Thursday, 16 May 2024
เดือดร้อน

ผนังกั้นน้ำเเตก!! 'สิงห์บุรี' เดือดร้อน 4,000 ครอบครัว ร้อง 'ชัยวุฒิ' ขอ ชลประทานทำตามมติ ครม.ปล่อยน้ำเข้าทุ่ง

เมื่อเวลา 19.20 น. ของวันที่ (8 ตุลาคม 2565) ที่ผ่านมา ผนังกั้นน้ำใกล้เคียงจุดวัดปราสาท อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ที่เคยเเตกเมื่อปีที่เเล้ว ล่าสุด เกิดความเสียหายทำให้นำ้ไหลทะลักค่อนข้างแรง มีมวลน้ำจำนวนมากไหลเข้าท่วมพื้นที่ อาจทำให้ชาวบ้าน หมู่ที่ 1,2,3,4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จังหวัด สิงห์บุรี ประมาณ 4,000 ครัวเรือน ได้รับความเดือดร้อน โดย นาย ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจเเละสังคม ขณะที่อยู่ระหว่าง ติดตามสถานการณ์ น้ำท่วมของภาคกลาง ได้เดินทางไปที่ บริเวณ ข้างวัดปราสาท ตรงจุดผนังกั้นน้ำแตกทันที เพื่อให้กำลังใจ เเละติดตาม สถานการณ์น้ำ โดยมี นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี และนายสัมฤทธิ์ กองเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี บัญชาการเหตุการณ์ในพื้นที่ท่ามกลางการอพยพชาวบ้านซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากมูลนิธิ ปอเต็กตึง 

ทั้งนี้ได้มีแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูงพร้อมทั้งสั่งหน่วยงานต่าง ๆ เร่งดำเนินการอุดรอยรั่วโดยใช้ Big Pack พร้อมทั้งทำแนวกั้นดินเพื่อไม่ให้ลามไปยังโรงพยาบาลอินทร์บุรี  และชุมชนใกล้เคียง ขณะที่ชาวบ้านหลายครอบครัวต่างพากันอพยพย้ายของ ชั้น 2 นอนไม่ได้ ภายใน1ชั่วโมงน้ำขึ้นเร็วมาก ชาวบ้านต้องขนทั้งเครื่องนุ่งหุ่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ออกมาอย่างทุลักทุเล บางคนก็หอบลูกหลานหนีน้ำออกมานอนริมถนน เเต่ด้วยความที่ ริมถนนตอนนี้ก็ค่อนข้างเเน่น ชาวบ้านบางส่วนบอกว่าไม่รู้จะไปนอนที่ไหน ทางจังหวัดสิงห์บุรี ก็เตรียมทำศูนย์พักพิง ไว้รองรับ ชาวบ้าน ได้รับผลกระทบ  

เด็กชาวเลปาดน้ำตา ต่อหน้า เลขาฯ ธัชชญาณ์ณัช ติดตามกรณีชุมชนชาวเลหลีเป๊ะได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางสัญจรบนเกาะโดยด่วน

วันนี้ 15 ธันวาคม 2565 เมื่อวันที่ 14 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบและมีความกังวลถึงความเดือดร้อนข้อพิพาทกรณีที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะตามที่เป็นข่าว จึงมีบัญชา ผ่านพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ปัญหาปิดกั้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวหลีเป๊ะ จ.สตูลอย่างเร่งด่วน ซึ่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและคณะ ได้มีกำหนดลงพื้นที่ในระหว่างวันที่ 14-15 ธันวาคม 2565

โดยเมื่อวานนี้วันนี้ 14 ธันวาคม 2565 รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐ ได้มอบหมายให้ นายธัชชญาณ์ณัช เจียรนัทกานนท์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย) พร้อมด้วยนายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ช่วยปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ชุมชนชาวเลหลีเป๊ะ เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล เพื่อติดตามและรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริงจากราษฎรในพื้นที่และผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม กรณีการปิดกั้นเส้นทางสัญจรสาธารณประโยชน์ชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการปิดกั้นทางสัญจรในชุมชน ที่ชาวบ้านใช้สำหรับเดินทางไปโรงเรียน โรงพยาบาล สุสาน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวสัญจรของนักท่องเที่ยว จากการลงพื้นที่ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มชาวเลหลีเป๊ะ และได้เข้าติดตามบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมถึงได้เข้าพบเด็กนักเรียนและผู้ปกครองของโรงเรียนเกาะหลีเป๊ะ ในการนี้ เลขานุการรัฐมนตรีประจำนำนักนายกรัฐมนตรี ได้รวบรวมประเด็นปัญหา ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน เพื่อนำเสนอรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นข้อมูลประกอบการลงพื้นที่ด้วยตนเองในวันนี้ 15 ธันวาคม 2565

พิจิตร-ป.ป.ช. พิจิตร ลุยตรวจ เทศบาลเมืองบางมูลนากสร้างถนน ค.ส.ล. พร้อมวางท่อระบายน้ำชาวบ้านร้องเดือดร้อนเหตุสร้างไม่เสร็จสักที

วันที่ 26 ตุลาคม 2566 นาย วราพงษ์ อินต๊ะโมงค์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ลงพื้นที่ตรวจสอบโครงการก่อสร้างถนน ค.ส.ล. พร้อมวางท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. ถนนประเวศน์เหนือ สายหลังบริเวณแยกซอยบ้านนายสุรินทร์ อินทร์น้อย หลังได้รับการแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่ามีการก่อสร้างล่าช้า 

จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่าโครงการดังกล่าวอยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลเมืองบางมูลนาก ได้รับงบประมาณก่อสร้างตามเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 820,000 บาท

วัตถุประสงค์ของการก่อสร้างเพื่อให้ประชาชนสัญจรเข้าออกได้สะดวก เนื่องจากเป็นบริเวณติดกับแหล่งชุมชน หน่วยงานทำการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) กำหนดราคากลางจำนวน 660,000 บาท 

โดยผู้ที่ชนะการเสนอราคาและเป็นคู่สัญญาได้แก่ บริษัท เบญจกาญจน์ (2015) จำกัด สัญญาจ้างเลขที่ 22/2566 ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 ราคาตามสัญญาจ้าง 655,789 บาท ระยะเวลาสัญญาเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม – 23 สิงหาคม 2566 รายละเอียดการก่อสร้าง เป็นการก่อสร้างถนน ค.ส.ล. ขนาดกว้าง 3.5 เมตร ยาว 117 เมตร หรือมีพื้นที่ ค.ส.ล. ไม่น้อยกว่า 393 ตารางเมตร วางท่อระบายน้ำ ค.ส.ล. ไม่น้อยกว่า 0.4 เมตร ความยาวบ่อพัก 117 เมตร 

ซึ่งปัจจุบันครบกำหนดสัญญาแล้ว แต่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ 

โดยมีความคืบหน้างานเทคอนกรีตไปแล้วระยะทางกว่า 70 เมตร ยังคงเหลืออีกประมาณ 40 เมตร และงานฝาท่อระบายน้ำต่าง ๆ ดำเนินการแล้ว ทางเทศบาลให้ข้อมูลว่าเนื่องด้วยเป็นช่วงที่ฝนตกติดต่อกันทำให้การก่อสร้างติดขัด ล่าช้าและเสร็จไม่ทันตามสัญญา 

ซึ่งทางเทศบาลฯได้แจ้งสงวนสิทธิ์ค่าปรับแก่ผู้รับจ้างในการชำระค่าปรับรายวัน วันละประมาณ 1,639 บาท ตามกำหนดในสัญญาแล้ว ทางด้านผู้รับจ้างกำลังจัดทำแผนการดำเนินงานส่งให้ทางเทศบาล ซึ่งทางเทศบาลคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จได้ในประมาณอีก 2 สัปดาห์ 

ซึ่งทางสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ได้กำชับให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จเพื่อไม่ให้เกิดความเดือดร้อนกับประชาชน และให้ระมัดระวังเรื่องฝาท่อระบายน้ำให้ไม่เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรไปมาของประชาชน

ทั้งนี้ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดพิจิตร ได้รับเอกสารหลักฐานการก่อสร้างเพื่อใช้ในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมแล้ว หากพบประเด็นที่เป็นเหตุสงสัยอื่นใดจะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

ตำรวจช่วยบรรเทาภัยแล้ง “รรท. ผบ.ตร.” สั่งการบรรเทาความเดือดร้อนประชาชน “ผบช.ตชด.” ให้ ตชด.ทั่วประเทศ ส่งรถบรรทุกน้ำ คลายทุกข์ คลายร้อนให้ประชาชน พร้อมลงพื้นที่ร้อยเอ็ดตรวจเยี่ยม ตชด.23 ช่วยชาวบ้าน

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 พล.ต.ท.ยงเกียรติ มนปราณีต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ( ผบช.ตชด. )  เดินทางตรวจเยี่ยมกำลังพล ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดน 23 ( กก.ตชด.23 )  ที่นำรถบรรทุกน้ำสะอาด ออกแจกจ่ายบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้กับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่ชุมชนวัดบ้านป่ายาง และหมู่บ้านข้างเคียง  เทศบาลตำบลขอนแก่น อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด  

พล.ต.ท.ยงเกียรติ ฯ กล่าวว่า พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( รอง ผบ.ตร. รรท.ผบ.ตร. ) สั่งการให้ ตชด.ระดมสรรพกำลังเข้าบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยเผชิญอากาศร้อนจัด ส่งผลให้หลายจังหวัด ได้รับผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน และเผชิญกับสถานการณ์ภัยแล้ง ตนจึงได้สั่งการให้ ผกก.ตชด.ทุกหน่วยทั่วประเทศ จัดกำลังพล และรถบรรทุกน้ำ ออกให้ความช่วยเหลือดูแลประชาชนที่ประสบภัยแล้ง แจกจ่ายน้ำแก่ประชาชน อย่างทันท่วงที และเหมาะสมเพียงพอ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชนในเบื้องต้น ให้มีน้ำใช้อุปโภค บริโภค  และให้ประสานความร่วมมือกับหน่วยงานและส่วนราชการในพื้นที่ เข้าให้การช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อไป การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

กาฬสินธุ์เครือข่ายเมืองน้ำดำบุกร้องชูศักดิ์ป.กมธ.ปปช.เชือดก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร เครือข่ายภาคประชาสังคม ปปท.ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ และชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน ยื่นหนังสือร้อง 'ชูศักดิ์' ป.กมธ.ปปช.สภาฯ ตรวจสอบงานก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยกาฬสินธุ์ ภายหลังรองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร (ป.กมธ.ปปช.สภาฯ)  ประชุมปัญหาการตัดไม้พะยูง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทางจังหวัด นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4  ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ และนายดำรงศักดิ์ สง่าวงศ์ ข้าราชการบำนาญ เป็นตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม งบประมาณ 545 ล้านบาท 8 โครงการใหญ่ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง ได้เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน ต่อรองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล ประธาน กมธ.ปปช.สภาฯ เพื่อเรียกร้องให้ตรวจสอบปัญหาการก่อสร้าง ที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และกระทบต่อความสงบสุขของประชาชน และความมั่นคงของประเทศ
นายชาญยุทธ โคตะนนท์ ประธานคณะทำงานเครือข่ายภาคประชาสังคม ในการต่อต้านการทุจริต ปปท.เขต 4  ประจำ จ.กาฬสินธุ์ และที่ปรึกษาฝ่ายวิชาการ คณะ กธจ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ตนต้องการให้ ป.กมธ.ปปช.สภาฯ ได้ตั้งองค์คณะเข้ามาตรวจสอบโครงการนี้

ถึงแม้ว่า กรมโยธาธิการและผังเมือง จะทำการยกเลิกสัญญากับ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ไปแล้ว แต่ผลการดำเนินการตามระเบียบพัสดุปี 2560 บุคคลที่จะทำการยกเลิกสัญญา และมีผลในทางปกครอง ก็คือ ปลัดกระทรวงการคลัง ที่เอกสารการยกเลิกจะต้องถูกส่งต่อมาที่ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ และยังมีกระบวนการพิจารณาของกรมบัญชีกลางจนนำไปสู่การยกเลิกทางปกครอง โดยปลัดกระทรวงการคลัง ทำให้ขณะนี้ หจก.ประชาพัฒน์ และ หจก.เฮงนำกิจ ยังคงสามารถไปทำนิติกรรมต่อหน่วยงานราชการอื่นได้ แม้ในส่วนกรมโยธาฯ จะไม่สามารถเข้าไปประมูลงานได้แล้ว จึงเกรงว่าจะเกิดผลเสียต่อทางราชการที่มองได้ถึงความมั่นคงของประเทศชาติ

“อีกกรณีเป็นเรื่องของความสงบสุขของพี่น้องประชาชน เนื่องจากในบางโครงการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2562 โดยเฉพาะ งานก่อสร้างท่อระบายน้ำป้องกันน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ งบประมาณ 148 ล้านบาท จะพบว่า ถนน 6 จุดรวมถึงชุมชนกลายสภาพเป็นหลุมอันตราย ที่ผู้รับจ้างทิ้งงานได้ปล่อยเอาไว้และยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชน จึงเกิดปัญหาเดือดเนื้อร้อนใจ เพราะได้ทำให้เศรษฐกิจในจังหวัดเสียหายไปแล้วกว่า 7,500 ล้านบาท จึงได้เข้ามายื่นหนังสือเพื่อให้ตรวจสอบปัญหานี้ด้วย”นายชาญยุทธ กล่าวในที่สุด

ด้าน นายดำรงศักดิ์ สง่าวงศ์ ข้าราชการบำนาญ ตัวแทนชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน กล่าวว่า ตนเชื่อว่าโครงการนี้มีปัญหาการทุจริตเชิงนโยบาย เกิดขึ้นจากส่วนกลาง เนื่องจากตนได้เริ่มร้องเรียนมาก่อนหน้านี้แล้วประมาณ 2 ปี ที่เพิ่งจะเห็นผลมีการยกเลิกสัญญา ข้อสังเกตที่ต้องการให้ กมธ.ปปช.สภาฯ เร่งตรวจสอบ โดยเฉพาะโครงการพัฒนาป้องกันน้ำท่วมเมืองกาฬสินธุ์ 148 ล้านบาท มีการเบิกจ่ายไป 80 ล้านบาท จะเป็นรายละเอียดเกี่ยวกับงานก่อสร้างว่าทำไมถึงสามารถเบิกเงินได้ คณะกรรมการตรวจการจ้าง ใช้เกณฑ์อะไรพิจารณา แล้วรู้หรือไม่ว่า หจก.ทั้ง 2 แห่ง ไม่สามารถทำงานได้ทำไมถึงปล่อยผ่านไป อีกทั้งผลการยกเลิกโครงการก็จะทำให้รัฐจะต้องอุดหนุนภาษีไปยังโครงการที่สร้างไม่เสร็จอีก จึงต้องการให้ ป.กมธ.ปปช. เร่งนำเรื่องนี้ไปพิจารณาในชั้น กมธ.โดยด่วนเพื่อรักษาผลประโยชน์และเงินภาษีของพี่น้องประชาชน

อย่างไรก็ตามภายหลังรับเอกสารร้องเรียน คณะที่ปรึกษา กมธ.ปปช.สภาฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณถนน ผังเมือง 2 ชุมชนหนองเรือ-หัวคู เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ ระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร ห่างจากศูนย์ราชการจังหวัดกาฬสินธุ์เพียง 200 เมตร คณะที่ปรึกษาฯ พบปัญหาก่อสร้างมีการทิ้งท่อ เศษหิน เศษดิน เกลื่อนถนน โดยเฉพาะบล็อกที่จะใช้เป็นจุดกักน้ำไม่มีป้ายติดเตือนป้องกันอันตรายที่ยังพบความเสื่อมสภาพของงานก่อสร้างอีกด้วย ทั้งนี้ ที่ปรึกษา กมธ.ปปช. จะนำปัญหาที่พบเห็นนี้ไปรายต่อที่ประชุม กมธ.ปปช.สภาฯ เพื่อตรวจสอบหน่วยงานและเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และจะกำหนดวันพิจารณาปัญหานี้อย่างเร่งด่วนต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top