Sunday, 20 April 2025
สัมพันธ์ไทยจีน

‘บิ๊กป้อม’ ต้อนรับ ‘เอกอัครราชทูตจีน’ พร้อมฝากชวนคนจีนมาลงทุน - ท่องเที่ยวไทยเพิ่ม

พล.อ.ประวิตร ต้อนรับ นาย หาน จื้อเฉียง เยี่ยมคำนับ สานสัมพันธ์ไทย-จีน ยืนยันความร่วมมือทุกมิติ ให้ก้าวหน้า เชิญชวน คนจีนร่วมลงทุน/ท่องเที่ยว ส่งเสริม ศก.ประเทศไทย

วันนี้ (22 ธ.ค. 65) เวลา14.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้ให้การต้อนรับ นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย ณ ห้องสีเหลือง ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับจีน ดำเนินมาอย่างยาวนาน และเข้มแข็ง แม้ในสถานการณ์ โควิด-19 และยืนยันว่ารัฐบาลไทย มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อ และร่วมมือกับรัฐบาลจีนเพื่อขับเคลื่อนความร่วมมือในทุกมิติ ให้ก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น และเป็นรูปธรรม

‘บิ๊กป้อม’ ให้โอวาทข้าราชการทุน ม.หัวเฉียว ขอให้ตั้งใจศึกษา นำความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ

พล.อ.ประวิตร รับคณะ ข้าราชการ ทุน ม.หัวเฉียว เยี่ยมคารวะ และรับพร ก่อนเดินทางไปศึกษา ส่งเสริมความสัมพันธ์อันดี แน่นแฟ้น ไทย-จีน  

(11 ม.ค. 66) เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ให้การต้อนรับคณะกรรมการบริหารการศึกษาไทย-จีน และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย พร้อมด้วยข้าราชการของไทยที่ได้รับทุนการศึกษา จาก ม.หัวเฉียว ประเทศจีน รุ่นที่18 จำนวน 80 คน ณ ห้องรับรอง 1 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวชื่นชมและแสดงความยินดี กับผู้ได้รับทุนการศึกษาในรุ่นนี้ และกล่าวขอบคุณ ต่อคณะกรรมการบริหารการศึกษาไทย-จีน สมาคมวัฒนธรรมและเศรษฐกิจไทย-จีน ม.หัวเฉียว แห่งประเทศจีน ที่ได้จัดทำโครงการความร่วมมือระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลไทย ซึ่งโครงการนี้มีความก้าวหน้ามาถึงรุ่นที่ 18 ผู้ได้รับทุนจบการศึกษามาแล้วกว่า 800 คน โดยผู้สำเร็จการศึกษาได้กลับมาปฏิบัติงาน และสร้างการประสานงานระหว่างหน่วยงานของทั้ง 2ประเทศ ให้มีความใกล้ชิดแน่นแฟ้น ก่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันเป็นอย่างดียิ่ง โดยโครงการนี้เริ่มมาตั้งแต่สมัย ท่านประธานาธิบดี เจียงเจ๋อหมิน ที่ได้จัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อให้ทุนการศึกษาแบบให้เปล่า โดยไม่มีเงื่อนไข และอยู่ในกำกับดูแลของ รองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง ตั้งแต่ ปี 2547 ซึ่งถือว่าโครงการนี้เกิดประโยชน์และประสบความสำเร็จ อย่างน่าพอใจ โดยสามารถเพิ่มทักษะทั้งภาษา ไทย-จีน-อังกฤษ ได้ในคราวเดียวกันเป็นอย่างดี

สมาคมนักเรียนไทย-จีน ผุด ‘YOUNG BRI’ โครงการเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีนให้เติบโต

นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน เผย ส่งท้ายเดือนแห่งความรัก แนะนำโครงการทัศนศึกษาเชิงปฏิบัติการ 'YOUNG BRI' ซึ่งจัดโดยสมาคมนักเรียนไทย-จีน และได้รับการสนับสนุนจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทย จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 ก.พ. 66 

(23 ก.พ. 66) สำหรับงานดังกล่าว ได้มีพิธีเปิดซึ่งเริ่มขึ้นในวันที่ 23 ก.พ. 66 เวลา 8.30 น. ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ โดย นายสรวง สิทธิสมาน นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน เป็นผู้กล่าวต้อนรับนักเรียนนักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการ แนะนำที่มาและวัตถุประสงค์ของโครงการ โดยกล่าวว่า 'YOUNG BRI' เป็นคำที่สื่อความหมายถึง 'คนรุ่นใหม่' และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรม เทคโนโลยี ในระดับภูมิภาคที่คนไทยเรียกกันว่า 'หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง' (BRI : Belt and Road Initiative : 一带一路)

นายกสมาคมนักเรียนไทย-จีน ยังกล่าวอีกว่าผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็น "วัยรุ่นหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ซึ่งในภายภาคหน้าก็จะเติบโตเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนความสัมพันธ์ไทย-จีน ซึ่งตรงกับอุดมการณ์ของสมาคมฯ ที่ว่า "เราคืออนาคตความสัมพันธ์ไทย-จีน"

หลังจากนั้นคุณ Fan Xuewei อุปทูตประจําสถานเอกอัครราชทูตจีนประจําประเทศไทย ได้กล่าวเปิดงาน โดยได้แนะนำประวัติความเป็นมา และประโยชน์ของ BRI ซึ่งได้เริ่มดำเนินการมาครบรอบ 10 ปีแล้ว ค้าขายและพัฒนาอุตสาหกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม BCG Model รวมถึงผลประโยชน์ในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ที่เอื้ออำนวยต่อห่วงโซ่การผลิต

คุณ FAN XUEWEI ยังกล่าวอีกว่า "นักเรียน นักศึกษาที่รัก เยาวชนเป็นอนาคตและความหวังของการแลกเปลี่ยนระหว่างทั้งสองประเทศ ผมหวังว่าผ่านกิจกรรมในวันนี้และพรุ่งนี้ พวกคุณจะสามารถเพิ่มพูนความเข้าใจในวัฒนธรรมจีน มีความเข้าใจเกี่ยวกับ "หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง" ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น เกิดความสนใจและติดตามข้อมูลการพัฒนาในจีน แนะนำความสำเร็จของความร่วมมือจีน-ไทยให้กับคุณครูและนักเรียนที่อยู่รอบตัวคุณ และร่วมเป็นพลังสำคัญที่ส่งต่อ “จีน-ไทยครอบครัวเดียวกัน” จากรุ่นสู่รุ่น

กิจกรรมในวันแรก ได้รับการอำนวยการด้านสถานที่จากผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน คุณ Que Xiaohua ซึ่งได้กล่าวแนะนำศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นหมุดหมายของความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมจีน-ไทย ซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรมแห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นในภูมิภาค ASEAN ซึ่งในวันนี้ได้จัดเตรียมสถานที่และกิจกรรม workshop มากมายไว้รองรับผู้เข้าร่วมกิจกรรม ให้ได้สัมผัสกับประสบการณ์ชงชาจีน วาดภาพจีน พู่กันจีน กู่เจิง และการห่อเกี๊ยวแบบจีน

ในช่วงของกิจกรรมนั้น มีการแบ่งกลุ่ม Workshop 5 กลุ่ม เวียนตาม 5 ฐานกิจกรรม ทั้งการชงชาสไตล์มังกร อ้อนไปด้วยเสียงกู่เจิง ระเริงร่ายพู่กันจีน ห่อเกี๊ยวแล้วกิน ฟินไปด้วยภาพวาดลายจีน จบท้ายด้วยการพาทัวร์หอสมุดสุดอลังที่เคยปรากฏบนจอสีมาหลายเรื่องเลยทีเดียว 

ในช่วงบ่ายของวันที่ 23 ก.พ. 66 เปลี่ยนบรรยากาศมาศึกษาดูงานด้านเทคโนโลยี กับบริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ให้ผู้ร่วมกิจกรรมได้มารู้จักกับเทคโนโลยี 5G แห่งโลกอนาคต สัมผัสความก้าวหน้าของเทคโนโลยีจีน

ฉลองสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปี เอฟเคไอไอ.จับมือสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจจีน-เอเซียขยายความร่วมมือ 2 ประเทศ

รายงานข่าวจากสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์แจ้งวันนี้ว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานสถาบันเอฟเคไอไอ.ไทยแลนด์(FKII-Thailand)และอดีตรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ นายชยดิฐ หุตานุวัชร์ ผู้อำนวยการเอฟเคไอไอ.ฯ. และประธานสถาบันทิวาหารือความร่วมมือกับ นายชุนจี ควอน นายกสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจจีน-เอเซีย(ภายใต้กระทรวงการต่างประเทศจีน) และคณะ 

โดยเห็นพ้องที่เอฟเคไอไอ.และสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจจีน-เอเซียจะร่วมมือทางด้าน การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว เทคโนโลยี ผลิตภัณฑ์อาหาร และผลิตภัณฑ์การเกษตร ภายใต้กรอบความร่วมมือยุทธศาสตร์อีต้าอีลู่ (1แถบ1เส้นทาง)ของจีนและยุทธศาสตร์12อุตสาหกรรมใหม่(12 S-Curves)ของไทยเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์ไทย-จีน 50 ปีในปีหน้าพร้อมกันนี้นายชุนจิตยังได้เชิญนายอลงกรณ์เยือนประเทศจีนอีกด้วย

“สมาคมพัฒนาเศรษฐกิจจีน-เอเชีย มีสมาชิกมากว่า 20,000 บริษัททั่วประเทศจีนโดยสมาชิกของสมาคมพัฒนาเศรษฐกิจจีน เอเชีย มีความต้องการที่จะไปลงทุนในประเทศไทย ในการพบหาคือครั้งนี้ยังมีนายปรพล อดิเรกสาร กรรมการ ด้านเศรษฐกิจสมาคมวัฒนธรรมเเละเศรษฐกิจไทย-จีน เเละ อดีตคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ดอน ปรมัตถ์วินัย) นายดาวิน หยาง นายกสมาคมการค้าอาเซียน-จีน นายดำรงศักดิ์ มนัสวานิช รองนายกสมาคมการค้าอาเซียน-จีน

พร้อมด้วยนักธุรกิจภาคเอกชนร่วมประชุมที่ห้องประชุมสวนเสียงไผ่ ทาวน์อินทาวน์เมื่อ17 กรกฎาคมที่ผ่านมา”


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top