Sunday, 20 April 2025
เหนือ

‘พณ.’ เผย ‘เครื่องฟอกอากาศ’ เริ่มขาดตลาด เหตุค่าฝุ่นสูง โดยเฉพาะภาคเหนือ จ่อคุมเข้มผู้ประกอบการ ไม่ให้กักตุน-ขึ้นราคา 

(31 มี.ค.66) ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสถานการณ์สินค้าอุปโภคบริโภคในช่วงนี้พบว่าความต้องการซื้อ เครื่องฟอกอากาศ มีสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ

ร้อยตรีจักรากล่าวว่า จากการหารือกับผู้นำเข้า ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ ยืนยันว่ามีการผลิต หรือนำเข้าตามปกติ ไม่มีการขาดแคลนแน่นอน แต่บางพื้นที่ความต้องการสูงกว่าปกติ อาจใช้เวลาโยกสินค้าจากพื้นที่ความต้องการไม่มากไปทดแทน และไม่มีการปรับราคา ตรงกันข้ามกำลังแข่งขันจัดโปรโมชั่นราคาพิเศษ

“เอกชนระบุว่า ความต้องการเกิดขึ้นสูงกว่าเท่าตัวในพื้นที่มีค่าฝุ่นสูง ภาคเหนือก็จะมากกว่าพื้นที่ไม่มีค่าฝุ่นสูงๆ ส่วนพื้นที่ที่มีป่าไหม้จากแล้งตอนนี้ สินค้าป้องกันฝุ่นยังมีความต้องการปกติ ขณะเดียวกันหน้ากากอนามัยแม้ยังใช้ปกติก็ยังมีเพียงพอและราคาต่ำลงแล้ว” ร้อยตรีจักรากล่าว

ด้าน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ ออกติดตามสถานการณ์หน้ากากอนามัย N-95 และเครื่องฟอกอากาศ พร้อมกวดขันผู้ประกอบการไม่ให้กักตุนและฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า โดย นายวีรพงศ์ ฤทธิ์รอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ นางนัยนภัส สังขนุกิจ พาณิชย์จังหวัดเชียงใหม่ และนางภูษณิศ ไชยมณี หัวหน้ากลุ่มกำกับและพัฒนาเศรษฐกิจการค้า ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด้านปริมาณและราคาสินค้าของหน้ากากอนามัย N-95 และเครื่องฟอกอากาศ ณ ห้างโมเดิร์นเทรด และร้านขายยา ในพื้นที่ อ.เมือง

ผลการตรวจสอบพบว่า หน้ากากอนามัย N-95 มีปริมาณเพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ราคาจำหน่าย 21-30 บาท/ชิ้น สถานการณ์ราคาทรงตัว ไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา

ตำรวจภาค 4 ตรวจเข้มสถานบริการทั่วอีสานเหนือ สร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวก่อนเทศกาลสงกรานต์

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 ได้สั่งการให้ตำรวจภาค 4 ตรวจสอบสถานบริการ และแหล่งอบายมุข ต่างๆในพื้นที่ 12 จังหวัดภาคอีสานตอนบน โดยนำกำลังตำรวจประกอบด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดกาฬสินธุ์, ขอนแก่น, นครพนม, บึงกาฬ, มหาสารคาม, มุกดาหาร, ร้อยเอ็ด, เลย, สกลนคร, หนองคาย, หนองบัวลำภู, อุดรธานี และตำรวจจาก บก.สส.ภ.4 ทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมทั้งฝ่ายปกครอง เข้าร่วมปฏิบัติการด้วย เน้นตรวจสอบจับกุมสถานบริการที่ผิดกฎหมาย ยาเสพติด เด็กและเยาวชนที่เข้ามาเที่ยวสถานบริการ อาวุธปืน และแหล่งอบายมุข รวมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติการประมาณ 1,000 นาย ร่วมกันตรวจสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบ ตั้งแต่กลางดึก ของคืนวันที่ 29 มี.ค.67 ถึงเวลาประมาณ 02.00 น.ของวันที่ 30 มี.ค.67  

ผลการปฏิบัติ ได้ทำการตรวจสอบใบอนุญาตสถานบริการ 32 แห่ง พบว่ามีใบอนุญาต ตรวจสอบสารเสพติดผู้มาใช้บริการกว่า 1,000 คน ตรวจสอบอายุนักเที่ยวในสถานบริการกว่า 2,700 คน  นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจตราดูแลความปลอดภัยประชาชนที่ไปเที่ยว และประชาสัมพันธ์ กำชับผู้ประกอบการทุกแห่ง มิให้จัดให้มีการมั่วสุม จำหน่ายหรือมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด, ระมัดระวัง มิให้มีการพกพาอาวุธ โดยเฉพาะอาวุธปืน มีด หรือสิ่งที่จะเป็นอันตรายแก่ผู้อื่น เข้าไปในสถานบริการ, มิให้บุคคลอายุต่ำกว่า 20 ปี เข้าใช้บริการและปิดสถานบริการตามเวลาที่กฎหมายกำหนด

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร.รรท.ผบ.ตร. ที่ให้กวดขันปราบปราม จับกุมสถานบริการผิดกฎหมาย อีกทั้งยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะมาเที่ยวภาคอีสานในช่วงเทศกาลสงกรานต์อีกด้วย สำหรับในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ใกล้จะถึงนี้ ตนได้สั่งกำชับให้ตำรวจทุกพื้นที่เข้มงวดในการตรวจตราสถานบริการ จับกุมแหล่งอบายมุข ยาเสพติด อาวุธปืน และดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนให้ดีที่สุด พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวทิ้งท้าย

ตำรวจภาค 4 ทลาย 29 เครือข่าย รวบนักค้ายาเสพติดอีสานเหนือกว่า 22 ราย

ที่ ภ.จว.หนองคาย : เมื่อวันที่ 30 เม.ย.67 เวลาประมาณ 10.00 น. พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ธนชาติ รอดคลองตัน รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผบช.ภ.4, พล.ต.ต.พงพิพัฒน์ ศิริพรวิวัฒน์,  ผบก.ภ.จว.หนองคาย, นายสมภพ สมิตะสิริ ผวจ.หนองคาย, นายภิญโญ โฆสิต ผอ.ปปส.ภาค 4 และหน่วยร่วมบูรณาการในพื้นที่ ร่วมกันแถลงผลการปฏิบัติการ "ขุดรากนักค้ารายย่อยและเครือข่าย" ซึ่งเริ่มปฏิบัติการตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย.67 ถึงวันที่ 30 เม.ย.67 โดยใช้กำลังตำรวจภาค 4 ทั้ง 12 ภ.จว.ในสังกัด และ บก.สส.ภ.4 พร้อมด้วยหน่วยงานฝ่ายปกครอง ทหาร และ ป.ป.ส. ในพื้นที่  

ปฏิบัติการในครั้งนี้ ตำรวจภาค 4 ได้ทำการปิดล้อมตรวจค้นเครือข่ายนักค้ายาเสพติดทั่วอีสานเหนือทั้ง 12 จังหวัด รวม 29 เครือข่าย จำนวน 101 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาได้ 88 คน เป็นนักค้ารายย่อย 22 ราย ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 2,817,878 เม็ด, เฮโรอีน 22,329 กรัม นอกจากนี้ยังตรวจยึดทรัพย์สินเป็นเงินสด อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน สิ่งปลูกสร้างพร้อมที่ดิน ทองรูปพรรณ รถยนต์ รถจักรยานยนต์ โทรศัพท์ สมุดบัญชีธนาคารและอื่นๆ รวมประมาณ 300 รายการ มูลค่าประมาณ 75,703,558 บาท

สำหรับผลการปฏิบัติที่น่าสนใจมีดังนี้ ภ.จว.อุดรธานี ยึดทรัพย์ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รถยนต์ จยย. รวม 12 รายการ มูลค่า 27,820,000 บาท, ภ.จว.หนองบัวลำภู ยึดเงินสด รถยนต์ จยย. ทองรูปพรรณ รวมมูลค่า 11,533,530 บาท, ภ.จว.ร้อยเอ็ด ยึดรถยนต์ 10 คัน จยย. 2 คัน รวมมูลค่า 4,120,000 บาท, บก.สส.ภ.4 ยึดรถยนต์ 5 คัน ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง รวมมูลค่า 4,575,000 บาท เป็นต้น 

พล.ต.ท.สรายุทธ สงวนโภคัย ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ตำรวจภาค 4 ได้เปิดปฏิบัติการ เพื่อกวาดล้างจับกุมนักค้ายาเสพติดรายย่อยและเครือข่ายในทุกพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยได้เปิดปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งนี้ ในเดือนล่าสุด เม.ย.67  มีการจับกุมนักค้ารายย่อย 1,704 คดี  นักค้ารายสำคัญ 13 คดี และตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66 ถึง 28 เม.ย.67 ตำรวจภาค 4 จับกุมนักค้ารายย่อย 10,926 คดี นักค้ารายสำคัญ จำนวน 111 คดี  โดยมีการจับกุมคดียาเสพติดทุกข้อหา รวมทั้งสิ้น 30,268 คดี ซึ่งตนได้กำชับทุกหน่วยให้ถือเป็นนโยบายต่อเนื่องในการเดินหน้าตรวจค้น กวาดล้างจับกุมนักค้ารายย่อยและเครือข่ายทั้งหมด เพื่อตัดช่องทางการจำหน่ายยาเสพติดให้กับประชาชนต่อไป พล.ต.ท.สรายุทธ กล่าวในที่สุด

" จากเหนือ.. สู่อีสาน " ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พร้อมอุปกรณ์ รถยกสูง 4x4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ โรงครัวเคลื่อนที่ ลุยพื้นที่จังหวัดหนองคาย เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อเนื่อง

(16 ก.ย. 67) ตามที่สถานการณ์น้ำท่วมบางพื้นที่จังหวัดเชียงรายเริ่มคลี่คลาย ประจวบกับได้เกิดสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดหนองคาย เมื่อวันเสาร์ที่ 14 กันยายน 2567 ทีมบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายวรพจน์ จรัสเศรษฐสิริ รักษาการผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ นำทีมกู้ภัย กู้ชีพ อาสาสมัคร พร้อมเรือท้องแบน อุปกรณ์กู้ภัยทางน้ำ รถยกสูง 4x4 รถพยาบาลขับเคลื่อน 4 ล้อ  โรงครัวเคลื่อนที่ ถุงยังชีพ ชุดยาสามัญประจำบ้าน อาหารสุนัขและแมว เคลื่อนกำลังพลออกจากเชียงราย ไปยังจังหวัดหนองคาย โดยขณะนี้ได้จัดตั้งกองอำนวยการ และโรงครัวประกอบอาหารปรุงสุก ณ วัดท่าบ่อ อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

เมื่อถึงพื้นที่ประสบภัย มูลนิธิฯ ได้จัดทีมปฏิบัติการเร่งสำรวจพื้นที่ และให้ความช่วยเหลือในทันที รวมถึงอพยพประชาชน  ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และผู้ป่วยออกนอกพื้นที่ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยมี อาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิฯ จุดต่างๆ  อาสาสมัครศิลปิน นำโดย นายธวัชชัย คชาอนันต์ (แฮ็ค ชวนชื่น) พร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ๊ง) หาดใหญ่ และ หน่วยกู้ภัยจีตัมเกาะอุบลราชธานี ร่วมปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้

และในขณะนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ยังคงอยู่ระหว่างปฏิบัติการภารกิจอพยพในพื้นที่ต่อเนื่อง รวมทั้งประกอบอาหารปรุงสุก พร้อมจัดเตรียมน้ำดื่ม และถุงยังชีพ เพื่อบรรทุกรถและเรือ ลงพื้นที่แจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย  และเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อประเมินและเข้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยด้านต่าง ๆ ต่อไป

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง  ขอขอบพระคุณผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคทรัพย์ รวมถึงเครื่องอุปโภคบริโภค สมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยต่าง ๆ ทั้งที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พลับพลาไชย กรุงเทพฯ และที่กองอำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่

สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่มีความประสงค์จะบริจาคสมทบทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม  หรือติดตามข่าวสารกิจกรรม การช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org  เฟซบุ๊ก แฟนเพจ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง หรือ ติดต่อสอบถามได้ที่สายด่วนป่อเต็กตึ๊ง 1418

#มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง #ช่วยชีวิต #รักษาชีวิต #สร้างชีวิต”
#แอปพลิเคชัน และ #สายด่วน ป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top