Sunday, 19 May 2024
หวังอี้

'หวัง อี้' พบ 'ดอน' พูดคุยกันแบบพี่น้อง ย้ำสัมพันธ์ 2 ประเทศแน่นแฟ้น ไร้แรงกดดัน

เลขานุการ รมว.กต. เผยผลการหารือ 'หวัง อี้' กับ 'ดอน' ยินดีที่เส้นทางรถไฟความเร็วสูงของไทยคืบหน้า / จีนนำเข้าผลไม้จากไทยโดยเฉพาะทุเรียนและมังคุดจำนวนมาก / นักศึกษาไทยกลับเข้าไปเรียนในจีนได้แล้ว / ไทยให้ช่วยจัดการปัญหา Call Center

(6 ก.ค.65) นันทิวัฒน์ สามารถ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ และอดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงผลการหารือระหว่างนาย หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน กับนายดอน ปรมัติวินัย รองนายกและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ว่า…

เมื่อ (5 ก.ค.65) รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง อี้ ได้เดินทางเยือนไทยและได้เข้าประชุมหารือกับท่านดอน ปรมัติวินัย รองนายกและรัฐมนตรีต่างประเทศของไทย ที่กระทรวงการต่างประเทศ นอกจากการประชุมทวิภาคีของทั้งสองประเทศแล้ว รัฐมนตรีของทั้งสองประเทศยังได้มีการหารือแบบที่เรียกว่า ‘4 Eyes Meeting’ คือ เป็นการคุยกันส่วนตัวสองต่อสอง ไม่มีลูกทีม ไม่มีคนจดบันทึกการหารือ หลังจากนั้น รัฐมนตรีต่างประเทศจีนได้เข้าเยี่ยมคำนับนายกรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาลอีกด้วย 

อยากจะเล่าบรรยากาศการประชุม และหัวข้อการประชุมให้พวกเราได้รับทราบเท่าที่จะเล่าได้ เริ่มต้นฝ่ายจีนได้บอกก่อนเลยว่า ไทยจีนไม่ใช่อื่นไกล พี่น้องกันการคุยกันในวันนี้เป็นการคุยกันในบรรยากาศของพี่น้อง เป็นการประชุมที่เป็นอย่างมิตรภาพ ไม่มีแรงกดดัน ไม่มีการเรียกร้องอะไรจากฝ่ายไทย ไม่มีการชี้นิ้วสั่ง

จีนแสดงความยินดีที่การก่อสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงของไทยคืบหน้า จะทำให้สามารถเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจ 3 ประเทศและอีอีซีของไทย ซึ่งจะเป็นเส้นทาง Logisticที่สำคัญ

ทั้งสองฝ่ายมีความต้องการตรงกันคือ เรียกร้องให้เกิดสันติภาพในโลกและภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องก้นในแก้ไขปัญหาอย่างสันติ

‘หวัง อี้’ พบปะ ‘ดอน ปรมัตถ์วินัย’ หารือสายสัมพันธ์ ‘จีน-ไทย’

(14 ก.พ. 66) สำนักข่าวซินหัว เผยว่า เมื่อวันจันทร์ (13 ก.พ.) ‘หวัง อี้‘ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) พบปะกับ ‘ดอน ปรมัตถ์วินัย‘ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ณ กรุงปักกิ่งของจีน

‘หวัง‘ สมาชิกกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคฯ กล่าวว่า จีนและไทยใกล้ชิดกันดังครอบครัว โดย ‘สีจิ้นผิง‘ ประธานาธิบดีจีน ได้เดินทางเยือนไทยในปีก่อนและบรรลุฉันทามติสำคัญกับฝ่ายไทยในการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกัน เพื่อความมั่นคง ความมั่งคั่ง และความยั่งยืนยิ่งขึ้น

หวังเสริมว่า ฝ่ายจีนพร้อมทำงานร่วมกับไทยเพื่อดำเนินการตามผลลัพธ์จากการเดินทางเยือนไทยของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง คุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมตามกฎหมายของสองประเทศ และพิทักษ์สันติภาพและเสถียรภาพระดับภูมิภาค

‘หวัง อี้’ แนะ ‘ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้’ รู้จักรากเหง้าตัวเอง

หวังอี้ ผู้รับผิดชอบนโยบายต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เรียกร้องให้เกิดความสามัคคีกันระหว่าง จีน, ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ โดยระบุว่า “ชาวตะวันตกไม่สามารถแยกความแตกต่างระหว่างชาวจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ได้ และไม่ว่าเราจะย้อมผมทองแค่ไหน ทำจมูกโด่งแค่ไหน เราก็ไม่สามารถเป็นชาวตะวันตกได้ เราควรรู้ว่ารากเหง้าเราอยู่ที่ไหน”

‘จีน’ ไม่แคร์เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ‘หวัง อี้’  หลังเตือนเกาหลีใต้-ญี่ปุ่น ‘อย่าลืมรากเหง้า’ 

โฆษกรัฐบาลจีนออกมาปฏิเสธกระแสวิพากษ์วิจารณ์กรณี หวัง อี้ นักการทูตระดับสูงออกมากล่าวเตือนเกาหลีใต้และญี่ปุ่นว่าอย่าลืมรากเหง้าความเป็นเอเชีย แถมยังบอกด้วยว่าชาวตะวันตกนั้นแยกแยะไม่ออกระหว่างคนจีน คนเกาหลีใต้ และคนญี่ปุ่น

“ชาวอเมริกันมองนักท่องเที่ยวจากจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นว่าเป็นคนเอเชียเหมือนกันหมด พวกเขาแยกแยะความแตกต่างไม่ได้ ยุโรปก็เหมือนกัน” หวัง อี้ สมาชิกกรมการเมืองและผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวบนเวทีเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยสำนักงานเลขาธิการความร่วมมือไตรภาคี (Trilateral Cooperation Secretariat) ซึ่งเป็นองค์กรความร่วมมือระหว่างจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ที่เมืองชิงเต่าของจีน เมื่อวันจันทร์ (3 ก.ค.)

“ต่อให้คุณย้อมผมให้เป็นสีทอง ทำจมูกให้โด่ง คุณก็ไม่มีทางกลายเป็นคนยุโรปหรือคนอเมริกันไปได้ คุณไม่มีทางกลายเป็นชาวตะวันตกได้หรอก”

“คนเราควรรู้จักรากเหง้าของตัวเอง... จีน ญี่ปุ่น เกาหลี หากเราสามารถจับมือและร่วมมือกันได้ ไม่เพียงจะเป็นประโยชน์ต่อเราทั้ง 3 ชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับความปรารถนาของประชาชน และเราสามารถที่จะเจริญรุ่งเรืองไปด้วยกัน ฟื้นฟูเอเชียตะวันออก และทำให้ทั่วทั้งโลกร่ำรวยขึ้น”

คำพูดของ หวัง อี้ เรียกเสียงวิจารณ์อย่างดุเดือดทันที โดยเฉพาะจากพวกนักวิชาการออนไลน์

หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้ตอบคำถามสื่อเกี่ยวกับเสียงวิจารณ์เหล่านี้ในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธ (5 ก.ค.) โดยระบุว่า “เราไม่เห็นด้วยเลย (กับพวกที่ตำหนิ หวัง อี้)”

ระหว่างการประชุม หวัง อี้ ยังเน้นย้ำเรื่องความร่วมมือระหว่างทั้ง 3 ชาติ และบอกว่า “มหาอำนาจภายนอกบางประเทศจงใจกระพือเรื่องค่านิยมที่แตกต่าง จัดตั้งกลุ่มย่อยเป็นการเฉพาะขึ้นมา และพยายามเอาการเผชิญหน้าและการแบ่งแยกมาแทนที่ความร่วมมือและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว”

“ภูมิภาคที่มีความเป็นปึกแผ่นและพึ่งพาตนเองได้เท่านั้นจึงจะสามารถขจัดการแทรกแซงจากภายนอก และประสบความสำเร็จในการพัฒนาที่ยั่งยืน”

บอนนี เกลเซอร์ ผู้อำนวยการกองทุนจอร์จมาร์แชลล์แห่งสหรัฐฯ (George Marshall Fund of the United States) ประจำภูมิภาคเอเชีย ได้ทวีตข้อความตอบโต้ หวัง ว่า “สารนี้จะไม่ถูกตอบรับด้วยดีจากญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ หวัง อี้ เชื่อจริงๆ หรือว่าผลประโยชน์ของชาติมีความสำคัญน้อยกว่ารูปลักษณ์ภายนอก?”

“หวัง อี้ บอกกับชาวญี่ปุ่นและชาวเกาหลีว่า ‘พวกเขาไม่สามารถเป็นอเมริกันได้’ แต่ในความเป็นจริงมีคนญี่ปุ่นและคนเกาหลีมากมายที่แปลงสัญชาติเป็นอเมริกันทุกวัน” เจฟฟ์ เอ็ม. สมิธ ผู้อำนวยการศูนย์เอเชียศึกษาของสถาบันคลังสมอง The Heritage Foundation ระบุ

“พวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของสังคมอเมริกา และสิ่งที่พวกเขาเป็นไม่ได้ก็คือคนจีน”

นักวิจารณ์บางคนยังชี้ว่า คำพูดของ หวัง ฟังดูคล้ายๆ กับคำขวัญ “วงไพบูลย์ร่วมแห่งมหาเอเชียบูรพา” (Greater East Asia Co-Prosperity Sphere) ซึ่งเป็นความพยายามของญี่ปุ่นในช่วงศตวรรษที่ 20 ที่จะรวบรวมและสร้างแนวป้องกันแห่งชาติเอเชียเพื่อหลุดพ้นจากอิทธิพลของชาติตะวันตก

ความจริงใจ สำคัญ!! ‘หวังอี้’ กระตุ้นสหรัฐฯ ดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม  พาสัมพันธ์ ‘จีน-สหรัฐฯ’ กลับเส้นทางที่ถูกต้อง

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. 66 ‘หวังอี้’ นักการทูตอาวุโสของจีน กล่าวว่าสหรัฐฯ ควรดำเนินการอันเป็นรูปธรรม เพื่อนำพาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางที่ถูกต้อง

‘หวัง’ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางของจีน ซึ่งพบปะกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ ณ การประชุมนอกรอบของการประชุมคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอาเซียน กล่าวว่าทั้งสองฝ่ายได้บรรลุฉันทมติผ่านการสื่อสารเชิงลึกและตรงไปตรงมาระหว่างการเยือนจีนของบลิงเคนเมื่อเดือนก่อน

หวังกล่าวว่า ฉันทมติสำคัญที่สุดคือ การกลับสู่วาระที่ผู้นำรัฐทั้งสองกำหนดไว้ในบาหลีของอินโดนีเซีย และการก้าวเดินหน้าสู่การกำหนดทิศทางที่ถูกต้องของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ

ฝ่ายสหรัฐฯ ควรพิจารณาปมปัญหาที่นำสู่ความยุ่งยากของความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ทำให้ฉันทมติที่บรรลุโดยประธานาธิบดีจีนและประธานาธิบดีสหรัฐฯ ณ การประชุมในบาหลีสู่การดำเนินการอันเป็นรูปธรรม และทำตามคำมั่นสัญญาต่างๆ ที่ ‘โจ ไบเดน’ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เคยให้ไว้

การดำเนินการอันเป็นรูปธรรมจำเป็นต่อการขจัดอุปสรรค ทั้งที่คาดถึงและคาดไม่ถึง เพื่อสั่งสมแรงขับเคลื่อนความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มีเสถียรภาพ

หวังเรียกร้องให้สหรัฐฯ ปรับใช้ทัศนคติอันสมเหตุสมผลและสอดคล้องกับความเป็นจริง ตลอดจนทำงานร่วมกับจีนในทิศทางเดียวกัน เพื่อเดินหน้าการปรึกษาหารือหลักการชี้นำความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ขยับขยายช่องทางการสื่อสารทางการทูตและความมั่นคง ยกระดับประสิทธิภาพของการสื่อสาร และเกื้อหนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน

‘หวังอี้’ เผย 'จีน' เล็งขยายความร่วมมือกับ 'ไทย' หลายด้าน เชื่อเสถียรภาพไทย แม้สถานการณ์ภายในจะมีการเปลี่ยนแปลง

(20 ส.ค. 66) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันเสาร์ (19 ส.ค.66) หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้พบปะกับดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย ซึ่งเดินทางเยือนกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน

หวัง ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่าการพัฒนาความสัมพันธ์ทวิภาคีจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ระหว่างประเทศหรือสถานการณ์ภายในประเทศของไทย พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าไทยจะยังคงมีเสถียรภาพและการพัฒนาที่ยั่งยืน

จีนพร้อมส่งเสริมความร่วมมือด้านต่างๆ กับไทยให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น สนับสนุนการเร่งสร้างทางรถไฟจีน-ไทย และเส้นทางเชื่อมทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย และร่วมพยายามปราบปรามกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งรวมถึงการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม

นอกจากนั้น หวัง กล่าวถึงความพร้อมของจีนที่จะสนับสนุนการสร้างประชาคมอาเซียน สนับสนุนความเป็นกลางของอาเซียน และสนับสนุนความพยายามร่วมกันสร้างศูนย์กลางการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันจีนพร้อมทำงานร่วมกับกลุ่มประเทศอาเซียนเพื่อเร่งการปรึกษาหารือเกี่ยวกับประมวลการปฏิบัติในทะเลจีนใต้ พยายามกำหนดกฎเกณฑ์ระดับภูมิภาคอันมีประสิทธิภาพและแก่นสารตั้งแต่ระยะแรก และสร้างทะเลจีนใต้เป็นทะเลแห่งสันติภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือ

หวัง ชี้ว่ากลุ่มประเทศในภูมิภาคควรป้องกันกองกำลังนอกภูมิภาคมายั่วยุการเผชิญหน้าแบบแบ่งพรรคแบ่งพวกและกระตุ้นความคิดเกี่ยวกับสงครามเย็น ซึ่งจะบ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพอันได้มาอย่างยากยิ่ง

ด้าน นายดอน กล่าวว่า ไทยยินดีเสริมสร้างการเสวนาหารือและการแลกเปลี่ยนกับจีน ส่งเสริมความร่วมมืออันเป็นประโยชน์ซึ่งกันและกันในด้านต่างๆ ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น และสนับสนุนการเชื่อมต่อทางรถไฟจีน-ลาว-ไทย และทำงานเพื่อการพัฒนาร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์ระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนในภูมิภาคในปัจจุบัน

'หวังอี้' เยือนวอชิงตัน ส่งสารผู้นำจีนถึง 'ไบเดน' ตอกย้ำ 3 พันธกิจ 'เคารพ-สันติ-ร่วมมือกัน'

(28 ต.ค.66) สำนักข่าวซินหัว เผย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ได้พบปะกับ หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันศุกร์ (27 ต.ค.)

หวัง ซึ่งเป็นกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (CPC) ได้ถ่ายทอดคำทักทายของสีจิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ต่อไบเดนเป็นลำดับแรก

หวัง ระบุเพิ่มเติมว่าการเดินทางเยือนสหรัฐฯ ของเขาในครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายสื่อสารกับฝ่ายสหรัฐฯ เพื่อดำเนินการตามความเข้าใจร่วมกันที่สำคัญซึ่งบรรลุโดยประธานาธิบดีของสองประเทศ อีกทั้งสานต่อการดำเนินการจากการประชุมสุดยอดที่บาหลีระหว่างสีจิ้นผิงและไบเดนสู่การประชุมสุดยอดที่ซานฟรานซิสโก เพื่อป้องกันไม่ให้ความสัมพันธ์ทวิภาคีเสื่อมถอยอีกต่อไป และนำพาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ กลับสู่เส้นทางการพัฒนาที่แข็งแกร่งและมั่นคงในเร็ววัน

หวัง กล่าวว่า หลักการจีนเดียวและแถลงการณ์ร่วมจีน-สหรัฐฯ (China-U.S. joint communiqués) 3 ฉบับ เป็นรากฐานทางการเมืองที่สำคัญที่สุดสำหรับความสัมพันธ์ทวิภาคี ซึ่งต้องยึดมั่นโดยปราศจากการแทรกแซง

หวัง กล่าวว่า จีนใส่ใจกับความหวังของสหรัฐฯ ในการรักษาเสถียรภาพและปรับปรุงความสัมพันธ์กับจีน พร้อมเสริมว่าทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องดำเนินการด้วยความรับผิดชอบต่อโลก ต่อประวัติศาสตร์ และต่อประชาชน และผลักดันการพัฒนาความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่มั่นคงและแข็งแรง โดยสอดคล้องกับหลักการ 3 ประการที่นำเสนอโดยสีจิ้นผิง ได้แก่ การเคารพซึ่งกันและกัน การอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และความร่วมมือที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน

หวังชี้ว่าประเด็นดังกล่าวไม่เพียงเป็นผลประโยชน์ขั้นพื้นฐานของสองประเทศและประชาชนของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นปณิธานร่วมกันของประชาคมระหว่างประเทศด้วย

ด้าน ไบเดน ได้ส่งมอบคำทักทายไปยังประธานาธิบดีสีจิ้นผิง

ไบเดน กล่าวอย่างชัดเจนว่าเขาให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีน พร้อมแสดงความหวังว่าสหรัฐฯ ยินดีรักษาการติดต่อสื่อสารกับจีนเพื่อร่วมกันจัดการกับความท้าทายระดับโลก

อนึ่ง หวังได้หารือกับแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ สองครั้ง และจัดการสื่อสารเชิงยุทธศาสตร์กับเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ ระหว่างการเดินทางเยือนวอชิงตัน ดี.ซี.

‘หวังอี้’ เข้าเฝ้าฯ ‘กรมสมเด็จพระเทพฯ’ ระหว่างเยือนไทย ย้ำชัด!! พระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพไทย-จีน

(29 ม.ค. 67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (28 ม.ค.) หวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน และกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ณ กรุงเทพมหานคร

หวัง กล่าวว่า เขาได้พบปะกับปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เมื่อวันอาทิตย์ (28 ม.ค.) เพื่อการประชุมหารือประจำปี ซึ่งทั้งสองฝ่ายบรรลุฉันทามติสำคัญว่าด้วยการสร้างประชาคมจีน-ไทยที่มีอนาคตร่วมกันให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หวังกล่าวว่าทั้งสองฝ่ายลงนามข้อตกลงการยกเว้นการตรวจลงตราหรือวีซ่าซึ่งกันและกัน ซึ่งจะเกื้อหนุนการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชน พร้อมเสริมว่าจีนและไทยมีความใกล้ชิดสนิทสนมดังครอบครัวเดียวกัน และการแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้ทั้งสองประเทศผูกพันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ หวังแสดงความหวังว่าราชวงศ์ไทย ซึ่งให้ความสำคัญยิ่งยวดกับสัมพันธไมตรีระหว่างจีนและไทยเสมอมา จะยังคงมีส่วนส่งเสริมการพัฒนามิตรภาพจีน-ไทยภายใต้สถานการณ์ใหม่

หวัง กล่าวว่า กรมสมเด็จพระเทพฯ ทรงเป็นสหายที่ดีและเพื่อนเก่าของประชาชนชาวจีน โดยพระองค์ทรงเคยได้รับเหรียญมิตรภาพและเสด็จฯ เยือนจีนมากกว่า 50 ครั้ง ซึ่งส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างประชาชนสองประเทศ และพระองค์ทรงเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรภาพจีน-ไทย

หวังกล่าวว่าทั้งสองประเทศจะเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตในปีหน้า โดยจีนพร้อมรักษาการแลกเปลี่ยนระดับสูงกับฝ่ายไทย ดำเนินการแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น และยกระดับความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างสองประเทศสู่ระดับใหม่

ด้านกรมสมเด็จพระเทพฯ ตรัสว่าพระองค์ทำนุบำรุงสัมพันธไมตรีกับจีน และมักให้นักเรียนนักศึกษาของพระองค์ได้ชมเหรียญมิตรภาพดังกล่าว โดยพระองค์หวังว่าการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือระหว่างสองประเทศจะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในด้านการศึกษา การแพทย์แผนโบราณ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการบินและอวกาศ

กรมสมเด็จพระเทพฯ ตรัสว่าพระองค์คาดหวังจะได้เยี่ยมเยือนสถานที่ต่างๆ ในจีนเพิ่มเติมในอนาคต

'นายกฯ' เผยข่าวดี หลัง 'หวัง อี้' พร้อมหนุน ส่ง ‘หมีแพนด้า’ มาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่

(29 ม.ค.67) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังหารือกับนายหวัง อี้ สมาชิกกรมการเมือง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกลางด้านกิจการต่างประเทศของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และรมว.ต่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ว่า…

“เป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ได้หารือกับนายหวัง อี้ ที่ผ่านมาสวนสัตว์เชียงใหม่เคยมีหมีแพนด้า แต่ปัจจุบันไม่มี และบังเอิญจริงๆ 2-3 วันที่ผ่านมาตนได้ดูใน x ว่าประเทศใดบ้างที่ยังมีหมีแพนด้าอยู่ ซึ่งไล่ลงมาแล้วประเทศไทยเป็นศูนย์ ซึ่งไม่ได้เป็นกระจกสะท้อนที่ดีสำหรับด้านความสัมพันธ์ทางด้านการทูตที่ดี ที่เรามีมากับประเทศจีนตลอด 50 ปีที่ผ่านมา จึงได้เรียนขอกับนายหวัง อี้ ซึ่งท่านยินดีให้การสนับสนุน 

“เราก็จะมีหมีแพนด้ากลับมาอีกครั้งนึง มาอยู่ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ ส่วนเมื่อไหร่นั้นก็คาดว่าจะดำเนินการให้เร็วที่สุด”

'จีน' ประกาศดำเนินนโยบาย 'ฟรีวีซ่า' 6 ประเทศยุโรป  กระตุ้นการฟื้นคืนเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศโดยเร็ว

(7 มี.ค.67) สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า นายหวังอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และกรรมการกรมการเมืองแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้เข้าร่วมการแถลงข่าวนโยบายต่างประเทศและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของจีน นอกรอบการประชุมครั้งที่ 2 ของสภาผู้แทนประชาชนแห่งชาติ ชุดที่ 14 ในกรุงปักกิ่งของจีน

โดยสาระสำคัญจากการแถลงนั้น หวังอี้ ได้เปิดเผยว่า จีนจะดำเนินนโยบายฟรีวีซ่า (ระยะทดลอง) กับ สวิตเซอร์แลนด์, ไอร์แลนด์, ฮังการี, ออสเตรีย, เบลเยียม และลักเซมเบิร์ก เริ่มต้นวันที่ 14 มี.ค. นี้

หวังแสดงความหวังว่าประเทศต่างๆ จะอำนวยความสะดวกด้านวีซ่าแก่พลเมืองจีนเพิ่มขึ้นเช่นกัน รวมถึงทำงานร่วมกับจีนเพื่อสร้างโครงข่ายการเดินทางข้ามพรมแดนที่รวดเร็ว และกระตุ้นการฟื้นคืนเที่ยวบินโดยสารระหว่างประเทศโดยเร็ว

หวังเสริมว่าการดำเนินนโยบายฟรีวีซ่าจะเพิ่มความสะดวกสบายแก่การเดินทางไปยังต่างประเทศของพลเมืองจีน และช่วยให้เพื่อนพ้องชาวต่างชาติในจีนรู้สึกอบอุ่นใจเหมือนอยู่บ้านของตัวเอง


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top