Saturday, 21 June 2025
แคชเมียร์

‘กลุ่มก่อการร้าย’ กราดยิงนักท่องเที่ยวในรัฐจัมมูและแคชเมียร์ ดับสลด 26 ศพ เจ็บอีก 17 ราย ‘ทรัมป์’ โพสต์ประณามพร้อมหนุนอินเดีย

(23 เม.ย. 68) เกิดเหตุกราดยิงใส่กลุ่มนักท่องเที่ยวในเมืองปาฮาลกัม รัฐจัมมูและแคชเมียร์ ประเทศอินเดีย โดยกลุ่มมือปืนประมาณ 3-4 คน ใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่นักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางอยู่ในพื้นที่ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน และบาดเจ็บอีก 17 คน ถือเป็นเหตุโจมตีรุนแรงที่สุดในอินเดียในรอบหลายปี

ตามรายงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวอินเดีย 25 คน และชาวเนปาล 1 คน การโจมตีเกิดขึ้นในทุ่งหญ้านอกถนน ก่อนที่กลุ่มมือปืนจะหลบหนีไป โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม 'กองกำลังต่อต้านแคชเมียร์' ได้ออกมารับผิดชอบการโจมตีนี้ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยกล่าวถึงความไม่พอใจที่มีผู้คนจากภายนอกเข้ามาตั้งถิ่นฐานในแคชเมียร์

นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ซึ่งอยู่ระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบีย ได้ตัดสินใจกลับกรุงเดลีเพื่อดูแลสถานการณ์ ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้โพสต์ประณามเหตุการณ์ดังกล่าว และแสดงการสนับสนุนอินเดียในการต่อสู้กับกลุ่มผู้ก่อการร้าย

นายกอินเดียลั่น ‘ตามล่าถึงขอบโลก’ ผู้ก่อเหตุชาวปากีฯ กราดยิงในแคชเมียร์ พร้อมตัดสนธิสัญญาแม่น้ำสินธุ-ขับเจ้าหน้าที่ปากีสถานพ้นประเทศ

(25 เม.ย. 68) นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ของอินเดีย ประกาศจุดยืนอย่างแข็งกร้าวว่าจะ “ไล่ล่าผู้ก่อการร้ายและผู้สนับสนุนไปจนสุดขอบโลก” เพื่อตอบโต้เหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในแคชเมียร์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าผู้ก่อเหตุ 2 ใน 3 รายเป็นชาวปากีสถาน โดยไม่เอ่ยชื่อปากีสถานโดยตรง แต่ท่าทีแข็งกร้าวของผู้นำอินเดียสะท้อนถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน

อินเดียตอบโต้ทางการทูตโดยระงับสนธิสัญญาแบ่งปันแม่น้ำสินธุที่มีมายาวนานกว่า 60 ปี และปิดด่านพรมแดนทางบกเพียงแห่งเดียวกับปากีสถาน นอกจากนี้ ยังเรียกตัวที่ปรึกษาด้านกลาโหมกลับประเทศ พร้อมลดจำนวนเจ้าหน้าที่สถานทูตในอิสลามาบัดจาก 55 คน เหลือ 30 คน และประกาศให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันของสถานทูตปากีสถานเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา”

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจในแคชเมียร์ได้เผยชื่อผู้ต้องสงสัยทั้ง 3 ราย พร้อมเสนอเงินรางวัลนำจับ โดยระบุว่ามือปืน 2 คนเป็นชาวปากีสถาน และคาดว่าเชื่อมโยงกับกลุ่มติดอาวุธข้ามพรมแดน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศอินเดียแถลงว่าคณะกรรมการความมั่นคงแห่งชาติได้รับข้อมูลเกี่ยวกับความเชื่อมโยงดังกล่าวแล้ว แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียด

เหตุโจมตีนี้นับเป็นการโจมตีพลเรือนครั้งรุนแรงที่สุดในรอบเกือบ 20 ปีของอินเดีย สื่อท้องถิ่นรายงานว่า นายกฯ โมดีเรียกประชุมทุกพรรคการเมืองเพื่อหารือแนวทางตอบโต้และสร้างความเป็นเอกภาพ ขณะที่ปากีสถานออกมาตอบโต้ว่า อินเดียระงับสนธิสัญญาแม่น้ำอย่างบุ่มบ่าม และถือเป็นการ 'ก่อสงครามน้ำ' อย่างผิดกฎหมายอีกด้วย

อย่าให้มีครั้งที่ 2!! รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถานย้ำ ‘ไม่ต้องการทำศึกกับอินเดีย’ แต่พร้อมตอบโต้หากโดนโจมตีอีกครั้ง

(7 พ.ค. 68) อินเดียเปิดฉากโจมตีทางทหารต่อเป้าหมายกลุ่มก่อการร้ายในแคชเมียร์ที่ปากีสถานยึดครอง (PoK) และภายในปากีสถานอีก 9 จุด ภายใต้ปฏิบัติการ 'ซินดูร์' โดยการโจมตีใช้เวลาเพียง 25 นาทีในช่วงกลางดึกวันที่ 7 พฤษภาคม คร่าชีวิตประชาชนแล้ว 26 ราย

ในแถลงการณ์ภายหลังการปฏิบัติการ อินเดียระบุว่าการโจมตีเน้นเฉพาะโครงสร้างของกลุ่มก่อการร้าย โดยหลีกเลี่ยงความเสียหายต่อพลเรือน ด้านพันเอกโซฟียา คูเรชิ และนาวาอากาศโท วโยมิกา ซิงห์ ยืนยันว่าพื้นที่ถูกโจมตีได้รับการคัดเลือกจากข้อมูลข่าวกรองอย่างรัดกุม

ขณะเดียวกัน คาวาจา อาซิฟ รัฐมนตรีกลาโหมปากีสถาน ระบุว่าปากีสถานพร้อม “ยุติความตึงเครียด” หากอินเดีย “ถอยกลับ” แต่จะไม่ลังเลที่จะตอบโต้หากถูกโจมตีอีก โดยยืนยันผ่านสื่อว่าอิสลามาบัดยังไม่ต้องการเผชิญหน้า แต่พร้อมปกป้องตนเอง

ทั้งนี้ หลายประเทศรวมถึงสหรัฐฯ จีน และรัสเซีย แสดงความกังวลต่อความตึงเครียดที่ปะทุขึ้น โดยอุปทูตสหรัฐฯ ได้เข้าพบเจ้าหน้าที่ระดับสูงของปากีสถานเพื่อหารือแนวทางลดระดับความรุนแรง พร้อมย้ำจุดยืนว่าสหรัฐฯ สนับสนุนการทูตเป็นทางออกของสถานการณ์นี้


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top