Tuesday, 30 April 2024
อุทกภัย

อยุธยา - PEA ร่วมส่งกำลังใจและมอบถุงยังชีพให้ประชาชน ที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

นางสาวนุชนาถ ประทีปธีรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา นางสมทรง พันธ์เจริญวรกุล นายก อบจ.พระนครศรีอยุธยา นายบดินทร์ เกษมศานติ์ นายอำเภอพระนครศรีอยุธยา นายสุวัฒน์ สรรพโกศลกุล รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ให้การต้อนรับ นายศุภชัย เอกอุ่น ผู้ว่าการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พร้อมคณะ ที่ได้เดินทางมาให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลวาสุกรี บริเวณวัดศาลาปูนวรวิหาร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ทั้งนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ได้จัดกิจกรรม PEA ขอร่วมส่งกำลังใจให้ประชาชนที่ประสบอุทกภัย จากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” โดยมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 600 ครัวเรือน ที่ผ่านมา PEA  ได้ส่งพนักงานลงพื้นที่ยกระดับมิเตอร์ไฟฟ้าให้พ้นน้ำท่วม แก้ไขระบบไฟฟ้าที่ได้รับความเสียหาย จำนวนกว่า 8,000 เครื่อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน รวมทั้งแนะนำประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัยหลังน้ำลดให้ใช้ไฟฟ้าได้อย่างปลอดภัย

 

‘สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย’ ส่งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ ต.บางอ้อ อ.บ้านนา จ.นครนายก จำนวน 239 ราย

12 ตุลาคม 2564 ที่วัดเลขธรรมกิตติ์ ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์ สภากาชาดไทย ได้ส่งมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ตำบลบางอ้อ อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก จำนวน 239 ราย

โดยมีนายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก และนางสุวจี ศิริปัญโญ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครนายก พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดนครนายก นายอำนาจ แย้มศิริ ปลัดจังหวัดนครนายก นางวจิราพร อมาตยกุล นายอำเภอบ้านนา ให้การต้อนรับและกล่าวขอบคุณ สำนักงานบรรเทาทุกข์ และทีมงานในการลงพื้นที่มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อนในหลายหมู่บ้านของตำบลบางอ้อโดยทั่วหน้ากัน

 

‘รมว.สุชาติ’ มอบ ‘ปลัดแรงงาน ร่วมคณะ พล.อ.ประวิตร’ ให้กำลังใจอาสาสมัครแรงงาน และมอบสุขาลอยน้ำแก่ผู้ประสบอุทกภัย จ.ขอนแก่น

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดขอนแก่น โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อรับฟังรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จุดแรกที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จุดที่สองที่วัดโพธิบัลลังก์ บ้านดอนแดง ตำบลดอนหัน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะผู้นำชุมชนและมอบถุงยังชีพจำนวน 300 ชุด พร้อมมอบสุขาลอยน้ำของกระทรวงแรงงานให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 5 หลัง

โดยมี นายประทีป ทรงลำยอง อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมทั้งอาสาสมัครแรงงาน (อสร.) จังหวัดขอนแก่นมาร่วมต้อนรับ และนำน้ำดื่มมามอบให้ผู้ประสบภัยในพื้นที่ด้วย ซึ่ง พล.อ.ประวิตร ได้ให้กำลังใจแก่อาสาสมัครแรงงานจังหวัดขอนแก่นที่มาร่วมต้อนรับและมาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งอาสาสมัครแรงงานมีภารกิจในการประสานการให้บริการด้านแรงงานในพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนมีงานทำ มีทักษะฝีมือ มีอาชีพมีรายได้ ได้รับคุ้มครองและมีหลักประกันทางสังคมที่ยั่งยืนอีกด้วย ปัจจุบันมีอาสาสมัครแรงงานทั่วประเทศรวมทั้งสิ้น 8,110 คน จุดที่สามที่วัดบ้านเทพบูรณาราม บ้านหนองบัวดีหมี หมู่ที่ 20 ตำบลท่าพระ อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น เพื่อพบปะผู้นำชุมชนและมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัย จำนวน 300 ชุด

นายบุญชอบ กล่าวว่า การลงพื้นที่ในวันนี้ผมได้รับมอบหมายจากท่าน รมว.แรงงาน กำชับให้ส่วนราชการสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่นได้บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฟื้นฟูเยียวยาภายหลังน้ำลดตามภารกิจของแต่ละหน่วยงาน สำนักงานจัดหางานจังหวัดบริการจัดหางานและส่งเสริมการประกอบอาชีพ สำนักงานแรงงานจังหวัดจัดโครงการจ้างงานเร่งด่วนและพัฒนาทักษะฝีมือ โดยสนับสนุนค่าตอบแทนรวมถึงวัสดุอุปกรณ์ฝึกอาชีพ เพื่อให้ประชาชนมีรายได้อย่างต่อเนื่อง สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดจะให้คำปรึกษาด้านสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน นอกจากนี้สำนักงานประกันสังคมจังหวัดดูแลสิทธิประโยชน์ให้แก่ผู้ประสบภัย เรื่องสิทธิประกันสังคม จัดทีมแพทย์และพยาบาลร่วมกับโรงพยาบาลในเครือข่ายให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้นในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เป็นต้น

 

‘วปอ.2555 & ตำรวจไทย’ ห่วงใยประชาชน! จัดโครงการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ลงพื้นที่ช่วยชาวบ้าน จ.สระบุรี และ จ.สิงห์บุรี ลุยน้ำมอบถุงยังชีพช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม

จากสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในพื้นที่หลายจังหวัด สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนคนไทยต่างได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยได้รับความเดือดร้อนจำนวนมาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานภาครัฐ ร่วมลงพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงได้สั่งการไปยังหน่วยงานในสังกัดทุกหน่วย ให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ประสบภัย และกำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการดูแล เฝ้าระวังป้องกันอาชญากรรม การกระทำความผิด กลุ่มมิจฉาชีพที่อาจฉกฉวยโอกาสซ้ำเติมความเดือดร้อนของประชาชน และให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานอื่น ๆ รวมถึงคอยให้การสนับสนุนในภารกิจต่าง ๆ จากภาครัฐเมื่อมีการร้องขอด้วย

ในวันนี้ (17 ต.ค.64) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นผู้แทนในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ลงพื้นที่แจกถุงยังชีพจังหวัดละ 1,000 ชุด 2 จังหวัด รวมเป็น 2,000 ชุด พร้อมมอบเงินสดส่วนหนึ่งช่วยเหลือบ้านที่ถูกน้ำแม่น้ำป่าสักเซาะจนตลิ่งพังและดึงบ้านพังไปทั้งหลังในเขตจังหวัดสระบุรี ณ วัดสารภี ต.บางโขมด  อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี และจังหวัดสิงห์บุรี  ณ สำนักงานเทศบาลตำบลทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี  โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบนำสิ่งของไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบภัย

นอกจากนี้ ในส่วนของประชาชนผู้ประสบอุทกภัย บ้านหัวเกาะ ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งมีน้ำท่วมสูง ชาวบ้านต้องใช้เรือในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้านเท่านั้น ทางพล.ต.ท.สมพงษ์ และตัวแทนคณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) ได้ลงพื้นที่โดยสารเรือ นำถุงยังชีพไปมอบให้กับประชาชนถึงหน้าบ้านด้วย  

คณะนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 2555 (วปอ.2555) และ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีความห่วงใยพี่น้องประชาชนที่ต้องประสบกับอุทกภัย อีกทั้ง ในปัจจุบันที่ยังอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อีกด้วย จึงนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคมามอบให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ประสบภัย จังหวัดสระบุรี และ จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีผู้แทนชุมชนเป็นผู้รับมอบ และนำไปแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสบภัย ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรักษาระยะห่างตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 และเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับประชาชน ให้สามารถต่อสู้กับวิกฤติอุทกภัยครั้งนี้ไปด้วยกัน  

จันทบุรี - “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า” โปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วม กับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย

วันนี้ 18 ตุลาคม 2564 ที่หอเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าตากสิน อ.เมือง จ.จันทบุรี นายอรรถนิติ ดิษฐอำนาจ องคมนตรี และคณะเดินทาง ประชุม พร้อมติดตามสถานะการณ์ความคืบหน้าในการแก้ไขสถานะการณ์อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุธี ทองแย้ม ผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรีนำหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับพร้อมรายงานสถานะการณ์อุทกภัย จากเหตุการณ์ภัยพิบัติ พายุโซนร้อน ไลออนร๊อก และพายุโซนร้อน คมปาซุ ซึ่งส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจำนวน 48 ตำบล 279 หมู่บ้าน 37 ชุมชน รวม 11,079ครัวเรือนบ้านเรือนได้รับความเสียหาย 1,692 หลังคาเรือนและพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ 9452.50 ไร่สิ่งสาธารณประโยชน์เช่น ถนนคอสะพาน และสถานที่ราชการได้รับความเสียหาย

ปทุมธานี - ปภ.เตือนเจ้าพระยาสูงเพิ่ม 40 ซ.ม. “บิ๊กแจ๊ส” ส่งลูกสาวตรวจดูสถานการณ์น้ำ พร้อมมอบถุงรอดชีพเตรียมแผนเยียวยาหลังน้ำลด

เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2564 เวลา 08:00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้มอบหมายให้ นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี ลงเรือตรวจสอบสถานการณ์น้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา หลังจาก กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตือน 11 จังหวัดระวังน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นอีก 20 - 40 เซนติเมตร และ มอบถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม ยาเสริมภูมิคุ้มกันโรคระบาด หน้ากากอนามัย จำนวน 300 ชุด ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน บริเวณชุมชนไทย-มอญ ตำบลบ้านงิ้ว อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี เนื่องจากกระทรวงมหาดไทย

โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ประสาน 11 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม และสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพมหานคร เฝ้าระวังระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งท้ายเขื่อนเจ้าพระยามีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร และจะกระทบบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกแนวคันกั้นน้ำริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ในช่วงวันที่ 20-30 ตุลาคม 2564 ให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่ยังคงมีสถานการณ์น้ำท่วมขังอยู่ พร้อมประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำท่าจีน จุดเสี่ยงที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ เฝ้าระวังระดับน้ำและเตรียมพร้อมรับมือ แจ้งจังหวัดประสาน อปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบแนวคันกั้นน้ำ จัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย และเจ้าหน้าที่ติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์ และเตรียมความพร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะพื้นที่มีน้ำท่วมขังอยู่โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมเครื่องมือ ตรวจสอบให้ป้องกันแนว น้ำท่วมให้แข็งแรง เพื่อป้องกันน้ำท่วมล้นแนวป้องกันน้ำและพร้อมช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง

โดยมี นายสิระพงษ์ สิริโพธินันท์ รองนายก อบจ.ปทุมธานี นายธนศักดิ์ แป้นมุข นายณเรศ คุชิตา ที่ปรึกษานายก อบจ.ปทุมธานี รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบจ.ร่วมลงพื้นที่เตรียมถุงรอดชีพ ข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม อาหารแห้ง น้ำดื่ม และยา มอบให้กับประชาชนที่อยู่ริมเจ้าพระยา เนื่องจากสถานการณ์น้ำยังท่วมสูงอยู่และมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์ในจังหวัดปทุมธานีก็ยังไม่นิ่ง วันนี้จะเห็นว่าน้ำได้ขึ้นสูงขึ้นมาอีก พี่น้องประชาชนยังได้รับผลกระทบและมีความเดือดร้อนอยู่ เราจึงต้องลงพื้นที่ดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาภัยอย่างต่อเนื่อง วันนี้เราได้รับการร้องขอจากพี่น้องประชาชน ได้แก่เรื่องไฟฟ้า จึงมอบหมายรองนายก อบจ.ปทุมธานี , เลขา นายก อบจ.ปทุมธานี ,และที่ปรึกษาฯ ที่ได้ลงเรือไปมอบอุปกรณ์ตรวจกระแสไฟฟ้าในน้ำ

นอกจากนี้ยังมอบแพโฟมเพื่อขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ  และถุงรอดชีพ มีอาหาร สิ่งจำเป็นและยาป้องกันน้ำกัดเท้าไปให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำเพราะเขาอาจจะไม่สะดวกในการออกมาซื้อหาอาหาร ซึ่งเราได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและดีที่สุด และทางสมาคมนายก อบจ.จะมอบถุงรอดชีพมาให้อีก 1,000 ถุง หากน้ำทะเลไม่หนุนมาเพิ่มรวมถึงไม่มีมรสุมซ้ำเข้ามา ผมเชื่อว่าเราเอาอยู่ ส่วนบริเวณถนนที่เป็นคันกั้นน้ำเราได้เตรียมแท่งแบริเออร์และกระสอบทรายพร้อมอยู่แล้ว

ปทุมธานี - “บิ๊กแจ๊ส” เตือนมวลน้ำปีนี้น้อง ๆ ปี 54 ประชาชนอย่าประมาท! ร่วมสมาคม อบจ.ช่วยเหลือคนปทุม

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2564 เวลา 10:30 น. นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย มอบหมายให้ นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วมจังหวัดแห่งประเทศไทย ร่วมลงพื้นที่มอบถุงยังชีพ 1,000 ถุง ให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่างนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นางรุจศลักษณ์ ธูปกระจ่าง ตั้งวงษ์เลิศ (น้องบาย) เลขานุการนายก อบจ.ปทุมธานี เพื่อไปมอบให้กับประชาชนเพื่อเป็นกำลังใจและบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง ที่ชุมชนวัดบางหลวง ตำบลบางหลวง อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี

สืบเนื่องจากกองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้ประเมินและวิเคราะห์ปริมาณฝนตกร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยาและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) คาดการณ์ปริมาณน้ำหลากจากตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาจากแม่น้ำปิงจะทำให้มีน้ำไหลผ่านบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ เพิ่มสูงสุดจากอัตรา 2,484 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 3,000-3,100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 22 ตุลาคม 2564 โดยจะบริหารจัตการน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา ด้วยการหน่วงน้ำและผันน้ำเข้าคลองต่าง ๆ ด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยา ทำให้มีปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อยู่ในเกณฑ์ 2,700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อนเจ้าพระยา มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น จากปัจจุบันประมาณ 20-40 เซนติเมตร ในช่วงวันที่ 23-30 ตุลาคม 2564 

ด้าน นางบังอร วิลาวัลย์ ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมองค์การบริหาร่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า นายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคมองค์การบริหาส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย (นายก อบจ.สุพรรณบุรี) ได้มอบหมายให้ตนเองและทีมงานที่มาด้วยความตั้งใจและห่วยใยพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมไม่ว่าผู้ประสบภัยจะอยู่ที่ไหน สมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย จะเข้าไปช่วยส่วนในจังหวัดปทุมวันนี้ได้จัดถุงยังชีพ 1,000 ชุด บรรจุบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 10 ซอง ปลากระป๋อง 10 กระป๋อง และข้าวสารหนัง 15 กิโลกรัม เพื่อบรรเทาภัยให้กับผู้ที่ประสบอุทกภัยน้ำท่วม 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลบางหลวง ตำบลบางเดื่อ และตำบลบ้านฉาง จำนวน 500 ชุด และอีก 500 ชุด ทางพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี และทีมงานจะทำไปมอบยังจุดอื่น ๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป

ระยอง - ทัพเรือภาคที่ 1 เช็คความพร้อม!! นำคณะตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยรับมืออุทกภัย และภัยพิบัติทุกรูปแบบ

ณ สถานีการบิน กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ อ.บ้านฉาง จว.ระยอง พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 (ผบ.ทรภ.1) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ 1 (ผอ.ศบภ.ทรภ.1) กองทัพเรือ นำคณะตรวจความพร้อมของกำลังพล และยุทโธปกรณ์ ที่ใช้ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยของ เพื่อเตรียมความพร้อมของกำลังพล อุปกรณ์และยุทโธปกรณ์ ในการช่วยเหลือประชาชน ของหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้เป็นที่ประจักษ์ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ ประชาชน ได้แก่ กำลังพลจาก กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 1 กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ฐานทัพเรือสัตหีบ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการต่อสู้ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง เมืองพัทยา และอำเภอสัตหีบ เพื่อรับมือต่อสถานการณ์ภัยพิบัติทุกรูปแบบ และพร้อมปฏิบัติงาน ได้อย่างทันท่วงที เมื่อรับคำสั่งจากกองทัพเรือ

พลเรือโท พิชัย ล้อชูสกุล กล่าวว่า ตามที่กองทัพเรือ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ อนุมัติให้ ทัพเรือภาคที่ 1 จัดตั้งศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ 1 ขึ้น มีหน้าที่รับผิดชอบในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เมื่อเกิดภัยพิบัติต่าง ๆ ประกอบกับปัจจุบันอยู่ในห้วงฤดูมรสุม คลื่นลมแรง รวมทั้งสภาพภูมิอากาศที่แปรเปลี่ยนไปของภูมิภาค มีแนวโน้มที่อาจเกิดภัยพิบัติขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อให้การเตรียมความพร้อม ในการให้ความช่วยเหลือประชาชน เป็นไปอย่างทันท่วงที และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด

จึงได้จัดให้มีพิธีตรวจความพร้อมขึ้นในครั้งนี้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนว่า "เรามีความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที" อย่างไรก็ตามขอให้ทุกหน่วยจัดเตรียมกำลังพล ยุทโธปกรณ์ ให้มีความพร้อมสูงสุด พร้อมที่จะปฏิบัติงานในการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์

 

“สุชาติ” รมว.แรงงาน ห่วงใยลูกจ้าง - ผู้ประกันตน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564 นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจผู้ป่วยประกันสังคม และมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย ณ หมู่ที่ 5 ตำบลท่าช้าง อำเภอเมือง จังหวัดจันทบุรี โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะรัตน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายอลงกรณ์ แอคะรัจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดจันทบุรี นายแพทย์ธีรพงศ์ ตุนาค ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน จังหวัดจันทบุรี เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยกับสื่อมวลชนว่า รัฐบาลภายใต้การนำของท่านพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของท่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยพี่น้อง ผู้ใช้แรงงานและประชาชน ที่ได้รับผลกระทบจากวิกกฤตสถานการณ์ต่าง ๆ เช่น สถานการณ์โรคระบาด เชื้อไวรัสโควิด-19 หรือปัญหาผลกระทบความเดือดร้อนจากอุทกภัยในปัจจุบัน รวมถึงให้ความสำคัญในการดูแลผู้ประกันตนอย่างใกล้ชิดในทุก ๆ ด้าน เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณี แม้ลูกจ้าง/ผู้ประกันตน ประสบอันตราย หรือมีความไม่ปลอดภัยเกิดขึ้นจะต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ในวันนี้ ตนและคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีโอกาสลงพื้นที่ในจังหวัดจันทบุรี พร้อมมอบของเยี่ยมลูกจ้าง/ผู้ประกันตนเพื่อเป็นกำลังใจ และมอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลพระปกเกล้าจันทบุรี

 

สระบุรี - ติดตามสถานการณ์ การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และสถานการณ์โควิด-19 พร้อมเร่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือ

วันนี้ 28 ตุลาคม 2564 ที่ห้องประชุมพระพุทธบาท ศาลากลางจังหวัดสระบุรี นายแมนรัตน์ รัตนสุคนธ์ ผวจ.สระบุรี ประชุมคณะกรมการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการและหัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ประจำเดือน ตุลาคม 2564 มอบนโยบายและติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ ที่ผ่านมาในรอบเดือนตุลาคม 2564

สถานการณ์อุทกภัยจากการรายงานเหตุด่วนของอำเภอ มีพื้นที่ประสบภัย จำนวน 13 อำเภอ 55 ตำบล 274 หมู่บ้าน 15 ชุมชน 8,127 ครั้วเรือน ขณะนี้จังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย จำนวน 12 อำเภอ 52 ตำบล 301 หมู่บ้าน 15 ชุมชน และประกาศเขตให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินในพื้นที่ 11 อำเภอ 48 ตำบล 290 หมู่บ้าน 13 ชุมชน  ที่ผ่านมาได้บูรณาการทุกภาคส่วนให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยมาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นั้น นายแพทย์สาะรณสุขจังหวัดสระบุรี รายงานว่า สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้นตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ต่ำกว่าร้อยต่อวัน และขณะนี้วัคซีนเพียงพอที่จะให้บริการกับประชาชนว่า ผู้ที่จะฉีดวัคซีนสามารถรับบริการได้ทั้งหมดทั้งชาวไทยและต่างประเทศตามสถานที่บริการฉีด ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 12 ปี จะรับวัคซีนได้เฉพาะ ไฟเซอร์ เท่านั้น ซึ่งเด็กต่ำกว่า 12 ปี ไม่จำเป็นต้องอยู่ในสถานศึกษา สามารถรับบริการได้ทุกคน

นายเอกพร จุ้ยสำราญ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เปิดเผยว่า จากที่ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ให้บริหารเรื่องวัคซีนโควิด-19 ในกรณีของ อบจ.สระบุรี ที่สั่งจองชิโนฟาร์ม จำนวน 3 หมื่นคน จังหวัดฯได้รับจัดสรรมาจำนวนประมาณ 1 หมื่นคน โดยจะทำการฉีดให้ประชาชนในวันที่ 29 ต.ค. 31 ต.ค. และ 1 พ.ย. 64 ณ อบจ.สระบุรี


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top