Saturday, 18 May 2024
สารวัตรแบงค์

‘บิ๊กต่อ’ เผย ‘ผู้กำกับเบิ้ม’ มากอดขาขอโทษที่ตนเป็นต้นเหตุ ยันเป็นตำรวจฝีมือดีคนหนึ่ง เชื่อ!! ไม่ใช่การฆ่าตัดตอนแน่นอน

(12 ก.ย. 66) ภรรยา และลูกชายวัย 8 ปีของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ‘ผู้กำกับเบิ้ม’ ผกก.2 บก.ทล. ที่ยิงตัวตาย เดินทางมารอรับศพที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลภูมิพล โดยมี พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) มาให้กำลังใจครอบครัว เคลื่อนย้ายศพไปประกอบพิธียังวัดตรีทศเทพ ในช่วงเย็นวันนี้ (12 ก.ย. 66)

พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ 1 วัน พ.ต.อ.วชิรา มากอดขาขอโทษบอกว่า “พี่ครับ ผมผิด ผมพาน้องไปตาย” และยังบอกด้วยว่า ถ้าจบเรื่องนี้ จะขอไปบวช เพราะรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลา และอยากแสดงความรับผิดชอบ โดยพูดอยู่ตลอดว่า “ผมทำให้น้องตาย” ตนจึงให้กำลังใจ และบอกเพื่อนๆ นรต.รุ่น 55 ให้คอยดูแลให้ดี เพราะทราบว่า พ.ต.อ.วชิรา เคยป่วยซึมเศร้ามาก่อน ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา เพื่อนจะคอยให้กำลังใจ แต่สภาพจิตใจกลับไม่ดีขึ้นจนเกิดเหตุ

“ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไม พ.ต.อ.วชิรา จึงโทรไปเรียก พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว มาที่เกิดเหตุ แต่หลังเกิดเหตุ ทราบว่าเจ้าตัวดูแลน้องอย่างเต็มที่ และบอกกับคนรอบตัวว่าอยากตายแทน เพราะรู้สึกผิด อยากฝากถึงสังคมว่าให้แยกแยะตำรวจ อย่าเหมารวม อย่าง พ.ต.อ.วชิรา ถือเป็นตำรวจฝีมือดี และเป็นคนดีคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ถูกโซเชียลพิพากษาว่าเป็นตำรวจไม่ดีไปแล้ว” รอง ผบ.ตร. กล่าว

รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่สังคมตั้งข้อสังเกตว่าการเสียชีวิตเป็นการฆ่าตัดตอน หรือการจัดฉากหรือไม่นั้น แพทย์นิติเวช ได้พิสูจน์ออกมาชัดเจนแล้วว่ากระสุนมีเพียงแค่นัดเดียว เข้าสมองด้านขวา อีกทั้งหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุ เวลาในกล้องวงจรปิดก็ตรงกันหมด ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการจัดฉาก แนวคิดแบบนี้เป็นแนวคิดของตำรวจรุ่นเก่าที่ไม่มีความรู้ในเรื่องของการสืบสวน ซึ่งจะทำให้ตำรวจเสียหายด้วย จึงขอให้ยึดที่พยานหลักฐานดีกว่าการคิดมโนไปเอง และครอบครัวของ พ.ต.อ.วชิรา ก็ไม่ได้ติดใจอะไรในสาเหตุการเสียชีวิต

‘บิ๊กเด่น’ สั่งลุย!! เร่งสืบค้นเครือข่าย ‘กำนันนก’ จ่อเอาผิดผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาด

(13 ก.ย. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร เปิดเผยถึงกรณีที่ช่วงเช้าวันนี้ ตำรวจภูธรภาค 7 ได้สนธิกำลังตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายที่เป็นเครือข่ายของนายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ ‘กำนันนก’ จำนวน 15 จุด ในจังหวัดนครปฐมกว่า 10 จุด ว่าได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา เนื่องจากคดีนี้เป็นที่จับตามองและสนใจของสังคม ซึ่งในการทำคดีจะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การขยายผลตรวจค้นเครือข่ายของผู้มีอิทธิพล และอีกส่วนคือ คดียิงสารวัตรศิวกร ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องสืบสวนหาพยานหลักฐาน เพื่อเอาผิดกับกำนันนก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและพลเรือนให้ได้

รวมถึงความเกี่ยวเนื่องที่มีตำรวจเข้าไปพัวพันกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากการกู้ข้อมูลเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดจากบ้านกำนันนก พร้อมกันนี้ ยังได้มอบหมายให้ พล.ต.อสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร รับผิดชอบดูแลและติดตามความคืบหน้าในคดีอย่างต่อเนื่อง

ส่วนเรื่องการเยียวยา พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 การสองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวงนั้น เบื้องต้นทางต้นสังกัด คือกองบังคับการตำรวจทางหลวง และเพื่อนนักเรียนนายร้อยตำรวจก็ได้รวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือครอบแล้ว รวมถึงกรณีของ พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ ผู้กำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง นั้นผู้บังคับบัญชาก็ได้รวบรวมเงินเพื่อให้การช่วยเหลือแล้วเช่นกัน

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีหลักเกณฑ์ในการเยียวยาสำหรับผู้ที่เสียชีวิตระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ แม้กรณีของพันตำรวจตรีศิวกรจะไม่เข้าข่าย แต่สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะมีสวัสดิการด้านอื่นๆ ในการช่วยเหลือดูแลครอบครัวอย่างเต็มที่ และยังได้กำชับให้ผู้บังคับบัญชาของตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ดังกล่าว จับตาดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาเพื่อไม่ให้เกิดความเครียด ป้องกันการเกิดเหตุซ้ำรอยกรณี พ.ต.อ วชิรา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวต่อว่าในความคิดเห็นส่วนบุคคลนั้น เชื่อว่าตำรวจที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่นั้นเป็นเพียงส่วนน้อย ส่วนใหญ่ยังเป็นตำรวจที่ดีและไม่อิงกับผู้มีอิทธิพล อยากขอความเป็นธรรมให้กับตำรวจส่วนใหญ่ด้วย แม้แต่ตำรวจที่ไปร่วมงานเลี้ยงก็ใช่ว่าจะมีความผิดทุกคน ขอให้รอผลการสอบสวนให้แล้วเสร็จก่อน

‘บิ๊กหิน’ สั่งสอบ 25 ตำรวจที่อยู่ในงานเลี้ยงกำนันนก พร้อมเร่งขยายผล จี้!! ต้องเสร็จเรียบร้อยภายใน 15 วัน

(14 ก.ย. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.วิสนุ ปราสาททองโอสถ จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้วย กรณีเหตุคนร้ายยิงสารวัตรตำรวจทางหลวงเสียชีวิตในบ้านพักกำนันนก พื้นที่ ต.ตาก้อง อ.เมือง จ.นครปฐม ว่า ขณะนี้ผ่านมาแล้วหลายวัน ประกอบกับเซิร์ฟเวอร์เพิ่งกู้ได้ จะมีการเร่งรัดให้เร็วที่สุด ตนได้มอบให้หัวหน้าจเรตำรวจรับไป ซึ่งยังไม่ได้มีการรายงานขึ้นมา แต่มีการกำชับไป เพราะทำให้เสื่อมเสีย เสียหายกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทบต่อความเชื่อมั่นของหน่วยงาน เพราะฉะนั้นเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำความจริงให้ปรากฏ 

ทั้งนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจและเป็นเรื่องที่อุกอาจมาก มีการกระทำความผิด ยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อหน้าธารกำนัล และก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุหลายนาย ไม่ได้ทำการจับกุม ละเว้นการปฏิบัติ ซึ่งเป็นเรื่องที่เสื่อมเสียภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นอย่างยิ่ง เลยกำชับให้ชุดทำงานให้เร่งรัดเร็วที่สุด จะให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่เสียหายทุกอย่าง และกำชับให้ดำเนินการเร็วที่สุด ทำความจริงให้กระจ่าง พร้อมขยายผลไปด้วยว่าทำไมอย่างไรถึงไปที่งานเลี้ยง ไปทำไม ไปบ่อยไหม ไปเพราะเรื่องอะไร และรายงานผลให้ทราบภายใน 15 วัน

‘บิ๊กโจ๊ก’ จ่อแจ้งข้อหา 14 ตร. ร่วมงานเลี้ยงบ้านกำนันนก ผิด 157-ให้การเท็จ ไร้ความละอายใจต่อเกียรติภูมิตำรวจ

(17 ก.ย. 66) พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) เปิดเผยทางโทรศัพท์ถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีกับตำรวจที่ร่วมงานเลี้ยงบ้านของ นายประวีณ จันทร์คล้าย หรือ กำนันนก ว่า จากการประชุมสรุปผลการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดประกอบสำนวนคำให้การของตำรวจทุกนายที่เข้าร่วมงานเลี้ยงและประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทำให้สามารถสรุปได้ว่ามีข้าราชการตำรวจที่เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 และให้การเท็จต่อพนักงานสอบสวน โดยไม่ละอายใจต่อเกียรติภูมิความเป็นตำรวจ จึงต้องดำเนินคดีกับตำรวจทุกนายที่มีพฤติกรรมกระทำผิด ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่ามีตำรวจที่เข้าข่ายกระทำความผิดรวม 14 นาย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า เป็นกลุ่มตำรวจที่ไม่ให้การช่วยเหลือ พ.ต.ต.ศิวกร สายบัว หรือ สารวัตรแบงก์ และ พ.ต.ท.วศิน พันปี รอง ผกก.2 บก.ทล. อาทิ พ.ต.อ.กฤษฎาพร จงอักษร ผกก.สน.พญาไท ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ส่วนข้อหาแจ้งความเท็จหรือให้การเท็จนั้น อยู่ระหว่างการพิจารณา

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า รวมถึง พ.ต.อ.วชิรา ยาวไทยสงค์ หรือ ผกก.เบิ้ม ก็ถูกดำเนินคดีในข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ด้วยเช่นกัน แต่เนื่องจากเสียชีวิตไปแล้ว พนักงานสอบสวนจะระบุท้ายสำนวนว่าเสียชีวิตแล้ว ส่วนพ.ต.ท.วศิน ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานว่า เป็นหนึ่งในผู้ที่จะถูกแจ้งข้อกล่าวหาฐานแจ้งความเท็จ แต่ล่าสุดจากการตรวจสอบสำนวนคำให้การและภาพประกอบวงจรปิด พบว่าคำให้การนั้นตรงกันและอยู่ในฐานะผู้เสียหายจึงรอดไม่ถูกดำเนินคดี

รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับการแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจทั้ง 14 นาย เป็นอำนาจหน้าที่ของตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้มอบหมายให้พนักงานสอบสวนกองปราบปราม นำโดย พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ เป็นหัวหน้าชุดในการดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาในครั้งนี้ โดยจะเรียกตำรวจทั้ง 14 นาย มารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันนี้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top