Friday, 3 May 2024
ศุภชัยโพธิ์สุ

'ครูแก้ว' โอด ปมผู้ว่าฯ นครพนมสั่งยึดที่ดินตน ยัน!! ไม่ใช่เรื่องจริง แต่ถูกบางสื่อบิดเบือน

‘ครูแก้ว ศุภชัย โพธิ์สุ’ รองประธานสภาผู้แทนราษฏร โต้สื่อบิดเบือนข้อเท็จจริง ผู้ว่าฯ จำหน่ายที่ดินที่ผิดเงื่อนไขการครอบครอง ไม่ใช่สั่งยึดที่ดินของตน

ตามที่มีสื่อบางสื่อลงข่าวบิดเบือนข้อเท็จจริงกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมสั่งยึดที่ดินที่ตนครอบครองอยู่นั้น มีการบิดเบือนข้อเท็จจริงของสื่อบางสำนัก ที่ต้องการใช้ประเด็นดังกล่าวมาโจมตีตนทั้ง ๆ ที่ข้อเท็จจริงปรากฎชัดตามหนังสือของสำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนม 

'ครูแก้ว' จ่อฟ้อง 'ทนายตั้ม-ไฮโซสาว' หลังโยงปมลวงเงินช่วยเคลียร์คดี 25 ล้าน

วันที่ 4 ธ.ค. 65 เมื่อเวลา 11.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคภูมิใจไทย จ.นครพนม นายศุภชัย โพธิ์สุ  ส.ส.นครพนม พรรคภูมิใจไทย และรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 แถลงชี้แจงกรณีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม กล่าวหาว่าอดีตผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายก อบจ.จังหวัดหนึ่ง และเป็นสามีไม่ได้จดทะเบียนสมรสของนายก อบจ.ดังกล่าว ได้ลวงเงินจำนวน 25 ล้านบาท จากนักธุรกิจสาวไฮโซ เพื่อหลอกช่วยเคลียร์คดี โดยยอมรับว่า เคยรู้จักกับผู้ช่วยฯ คนดังกล่าวจริง หลังจากได้เข้ามาขอช่วยงานในช่วงที่ตนได้รับตำแหน่งรองประธานสภาฯ 

ทั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่ามีโปรไฟล์ดี ตนจึงแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรองประธานสภาฯ และได้มอบหมายให้มาช่วยงานลูกสาว หลังจากได้รับการเลือกตั้งให้เป็นนายก อบจ.นครพนม แต่หลังจากทำงานได้ 2-3 เดือน บุคคลดังกล่าวได้ลาออกไป โดยให้เหตุผลว่าไม่เหมาะสมกับงาน และไม่ได้ติดต่อหรือเกี่ยวข้องกันอีก  

‘ทนายตั้ม’ ท้า ‘ครูแก้ว’ ฟ้อง ปมโยงลวงเงิน 25 ล้านบาท ลั่น!! ไม่มีคำไหนหมิ่นฯ ไม่กลัว และไม่มีวันขอโทษ

(6 ธ.ค. 65) กรณี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน พาลูกความผู้เสียหายเป็นสาวใหญ่นักธุรกิจชื่อดัง เจ้าของบริษัทรับซื้อผลิตน้ำยางพาราก่อสร้างถนน ออกมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เกี่ยวกับปมถูกหลอกเรียกเงินจำนวน 25 ล้านบาท หลังถูกคณะกรรมการ พิจารณารับรองคุณภาพน้ำยางพาราไม่ได้มาตรฐาน จึงมีการร้องต่อศาลปกครอง ตั้งแต่ปี 2562 แต่มีขั้นตอนการดำเนินการนาน กระทั่งมีบุคคลที่อ้างว่าเป็นผู้ช่วยเลขานุการ รองประธานสภาผู้แทน รวมถึงมีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษานายก อบจ. จังหวัดหนึ่ง และยังอ้างว่าสนิทกับผู้ใหญ่พรรคการเมืองชื่อดัง ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อตกเป็นเหยื่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถดำเนินการช่วยเหลือได้

ก่อนนี้ทางผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีกับทางกองปราบ แต่ไม่คืบหน้า ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมผ่าน ทนายตั้ม เพื่อเรียกร้องให้ทางหน่วยงานเกี่ยวข้อง ตรวจสอบ ดำเนินคดีเอาผิด กับบุคลคลที่แอบอ้างว่าสนิทกับนักการเมืองชื่อดัง จนกระทั่งกลายเป็นประเด็นร้อนหลังมีการนำเสนอผ่านสื่อต่าง ๆ ทำให้สังคมตั้งคำถาม อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องมีการตรวจสอบ ข้อเท็จจริง และให้บุคคลเกี่ยวข้องออกมาชี้แจง

ล่าสุด นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย ออกมาเปิดเผยว่าหลังทราบข้อมูลผ่านสื่อ ตนได้มอบหมายให้ทีมงานฝ่ายกฎหมายตรวจสอบข้อมูลจากเทปการแถลงข่าวของทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พบว่ามีข้อมูลที่อาจเข้าข่ายพาดพิงกล่าวหาตน ถึงแม้จะไม่ระบุชื่อชัดเจน แต่มีการบอกตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทน ที่มีอยู่ด้วยกัน 2 คน แต่คนที่มีลูกสาวเป็น นายก อบจ. คือตนคนเดียวเท่านั้น จึงเชื่อมั่นว่าเป็นการกล่าวหาทำให้ครอบครัวได้รับความเสื่อมเสีย รวมถึงมีการเอ่ยถึงพรรคภูมิใจไทยโยงไปถึงผู้ใหญ่ในพรรค ทำให้ทุกคนเกิดความเสียหาย ถือว่าไม่ถูกต้อง การกระทำแบบนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง ได้ข้อมูลฝ่ายเดียว แล้วเอามาแถลง หากมีหลักฐานชัดเจน เกี่ยวข้องกับตน หรือบุคคลที่กล่าวอ้าง ควรที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่ามากล่าวหาลอย ๆ

‘ครูแก้ว’ จวก ‘ส.ส.เพื่อไทย’ พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น ฉะ!! ไม่แสดงตนก็นั่งเฉยๆ - ไม่ควรใส่ร้ายป้ายสีคนอื่น

(22 ก.พ. 66) ที่ประชุมสภาฯ เข้าสู่วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. ... วาระสอง ซึ่งคณะกรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว โดยทันทีที่เข้าสู่วาระได้ลงมติมาตรา 15 กระทั่งเวลา 14.00 น. ช่วงเสียบบัตรแสดงตนเป็นองค์ประชุมก่อนลงมติในมาตรา 15/3 เกิดปัญหาเดิมๆ ขึ้นต้องรอถึงครึ่งชั่วโมงจึงมีสมาชิกแสดงตนครบเป็นองค์ประชุม โดยมีทั้งสิ้น 211 คน จากสมาชิกทั้งหมดที่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ 416 คน

อย่างไรก็ตาม ระหว่างรอสมาชิกแสดงตน นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ฝ่ายรัฐบาลรู้สึกจะบางตามาก จึงอยากให้ประธานสั่งการพรรคของท่านให้มาประชุมด่วน ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมขณะนั้น กล่าวตอบว่า พรรคของตนประชุมเต็มอยู่แล้ว แต่นี่ทุกฝ่ายบางตา ขอให้นายอุบลศักดิ์เลิกเสียที พูดเอาดีใส่ตัวเอาชั่วให้คนอื่น

จากนั้นนายอุบลศักดิ์ โต้ว่า นายศุภชัยไม่ควรจะทำหน้าที่ประธาน เพราะประธานต้องพูดด้วยเหตุด้วยผล ซึ่งนายศุภชัย ตอบกลับว่า ทุกฝ่ายมีสภาพบางตาหมด จะให้ไล่เรียงรายชื่อพรรคหรือไม่ นายอุบลศักดิ์พูดหลายครั้งจึงต้องเตือน ไม่ควรใส่ร้ายป้ายสีใคร นับจากนี้ส.ส.มีเวลาวันครึ่ง ถึงอย่างไรร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ไม่จบอยู่ดี แต่ส.ส.ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จนถึงวาระสุดท้ายของสภาชุดนี้

นายอุบลศักดิ์ ประท้วงว่า ประธานต้องควบคุมการประชุม ไม่เสียดสีใส่ร้ายคนอื่น ความจริงตนไม่ได้ใส่ร้ายใครเลย เพียงเรียกร้องให้นายศุภชัยช่วยตามเพื่อนในพรรคของท่านมาเท่านั้น

‘ครูแก้ว’ กล่าวอำลาตำแหน่งรองประธานสภาฯ เผยยึดหลัก ‘ยุติธรรม-เป็นกลาง’ ทำหน้าที่เสมอมา

(23 ก.พ. 66) นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 30 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) กล่าวแสดงความรู้สึกในการปฏิบัติหน้าที่รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง เป็นครั้งสุดท้าย

นายศุภชัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงยิ่งที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง และขอบคุณเพื่อนสมาชิกที่ให้ความไว้วางใจเลือกให้ดำรงตำแหน่งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ประธานในที่ประชุมนั้น เจตนารมณ์ในการทำหน้าที่ของผมคือความยุติธรรมและเป็นกลาง ทั้งมุ่งหมายขับเคลื่อนงานด้านนิติบัญญัติ เพื่อให้การประชุมประสบความสำเร็จ เนื่องจากพวกเราทุกคนมีเวลาจำกัด จึงจำเป็นต้องการใช้โอกาสทุกเวลาทุกวินาที ให้เกิดคุณค่าต่อประชาชนให้มากที่สุด และเต็มความสามารถของพวกเรา ซึ่งเห็นว่าเพื่อนสมาชิกสามารถทำหน้าที่ได้เต็มกำลังความสามารถ และบรรลุเป้าหมายตามภารกิจของสภาผู้แทนราษฎร ในการแก้ไขปัญหาเยียวยาประชาชนได้เป็นอย่างดี

"การปฏิบัติหน้าที่ของผมที่ผ่านมา ในบางครั้งอาจเกิดข้อผิดพลาดหรือไม่ถูกใจสมาชิกบางท่าน กระผมต้องขออภัยในการทำหน้าที่ของผม และผมหวังว่าสมาชิกจะเข้าใจและให้อภัย และขอให้เรายังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน เพราะเราทุกคนต่างทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด" นายศุภชัยกล่าว

นครพนมเดือด!! 'ครูแก้ว' ประกาศล้มแลนด์สไลด์ มั่นใจ!! พา 'ภูมิใจไทย' ชนะยกจังหวัดทั้ง 4 เขต

(3 เม.ย.66) วันแรกในการเปิดรับสมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ โดยตั้งแต่เช้าที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนคพนม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีบรรดาผู้สมัคร ส.ส. พรรคการเมืองต่างๆ เดินทางมารอคิวอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งมีกองเชียร์ของแต่ละพรรคแห่มาให้กำลังใจอย่างคับคั่ง แต่เข้มงวดตามระเบียบกฎหมายเลือกตั้ง ห้ามจัดการรื่นเริงทั้งแตรวงหรือกลองยาว ต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา คงมีเพียงการเดินทางมาให้กำลังใจ คล้องมาลัยและมัดผ้าขาวม้าแบบที่เคยปฏิบัติมา เพื่อเป็นสิริมงคลตามวัฒนธรรมทางการเมือง

โดยการเปิดรับสมัคร ส.ส.นครพนมทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง มีพรรคการเมืองใหญ่ที่สำคัญน่าจับตามอง เพียงแค่ไม่กี่พรรค ที่มีฐานคะแนนนิยม รวมถึงตัวผู้สมัครคนสำคัญ อาทิ เจ้าถิ่นที่ผูกขาดเก้าอี้ ส.ส.มาตั้งแต่สมัยเป็นพรรคความหวังใหม่ ถึงพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเป็นพรรคเพื่อไทยในปัจจุบัน ตามด้วยพรรคภูมิใจไทย พรรคนี้ถือเป็นผู้ท้าชิงที่น่ากลัวมาก และพรรคพลังประชารัฐ พรรคก้าวไกล พรรคไทยสร้างไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคเสรีรวมไทย เป็นต้น

ส่วนพรรคการเมืองที่น่าจับตามอง และเชื่อว่าจะต้องมีการแข่งขันกันอย่างเข้มข้น คือ พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทย โดยในวันนี้ ทางพรรคเพื่อไทย มีแม่ทัพคนสำคัญ คือ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช อดีต ผวจ.นครพนม คนที่ 29 (2537-2540) อดีตเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในรัฐบาลของนายทักษิณ ชินวัตร และ รมช.ศึกษาธิการ ในรัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นำทีมผู้สมัครพรรคเพื่อไทยทั้ง 4 เขตเดินทางมาสมัคร นอกจากนี้ ยังมีนายสมนาม เหล่าเกียรติ ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และ นายแพทย์ ประสงค์ บูรณ์พงศ์ รวมถึงมีแกนนำครอบครัวเพื่อไทยทั้ง 4 เขตเลือกตั้ง มาร่วมให้กำลังใจด้วย

ในเบื้องต้นก่อนจะมีการจับสลากเลือกลำดับว่า ใครจะเป็นผู้หยิบเบอร์ประจำตัวในการหาเสียงครั้งนี้นั้น นายศุภชัย โพธิ์สุ แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้ขอหารือร่วมกับ ดร.มนพร เจริญศรี แกนนำพรรคเพื่อไทย และ ดร.สมชอบ นิติพจน์ แกนนำพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อทำข้อตกลงกันว่า ให้มีการจับเลือกเบอร์เพียงพรรคละคน สมมติแกนนำพรรคคนใดคนหนึ่งล้วงได้เบอร์ 1 ส่วนที่เหลืออีก 3 เขต ก็ได้เบอร์ 1 เหมือนกันหมด หลังตกลงเป็นที่เข้าใจแล้ว ก็ไปสอบถามนายสมพล พงษ์พิพัฒน์ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนครพนม ซึ่งได้รับคำตอบว่าทาง กกต.ไม่มีกฎหมายรองรับ จึงต้องกลับมาจับสลากเลือกเบอร์ของตัวเองในแต่ละเขตตามเดิม

ผลการจับสลากเลือกเบอร์ประจำตัวผู้สมัคร เฉพาะ 2 พรรคการเมืองใหญ่ เริ่มจากพรรคเพื่อไทยเขตเลือกตั้งที่ 1 ดร.ภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ได้เบอร์ 6 เขตเลือกตั้งที่ 2 ดร.มนพร เจริญศรี เบอร์ 2 เขตเลือกตั้งที่ 3 ดร.ไพจิต ศรีวรขาน เบอร์ 2 และเขตเลือกตั้งที่ 4 นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ได้เบอร์ 1 ภายหลังการสมัครทางทีมงานพรรคเพื่อไทย ได้เดินทางไปสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อเป็นสิริมงคลทั้งศาลหลักเมืองนครพนม องค์พญาศรีสัตตนาคราช และ องค์พระธาตุพนม พร้อมพบปะปราศรัยกับประชาชน แกนนำครอบครัวเพื่อไทย


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top