Friday, 29 March 2024
เลือกตั้งซ่อมหลักสี่

‘ก้าวไกล’ รุกหนักช่วย ‘เพชร กรุณพล’ ลงพื้นที่หาเสียง - ด้านเจ้าตัวรอลุ้นชู 3 นิ้ว

ทีม ‘ก้าวไกล’ เดินตลาดบางเขน ‘เพชร-กรุณพล’ ขอเป็นตัวแทน ‘การเมืองแห่งความหวัง’ ชวนลุ้นหลังสมัคร ส.ส. กทม. เขต 9 พรุ่งนี้ หากจับได้หมายเลข 3 ชู 3 นิ้ว แน่นอน ไม่หวั่นโดน ‘สิระ’ ขู่ฟ้อง 50 ล้าน

วันที่ 5 ม.ค. 65 นายกรุณพล เทียนสุวรรณ หรือ เพชร ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 9 พรรคก้าวไกล พร้อมด้วย นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส. เขต 1 จังหวัดพิษณุโลก และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ส.ส. เขต 28 บางแค กรุงเทพฯ เดินทางไปแนะนำตัวและพบปะพูดคุยกับประชาชนย่านตลาดบางเขน

“หาเสียงมาระยะหนึ่งรู้สึกสนุก ยอมรับตอนแรกกังวลว่าประชาชนที่เคยชื่นชอบผลงานละครจะไม่เห็นด้วยกับการมาทำงานการเมืองหรือเปล่า แต่พอได้พูดคุยกันจึงรู้ว่าได้รับการตอบรับที่ดีมาก ยิ่งรู้สึกดีใจเมื่อเขาบอกว่าอยากให้เราเป็นปากเสียงให้เขาด้วย มีหลายคนกล้าที่จะเดินมาบอกสะท้อนถึงปัญหาที่ต้องการแก้ไขกับเรา ผมตั้งความหวังในการเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ว่าจะชนะเลือกตั้ง ผมเชื่อว่าคนกรุงเทพและคนในเขตเลือกตั้ง ไม่ว่าเขตบางเขน จตุจักร หรือหลักสี่ ต้องการเห็นการเมืองในรูปแบบที่แตกต่างออกไป หลายปีที่ผ่านมา ประชาธิปไตยไม่ได้เบ่งบานเต็มที่ ประชาชนได้รับผลกระทบมากน้อยแตกต่างกันไปก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันคือความฝืดเคืองรายได้ลด ภาระค่าใช้จ่ายที่มากขึ้น แต่การเมืองที่แตกต่างจากเดิมได้ทำให้ประชาชนรู้สึกถึงความหวังมากขึ้น และในครั้งนี้ผมจึงขอโอกาสเป็นตัวเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของความหวังนั้น”  

นายกรุณพล กล่าวต่อไปว่า หากได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. จะรับปัญหาในพื้นที่ไปสู่การผลักดันแก้ไข ไม่ว่าด้วยกลไกสภาหรือด้วยนโยบายของพรรคที่มุ่งเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างประเทศ ซึ่งจะส่งผลถึงคุณภาพชีวิตของคนทุกคนด้วยเป้าหมายการสร้างสวัสดิการของรัฐที่ถ้วนหน้าเท่าเทียมกัน นอกจากนี้ เรายังมีเป้าหมายที่ต้องการให้เกิดการกระจายอำนาจเป็นจริง เพื่อคืนศักยภาพในการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ให้ประชาชนสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มีความเข้มแข็ง สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่วน ส.ส. และพรรคก้าวไกล จะเป็นส่วนหนึ่งของการหนุนเสริมขับเคลื่อนให้หน่วยงานภาครัฐตื่นตัวและคล่องตัวในการตอบสนองต่อปัญหาของประชาชนผ่านกลไกรัฐสภาและองคาพยพต่างๆ ที่พรรคมี 

นายกรุณพล ชี้ว่า การลงสมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองฝ่ายค้านไม่เป็นการตัดคะแนนกันเอง เนื่องด้วยแต่ละพรรคมีผู้สนับสนุนของตัวเอง หากบอกว่าจะเอาประชาชนที่ชอบนโยบายของพรรคก้าวไกล ไปเลือกพรรคการเมืองอื่นเพื่อให้ชนะการเลือกตั้ง คงเป็นการไม่เคารพต่อเจตนารมณ์ของประชาชนในฐานะพรรคการเมืองและคงไม่สามารถเรียกได้ว่าเป็นการส่งเสริมให้ระบอบประชาธิปไตยเข้มแข็ง แต่จะเป็นการฮั๊วการเลือกตั้ง ซึ่งไม่ใช่แนวทางที่พรรคก้าวไกลต้องการเห็น 

‘ทีมกฎหมายพรรคกล้า’ ร้อง กกต. สอบ ‘เจ๊หลี’ หากปมดราม่ากระทบพรรค ฝ่ายกม. พร้อมลุย

ไม่นานมานี้ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม จตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 2 พรรคกล้า ได้ลงพื้นที่เดินพบปะพี่น้องประชาชนตั้งแต่ช่วงเช้าในตลาดย่านหลักสี่ เดินหน้าหาเสียงให้ความรู้กับประชาชนเรื่องเศรษฐกิจและการจัดการภาษีกับพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงรับฟังปัญหาต้นทุนสินค้าราคาแพง ทั้งหมู ไก่ ไข่ และเป็ด ซึ่งได้รับผลกระทบทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย 

ขณะเดียวกัน ก็ได้มอบหมายให้นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายพรรคกล้า เป็นผู้แทนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร ให้ตรวจสอบการกระทำของนางสรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม หมายเลข 7 พรรคพลังประชารัฐ ว่ามีพฤติกรรมเข้าข่ายกระทำผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2561 มาตรา 73(5) กรณีใส่ร้ายด้วยความเท็จ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมหรือไม่

โดยนายณัฐนันท์ กล่าวว่า ผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ มีการพูดพาดพิง นายอรรถวิชช์ ผู้สมัครพรรคกล้า ที่มีข้อความไม่ตรงกับความจริง กล่าวหาว่าดูถูกเพศแม่ มีพฤติกรรมที่ดูถูกผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ซึ่งไม่เป็นความจริง จึงจำเป็นต้องมายื่นเรื่องให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานครตรวจสอบ ส่วนประเด็นที่ระบุว่าผู้สมัครของเรามีการดูหมิ่นนั้น ทีมกฎหมายได้มีการตรวจสอบอย่างละเอียด และไม่พบข้อความลักษณะดังกล่าว รวมถึงเนื้อหาอื่นๆ ก็ไม่พบว่ามีการกระทำความผิดใด แต่ในทางตรงข้าม การขยายความต่อเรื่องนี้ มีการนำข้อเท็จจริงขยายความไปเกินความจริง ซึ่งเมื่อไม่ตรงกับความจริง เราต้องยื่นเรื่องให้ กกต. ตรวจสอบ 

‘โรม’ ลุยช่วย ‘เพชร กรุณพล’ หาเสียงหลักสี่ ปรับกลยุทธ์ปูพรมแบบเคาะประตูบ้านขอคะแนน

"รังสิมันต์ โรม" ลุยช่วยหาเสียงเลือกตั้งจตุจักร-หลักสี่ ชี้รัฐบาลล้มเหลวหมดความชอบธรรมในการบริหาร อาจเหลือแค่ 2 พรรคได้ลุ้น - ลั่นเวลาที่เหลือพร้อมทำงานหนักส่ง "เพชร กรุณพล" เข้าสภา 

เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 รังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เดินทางรณรงค์หาเสียงให้กับ เพชร กรุณพล เทียนสุวรรณ เบอร์ 6 ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตจตุจักร-หลักสี่ ที่บริเวณตลาดหน้าปากซอยแจ้งวัฒนะ 6 โดยนอกจากจะมีการปราศรัยย่อยบริเวณด้านหน้าตลาดแล้ว ยังเดินพบปะกับพ่อค้าแม่ค้าและประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาดด้วย

'ไทยภักดี' ร่อน 'จดหมายหมอวรงค์' ขอโอกาสเข้าสภาฯ ปราบโกง-ปกป้องสถาบัน

27 ม.ค. 65 - นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี ร่อน “จดหมายจากคุณหมอวรงค์” จำนวน 20,000 ฉบับ ถึงประชาชนเขตจตุจักร หลักสี่ ให้โอกาสนายพันธุ์เทพ ฉัตรนะรัชต์ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง หมายเลข 1 พรรคไทยภักดี เข้าสภาเป็นโซ่ข้อกลาง ประกาศจุดยืนปราบโกงและปกป้องสถาบัน

โดยจดหมายเปิดผนึกฉบับดังกล่าว สะท้อนปัญหาบ้านเมืองว่า ประเทศชาติกำลังเผชิญปัญหาของขบวนการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และปัญหาที่หมักหมมจากการทุจริต จึงขอให้ประชาชนชาวจตุจักร หลักสี่ เชื่อมั่นในพลังอันแรงกล้าของพรรคไทยภักดี และนายพันธุ์เทพที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มีความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อเข้าไปทำหน้าที่ในสภา สะท้อนอารมณ์ ความรู้สึกนึกคิดของพี่น้องทุกท่าน เพื่อเป็นจุดเริ่มต้นแห่งการเปลี่ยนแปลง และเป็นโซ่ข้อกลางเชื่อมโยงพรรคไทยภักดีกับสภา พรรคไทยภักดีมีจุดยืนที่ชัดเจน พร้อมประกาศนโยบายปราบโกงและปกป้องสถาบันอันเป็นที่รักของพวกเรา ความหวังในการเปลี่ยนแปลงการเมือง เพื่ออนาคตที่ดีของลูกหลานเรา

'พิธา' กร้าว!! เลิกจี้​ 'ก้าวไกล-ทหาร'​ ปฏิปักษ์กัน หลังคะแนนเสียงจากค่ายทหารเทให้มากกว่าเดิม

'ก้าวไกล'​ แถลงยินดี 'สุรชาติ'​ ขอบคุณทุกคะแนนเสียงจากประชาชน "กรุณพล" ลุยต่อ-มั่นใจเลือกตั้งใหญ่ได้ ส.ส. ด้าน 'พิธา'​ เผยเปอร์เซ็นต์คะแนนดีขึ้น-ชนะเพิ่มในค่ายทหาร 

พรรคก้าวไกล แถลงข่าวผลการเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ นำโดย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค, ชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรค, พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค และกรุณพล เทียนสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อม เขตจุตจักร-หลักสี่ เบอร์ 6 โดยมี ส.ส. พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. และทีมอาสาสมัครสังเกตการณ์เลือกตั้งของพรรค ร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก 

พิธา กล่าวว่า ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคุณสุรชาติ เทียนทอง และพรรคเพื่อไทย รวมถึงยินดีกับพี่น้องจตุจักร-หลักสี่ ที่จะได้คุณสุรชาติเข้าไปทำงาน ในส่วนพรรคก้าวไกล ต้องขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้​ 'เพชร กรุณพล'​ และพรรคก้าวไกล แม้เรายังไม่ได้เป็นผู้ชนะ แต่ถือว่าเดินมาถูกทางแล้ว และผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการยืนยันว่าการมีอยู่ของพรรคก้าวไกล การมีอยู่ของนักการเมืองแบบนี้ เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ และเมื่อดูจากเปอร์เซ็นต์คะแนนเสียงที่ได้รับ ในการเลือกตั้งปี 2562 เราได้ 20 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้ได้ 24 เปอร์เซ็นต์ มากกว่าครั้งที่แล้ว ขอบคุณพี่น้องทุกคนที่ให้ความไว้วางใจ 

"นอกจากนี้ นโยบายเกี่ยวกับการปฏิรูปกองทัพ ก็ถือว่าเป็นที่ตอบรับดีมาก เพราะคะแนนเสียงจากในค่ายทหารในสมัยอนาคตใหม่เราได้ 26 เปอร์เซ็นต์ ครั้งนี้เพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ นั่นแสดงให้เห็นว่า พี่น้องทหารเห็นด้วยกับสิ่งที่เราจะทำให้กองทัพทันสมัย เป็นทหารมืออาชีพ ชีวิตของทหารชั้นผู้น้อยดีขึ้น ชัดเจนว่า นโยบายปฏิรูปกองทัพที่เรานำเสนอดีขึ้นและดีขึ้นเรื่อยๆ แม้จะมีใครพยายามสร้างภาพว่าพรรคก้าวไกลกับทหารเป็นปฏิปักษ์กัน คิดว่าเลิกพูดแบบนั้นได้แล้ว เพราะแท้จริงเราพยายามทำให้ทหารมีสวัสดิการสวัสดิภาพที่ดีอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี ทั้งนี้ เราตั้งใจที่จะทำงานอย่างมุ่งมั่นต่อไปสำหรับการเลือกตั้งใหญ่ เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงประเทศนี้" พิธา กล่าว 

'พรรคกล้า'​ ปลื้ม!! แม้เป็นพรรคใหม่ แต่กระแสดีขึ้นเรื่อยๆ เผยผลรอบนี้​ ชี้!! 'การเมืองไม่เหมือนเดิม'​ อีกต่อไป

นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วยนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมเขตจตุจักร-หลักสี่ เบอร์ 2 แถลงหลังทราบผลการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการ โดยนายกรณ์ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับนายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยที่ได้คะแนนอันดับ 1 โดยหวังว่าจะเข้าไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ ส.ส. พร้อมกันนี้ยังกล่าวในฐานะหัวหน้าพรรค ขอบคุณจากใจกับทุกคะแนนที่มอบให้นายอรรถวิชช์ และได้กำลังใจจากคะแนนเสียงที่ได้มา ขอบคุณทีมงาน สมาชิก ผู้สนับสนุนพรรคกล้าทุกคน เพราะเราทุ่มเทกันสุดตัว แน่นอนที่สุดเราไม่ชนะ เราก็รู้สึกผิดหวัง เพราะทุกครั้งที่ลงเลือกตั้ง เราก็ตั้งใจที่จะชนะเพื่อที่จะสามารถเข้าไปทำหน้าที่ในสภาได้ 

พรรคเราเป็นพรรคใหม่ เราพูดแต่แรกว่าเราเป็นพรรคสตาร์ตอัป ซึ่งความหมายคือ รุกแรงทุกครั้ง รุกเร็วทุกครั้ง เรียนรู้และปรับตัว ซึ่งครั้งนี้ก็เหมือนกัน เรามีบทเรียนและประสบการณ์จากการลงสมัครเลือกตั้งครั้งนี้ที่ทำให้เรามีกำลังใจว่าเรามาถูกทางแล้วในการนำเสนอการเมืองคุณภาพที่ชัดเจนที่สุดของการเลือกตั้งครั้งนี้ คือพี่น้องประชาชนต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการเห็นการเมืองที่มีคุณภาพ ต้องการเห็นการเมืองที่ดีขึ้น ต้องการเห็นผู้มีอำนาจตอบโจทย์การแก้ปัญหาและใส่ใจในการแก้ปัญหาให้กับพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้น สัญญาณที่ชัดเจนของพี่น้องประชาชนคือความต้องการเปลี่ยนแปลง 

“พรรคกล้าเราถือว่าเรามาถูกทางในการนำเสนอการเมืองคุณภาพ การเมืองที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเป็นการเมืองที่จะสามารถสร้างโอกาสให้กับพี่น้องประชาชนได้ สร้างโอกาสให้กับประเทศชาติได้ ขอกราบพระคุณทุกท่านที่ให้คะแนนกับเรา” นายกรณ์ กล่าว

นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี กล่าวขอบคุณทุกคะแนนจากหัวใจ พร้อมแจ้งข่าวดีให้ชาวพรรคกล้าทราบว่า ฐานเสียงเดิมของพรรคกล้าที่เขตจตุจักร มาเป็นอันดับ 1 แน่นอนคุณสุรชาติ เป็นแชมป์เก่าอยู่ที่หลักสี่อยู่แล้ว จึงชนะในเขตหลักสี่ไป แต่จตุจักรเรายังรักษาตำแหน่งที่ 1 ของเราได้ เป็นเรื่องที่ดี ที่สำคัญ การเลือกตั้งคราวนี้ คะแนนทางการยังไม่สรุปว่าเราเป็นที่ 2 หรือ 3 แต่เราก้าวไปเป็นพรรคการเมืองในระดับที่มีคะแนนเทียบกับพรรคก้าวไกลที่มี ส.ส. ในสภา 50 คนแล้ว และถ้าการเมืองคุณภาพที่เราอยากเห็น เราเห็นชัดเจนว่าการเมืองใหม่เกิดขึ้นแล้วในกรุงเทพมหานคร ผลจะเริ่มสะท้อนชัดเจนว่าการทำการเมืองในวิถีแบบใหม่แบบที่พรรคกล้าเป็น ทำให้พรรคเราขึ้นมายืนได้ขนาดนี้ เลือกตั้งเที่ยวหน้าการเมืองคุณภาพแนวนี้ มันจะเป็นเทรนด์การเมืองใหม่ที่หลายพรรคจะต้องเดินตาม และนี่เป็นความภูมิใจ ที่เราสู้มาตลอดเวลา 30 วันนี้

นายอรรถวิชช์ยังกล่าวถึงการประเมินคะแนนเสียงเบื้องต้น นอกจากฐานเสียงเดิมที่มาจากพรรคประชาธิปัตย์ หรือความเป็นพรรคกล้าที่แจ้งเกิดได้ ว่า ปัญหาตอนนี้ ผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งเฉพาะเขต ตอนนี้มีการเปลี่ยนตัวหน่วยในหลายจุด ทำให้การสัญจรไปมาลำบาก คาดว่าอยู่ 30% ของผู้มาใช้สิทธิ์ แต่หลักสี่มีผู้มาใช้สิทธิ์จำนวนมาก ขณะที่จตุจักรน้อยมากบางหน่วยเงียบเหงา ต้องฝากทางกรุงเทพมหานครต้องกระจายข่าวสารให้ทั่วถึงมากขึ้น และถือว่าพรรคกล้าแจ้งเกิดทางการเมืองในกรุงเทพมหานคร เห็นได้ชัดว่าการเมืองใหม่เกิดขึ้นแล้ว การเมืองคุณภาพ การนำเสนอแบบนี้มีโอกาส ตราบใดที่ไม่เสนอการเมืองแบบแบ่งค่าย แต่เป็นการบอกว่าแนวคุณภาพคืออะไรมันไปได้ 

'พล.ท.นันทเดช'​ เตือน!! ปัญหาธรรมดาที่รัฐมักปล่อย สะท้อนผ่าน​ ' ความพ่ายแพ้'​ เลือกตั้งซ่อมหลักสี่แล้ว

พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ ศรภ. โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า... 

รัฐบาลได้รับการสั่งสอนเป็นครั้งที่​ 3

ประสิทธิภาพของรัฐบาล ในการตอบสนอง
ความสุขให้กับประชาชนนั้น แม้ว่ารัฐบาลจะขับเคลื่อนประเทศได้ดีขนาดไหนก็ตาม เช่น สร้างรถไฟฟ้า 10 สาย / ต่อสู้ชนะโรคโควิด / การจัดนิคมอุตสาหกรรม ฯลฯ

แต่ความสุข ของคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งอยู่ในมือของคนชั้นกลางนั้น... 

ด้านหนึ่งก็ชื่นชมต่องานที่รัฐบาลทำขึ้นมา 
อีกด้านหนึ่งก็ต้องการความสงบของบ้านเมือง รวมทั้งความทัดเทียมทางกฎหมาย 

ดังนั้นรัฐบาล​ ซึ่งทำงานแทบตาย ก็จะสะดุดขาตัวเองเป็นระยะๆ จากปัญหาธรรมดาๆ​ ที่น่าจะแก้ไขได้ง่ายๆ 

ถ้าเอาใจใส่ซะหน่อย อย่าไปคิดว่าประชาชน
จะลืมอะไรง่ายๆ พวกเขาไม่ลืม เพียงแต่จริงๆ แล้วพวกเค้าก็ยังต้องการรัฐบาลอยู่

จึงอยากขอเตือนรัฐบาลให้ระวังเรื่องแบบนี้หน่อยครับ

เรื่องแบบไหนล่ะ ก็เรื่องที่แก้ได้ง่ายๆ​ นะซิครับ

1.) การดำเนินคดีต่อตำรวจขับรถจักรยานยนต์หรูชนหมอต่ายจนเสียชีวิต​ ซึ่งดูกระบวนการจัดการช้าไม่ทันใจประชาชน

2.) สินค้าราคาแพง ทั้งๆ ที่มีเหตุการณ์เตือนมาแล้วเป็นระยะๆ​ แล้ว​

3.) การบุกรุกพื้นที่ป่า ของครอบครัว คุณธนาธร ซึ่งเรื่องไปค้างอยู่ที่กรมที่ดิน มาปีหนึ่งแล้ว

4.) แท็กซี่ราคาโหดที่ภูเก็ต นักท่องเที่ยวเรียก Grab ราคา​ 180 บาท...Grab พอรู้พื้นที่ไม่กล้ามารับ เลยไปเรียกแท็กซี่...แท็กซี่ เรียกราคา 600 บาท ราคามันต่างกันมากก็เลยทะเลาะกัน...แท็กซี่ท้าให้เรียกตำรวจ ตำรวจมาก็ทำอะไรไม่ได้

5.​) ความขัดแย้งในพรรคหลักของรัฐบาล

6.​) เรื่องการลดโทษนักโทษการเมือง ที่ทำการทุจริต

ฯลฯ

'จาตุรนต์' วิเคราะห์ ประชาชนไม่เอาประยุทธ์อีกต่อไป!! หลัง พปชร. พ่ายศึกเลือกตั้งซ่อม

ไม่เอาประยุทธ์อีกต่อไป!!

ผลการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กรุงเทพ เขต 9 (หลักสี่-จตุจักร) เมื่อ 30 ม.ค. 2565 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครรับเลือกตั้งจากพรรคเพื่อไทย ได้รับชัยชนะไปในสนามนี้นั้น ล่าสุด นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคเพื่อไทย ก็ได้วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งสรุปได้ว่า... 

“ความนิยมของประชาชนต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ตกต่ำอย่างมาก”

นายจาตุรนต์ ระบุอีกว่า ยินดีกับนายสุรชาติ เทียนทองที่ได้รับชัยชนะท่วมท้นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยินดีที่ผู้สมัครพรรคก้าวไกลได้คะแนนเสียงมากทีเดียว

"การที่พปชร.คะแนนน้อยสุดๆ ส่งสัญญาณว่าความนิยมต่อพปชร. และประยุทธ์ตกต่ำลงอย่างมาก ประยุทธ์จะอยู่ได้ไม่นานและยากที่จะกลับมาอีก...ประชาชนไม่เอาแล้ว!!!"

บทเรียน! หลัง ‘เลือกตั้งซ่อม’ เสียงประชาชน...สะท้อนอะไร ?? | Click on Clear THE TOPIC EP.138

📌 เลือกตั้งซ่อม หรือเลือกตั้งซ้อม…!? ชวนคิดกับ ‘อ.ดร.กิตติธัช ชัยประสิทธิ์’ นักวิชาการอิสระและอาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรม ศิลปะและการออกแบบ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง

📌 ใน Topic : บทเรียน! หลัง ‘เลือกตั้งซ่อม’ เสียงประชาชน...สะท้อนอะไร ?? 

ร่วมจับประเด็น เน้นความรู้ได้ในรายการ Click on Clear THE TOPIC

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

'อรุณี' ฟันธง พฤษภาคม 'ประยุทธ์' ชะตาขาด หลังความวัวไม่ทันหายความควายแทรกไม่หยุด

1 ก.พ. 65 - น.ส.อรุณี กาสยานนท์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันที่ 24 สิงหาคม 2565 พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นนายกรัฐมนตรีครบปีที่ 8 ซึ่งถือเป็นการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีที่ยาวนานเทียบเท่ากับจอมพล ป. พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี ที่มาจากการรัฐประหารเมื่อปี 2491 ถือว่านานเกินกว่าที่ประชาชนจะทนไหว

แต่ในเดือนพฤษภาคม ชะตากรรมของพลเอกประยุทธ์ในคราบนักการเมืองสวมเครื่องแบบทหารจะไม่รอด นอกจากพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม.เขต 9 หลักสี่-จตุจักร อย่างถล่มทลายแล้ว พรรคพลังประชารัฐยังได้คะแนนต่ำกว่า 3 อันดับแรก จากนี้ไปจะมีเหตุการณ์สำคัญหลายอย่างที่อาจจะเป็นตัวชี้วัดตัดสินอนาคตทางการเมืองของพลเอกประยุทธ์และองคาพยพว่ากำลังจะถึงเวลาดับลงแล้ว 

น.ส.อรุณี กล่าวว่า ก่อนปิดสมัยประชุมสภาในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2565 พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลแบบไม่ลงมติต่อประสภาผู้แทนราษฎร ตามมาตรา 152 หรือการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคม 2565 รัฐบาลกำลังจะถูกบีบจากทุกทางแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่พลเอกประยุทธ์เข้ามาบริหารประเทศจากการเป็นหัวหน้าคณะรัฐประหาร จนถึงปัจจุบัน ไม่มีวันไหนเลยที่ประชาชนจะกินอิ่ม นอนหลับ มีเงินในกระเป๋า มีงานทำ หากดูปัญหาในเดือนมกราคม 2565 เพียงเดือนเดียว มีปัญหาในเชิงสังคม คุณภาพชีวิต ปัญหาเศรษฐกิจและการเมือง ที่รอการแก้ไขมากมาย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top