‘อุ้ม ลักขณา’ เคลียร์ชัด!! เซ็นใบหย่า ‘บอล กฤษณะ’ แล้ว เตรียมย้ายกลับกรุงเทพฯ ต่อจากนี้ขอทุกอย่างทำเพื่อลูก

ไม่เคยคิดว่าจะมีวันนี้!! ‘อุ้ม ลักขณา’ รับเซ็นใบหย่า ‘บอล กฤษณะ’ ปิดฉากชีวิตคู่ พร้อมเปิดใจครั้งแรก เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะหมอดู?

(19 ส.ค. 66) เปิดใจเคลียร์ให้ฟังกันแบบชัด ๆ เป็นครั้งแรกในรายการแฉ สำหรับ ‘อุ้ม ลักขณา’ ถึงปมการเลิกรากับสามีหนุ่ม ‘บอล กฤษณะ’ ว่า ได้เซ็นใบหย่าและเตรียมย้ายที่จะกลับมาอยู่กรุงเทพฯ เรียบร้อยแล้ว หลังจากนี้ขอทุกอย่างทำเพื่อลูก ‘น้องดีสนีย์’

“ตอนนี้เป็นซิงเกิลมัมทั้งพี่ทั้งน้องค่ะ ไม่เคยคิดอยู่ในหัวเลย ว่าจะมีวันนี้ ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวว่าอุ้มจะไม่มีผู้ชายคนนี้อยู่ในชีวิต อุ้มคิดว่าเขาคือความสุข คือครอบครัว คือพ่อของลูก คือสามีที่ดี ก็เลยไม่เคยระแวงหรือคิดว่าตัวเองจะมาถึงจุดนี้

7 ปีชีวิตครอบครัวถามว่าแฮปปี้ไหม มันก็มีบ้าง จะไม่มีเลยก็เป็นไปไม่ได้ สองคนมาจากคนละครอบครัว มาจากคนละพื้นฐานการเลี้ยงดูกัน ก็ต้องมีเรื่องที่ปรับกันเยอะมากๆ ก่อนจะถึงจุดที่ลงตัว มันใช้เวลาหลายๆ ช่วง แต่ว่าเราทั้งสองคนก็พยายามทำให้ดีที่สุดเพื่อลูก ซึ่งมันก็ผ่านมาได้ แต่มันก็มาเกิดเรื่องนี้ที่ทำให้ไม่สามารถไปต่อได้” อุ้ม ลักขณา กล่าว

เมื่อถูกถามถึงประเด็นที่ว่า หาก ไม่ไปดูหมอดูคงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น อุ้มตอบว่า “ไม่จริง” ไม่ได้ดูดวงเพื่อเช็กว่าสามีนอกใจหรือไม่ แค่ไปดูดวงตามปกติ

“ไม่ได้สาระแนไปดูอะไรเลยค่ะ ไม่ได้ดูดวงเพื่อเช็ก ไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย ไปเพราะเห็นเขาดูกันก็ตามเขาไป ปกติชอบดูดวง แต่วันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปดูดวงอะไรทั้งสิ้นเลย เพราะทุกอย่างแฮปปี้ดีหมด ต่อให้เขาพูดอะไรมาไม่ได้รู้สึกว่าเราต้องหวั่นไหว หรือต้องไปจับผิดอะไร ไม่มีอยู่ในสมองของอุ้มเลยค่ะ

ในตอนแรกที่หมอดูทำนาย อุ้มไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าทำนายแม่น เพราะมองว่าชีวิตครอบครัวของตนเองนั้นดีอยู่แล้ว แต่พอเกิดเรื่องขึ้นเลยรู้สึกทันทีว่าหมอดูทักแม่น และเรื่องก็เกิดหลังจากโดนทักไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์

เปิดไพ่ยิปซีค่ะ ตอนดูเราก็ยังไม่เชื่อเลย คิดว่าหมอดูคนนี้เราไม่รู้จักเขา เขาคงมั่วๆ พูดไปเรื่อย เพราะชีวิตครอบครัวเราดีอยู่ แต่พอเกิดเรื่องแล้วถึงได้ อ้าว แม่น” อุ้ม ลักขณา กล่าว

หากถามถึงสภาพจิตใจ อุ้ม เผยว่า ตนเองไปต่อไม่เป็น ต้องกลับบ้านที่กรุงเทพฯ มาหาเซฟโซน เพราะตอนไปอยู่เชียงใหม่ ตนเหมือนเริ่มต้นไม่ ไม่รู้จักใคร ไม่มีสังคม มีเขาแค่คนเดียว คอยเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ

“กลับบ้านที่กรุงเทพฯ ค่ะ เราต้องกลับมาหาเซฟโซนของเราค่ะ อยู่ที่เชียงใหม่ 7 ปี อุ้มไม่มีเพื่อน อุ้มไปอยู่คนเดียว ตัวคนเดียว ไม่มีใครเลยค่ะ ไม่มีเพื่อน ไม่มีสังคม มีแค่เขาคนเดียว ที่เป็นสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ แล้วก็มีลูก ชีวิตก็จะอยู่แต่อย่างนั้นค่ะ แล้วตอนหลังก็เอาน้องชายมาอยู่ด้วย เพราะน้องชายอยากมาดูแลพี่สาว ให้เขาเริ่มมาทำงานกับเรา น้องชายเพิ่งเข้ามาอยู่ได้ปีนึงค่ะ”

ส่วนช่วงเวลาที่เกิดเรื่อง อุ้ม รับว่าเรื่องเกิดตั้งแต่ช่วงที่เพจดังปล่อยข่าวว่าผัวเมียสายแซ่บอันฟอลโลว์ไอจีกัน ถ้าถามว่า หากย้อนเวลากลับไปได้จะยังเลือกผู้ชายคนนี้ไหม อุ้มก็จะยังเลือกเขา เพราะเขาได้ให้ของขวัญที่ดีที่สุดก็คือ ‘น้องดีสนีย์’

“เกิดขึ้นแล้วค่ะ ไม่ใช่ตัดสินใจว่าจะจบกัน แต่เป็นวันที่เรากลับบ้าน กลับมากรุงเทพฯ มาพักใจ ใน 7 ปีที่ผ่านมานั้น ชีวิตมีความสุขค่ะ เพราะสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตคือน้องดีสนีย์และน้องการ์ตูน แม้น้องการ์ตูนไม่ใช่ลูกแท้ๆ เป็นลูกพี่บอล แต่อุ้มก็รักเขาเหมือนลูกแท้ๆ จริงๆ เราแคร์เขามากๆ ส่วนน้องดีสนีย์เขาคือของขวัญที่ดีที่สุด

ก่อนหน้านี้ อุ้มพยายามเคลียร์และปรับกันแล้วทำทุกอย่างให้ดีที่สุดด้วยสติ และตกลงกันทั้งสองฝ่ายว่าเราไม่อยากให้ลูกได้รับผลกระทบที่พ่อแม่มาทะเลาะกันให้ลูกเห็น ฉะนั้น ในเมื่อถึงทางตันแล้ว ต่างคนต่างมีทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ทางที่เหมือนกันคือจะเป็นพ่อแม่ที่ดีที่สุดให้กับลูกทั้งสองคน” อุ้ม ลักขณา กล่าว

สำหรับกระแสข่าว ‘เลิกกันเพราะสามีไปติดผู้จัดการ’ และ ‘ไม่ยอมให้สามีทำการบ้านเลย 3 ปี’ อุ้มเคลียร์ชัดว่า “ไม่จริง”

“ข่าวที่ว่าพี่บอลเลิกอุ้มเพราะผู้จัดการอุ้ม ผู้จัดการอุ้มเขาเป็นสาว (หัวเราะ) ส่วนเรื่องไม่ยอมให้สามีทำการบ้านเลย 3 ปีก็ไม่จริงค่ะ ขอแก้ข่าวนิดนึง ไม่มีสองปีแรก เพราะปีหนึ่งท้อง 9 เดือน อีกปีอุ้มเลี้ยงลูกคนเดียว 24 ชม. พี่ด้าต้องเข้าใจความแม่ เรามีลูกคนแรก และไม่ได้อยู่ข้างๆ แม่ตัวเอง ไม่ได้อยู่ข้างๆ น้องสาวที่เคยมีประสบการณ์การเลี้ยงลูกมาก่อน อุ้มไม่มีคนเป็นที่ปรึกษาเลย ก็งูๆ ปลาๆ กับการเลี้ยงลูกคนนึงให้ดีที่สุด

เราต้องปั๊มนม ให้ลูกเข้าเต้า เลี้ยงลูก พอลูกขวบนึงก็กลับมามีอะไรกันเหมือนเดิม ก็มีการนัดกัน แต่ต้องนัดตามเวลา เพราะอุ้มเลี้ยงลูกเองเป็นหลัก อุ้มไม่มีพี่เลี้ยง”

ส่วนเรื่องที่ว่าเอาหน้าอกออกแล้วทำให้สามีเปลี่ยนใจ อุ้ม ยืนยันว่า “ไม่เกี่ยว” มีการพูดคุยกับสามีแล้ว สามีโอเค

“อุ้มไม่รู้ว่าคนอื่นหรือใครจะคิดยังไง แต่ก่อนเอาหน้าอกออก เรามีการพูดคุยกัน มีการปรึกษากัน ซึ่งเขาก็บอกว่าอะไรที่อุ้มมีความสุข อุ้มทำเลย เพราะอุ้มมีปัญหาปวดหลังหนักมาก เราใส่เต้ามานาน พอเราให้นมลูก แล้วพอมันหมด มันยาน มันใหญ่ มันหนัก

แล้วอุ้มคิดว่าชีวิตนี้เรามีผู้ชายคนนี้เป็นผัว เราไม่คิดจะมีผัวคนไหนอีกแล้ว ต่อให้กูน่าเกลียด ผัวก็ต้องรักกูสิ ต่อให้นมแบน แต่กูไม่ได้ไปรักคนอื่น ไม่ได้คิดจะไปเปิดนมให้คนอื่นดูอีกแล้ว ถ้าเราอยากมีนมใหญ่ให้คนอื่นดู แต่เราคิดว่าเราไม่ได้อยากให้คนอื่นดูแล้วไง เราหยุดอยู่ที่เขาคนเดียว ชีวิตนี้เรามีเขาแค่คนเดียวแล้ว เราก็เอาออก ให้มันเป็นธรรมชาติ อุ้มมาออกกำลังกาย สายสปอร์ตแล้วไงคะ” อุ้ม ลักขณา กล่าว

ในตอนนี้ อุ้มและสามี ได้เซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้ว ยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่พ่อกับแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งสองคน ลูกคือความสุขที่สุดของอุ้ม ทุกครั้งที่มีปัญหา อุ้มมีครอบครัว มีนิวเคลียร์ มีพ่อแม่ มีน้องชาย

“อุ้มกับเขาก็เซ็นใบหย่ากันเรียบร้อยแล้วค่ะ ทางกฎหมาย และตัวอุ้มเองกับเขาก็อย่างที่ตกลงกัน เราจะยุติความสัมพันธ์การเป็นสามีภรรยากัน เป็นเพียงแค่พ่อกับแม่ที่ดีที่สุดให้ลูกทั้งสองคน โดยพี่บอลรับผิดชอบเรื่องลูกไป อุ้มก็ต้องคัมแบ็กกลับมาทำงาน จากนี้จะรับงานในวงการ ห่างหายไปนาน ขอโอกาสนะคะ ต้องไปทำนมใหม่ไหมคะ (หัวเราะ)”

สำหรับคำถามที่ว่าได้พูดคุยกับลูกแล้วหรือยัง อุ้ม เปิดใจว่า อยากให้ลูกค่อย ๆ ปรับตัว บอกว่าลูกจะต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯนะ แต่ลูกไม่จำเป็นต้องมารับรู้ปัญหาของพ่อปม่ เพราะอุ้มไม่อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี ไม่อยากพูดถึงปัญหาว่าคืออะไรอีกแล้ว เพราะมันจบแล้ว

“เขาก็คงงงๆ ค่ะ ตอนนี้ถึงไม่ได้ย้ายออกมาจากเชียงใหม่ เราอยากให้เขามีโมเมนต์ค่อยๆ ปรับกับพี่สาวเขา พ่อเขา ก่อนที่เขาจะต้องแยกออกมาจริงๆ

ตอนนี้เขาพูดเสมอว่าเขาเกิดเชียงใหม่ เขาเป็นเด็กเชียงใหม่ แต่ตอนนี้เราก็พูดว่าตอนนี้บ้านเรากำลังจะพังนะ เราต้องซ่อมบ้านนะลูก เราต้องย้ายมาอยู่กรุงเทพฯ มาเรียนกรุงเทพฯ นะ เขาก็เริ่มเก็ต เริ่มเข้าใจ แต่เขาไม่จำเป็นต้องมารับรู้ว่าปัญหาของพ่อแม่คืออะไร ท้ายที่สุดแล้วอุ้มไม่ได้อยากให้ลูกรู้สึกไม่ดี หรือรู้สึกว่าพ่อแม่มีปัญหากัน หรือไม่ภูมิใจในตัวพ่อเขาหรือตัวอุ้ม ฉะนั้นเลือกได้อุ้มไม่อยากพูดถึงปัญหาว่าคืออะไรอีกแล้ว เพราะมันจบแล้วค่ะ” อุ้ม ลักขณา กล่าวทิ้งท้าย