Sunday, 19 May 2024
อุ้มลักขณา

‘อุ้ม ลักขณา’ แชร์ข้อความเศร้า “ไม่มีบางสิ่ง ไม่มีบางคน ก็ไม่เป็นไร” ท่ามกลางกระแสข่าวลือเลิกกับสามี แถมยังอันฟอลไอจีกันอีกด้วย

(25 ก.ค.66) ก่อนหน้านี้ นักแสดงสาวสุดเซ็กซี่ ‘อุ้ม ลักขณา’ ถูกจับตามองความสัมพันธ์กับสามี ‘บอล กฤษณะ’ เพราะเห็นทั้ง 2 คนได้อันฟอลโลว์อินสตาแกรมกันเมื่อไม่นานมานี้ หลังเพจดัง ‘เจ๊มอย 108’ หย่อนคำใบ้ว่า "กูจะไม่ตัดสินใครว่าเลิก หรือไม่เลิก จากการอันฟอลโลว์กัน หรือพวกโพสต์อะไรเศร้า ๆ อีกแล้ว #ผัวเมียสายแซ่บก็เช่นกัน"

โดยล่าสุด ‘อุ้ม ลักขณา’ ได้แชร์ข้อความ Save Zone ที่ปลอยภัย โดยมีเนื้อหาใจความว่า

“Save Zone ที่ปลอดภัย
- อยู่แล้วมีตัวตน
- อยู่แล้วมีคุณค่า
- อยู่แล้วถูกให้ความสำคัญ
- อยู่แล้วไม่เหนื่อย
- อยู่แล้วขี้เล่นมากขึ้น
- อยู่แล้วมีทัศนะคติที่ดีขึ้น
- อยู่แล้วอารมณ์ดีมากกว่าเดิม
- อยู่แล้วมีความสุขแบบไม่ต้องพยายาม
- อยู่แล้วกล้าเล่าทุกอย่างให้ฟัง
#savezone #friendzone #family #duenstyle_"

นอกจากนี้ ‘อุ้ม ลักขณา’ ยังแชร์โพสต์อีกว่า "การมีความสุข ไม่ได้แปลว่าทุกอย่างในชีวิตจะต้องสมบูรณ์แบบ แต่มันหมายถึงการที่คุณตัดสินใจที่จะมองข้ามความไม่สมบูรณ์แบบเหล่านั้นไป ไม่มีบางสิ่งไม่มีบางคนก็ไม่เป็นไร ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่" ซึ่งงานนี้ข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ยังไม่มีการฟันธง ต้องรอให้เจ้าตัวออกมาชี้แจง 

‘อุ้ม ลักขณา’ รีโพสต์ไอจีน้องชาย พร้อมตัดพ้อ!! “ตายทั้งเป็น” หลัง ‘บอล กฤษณะ’ ออกมาสารภาพผิดว่าได้ทรยศต่อภรรยา

(7 ส.ค. 66) ท่ามกลางกระแสข่าวลือเตียงหักที่ยังคลุมเครือ ‘บอล กฤษณะ อมิตรสูญ’ ออกมาโพสต์ยอมรับผิดต่อ ‘อุ้ม ลักขณา อมิตรสูญ’ ที่ทรยศภรรยาและครอบครัว แม่ของอุ้ม ก็โพสต์เดือดว่า “จะพูดอะไรลับหลังช่วยเล่าเรื่องจริงด้วยนะ อย่าใส่ร้ายใส่ไฟคนอื่น เพื่อให้ตัวเองดูดี ทุเรศ! พูดว่าตรูจะเอาเงินเมิง ที่ไหนเมื่อไหร่?! สลึงบาทไม่เคยขอ อย่าว่าแต่ขอเลย ขอยืมยังไม่เคยสักครั้ง ‘มีแต่ให้ยืม’ ทีละล้านสองล้าน ไม่แมนเลยนะเมิง บอกแล้วนะว่าอย่าให้ตรูพูด #ความลับไม่มีในโลก #อย่ามาเห่าลับหลัง”

“งานนี้แม้คุณแม่ไม่ได้บอกว่าหมายถึงใคร แต่โลกออนไลน์ก็จับโยงไปถึงลูกเขยเรียบร้อยแล้ว ด้าน ‘อุ้ม’ เองก็แชร์ข่าวที่แม่ออกมาฟาดเดือด ๆ ผ่านสตอรี่อีกด้วย

ล่าสุด ‘จูเนียร์’ น้องชาย ‘อุ้ม ลักขณา’ ก็ได้โพสต์ไอจีสตอรี่ ภาพพร้อมหน้า อุ้ม และหลานสาว พร้อมแคปชันว่า "เห็นใบหน้ายิ้มร่าเริงอยู่ แต่ความรู้สึกพี่หนู ICU แล้วนะ"

ซึ่ง ‘อุ้ม ลักขณา’ ก็ได้รีโพสต์สตอรี่ของน้องชาย พร้อมใส่ข้อความว่า "ตายทั้งเป็น"

‘อุ้ม ลักขณา’ ประกาศแยกทางกับสามี ‘บอล กฤษณะ’ ต่อไปนี้ขอทำหน้าที่ ‘พ่อและแม่’ ของลูกให้ดีที่สุด

(8 ส.ค. 66) จากกรณีก่อนหน้านี้ที่ ‘บอล กฤษณะ’ สามีของ ‘อุ้ม ลักขณา’ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊ก ยอมรับว่าทำผิดต่อ ภรรยาและครอบครัวว่า “ในวันที่ผมทำผิดทรยศต่อภรรยาและครอบครัว ผมรู้สึกว่าตัวเองเลวทxามที่สุด กลับมีหลาย ๆ มิตรภาพ ที่ทำให้ผมรู้สึกว่า ผมยังมีค่าและยังมีความดีอยู่บ้าง ขอบคุณทุกๆ คนที่เป็นห่วงตั้งแต่วันนี้ผมจะทำเพื่อลูก ๆ ครับ”

ล่าสุด ‘อุ้ม ลักขณา’ ได้ออกมาโพสต์ภาพ พร้อมข้อความผ่านทางอินสตาแกรมส่วนตัว ถึงเรื่องนี้เป็นครั้งแรกว่า “อุ้ม ขออนุญาตใช้พื้นที่ส่วนตัวตรงนี้พูดนะคะ ตอนนี้อุ้มกับพี่บอล เราได้ตัดสินใจแยกทางกันแล้ว และเราได้เปลี่ยนสถานะจาก ‘สามีภรรยา’ มาเป็นแค่ ‘พ่อแม่’ ของน้องดิสนีย์ เพื่อทำหน้าที่แค่พ่อและแม่ของลูกให้ดีที่สุด

เมื่อทุกอย่างมันมาถึงทางตัน มันไม่สามารถไปต่อกันได้อีกและคงไม่มีภรรยาคนไหนจะรับเรื่องแบบนี้ได้ นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุด เราสองคนได้พูดคุยกันตกลงกันอย่างมีความคิดเห็นตรงกันและคิดทบทวนกันอย่างดีที่สุดแล้วค่ะ โดยทั้งหมดเราได้ยึดลูกทั้ง 2 คนเป็นหลักสำคัญที่สุด *อุ้มขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดเรื่องราวภายในครอบครัว ที่สำคัญคนที่อุ้มต้องแคร์ความรู้สึกมากที่สุดคือ ‘ลูก’

และต้องขอโทษเพื่อน ๆ พี่ ๆ สื่อตรงนี้ด้วยนะคะ ที่อุ้มไม่สะดวกรับสายหรือตอบอะไรใด ๆ ในช่วงที่ผ่านมาอุ้มได้รับกำลังใจที่ดีมาก ๆ จากครอบครัว คนรอบตัว เพื่อนพี่น้อง ทั้งในและนอกวงการ เพราะอุ้มไม่อยากให้กระทบความรู้สึกของลูกทั้ง 2 คน ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

หม่าหม๊าอยากให้ลูกการ์ตูนและลูกดิสนีย์รู้ไว้ว่า ไม่ว่าสถานะของหม่าหม๊ากับป๊าจะเปลี่ยนไปแล้วนั้น แต่สิ่งนึงที่มันจะไม่มีวันเปลี่ยนแปลงไปเลยนั้นคือความรักของ ‘แม่’ กับ ‘พ่อ’ มันจะคงอยู่ตลอดชีวิตของลูก หม๊าจะเลี้ยงดิสนีย์ให้ดีที่สุด ดูแลลูกให้ดีที่สุด ให้หนูมีความสุขที่สุด ด้วยพลังทั้งหมดที่มี ดิสนีย์และการ์ตูนจะเติบโตมาโดยมีแม่กับพ่อดูแลเสมอนะคะลูก หม่าหม๊ารักดิสนีย์ที่สุดดวงใจของหม๊า รักเจเจ๊การ์ตูนของดิสนีย์ด้วยนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจที่ให้อุ้มกับลูกนะคะ ขอบคุณครอบครัวป๊า ม๊า นิว จูเนียร์ที่เป็นพลังใจให้อุ้มมาเสมอ รักมากๆๆๆๆค่ะ”

‘อุ้ม ลักขณา’ เคลียร์ชัด!! เซ็นใบหย่า ‘บอล กฤษณะ’ แล้ว เตรียมย้ายกลับกรุงเทพฯ ต่อจากนี้ขอทุกอย่างทำเพื่อลูก

ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้!! ‘อุ้ม ลักขณา’ รับเซ็นใบหย่า ‘บอล กฤษณะ’ ปิดฉากชีวิตคู่ พร้อมเปิดใจครั้งแรก เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะหมอดู?

(19 ส.ค. 66) เปิดใจเคลียร์ให้ฟังกันแบบชัด ๆ เป็นครั้งแรกในรายการแฉ สำหรับ ‘อุ้ม ลักขณา’ ถึงปมการเลิกรากับสามีหนุ่ม ‘บอล กฤษณะ’ ว่า ได้เซ็นใบหย่าและเตรียมย้ายที่จะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ขอทุกอย่างทำเพื่อลูก ‘น้องดีสนีย์’

“ตอนนี้เป็นซิงเกิลมัมทั้งพี่ทั้งน้องค่ะ ไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลย ว่าจะมีวันนี้ ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวว่าอุ้มจะไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่ในชีวิต อุ้มคิดว่าเขาคือความสุข คือครอบครัว คือพ่อของลูก คือสามีที่ดี ก็เลยไม่เคยระแวงหรือคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้

7 ปีชีวิตครอบครัวถามว่าแฮปปี้ไหม มันก็มีบ้าง จะไม่มีเลยก็เป็นไปไม่ได้ สองคนมาจากคนละครอบครัว มาจากคนละพื้นฐานการเลี้ยงดูกัน ก็ต้องมีเรื่องที่ปรับกันเยอะมากๆ ก่อนจะถึงจุดที่ลงตัว มันใช้เวลาหลายๆ ช่วง แต่ว่าเราทั้งสองคนก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อลูก ซึ่งมันก็ผ่านมาได้ แต่มันก็มาเกิดเรื่องนี้ที่ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้” อุ้ม ลักขณา กล่าว

เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่ว่า หาก ไม่ไปดูหมอดูคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อุ้มตอบว่า “ไม่จริง” ไม่ได้ดูดวงเพื่อเช็กว่าสามีนอกใจหรือไม่ แค่ไปดูดวงตามปกติ

“ไม่ได้สาระแนไปดูอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ดูดวงเพื่อเช็ก ไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย ไปเพราะเห็นเขาดูกันก็ตามเขาไป ปกติชอบดูดวง แต่วันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปดูดวงอะไรทั้งสิ้นเลย เพราะทุกอย่างแฮปปี้ดีหมด ต่อให้เขาพูดอะไรมาไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องหวั่นไหว หรือต้องไปจับผิดอะไร ไม่มีอยู่ในสมองของอุ้มเลยค่ะ

ในตอนแรกที่หมอดูทำนาย อุ้มไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าทำนายแม่น เพราะมองว่าชีวิตครอบครัวของตนเองนั้นดีอยู่แล้ว แต่พอเกิดเรื่องขึ้นเลยรู้สึกทันทีว่าหมอดูทักแม่น และเรื่องก็เกิดหลังจากโดนทักไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์

เปิดไพ่ยิปซีค่ะ ตอนดูเราก็ยังไม่เชื่อเลย คิดว่าหมอดูคนนี้เราไม่รู้จักเขา เขาคงมั่วๆ พูดไปเรื่อย เพราะชีวิตครอบครัวเราดีอยู่ แต่พอเกิดเรื่องแล้วถึงได้ อ้าว แม่น” อุ้ม ลักขณา กล่าว

หากถามถึงสภาพจิตใจ อุ้ม เผยว่า ตนเองไปต่อไม่เป็น ต้องกลับบ้านที่กรุงเทพฯ มาหาเซฟโซน เพราะตอนไปอยู่เชียงใหม่ ตนเหมือนเริ่มต้นไม่ ไม่รู้จักใคร ไม่มีสังคม มีเขาแค่คนเดียว คอยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ

“กลับบ้านที่กรุงเทพฯ ค่ะ เราต้องกลับมาหาเซฟโซนของเราค่ะ อยู่ที่เชียงใหม่ 7 ปี อุ้มไม่มีเพื่อน อุ้มไปอยู่คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่มีใครเลยค่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม มีแค่เขาคนเดียว ที่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แล้วก็มีลูก ชีวิตก็จะอยู่แต่อย่างนั้นค่ะ แล้วตอนหลังก็เอาน้องชายมาอยู่ด้วย เพราะน้องชายอยากมาดูแลพี่สาว ให้เขาเริ่มมาทำงานกับเรา น้องชายเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ปีนึงค่ะ”

ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเรื่อง อุ้ม รับว่าเรื่องเกิดตั้งแต่ช่วงที่เพจดังปล่อยข่าวว่าผัวเมียสายแซ่บอันฟอลโลว์ไอจีกัน ถ้าถามว่า หากย้อนเวลากลับไปได้จะยังเลือกผู้ชายคนนี้ไหม อุ้มก็จะยังเลือกเขา เพราะเขาได้ให้ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือ ‘น้องดีสนีย์’

“เกิดขึ้นแล้วค่ะ ไม่ใช่ตัดสินใจว่าจะจบกัน แต่เป็นวันที่เรากลับบ้าน กลับมากรุงเทพฯ มาพักใจ ใน 7 ปีที่ผ่านมานั้น ชีวิตมีความสุขค่ะ เพราะสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือน้องดีสนีย์และน้องการ์ตูน แม้น้องการ์ตูนไม่ใช่ลูกแท้ๆ เป็นลูกพี่บอล แต่อุ้มก็รักเขาเหมือนลูกแท้ๆ จริงๆ เราแคร์เขามากๆ ส่วนน้องดีสนีย์เขาคือของขวัญที่ดีที่สุด

ก่อนหน้านี้ อุ้มพยายามเคลียร์และปรับกันแล้วทำทุกอย่างให้ดีที่สุดด้วยสติ และตกลงกันทั้งสองฝ่ายว่าเราไม่อยากให้ลูกได้รับผลกระทบที่พ่อแม่มาทะเลาะกันให้ลูกเห็น ฉะนั้น ในเมื่อถึงทางตันแล้ว ต่างคนต่างมีทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ทางที่เหมือนกันคือจะเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกทั้งสองคน” อุ้ม ลักขณา กล่าว

สำหรับกระแสข่าว ‘เลิกกันเพราะสามีไปติดผู้จัดการ’ และ ‘ไม่ยอมให้สามีทำการบ้านเลย 3 ปี’ อุ้มเคลียร์ชัดว่า “ไม่จริง”

“ข่าวที่ว่าพี่บอลเลิกอุ้มเพราะผู้จัดการอุ้ม ผู้จัดการอุ้มเขาเป็นสาว (หัวเราะ) ส่วนเรื่องไม่ยอมให้สามีทำการบ้านเลย 3 ปีก็ไม่จริงค่ะ ขอแก้ข่าวนิดนึง ไม่มีสองปีแรก เพราะปีหนึ่งท้อง 9 เดือน อีกปีอุ้มเลี้ยงลูกคนเดียว 24 ชม. พี่ด้าต้องเข้าใจความแม่ เรามีลูกคนแรก และไม่ได้อยู่ข้างๆ แม่ตัวเอง ไม่ได้อยู่ข้างๆ น้องสาวที่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาก่อน อุ้มไม่มีคนเป็นที่ปรึกษาเลย ก็งูๆ ปลาๆ กับการเลี้ยงลูกคนนึงให้ดีที่สุด

เราต้องปั๊มนม ให้ลูกเข้าเต้า เลี้ยงลูก พอลูกขวบนึงก็กลับมามีอะไรกันเหมือนเดิม ก็มีการนัดกัน แต่ต้องนัดตามเวลา เพราะอุ้มเลี้ยงลูกเองเป็นหลัก อุ้มไม่มีพี่เลี้ยง”

ส่วนเรื่องที่ว่าเอาหน้าอกออกแล้วทำให้สามีเปลี่ยนใจ อุ้ม ยืนยันว่า “ไม่เกี่ยว” มีการพูดคุยกับสามีแล้ว สามีโอเค

“อุ้มไม่รู้ว่าคนอื่นหรือใครจะคิดยังไง แต่ก่อนเอาหน้าอกออก เรามีการพูดคุยกัน มีการปรึกษากัน ซึ่งเขาก็บอกว่าอะไรที่อุ้มมีความสุข อุ้มทำเลย เพราะอุ้มมีปัญหาปวดหลังหนักมาก เราใส่เต้ามานาน พอเราให้นมลูก แล้วพอมันหมด มันยาน มันใหญ่ มันหนัก

แล้วอุ้มคิดว่าชีวิตนี้เรามีผู้ชายคนนี้เป็นผัว เราไม่คิดจะมีผัวคนไหนอีกแล้ว ต่อให้กูน่าเกลียด ผัวก็ต้องรักกูสิ ต่อให้นมแบน แต่กูไม่ได้ไปรักคนอื่น ไม่ได้คิดจะไปเปิดนมให้คนอื่นดูอีกแล้ว ถ้าเราอยากมีนมใหญ่ให้คนอื่นดู แต่เราคิดว่าเราไม่ได้อยากให้คนอื่นดูแล้วไง เราหยุดอยู่ที่เขาคนเดียว ชีวิตนี้เรามีเขาแค่คนเดียวแล้ว เราก็เอาออก ให้มันเป็นธรรมชาติ อุ้มมาออกกำลังกาย สายสปอร์ตแล้วไงคะ” อุ้ม ลักขณา กล่าว

ในตอนนี้ อุ้มและสามี ได้เซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้ว ยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่พ่อกับแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งสองคน ลูกคือความสุขที่สุดของอุ้ม ทุกครั้งที่มีปัญหา อุ้มมีครอบครัว มีนิวเคลียร์ มีพ่อแม่ มีน้องชาย

“อุ้มกับเขาก็เซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ ทางกฎหมาย และตัวอุ้มเองกับเขาก็อย่างที่ตกลงกัน เราจะยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่พ่อกับแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งสองคน โดยพี่บอลรับผิดชอบเรื่องลูกไป อุ้มก็ต้องคัมแบ็กกลับมาทำงาน จากนี้จะรับงานในวงการ ห่างหายไปนาน ขอโอกาสนะคะ ต้องไปทำนมใหม่ไหมคะ (หัวเราะ)”

สำหรับคำถามที่ว่าได้พูดคุยกับลูกแล้วหรือยัง อุ้ม เปิดใจว่า อยากให้ลูกค่อย ๆ ปรับตัว บอกว่าลูกจะต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯนะ แต่ลูกไม่จำเป็นต้องมารับรู้ปัญหาของพ่อปม่ เพราะอุ้มไม่อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี ไม่อยากพูดถึงปัญหาว่าคืออะไรอีกแล้ว เพราะมันจบแล้ว

“เขาก็คงงงๆ ค่ะ ตอนนี้ถึงไม่ได้ย้ายออกมาจากเชียงใหม่ เราอยากให้เขามีโมเมนต์ค่อยๆ ปรับกับพี่สาวเขา พ่อเขา ก่อนที่เขาจะต้องแยกออกมาจริงๆ

ตอนนี้เขาพูดเสมอว่าเขาเกิดเชียงใหม่ เขาเป็นเด็กเชียงใหม่ แต่ตอนนี้เราก็พูดว่าตอนนี้บ้านเรากำลังจะพังนะ เราต้องซ่อมบ้านนะลูก เราต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ มาเรียนกรุงเทพฯ นะ เขาก็เริ่มเก็ต เริ่มเข้าใจ แต่เขาไม่จำเป็นต้องมารับรู้ว่าปัญหาของพ่อแม่คืออะไร ท้ายที่สุดแล้วอุ้มไม่ได้อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกว่าพ่อแม่มีปัญหากัน หรือไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขาหรือตัวอุ้ม ฉะนั้นเลือกได้อุ้มไม่อยากพูดถึงปัญหาว่าคืออะไรอีกแล้ว เพราะมันจบแล้วค่ะ” อุ้ม ลักขณา กล่าวทิ้งท้าย

‘อุ้ม ลักขณา’ เผยคลิปลูกสาวขณะมอบดอกไม้ พร้อมพูดซึ้งกับตน บอก “หนูจะปกป้องหม่าม๊าเอง” ทำพี่สาวชาวเน็ตน้ำตาแทบไหล

(22 ส.ค.66) เรียกได้ว่า จบความสัมพันธ์กันไปแล้ว เหลือแค่ความเป็นพ่อและแม่ อย่าง ‘อุ้ม ลักขณา’ และอดีตสามี ‘บอล กฤษณะ’ ที่ได้ประกาศว่าได้แยกทางกันไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้นั้น ซึ่งก็ได้มีประเด็นต่าง ๆ มากมายออกมา

ล่าสุด ‘อุ้ม ลักขณา’ ได้เผยคลิปลูกสาว ‘น้องดิสนีย์’ ผ่านทางอินสตาแกรม พร้อมแคปชันระบุว่า ต่อให้ย้อนเวลากลับไปได้ ก็จะเลือกแบบเดิม เพราะหนูคือของขวัญที่วิเศษที่สุดในโลก กำลังใจพลังใจพลังชีวิตของหม๊า รักหนูที่สุด ดวงใจของหม๊า ซึ่งในคลิปจะเห็นว่าน้องดิสนีย์ นั้นได้มอบดอกไม้ให้แม่ และพูดว่า รักหม่าม๊าที่ หนูจะปกป้องหม่าม๊าเอง ซึ่งทำเอาน้ำตาแทบไหลกัน

ท่ามกลางเหล่าแฟน ๆ เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันจำนวนมาก เช่น ริงค่าาาา...แบบเดียวกันจ้า ถ้าย้อนไปได้ก็ยังจะรัก เพราะเราได้ของขวัญที่ดีและวิเศษที่สุดกลับมา เป็นกำลังใจให้ทุก ๆเรื่องนะแม่อุ้ม, ดิสจะปกป้องหม่าม๊าา โอ้ยยคำนี้คนเป็นแม่ใจฟูสุดๆ, หนูดิสผู้ไร้เดียงสา กอดทั้งคู่เลย เป็นต้น

‘อุ้ม ลักขณา’ เปิดใจทั้งน้ำตา วินาทีตัดสินใจหย่า ‘บอล กฤษณะ’ เผย ไม่มีอะไรที่ยั่งยืน ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเอง-เดินหน้าต่อเพื่อลูก

(28 ก.ย. 66) หลังจาก ‘อุ้ม ลักขณา’ ตัดสินใจหย่ากับอดีตสามี บอล กฤษณะ ที่คบหากันมากว่า 7 ปี เจ้าตัวก็ได้มาเปิดใจในรายการ ‘WOODY FM’ เผยรู้สึกชีวิตเหมือนตกจากสวรรค์ ตอนนี้ขอกลับมารักตัวเอง ยืนด้วยลำแข้งของตัวเองด้วยวัย 40 เดินหน้าต่อเพื่อลูกในเวอร์ชันที่ดีกว่าเดิม ทำให้เรียนรู้ว่าไม่มีอะไรที่ยั่งยืน

อุ้มบอกว่ากับเรื่องนี้สิ่งที่ได้เรียนรู้คือไม่มีอะไรที่ยั่งยืน

“คือเราฝากชีวิตไว้กับเขา แล้วคิดว่าอุ้มทิ้งทุกอย่างเลยนะ ทิ้งตั้งแต่ทำงานวงการ เพื่อที่จะมาใช้ชีวิตอยู่กับเขา ทิ้งครอบครัว ทิ้งเพื่อน สังคมทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อเขาคนเดียว จนกระทั่งมีลูก แล้วมันก็เลยทำให้เราตัดหนทางการทำงานของตัวเองไปเลย เหมือนตัดโอกาสตัวเองไปด้วย”

แต่แฮปปี้เพราะมีลูก รู้สึกว่าความสุขของเราคือลูก แล้วก็คิดว่าฝากฝังชีวิตเราไว้กับคนๆ นี้

“ก็เหมือนเป็นพวกเพ้อฝันในอดีตที่ผ่านมาว่าเป็นคนโลกสวยอยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากจะมีสามีที่ดี เพราะเห็นพ่อเราเป็นตัวอย่างเป็นต้นแบบของคนที่เป็นสามีของครอบครัว เราก็อยากจะมีมุมๆนั้น และในวันหนึ่งที่เราได้แต่งงานได้ใช้ชีวิตจริงๆ”

อุ้มเล่าต่ออีกว่า “เราก็รู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์เลยเนอะ ก็ยังพูดกับเขา อุ้มเคยกราบเท้าเขาในวันพ่อเมื่อปีที่แล้วก่อนที่จะมีเรื่อง แล้วก็พาลูกๆไปกราบ ต้องทำให้ลูกเห็นเป็นตัวอย่าง ก็เอาพวงมาลัยไปกราบเท้า แล้วบอกเขาว่า ขอบคุณ (น้ำตาคลอ) ที่เป็นพ่อที่ดี ที่ดูแลอุ้ม และเคยบอกเขาว่า เราโชคดีเนอะที่มีสามีที่ดีมากๆ ทุกคนจะบอกกับอุ้มตลอดว่า เหมือนกับเป็นผู้หญิงที่ถูกหวยรางวัลที่ 1 ที่มีผู้ชายที่ดูแลเราดีมาก รักเรามากๆ ก็เลยทำให้เราไม่ได้คิดระแวดระวังหรือสงสัย เพราะทุกอย่างมันดีจริงๆ”

ซึ่งที่ผ่านมาก็มีเรื่องราวมากมายที่พยายามปรับตัวกันเยอะ แต่พอสุดท้าย มาเจอเรื่องที่ทำให้เหมือนตกมาจากสวรรค์

“เพราะเราไม่เคยคิด ไม่เคยมีในหัวอุ้มแม้แต่วินาทีเดียวเลยที่จะไม่มีผู้ชายคนนี้ในชีวิต ณ วันนั้นนะคะ วันที่เราพาลูกๆไปกราบเท้าเขา ยังบอกเขาว่าเราแก่ไปด้วยกันนะ ดูลูกเติบโตไปด้วยกัน (ร้องไห้) เพราะคิดว่าเขาคือคนสุดท้ายในชีวิตเราแล้ว แต่แล้วมันก็ไม่ได้เป็นแบบที่ฝันไว้”

กับการเปลี่ยนมาเป็นซิงเกิลมัม เธอบอกว่า เป็นแม่ที่ดูแลลูกเองมาตลอดอยู่แล้ว ตั้งแต่ลูกสาวเกิด เป็นคุณแม่เต็มตัวที่ทิ้งทุกอย่าง ไม่ได้ทำงาน รู้ทุกขั้นกระบวนการของลูก เพราะฉะนั้น ณ การดูแลลูกไม่มีอะไรเปลี่ยน

“มันเป็นอุ้มคนเดิมอยู่แล้วที่ดูแลเขา แต่สิ่งที่เราได้เห็นคือเขาเป็นเด็กที่ฉลาดมากเลยค่ะ 4 ขวบแต่เข้าใจ ดิสนีย์เขารู้ เขาสัมผัสได้ทุกอย่าง แค่อุ้มนั่งนิ่งๆ เขาก็จะแบบ หม่าม้าร้องไห้ทำไม หม่าม้าเศร้าเหรอ ไปเอาดอกไม้มาให้อะไรแบบนี้ค่ะ หม่าม้าดิสนีย์เป็นกำลังใจให้นะ ดิสโตขึ้นจะทำงานหาเงินดูแลม้านะ โดยที่ไม่เคยสอน เพราะไม่ได้อยากคาดหวังว่าลูกโตขึ้นต้องเลี้ยงเราหรือต้องมาให้อะไรตอบแทนแค่เขามีความสุขในแบบที่เขาเป็น แค่ 4 ขวบสามารถพูดและแสดงออกมากๆ เลยว่าเข้าใจหัวอกของเรา ถ้าเมื่อไหร่ที่อุ้มอ่อนแอ เขาจะรู้ทันที เลยทำให้รู้ว่าต้องเริ่มที่ตัวเรา คือต้องรักตัวเองก่อนในเมื่อเหตุการณ์มันเกิดขึ้นแล้วไม่สามารถที่จะย้อนกลับไปแก้ไขอะไรได้แล้ว เพราะเชื่อว่าเราทำดีที่สุด”

“สิ่งหนึ่งที่อุ้มจะไม่สอนลูกเลยคือ ไม่สอนให้ลูกตัวเองรับรู้ถึงปัญหาว่าพ่อกับแม่มีปัญหาอะไรกัน หรือเขาจะไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขา อุ้มจะบอกเขาเสมอว่า ป๊ะป๋ารักดีสนีย์มากและหม่าม้าก็รักดีสนีย์มาก ในวันนี้หม่าม้ากับป๊ะป๋าเป็นเพื่อนกัน ครั้งแรกเขาไม่เข้าใจ เขาบอกว่าเป็นเพื่อนได้ยังไงแต่งงานกันก็ต้องเป็นสามีภรรยาสิ”

“คราวนี้เราต้องย้ายกลับมาอยู่กรุงเทพฯ ใช่ไหมคะ เขาเกิดที่เชียงใหม่ เขาก็พูดว่าบ้านเขาอยู่เชียงใหม่ เพื่อนเขาอยู่เชียงใหม่ ทำไมหม่าม้าต้องย้ายบ้าน เราก็ตอบว่าบ้านพังป๊ะป๋าต้องอยู่ซ่อมบ้าน ก็เลยเปิดคลิปวิดีโอที่เป็นบ้านพังถล่มให้เขาดู แล้วก็บอกกับพ่อเขาให้เราพูดไปในทางเดียวกัน ว่าป๊ะป๋าต้องอยู่ซ่อมบ้านเดี๋ยวลูกกลับมาอยู่กรุงเทพฯ กับหม่าม้า อากง เฮียก้า น้านิว ซึ่งเขาก็แฮปปี้”

จากเรื่องราวที่ผู้หญิงคนนี้เจอก็ทำให้มีคนเข้ามาขอคำปรึกษาเยอะ บ้างก็บอกว่า ทำไมถึงใจเด็ดจังครั้งเดียวแล้วไปเลย อุ้มบอกว่า…

“หนทางที่มันเดินทางร่วมกันมาจะบอกเขาเสมอว่าทุกๆ เรื่องคุยกันได้ปรับกันได้ แต่ถ้ามันเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่มีบรรทัดฐานไม่เท่ากัน ซึ่งอุ้มมีบรรทัดฐานของอุ้มอยู่ที่จุดนี้ แต่เขาไม่เคยแตะมาถึงจุดนี้ มันให้อภัยกันได้ คุยกันได้ แต่เมื่อไหร่ที่เขาแตะอันนี้ ไม่ได้”

บางคนที่ไม่กล้าออกจากความสัมพันธ์ สำหรับ อุ้มแล้วเธอมองว่า คนอาจจะคิดว่าไม่มีใครแทนที่คนๆ นี้ได้หรือเปล่า

“เป็นความคิดมโนไปเองว่า ไม่มีใครรักเราเท่านี้หรอก เราจะออกไปหาใครได้ อายุขนาดนี้แล้ว ออกไปทำอะไรที่มันไม่รู้ว่าหนทางข้างหน้าจะเจออะไร เราก็เลยย้อนกลับไปว่า แล้วทำไมเราถึงต้องเลือกที่จะอยู่ในจุดที่มันไม่มีความสุขแล้วไปต่อไม่ได้ แล้วมันก็เป็นการตกลงคุยกันทั้งสองฝ่ายแล้วว่าเขาเลือกทางนี้ เราเลือกทางนี้ แต่เรามีทางตรงกลางเพื่อลูก แค่นั้นก็คือจบแล้ว”

เธอบอกอีกว่า ให้กลับมารักตัวเอง ทุกคนมันต้องมีทางไป และอุ้มก็เชื่อกับ นิวเคลียร์ เสมอเลยจะพูดกันตลอดอะไรเกิดขึ้นแล้วย่อมดีเสมอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์เขาคงประทานมาให้เราได้เห็น ได้รู้ ไม่ตามืดตามัว

“แม่ของอุ้มจะพูดตลอดว่าเธอคือ ‘อุ้ม ลักขณา’ ลักขณาฆ่าไม่ตายหม่าม้าบอกแล้วใช่ไหม เราดูแลตัวเองมาดีขนาดนี้ ออกกำลังกายอย่างหนัก ดูแลตัวเองให้อายุ 40 แล้วยังดูสวยอยู่ แล้วสวยกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ แล้วทำไมเธอถึงต้องด้อยค่าตัวเอง ก็อยากจะเป็นกำลังใจให้กับสาวๆ  คนที่เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเหมือนกัน เราไปได้ โดยเฉพาะเรามองหน้าลูก เรานอนกอดเขา เห็นหน้าเขา มันมีพลังมหาศาลมากมาย ซึ่งทำให้เราแพ้ไม่ได้ ยอมไม่ได้ต้องเป็นคนที่ดีกว่าเดิม ต้องดีกว่าเดิมให้ได้มากกว่าเดิมด้วยเพื่อลูกของเรา”


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top