Thursday, 24 April 2025
สุดซอย

‘เอกนัฏ’ เอาจริง!! เดินหน้า ‘ถอนรากถอนโคน’ สั่งหยุดกิจการ พร้อมยึดใบอนุญาต โรงงานพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเพลิงไหม้ ผงะ!! พบของกลางกว่า 170 ล้าน

(1 ก.พ. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่ง ‘ทีมสุดซอย’ ขยายผลตรวจโรงงานรีไซเคิลพลาสติกเถื่อนสมุทรสาคร ที่เกิดเหตุไฟไหม้ ผงะพบเปลือกหุ้มสายไฟหลอมเป็นเม็ดพลาสติกมูลค่ากว่า 170 ล้านบาท สั่งหยุดกิจการ พร้อมยึดใบอนุญาต ฟันข้อหาตั้ง-ประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากกรณีเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บพลาสติกรีไซเคิล เมื่อวันที่ 29 ม.ค.68 พบข้อมูลทางทะเบียน ‘บริษัทมหาโชค มหาชัย เทรดดิ้ง’ จดทะเบียนบ้านที่ 111/11 ม. 6 ต.ยกกระบัตร อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร โดยมีรายงานว่าบริษัทที่ปรากฏชื่ออยู่ในโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้มีความเชื่อมโยงกับบริษัทที่อยู่ในละแวกเดียวกันทั้งหมด

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้ ชุดปฏิบัติการสุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงาน รมว.อุตสาหกรรม, นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม, นายสุนทร แก้วสว่าง รองอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม, เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ลงพื้นที่โกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำ รวมไปถึงตรวจสอบกรณีการขออนุญาตประกอบกิจการไม่ถูกต้องด้วย 

นายเอกนัฏ กล่าวต่อว่า ได้รับรายงานจากชุดปฏิบัติการสุดซอยว่า เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมกับตำรวจ บก.ปทส. ได้ขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสมุทรสาครเข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ และบริษัทใกล้เคียงที่พบว่ามีความเกี่ยวพันกันได้แก่ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัดและ บริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด ที่ตั้งอยู่ห่างกันเพียง 100 เมตร จากการตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท และโกดังที่เกิดเหตุเพลิงไหม้ พบกองพลาสติกเปลือกหุ้มสายไฟจากต่างประเทศที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการหลอมเป็นเม็ดพลาสติกรวมแล้วกว่า 6,900 ตัน ซึ่งสามารถนำไปหลอมเป็นเม็ดพลาสติกใหม่ได้มูลค่ากว่า 170 ล้านบาท 

“ทีมสุดซอยเข้าตรวจค้นพบการเปลี่ยนแปลงจากบริษัท เอ็ม ซี ที รอยัล วูด จำกัดและ บริษัท บีเค รีไซเคิล จำกัด เป็น บริษัท เถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และ บริษัท ปวริศาแอสเสท จำกัด ภายในโรงงานพบการประกอบกิจการผิดประเภทมีการตั้งโรงงานบดย่อยหลอมพลาสติก เป็นการตั้งโรงงานและประกอบกิจการโดยไม่ได้รับอนุญาต และไม่ทราบที่มาของวัตถุดิบ“ นายเอกนัฏ กล่าวระบุ 

รมว.อุตสาหกรรม กล่าวต่อว่า อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร จึงได้ออกคำสั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืนทันที และจะเพิกถอนใบอนุญาตของ บริษัท เอ็ม ซี ที รอยัลวูด จำกัด และ บริษัท บี.เค. รีไซเคิล จำกัด พร้อมดำเนินคดีตามกฎหมายกับทั้ง 2 บริษัท รวมทั้งเจ้าของที่ดินที่ตั้งโรงงาน ในข้อหาตั้ง และประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต  ซึ่งหากพบผู้กระทำผิดเพิ่มก็จะดำเนินคดีร่วมกันกระทำผิดเพิ่มเติมจนถึงที่สุด ทั้งนี้หากประชาชนพบปัญหาเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรม สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน ‘แจ้งอุต’ https://landing.traffy.in.th?key=wTmGfkav หรือไลน์ไอดี ‘traffyfondue’ เพื่อทางกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงจัดการปัญหาหรือส่งต่อให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป

‘เอกนัฏ’ สั่ง!! ‘ทีมตรวจสุดซอย’ ลุยต่อเนื่องตรวจ 2 โรงงาน เชื่อมโยง!! ไฟไหม้โรงงานพลาสติกเถื่อน จ.สมุทรสาคร

(12 ก.พ. 68) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ส่งทีมตรวจสุดซอยลุยตรวจต่อเนื่อง นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายเอกนิติ รมยานนท์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และเจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ขยายผลเหตุเพลิงไหม้โกดังทลายเครือข่ายที่เคยพบเศษพลาสติกกว่า 6,900 ตัน พร้อมตรวจค้น 2 โรงงานที่มีความเชื่อมโยงกับโรงงานพลาสติกเถื่อน จ.สมุทรสาคร ที่ถูกสั่งปิด เมื่อวันที่ 1 ก.พ.68 ที่ผ่านมา

น.ส.ฐิติภัสร์กล่าวว่า ในที่เกิดเหตุเพลิงไหม้พบป้ายชื่อบริษัทที่ติดอยู่ คือ บริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/6 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟู่ซิน หลัว เป็นหนึ่งในกรรมการจากการขยายผลพบอีก 2 บริษัทที่มีความเชื่อมโยงกัน คือ 1) บริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/6 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟูควน ลัว และนายฟู่ซิน หลัว เป็นกรรมการ ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตราย 2) บริษัทเถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ตั้งอยู่ที่ 288/12 หมู่ที่ 4 ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร มีนายฟูควน ลัว เป็นกรรมการ ประกอบกิจการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นอันตรายโดยไม่ได้รับอนุญาต

จากการตรวจค้นทั้ง 2 บริษัท พบเศษพลาสติกสายไฟนำเข้าจากต่างประเทศ บางส่วนมีลักษณะคล้ายกับเศษพลาสติกสายไฟในโกดังที่เกิดเหตุไฟไหม้ โดยนายฟูควน ลัว กรรมการบริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด รับสารภาพเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ ยังตรวจพบขยะอิเล็กทรอนิกส์และแผ่น PCB ถูกบดย่อยกองอยู่และในถุง big bags เป็นจำนวนมากในพื้นที่ ซึ่งมีบริษัท บี เค รีไซเคิล จำกัด เป็นเจ้าของ ส่วนการตรวจค้นบริษัท เถิงต๋า ที่ตั้งอยู่ติดกัน พบมีการลักลอบประกอบการโดยไม่ได้รับอนุญาต ฝ่าฝืนกกฎหมายไม่ปฏิบัติตามประกาศเรื่องสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว

พนักงานเจ้าหน้าที่และเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้จับกุมและส่งตัวนายฟูควน ลัว กรรมการบริษัท ยูนิโบร เมทัล (ไทยแลนด์) จำกัด บริษัทเถิงต๋า พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด และบริษัทเถิงฟา พลาสติก แอนด์ เมทเทิล จำกัด ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ บก.ปทส. พร้อมทั้งดำเนินคดีกับผู้มีส่วนกระทำความผิดทั้งหมดอย่างถึงที่สุด

“หากประชาชนพบเห็นปัญหาหรือเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการประกอบการอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้องหรือสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน ‘แจ้งอุต’ หรือไลน์ไอดี ‘traffyfondue’ เพื่อกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงพื้นที่จัดการกับปัญหาให้ประชาชนในทันที” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘สนธิ’ แจง!! ไม่เคยพูดว่า ‘พีระพันธุ์’ เกี่ยวข้องกับคนบนเรือในคดีแตงโม แต่เชื่อ!! รู้จักกับ ‘ปอ ตนุภัทร’ สนิทถึงขั้นให้เรียก ‘อาตุ๋ย’ อย่างเป็นกันเอง

(16 ก.พ. 68) นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส และเจ้าของสื่อในเครือผู้จัดการ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า …

ขอชี้แจงเรื่องคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ผมขอชี้แจงเรื่องที่ผมพูดไปใน "สนธิเล่าเรื่อง" เมื่อวันพุธที่ผ่านมา(12ก.พ.) ว่า คุณปอ ตนุภัทร หนึ่งในคนบนเรือ ได้มีการโทรศัพท์คุยกับคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค นั้น ผมยืนยันว่าไม่ได้เป็นข้อมูลที่มาจาก DSI เลย และไม่มีทางที่ DSI จะส่งข้อมูลนี้มาให้ผม แต่ผมได้ข้อมูลและการวิเคราะห์จากแหล่งข่าวของผมเอง

ข้อแรก เมื่อคืนวันอังคารที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 คุณอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จัดรายการ "โคนันเมืองไทย" แล้วใบ้คำถึงคนบนเรือ โทรคุยกับนักการเมืองคนหนึ่ง แล้วใบ้คำว่าหนึ่ง เป็นรัฐมนตรีในชุดที่แล้วและรัฐมนตรีชุดนี้ สอง เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง สาม เป็นคนดูแลกระทรวงสำคัญ และสี่ เป็นผู้ที่จบและมีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย ผมเห็นข้อมูลแล้ววิเคราะห์ได้ว่าน่าจะหมายถึงคุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค และไม่ใช่ผมคนเดียว เพราะคอมเมนต์ในคลิปคุณอัจฉริยะ ก็มีคนคิดแบบผมพิมพ์เข้ามาเยอะมาก ในที่สุดผมก็เลยต้องให้ทีมงานไปค้นรูปเก่าๆ ความสัมพันธ์ระหว่างคุณพีระพันธุ์ กับคนบนเรือ ว่ามีหรือเปล่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณปอ ซึ่งเป็นคนค้าขายเรือและรถหรู น่าจะรู้จักนักการเมืองเยอะ ผมก็เลยเจอรูปจริงๆ ผมเลยเชื่อว่าคุณปอ จะต้องโทรหาคุณพีระพันธุ์ 

ประกอบกับผมมีพยานกลับใจคนหนึ่งมาบอกว่า คุณปอ โทรหาคุณพีระพันธุ์ และมีการพูดคุยกันจริง แล้วผมก็วิเคราะห์และเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง แต่จะเป็นเรื่องจริงหรือไม่ ผมยืนยันข้อเท็จจริงไม่ได้ นอกจากสื่อมวลชนและ DSI ต้องไปสอบคุณพีระพันธุ์ เอาเอง ผมแค่ยืนยันอีกครั้งว่าผมไม่ได้รับข้อมูลจากที่ไหนเลย แต่ได้มาจากแหล่งข่าวและการวิเคราะห์ของผมเอง

และผมก็ได้ข่าวว่า คุณปอเรียกคุณพีระพันธุ์ว่า "อาตุ๋ย" ทุกคำ เพราะช่วงก่อนเลือกตั้งปี 2566 นายปอ เข้าไปที่พรรครวมไทยสร้างชาติ มานำเสนอโปรแกรมระบบไอที ตอนนั้นในพรรคก็ต่อต้าน เพราะกลัวนายปอ จะแย่งงาน แสดงว่านายปอ กับคุณพีระพันธุ์ รู้จักและสนิทสนมกันในระดับหนึ่ง ส่วนจะโทรและคุยกันเรื่องอะไร ไม่ทราบ เพียงแต่ว่าในวันที่โทรนั้นเป็นวันรุ่งขึ้นหลังจากที่พบว่าแตงโม ได้เสียชีวิตไปแล้ว ให้ผมเดา ผมไม่กล้าเดา ก็เป็นไปได้ว่าจะโทรไปปรึกษาหารือเรื่องคดีความ แต่จะเป็นอะไรนั้น ผมไม่รู้จริงๆ เอาเป็นว่า ข้อแรก ความจริงก็คือว่า ทั้งคุณพีระพันธุ์ และคุณปอ รู้จักกันดี ถ้าไม่รู้จักกันดีจะเรียกว่า อาตุ๋ย ได้อย่างไร และสอง ได้มีการโทรไปจริง นี่ผมวิเคราะห์จากสิ่งแวดล้อมแล้ว

‘เอกนัฏ’ ฟันไม่เว้น!! แก๊งลอบทิ้ง กากอุตสาหกรรม เช็คบิล!! ต้นทางยันปลายทาง โดนคดีอ่วมยกแก๊ง

(15 มี.ค. 68) ‘เอกนัฏ’ สั่งขยายผลขบวนการลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมในไร่มันฯ พบขนไปส่ง บ.กำจัดของเสีย แต่ก็จัดการไม่ถูกต้อง-ดำเนินคดีทันที พร้อมสั่งดำเนินคดี 3 บริษัทต้นทางและต้องนำกากอุตฯในไร่มันฯ ไปกำจัดให้ถูกต้อง แย้มหากพบมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จจะโดนข้อหาหนักพ่วงท้าย ‘ขนส่ง-เจ้าของที่ โดนข้อหาหนักด้วย

นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ยังคงเดินหน้ากวาดล้างขบวนการลักลอบทิ้งกากของเสียอุตสาหกรรมอย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้มอบหมายให้ชุดตรวจการณ์สุดซอย กระทรวงอุตสาหกรรม นำโดย น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรมว.อุตสาหกรรม, น.ส.นวพร สงวนหมู่ ผอ.กองบริหารจัดการกากอุตสาหกรรม, นายบวรวิทย์ อัครจันทโชติ ผอ.กองตรวจราชการ สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม, สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี และเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม ติดตามขยายผลจาก บริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด ที่เป็นผู้รับจ้างขนย้ายกากอุตสาหกรรมจากบริษัทผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) คือ บริษัท ซันโทรี่ เบเวอเรจ แอนด์ ฟู้ด เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมปิ่นทอง 2 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ไปทิ้งตามไร่มันสำปะหลังในพื้นที่ ต.หนองไผ่แก้ว อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี หลายจุด ซึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีก่อนหน้านี้ จนสืบทราบไปถึงบริษัทและโรงงานผู้รับกำจัดของเสียอีก 2 แห่ง คือ 1) โรงงานบริษัท เวสต์ แอ็บโซลูท จำกัด ในพื้นที่ ต.วัดสุวรรณ อ.บ่อทอง จ.ชลบุรี ประกอบกิจการฝังกลบสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วที่ไม่เป็นของเสียอันตราย และ 2) โรงงานบริษัท เวสท์ โอเว่น เซอร์วิส จำกัด ในพื้นที่ ต.มาบข่า อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ประกอบกิจการนำกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียที่ไม่เป็นอันตราย และอินทรีย์วัตถุที่ไม่ใช้แล้วจากโรงงานมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ สารปรับปรุงดิน

“ทั้ง 2 บริษัทเป็นปลายทางรับของเสียจาก บริษัท ซันโทรี่ เบเวอร์เรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ที่เป็นต้นทางของกากของเสียและถูกคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขตามมาตรา 37 จากการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งถูกตรวจสอบเพื่อนำไปสู่การดำเนินคดี ซึ่งทั้ง 2 บริษัทจะจดทะเบียนทำธุรกิจกำจัดและบำบัดของเสียอุตสาหกรรม แต่จากการตรวจสอบพบว่า หากมีการดำเนินการที่ขัดต่อระเบียบและกฎหมายต้องแก้ไขปรับปรุงและดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด” นายเอกนัฏ ระบุ

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวเสริมว่า จากการขยายผลและเข้าไปตรวจสอบพบว่า 1) บริษัท เวสต์ แอ็บโซลูท จำกัด ได้รับกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียจาก บริษัท ซันโทรี่ฯ เข้ามาฝังกลบ ตั้งแต่วันที่ 22 ก.พ.-4 มี.ค.68 จำนวน 10 เที่ยว น้ำหนักกว่า 92 ตัน ขณะที่ 2) บริษัท เวสท์ โอเว่น เซอร์วิส จำกัด ได้รับกากตะกอนจากระบบบำบัดน้ำเสียจาก บริษัท ซันโทรี่ฯ เข้ามาทำสารปรับปรุงดิน ตั้งแต่วันที่ 15-21 ก.พ.68 จำนวน 19 เที่ยว น้ำหนักกว่า 152 ตัน ทั้งนี้ หากตรวจสอบข้อมูลและเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว พบว่า ทั้ง 2 บริษัทดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมายไม่ว่าจะเป็นกฎหมายโรงงานหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยรับของเสียเข้ามาจัดการโดยของเสียยังไม่ได้รับอนุญาตให้นำออกนอกโรงงานของผู้ก่อกำเนิด จะมีความผิดและฝ่าฝืนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การจัดการสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ.2566 ซึ่งจะตรวจสอบต่อไปด้วยว่า มีการแจ้งข้อมูลเป็นเท็จหรือไม่ ซึ่งหากมีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ก็จะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย

น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวต่อว่า ส่วน บริษัท ซันโทรี่ เบเวอร์เรจ แอนด์ ฟู้ด (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นโรงงานผู้ก่อกำเนิดของเสีย (Waste Generator) จะถูกดำเนินคดีในข้อหานำกากอุตสาหกรรมออกจากพื้นที่โดยไม่ได้รับอนุญาต และหากพบว่ามีการนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จในระบบจะถูกดำเนินคดีเพิ่มเติม โดยกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งให้ บริษัท ซันโทรี่ฯ ต้องนำกากอุตสาหกรรมที่ขนไปทิ้งในไร่มันสำปะหลังก่อนหน้านี้ไปกำจัดให้ถูกต้องต่อไปด้วย เช่นเดียวกับ บริษัท ฮิ้ว ทรานสปอร์ต จำกัด จ.ชลบุรี ที่เป็นผู้รับจ้างขนส่ง จะถูกดำเนินคดีใช้รถผิดจากที่ได้รับอนุญาต ส่วนความคืบหน้าจุดที่มีการลักลอบทิ้งอีก 1 จุด ที่ ต.หนองอิรุณ อ.บ้านบึง. จ.ชลบุรี ซึ่งปรากฎเป็นภาพข่าวที่พบรถของบริษัท ฮิ้วฯ นำของเสียไปปล่อยทิ้ง นั้น ผลตรวจสอบดินและน้ำเสียในพื้นที่พบค่าโลหะหนักที่เข้าข่ายเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 บริษัท ฮิ้วฯ อาจจะถูกดำเนินคดีร่วมเป็นตัวการในการครอบครองวัตถุอันตรายดังกล่าวโดยไม่ได้รับอนุญาต เป็นเหตุให้ถูกเพิกถอนใบอนุญาตและดำเนินคดีในทุกข้อหาการกระทำผิด ส่วนเจ้าของที่ดิน ต.หนองอิรุณ ทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรีแจ้งความดำเนินคดีข้อหาครอบครองวัตถุอันตรายแล้ว

“ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ให้ความสำคัญในการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรม เร่งตรวจสอบและขยายผลขบวนการที่เกี่ยวข้องกระจายไปทั่วประเทศจนจบและนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนเกี่ยวกับมาตรการควบคุมจัดการกากอุตสาหกรรมอย่างเข้มงวด โดยกระทรวงอุตสาหกรรมยืนยันจะดำเนินการเชิงรุกอย่างจริงจังต่อไป เพื่อป้องกันการลักลอบนำกากอุตสาหกรรมไปทิ้ง และจัดการไม่ถูกต้อง ลดปัญหาการปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม และสร้างคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่ดีให้ประชาชนในทุกพื้นที่ หากประชาชนพบเห็นปัญหาหรือเหตุต้องสงสัยเกี่ยวกับการประกอบการอุตสาหกรรมที่ไม่ถูกต้องหรือสินค้าที่ไม่ผ่านมาตรฐาน มอก. สามารถแจ้งเรื่องร้องเรียนผ่าน ‘แจ้งอุต’ https://landing.traffy.in.th?key=wTmGfkav หรือไลน์ไอดี “traffyfondue” เพื่อกระทรวงฯ จะเร่งส่งทีมสุดซอยลงพื้นที่จัดการกับปัญหาให้ประชาชนในทันที” น.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวทิ้งท้าย

‘โอ๋ สุดซอย’ นำ!! ‘DSI – ตำรวจสอบสวนกลาง - คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า’ บุกทลายโกดัง ‘ซินเคอหยวน’ ค้นยึด เอกสาร เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิด

(12 เม.ย. 68) นางสาวฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าคณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือ ‘หัวหน้าทีมสุดซอย’ ได้โพสต์ข้อความ ถึงกรณี ‘ซินเคอหยวน’ โดยมีใจความว่า ...

ร่วมภารกิจสุดซอย ตรวจค้นและยึดเอกสาร คอมพิวเตอร์ เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์ - กล้องวงจรปิดของ SKY และตรวจสอบเพิ่มเติมในส่วนของโกดังที่อยู่ด้านหลังที่ปิดตาย ยังพบฝุ่นแดงที่ซ่อนไว้อีกกว่า 13,000 ตัน หากรวมกับของเดิมที่พบก่อนหน้า 43,000 ตัน ก็เท่ากับว่ามีฝุ่นแดงที่พบทั้งหมด 56,000 ตัน…ยิ่งตรวจยิ่งเจอ ถือเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องขยายผลตรวจสอบต่อไป

ขอขอบคุณความร่วมมือในการปฏิบัติภารกิจจาก DSI (กรมสอบสวนคดีพิเศษ) ตำรวจสอบสวนกลาง (บก.ปทส.) คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (กขค.) มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) และสื่อมวลชนทุกท่าน ที่ร่วมภารกิจสุดซอยในครั้งนี้ และยังมีอีกหลายภารกิจร่วมกันต่อจากนี้

และที่สำคัญขอขอบคุณ #ทีมสุดซอย สำนักงานปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรมโรงงานอุตสาหกรรม และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ที่ทำงานกันอย่างหนักตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งเตรียมข้อมูล สืบค้น ตรวจหน้างานเพื่อหาหลักฐานบนข้อเท็จจริง

หลังจากนี้กรมโรงงานอุตสาหกรรมจะส่งข้อมูล เอกสาร เซิร์ฟเวอร์คอมพิวเตอร์-กล้องวงจรปิดทั้งหมด ให้กับ DSI เพื่อตรวจสอบและขยายผลต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top