Wednesday, 15 May 2024
อาการป่วย

อัศจรรย์ผลการรักษา 'วินัย ไกรบุตร' ร่างกายเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ หลัง 'ขมากรรม-อโหสิกรรม' บุคคล 5 คน ตามขั้นตอนพิธีบุญ

(6 ธ.ค.66) ‘หนุ่ม คงกระพัน’ เผยคลิปล่าสุด ‘วินัย ไกรบุตร ไปลำพูนรับชื่อเจ้ากรรม 2 คนสุดท้าย’ โดย ‘เอ๋ อรชัญญาช์’ ภรรยา ‘เมฆ วินัย ไกรบุตร’ ทำหน้าที่เป็นตัวแทนสามี เดินทางไปหา อ.ไพศาล แสนไชย ที่ จ.ลำพูน อีกครั้ง

โดยขณะนั่งรถไป หนุ่ม คงกระพัน ได้อัปเดตอาการ ‘เมฆ วินัย’ ซึ่ง ‘เอ๋’ ได้อัปเดตอาการสามีสัญญาณดีขึ้น หลายคนสังเกตผิวเริ่มสีชมพู จากที่ดำๆ เขียวๆ ที่บางคนบอกเหมือนศพ ตอนนี้สีผิวสีหน้าก็ดีขึ้น รูปหน้ากลับเข้ารูปเดิม

ย้อนการรักษาเกือบ 5 ปี ทดลองรักษามาหลายขนาน ยาที่ใครลองแล้วหาย หรืออย่างน้อยเสมอตัว แต่ ‘วินัย ไกรบุตร’ ลองแล้วอาการยิ่งแย่ โดย ‘หนุ่ม คงกระพัน’ กล่าวว่า คนอื่นหายหมด ยาระดับโลก นวัตกรรมใหม่ คนอื่นถึงไม่หายไม่ดีขึ้น แต่ก็ไม่เคยแย่ลง แต่ ‘วินัย ไกรบุตร’ แย่ลง มันแปลก

‘เอ๋’ เผยว่า อาจารย์หมอประวิตร (อาจารย์หมอที่จุฬาฯ ผู้รักษาวินัย ไกรบุตร) ซึ่งเข้าใจคนไข้มาก และเราปรึกษาอาจารย์หมอทุกอย่าง และทำในสิ่งที่ไม่กระทบการรักษา อาจารย์เคยพูดคนที่เป็นเหมือนพี่เมฆเข้ามาหาอาจารย์หายหมดแล้ว บางคนเดือนหนึ่ง บางคนสิบปี พอเราได้มาหา อ.ไพศาล ทิศทางดีขึ้น ก็ดีใจมาก ล่าสุดอาจารย์หมอถอยยาแล้ว

ซึ่งทุกครั้งที่ถอยยา ตุ่มขึ้นอย่างน้อยๆ เป็นพัน ต้องจับมือสู้ เพราะ 7-14 วันมันถึงจะเริ่มสงบ ช่วงทรมานคือ 14 วัน - 1 เดือน หลังปรับยา แต่รอบนี้ไปปรับยามาเป็นอาทิตย์เหมือนกัน นิ่ง ตุ่มไม่ขึ้น (หนุ่ม คงกระพัน ถึงกับลั่นว่า อัศจรรย์) จนถ้าวันหนึ่งร่างกายเราผลิตสเตอรอยด์ได้เอง เราถึงจะไม่ต้องใช้ยา (รายการยังเปิดภาพที่ ‘เมฆ วินัย’ เคยป่วยช่วงพีกๆ อาการรุนแรงผิวหนังเป็นตุ่มไปหมดด้วยมีเลือดออก)

โดยไปถึงบ้าน อ.ไพศาล เบื้องต้นทราบว่า อาจารย์เปิดบุพกรรม สำหรับเจ้ากรรมนายเวรอีก 2 คนที่เหลือ ก่อนจะได้พบอาจารย์ซึ่งตอนนี้มีคนมาเข้าคิวรอพบอาจารย์พบมาก ได้คุยกับผู้ช่วยอาจารย์ ทราบว่า 2 เจ้ากรรมนายเวรที่เหลือของ ‘เมฆ วินัย’ มีคนใดคนหนึ่งยังมีชีวิตอยู่ และทั้ง 2 คนอยู่ในกรุงเทพฯ ด้วย

'อธิบดีราชทัณฑ์' ไฟเขียว!! 'ทักษิณ' นอนโรงพยาบาลต่อ อ้าง!! ความเห็นแพทย์ อาการป่วยยังต้องดูแลอย่างใกล้ชิด

(11 ม.ค. 67) นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายทักษิณ ชินวัตร ออกไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ เกิน 120 วัน ว่า นายทักษิณ มีโรคประจำตัวหลายโรคที่อยู่ระหว่างการรักษาติดตามอาการ โดยโรคที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และเนื่องจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยังขาดเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพ

แพทย์จึงมีความเห็นว่าเพื่อป้องกันความเสี่ยงอันตรายที่อาจจะส่งผลต่อชีวิตเห็นควรส่งตัวไปโรงพยาบาลตำรวจที่มีความพร้อม มีเครื่องมือทางการแพทย์ที่มีศักยภาพสูงกว่าโดยแนวปฏิบัติกรณีมีผู้ป่วยที่ต้องเฝ้าระวัง และยังคงรักษาตัวอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันนี้

แพทย์ได้รายงานอาการเจ็บป่วยในหลายประการที่ต้องเฝ้าระวัง โดยแจ้งความเห็นว่า ผู้ป่วยอยู่ระหว่างการรักษาของแพทย์เฉพาะทางและต้องดูแลอย่างใกล้ชิดถึงอาการป่วย เพื่อให้พ้นจากสภาวะอันตรายแก่ชีวิต เพื่อให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร จึงได้รายงานมายังกรมราชทัณฑ์เพื่อดำเนินการพิจารณา ตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ. 2563
ที่ระบุไว้ว่า

กรณีผู้ต้องขังต้องพักรักษาตัวที่สถานที่รักษาเป็นเวลานาน ให้ผู้บัญชาเรือนจำดำเนินการ ดังนี้ กรณีการพักรักษาตัวเกินกว่า 120 วัน ให้มีหนังสือขอความเห็นชอบจากอธิบดี พร้อมกับความเห็นแพทย์ผู้ทำการรักษาและหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง และรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้พิจารณาจากความเห็นของแพทย์ผู้ทำการรักษาที่พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่ายังต้องดูแลรักษาอย่างใกล้ชิด ประกอบกับเอกสารหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องซึ่งมีความครบถ้วนตามกฎหมาย จึงพิจารณาเห็นชอบ เมื่อวันที่ 8 ม.ค.2567 ให้นายทักษิณอยู่รักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากยังคงมีอาการเจ็บป่วยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยแพทย์ผู้ทำการรักษาเฉพาะทาง และหากเกิดภาวะแทรกซ้อน หรืออาการที่อาจเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตจะได้ดำเนินการรักษาอย่างทันท่วงที

นายสหการณ์ กล่าวว่า ตั้งแต่กรมราชทัณฑ์ส่งนายทักษิณเข้ารักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ตนเองยังไม่เคยพบและเข้าเยี่ยมนายทักษิณแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนจำนวนผู้ต้องขังที่เข้ารักษาตัวนอกเรือนจำเกิน 120 วัน ไม่ได้มีเพียง 3 ราย แต่ยังมีอีกนับหมื่นรายที่ต้องพิจารณาว่าจะให้นอนพักรักษาตัวเกิน 60 วัน หรือ 120 วัน ส่วนโครงการพักการลงโทษกรณีเหตุพิเศษเนื่องจากเจ็บป่วยร้ายแรง หรือพิการ หรืออายุ 70 ปีขึ้นไป ถือเป็นคุณสมบัติของผู้ต้องขังอยู่แล้ว ซึ่งต้องรับโทษมาแล้ว 1 ใน 3 โดยราชทัณฑ์ต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพราะผู้ต้องขังทั่วประเทศมีมากกว่า 1 แสนราย

สำหรับผู้ต้องขังที่จะได้รับประโยชน์จากเงื่อนไขดังกล่าว มีทั้งการลดวันต้องโทษ ได้รับการพักโทษ หรือกรณีที่จำเป็นต้องได้รับการพระราชทานอภัยโทษ โดยรายชื่อผู้ต้องขังที่จะผ่านเกณฑ์นี้ ผู้บัญชาการเรือนจำแต่ละแห่งจะต้องรวบรวมรายชื่อและพิจารณาคุณสมบัติของผู้ต้องขังก่อน ก่อนนำเสนอมายังตนเอง ในฐานะอธิบดีกรมราชทัณฑ์

กรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการปฏิบัติตามกฎกระทรวงฯ จึงรายงานให้รัฐมนตรีทราบต่อไป ซึ่งเป็นไปตามกฎกระทรวงการส่งตัวผู้ต้องขังไปรักษาตัวนอกเรือนจำ พ.ศ.2563 โดยกรมราชทัณฑ์ ยังคงยึดหลักการสิทธิขั้นพื้นฐานที่ผู้ต้องขังพึงได้รับตามมาตรฐานสากลรวมถึงเคารพในหลักสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้ป่วยและตามจรรยาบรรณของแพทย์ ข้อมูลส่วนบุคคลหรือการเผยแพร่ข้อมูลส่วนบุคคล จำเป็นต้องได้รับคำยินยอมจากเจ้าของข้อมูลด้วย กรมราชทัณฑ์จึงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยออกสู่สาธารณชนได้ ตามพระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2550 ตลอดจนประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 323 และข้อบังคับแพทย์สภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกร พ.ศ.2549 ข้อ 27 ซึ่งแพทย์ต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ตัวแทน ‘นพ.ใหญ่’ เผยอาการ ‘ทักษิณ’ สวิงขึ้น-ลง  เสี่ยงวิกฤตตลอดเวลา ยืนยัน!! รักษาตัวอยู่จริง

(14 ก.พ.67) ที่โรงพยาบาลตำรวจ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ ไทย (คปท.) ได้ไปเจรจากับตัวแทนของนายแพทย์ใหญ่ เกี่ยวกับอาการป่วยของ นายทักษิณ ชินวัตร โดยได้รับคำตอบว่า อาการของนายทักษิณสวิง ขึ้น ๆ ลง ๆ ชีพจรไม่คงที่ เนื่องจากนายทักษิณ อายุ 75 ปี ซึ่งอาการเสี่ยงวิกฤตตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม เมื่อขอขึ้นไปเยี่ยมอาการที่ชั้น 14 ตัวแทนนายแพทย์ไม่ได้อนุญาต นอกจากนี้ ในส่วนสอบถามคำถามอื่น ๆ ไม่ได้รับคำตอบ และโยนให้ไปถามทางราชทัณฑ์แทน

พร้อมกันนี้ ทาง คปท. ได้ตั้งข้อสงสัยกับทางแพทย์ว่า เมื่อถึงวันพ้นโทษอาการของนายทักษิณจะอาการดีขึ้นและสามารถเดินเหินได้หรือไม่ นายแพทย์บอกว่ายังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งส่วนนี้เป็นที่น่าสงสัยของประชาชนที่ตั้งคำถาม อยากให้ประชาชนช่วยจับตาดูว่าหากมีการพักโทษแล้ว อาการของทักษิณจะกลับมาปกติเลยหรือไม่ 

ส่วนข้อสงสัยที่ว่านายทักษิณยังรักษาตัวอยู่ชั้น 14 หรือไม่นั้น ทางแพทย์ยืนยันว่า ยังคงมีการรักษาตัวอยู่จริง ซึ่งตนกับทางคณะยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทั้งนี้ ทาง คปท.จะปักหลักที่สะพานชมัยมรุเชฐต่อ จนกว่าจะถึงวันพักโทษ และจะจับตาดูอัยการว่ามีการเคลื่อนไหวอย่างไรบ้างหลังจากนายทักษิณได้พักโทษ

นายพิชิต ระบุอีกว่าหลังจากการพักโทษ ทาง คปท.จะมีการไปทวงถาม ป.ป.ช.ว่ามีการสอบนายข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับการให้นายทักษิณรักษาตัวนอกเรือนจำ ว่ามีการสอบไปถึงไหนแล้ว ซึ่งเคยยื่นเอกสารให้ตรวจสอบไปแล้วก่อนหน้านี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top