีศาลอาญา

โดยจะมอบหมายให้พล.ต.ต.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ ผู้บังคับการศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะหัวหน้ารวบรวมสำนวนคดี และ พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการกองปราบปราม ซึ่งเป็นผู้ทำคดีและเป็นผู้มีประสบการณ์ในการร้อยเรียงสำนวนทั้ง 15 สำนวนขึ้นเบิกความให้ศาลรับฟัง

ด้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้มีการพูดคุยและ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. ซึ่งได้รายงานความคืบหน้าคดีให้ทราบโดยตลอด ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจและตนเองได้กำชับเร่งรัดคดีโดยให้ทำให้เร็วแต่ก็ต้องรอบคอบ  ซึ่งทาง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เองก็มีการประชุมชุดคลี่คลายคดีทุกวัน โดยเฉพาะพนักงานสอบกองปราบปรามและตำรวจภูธรภาค 7 ในการทำงานร่วมกัน และคงจะดำเนินเสร็จสิ้นเร็ว ๆ นี้

ส่วนสำนวนคดีทราบว่าจะมีการรวบรวมและส่งให้อัยการไปมีเดียว 15 สำนวน เน้นย้ำให้ทำอย่างรอบคอบที่สุด เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไปได้ดีที่สุด พร้อมระบุว่า บางกรณีที่ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือและหลักฐานบางชิ้นไม่สมบูรณ์ ก็ได้กำชับไปแล้วว่าให้ทำให้ดีที่สุดในการรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ แม้ผู้ต้องหาไม่ให้ความร่วมมือก็ให้หาหลักฐานส่วนอื่นไม่ว่าจะเป็นพยานบุคคล พยานเอกสาร พยานแวดล้อม รวมถึงหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ นำมาร้อยเรียงให้ครบถ้วนสมบูรณ์ก่อนส่งสำนวนให้อัยการ ซึ่งย้ำว่า คดีนี้ตำรวจมีหลักฐานขอให้มั่นใจว่าเอาผิดผู้ต้องหาได้แน่นอน

‘กฤษณะ’ อดีตทนายคุณแม๊ ตัดสินใจปฏิเสธ ไม่ทำคดีให้ ‘แอม ไซยาไนด์’ หลัง ไม่ยอมสารภาพคดีก้อย

จากกรณีที่ ทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย ซึ่งเคยเป็นทนายความให้คุณแม่ของแตงโม ออกมาให้สัมภาษณ์กรณีรับว่าความเป็นทนายให้ แอม ไซยาไนด์ โดยยื่นข้อแม้ว่า ต้องรับสารภาพในคดีของก้อย ไม่เช่นนั้นตนจะถอนตัว

ล่าสุดวันนี้ ทนายกฤษณะ เปิดเผยว่า ได้ตัดสินใจถอนตัวจากการเป็นทนายของแอมเมื่อคืนนี้ เหตุผลเพราะแอมไม่รับสารภาพในคดีการเสียชีวิตของก้อย โดยบอกตนตั้งแต่ตอนที่เข้าไปเยี่ยม เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมาแล้ว ตนมานั่งตรึกตรองดูอีกครั้ง เมื่อเขาไม่รับสารภาพ ทั้งที่ตนอธิบายเหตุผลทุกอย่างให้ฟังแล้ว เขาบอกว่าจะยังสู้ต่อ ตนก็เลยตัดสินใจถอนตัวเมื่อคืนนี้

ขณะที่ ทนายพัช ธันย์นิชา ที่ยังระบุตัวเองว่าเป็นทนายของแอม จนถึงวันนี้ก็ยังไม่มาพบพนักงานสอบสวน บก.ป. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ฐานช่วยเหลือผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษ ด้วยการทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสียซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top