Sunday, 6 July 2025
อังกฤษลิซทรัสส์

'ลิซ ทรัสส์' ถูกกดดันให้ออกต่อเนื่อง หลังแผนกระตุ้นศก.ไม่เข้าตา และแม้จะปลดขุนคลังที่ทำงานได้เพียง 38 วันด้วยแล้วก็ตาม

ในที่สุด นายกวาซี กวาร์เทง (Kwasi Kwarteng) รัฐมนตรีคลังผิวสีคนแรกของอังกฤษ ก็ถูกนายกรัฐมนตรีนางเอลิซาเบธ ทรัสส์ ปลดออกเมื่อตอนบ่ายของวันที่ 14 ตุลาคม ตามเวลาในลอนดอน โดยเขาได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 8 กันยายน และอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีคลังเพียง 38 วันเท่านั้น 

สาเหตุมาจากแผนงบประมาณของเขาที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก จนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ค่าของเงินปอนด์ตกหนักเมื่อแลกกับเงินดอลล่าสหรัฐฯ เมื่อราวสองสัปดาห์ที่ผ่านมา บวกกับ ส.ส.พรรคคอนเซอเวทีฟได้โจมตี งบประมาณที่เรียกว่า Mini-Budget  อย่างรุนแรง ลุกลามไปจนถึงความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีลิซ ทรัสส์

สำหรับสาระสำคัญของความไม่พอใจในงบประมาณ ที่นายกวาร์เทงประกาศออกมาเมื่อวันที่ 23 กันยายนนั้น เป็นการประกาศที่จะลดภาษีชุดใหญ่ของประเทศในรอบ 10 ปีที่นายกรัฐมนตรีคาดว่าจะเป็นการช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอังกฤษอย่างได้ผล 

แต่ทว่าผลลัพธ์กลับสร้างความไม่พอใจให้กับส.ส. ในพรรคของเขาเอง และมองกันว่าเป็นการอุ้มคนรวยมากกว่า และเมื่อรัฐบาลกลับลำในคำสัญญาที่ว่าจะยกเลิกการขึ้นภาษีนิติบุคคลจาก 19% เป็น 25% ในปีหน้า แต่เมื่อวานนี้ในการแถลงข่าวนายก ทรัสส์ประกาศยกเลิกคำสัญญานี้เสียโดยให้ขึ้นเป็น 25% ตามเดิม ก่อให้เกิดความไม่มั่นใจต่อภาคธุรกิจอย่างมาก หรือการเก็บภาษีเงินได้ผู้ที่มีรายได้สูงได้เปลี่ยนมาเป็นอัตราเดียวคือ 40%

อีกประเด็นหนึ่งที่มีการวิจารณ์กันมากในนโยบายของรัฐบาลคือ การประกาศลดภาษี หากแต่จะต้องไปกู้ยืมเงินมาใช้จ่ายแทน 

ความไม่ชัดเจนของนโยบายและการเปลี่ยนไปมาที่เกิดขึ้นทำให้ความน่าเชื่อถือของรัฐบาลของนางลิซ ทรัสส์ ถูกตำหนิและวิจารณ์อย่างมากในระยะสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา

หลังจากที่ปลดนายกวาร์เทงแล้ว นายกรัฐมนตรีได้แต่งตั้งนายเจเรมี ฮันท์ เป็นรัฐมนตรีคลังคนใหม่ โดยนายฮันท์เคยเป็นเจ้ากระทรวงต่างประเทศ รวมถึงสาธารณะสุขมาก่อน และในการชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคล่าสุดนายฮันท์ ก็สนับสนุนนายริชชี่ สุหนาก คู่แข่งของนางทรัสส์ด้วย

อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์บางคนมีความเห็นว่าการปลดนายกวาร์เทงออก ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหรือช่วยให้เกิดความน่าเชื่อถือต่อประเทศได้นักในขณะนี้ หรือแม้แต่การขึ้นภาษีนิติบุคคลก็ช่วยได้ไม่มากพอ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top