Saturday, 19 April 2025
วินเทจ

The mustang blu 'โคโลเนียลโฮเทล' สุดคูลกลางกรุง!! ที่สายวินเทจต้องมุ่งมาพักกาย

ใครสายวินเทจยกมือขึ้น! วันนี้บอสจะพาไปพักโรงแรมแนวใหม่ที่ใครจะเชื่อว่าที่นี่อยู่กรุงเทพ แค่ก้าวผ่านประตูไม้ก็เหมือนเข้าไปอยู่ในเรื่อง Night at the Museum เลยกับโรงแรมภายใต้อาคารเก่า ที่บอกได้เลยว่าจะสร้างความประทับใจแนวใหม่ เอาใจสายวินเทจอย่างแน่นอน

กับโรงแรม The mustang blu โรงแรมริมถนนไมตรีจิตต์ ตั้งใกล้หัวลำโพง มีรากฐานจากอาคารยุคสมัยโคโลเนียล ที่มีอายุร่วม 100 ปี ใครจะเชื่อว่าอาคารหลังนี้ผ่านการใช้งานหลากหน้าที่ ทั้งเคย เป็นธนาคาร กระทั่งเป็นสถานอาบอบจนปรับเปลี่ยนอาคารนี้เป็นที่โรงแรม เปิดเผยร่องรอยเดิม แล้วเติมเรื่องราวเข้าไปใหม่ โดย ‘เป็นความเจ็บปวดที่งดงาม’ คือคำนิยามของที่นี่
 

ที่ตั้ง : ถนน ไมตรีจิตต์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ (ใกล้ MRT สถานีหัวลำโพง ประมาณ 300 เมตร)
ที่จอดรถ : แขกที่เข้าพัก รร. ไม่มีที่จอดรถ ต้องเอารถไปจอดได้ที่ The Quarter Hualamphong (ฟรี 24 ชม.) เท่านั้น โดยอาคารจอดรถอยู่ห่างจากโรงแรม 5 นาที หลังจากการเช็กเอาท์จะได้รับคูปอง 1 ใบ/1 ห้อง เพื่อรับรถ
คะแนนสำหรับที่นี่ : ราคา 9.5/10 (เทียบราคากับบรรยากาศแล้วคุ้มค่าจริงๆ) 
บรรยากาศ 10/10 
การบริการ 9.5/10
 

ที่นี่ได้ใช้ความคลาสสิกอายุกว่าร้อยปีให้ออกมาได้อลังการและสวยน่าถ่ายรูปทุกมุมในแบบ ‘วินเทจรีมิกซ์’ ที่รวมความวินเทจทั้งของวินเทจจริง ๆ และของใหม่ที่ออกแบบให้ดูเป็นวินเทจเอาไว้ได้อย่างลงตัวกันเลยทีเดียว 
 

ที่นี่มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็น ล็อบบี้ และห้องอาหารเช้าของแขกที่เข้าพัก ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่ของห้องพัก 
 

เริ่มกันที่ล็อบบี้ เมื่อประมาณ 100 ปีที่แล้ว ตึกนี้เคยเป็นที่ตั้งของธนาคาร Bank of China จึงทำให้มีตู้และเฟอร์นิเจอร์สำหรับงานธนาคารบางชิ้นที่เป็นเหมือนร่องรอยทางประวัติศาสตร์ของตึกนี้หลงเหลือไว้อยู่ 
 

บริเวณชั้นล่าง
 

บริเวณชั้นล่าง
 

ที่นี่เป็นบันไดหมดเลยไม่มีลิฟต์ 
 

มองลงไปด้านล่าง
 

มองไปด้านบนหลังคาของของโรงแรม จะออกแบบให้เป็นเหมือนโดม

 

มากันที่ในห้องทุกห้องที่นี่ ไม่ว่าใหญ่หรือเล็ก จะถูกออกแบบให้อยู่ในธีมเดียวกันทั้งอาคาร แตกต่างที่การตกแต่ง ทำให้แต่ละห้องให้ความรู้สึกที่ชวนมองแตกต่างกันไป

มุมต่างๆ

Portobello & Desire จิบน้ำชายามบ่าย สไตล์อังกฤษ ร้านหรูวินเทจ ในสวนร่มรื่น ย่านเกษตร-นวมินทร์

วันอาทิตย์ แบบนี้ THE STATES TIMES ขอแนะนำร้านดีๆ ที่จะทำให้ วันอาทิตย์ของคุณวันนี้กลายเป็นวันหยุดสุดพิเศษ

Portobello & Desire (พอร์ทโทเบลโล่ แอนด์ เดเซเร) คาเฟ่สีขาวบรรยากาศอบอุ่น ย่านเกษตรนวมินทร์ ร้านนี้เปิดอยู่ในซอยประดิษฐ์มนูธรรม ร้านตกแต่งสไตล์อังกฤษ มีโซนเอาท์ดอร์ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสบายท่ามกลางสวนร่มรื่น รวมถึงโซนห้องแอร์ที่เน้นโทนสีขาวแนวชวนฝันแบบเรียบหรู 

เดินเข้ามาจากทางด้านหน้า จะเห็นพื้นที่นั่งในสวนเอาท์ดอร์ที่กว้าง มีที่นั่งอยู่หลากหลายท่ามกลางสวนสีเขียว ส่วนตัวร้านนั้น เป็นบ้านวินเทจสีขาว  บรรยากาศแบบ English Country Home แสนอบอุ่น จากสวนมองไปเห็นพื้นที่ภายในร้านซึ่งทำเป็นหน้าต่างให้มองออกมาข้างนอกได้ เรียกได้ว่านั่งทานอาหารไปก็ชมสวนไปด้วย ส่วนพื้นที่โซนห้องแอร์เย็นๆนั้น พื้นที่ไม่กว้างมากแต่ตกแต่งได้น่ารักชวนฝัน ประดับด้วยดอกไม่ในโทนสีขาว 

สำหรับเมนูอาหารของPortobello & Desire จะเน้นอาหารแบบตะวันตกสไตล์โฮมเมด โดยมีทั้งอาหารจานหลักและเมนูของว่าง แต่ละอย่างล้วนได้รับการปรุงอย่างใส่ใจ และมีความสร้างสรรค์ตามแบบฉบับของทางร้าน เมนูแนะนำ ได้แก่ “garlic bread” ขนมปังกระเทียมเนื้อนุ่ม, “spicy salmon” แซลมอนหั่นเต๋า เคล้าน้ำยำเนื้อข้น, “spaghetti clams meat” สปาเกตตี้ผัดพริกแห้งใส่หอยลายรสจัดจ้าน, “duck confit” น่องเป็ดปรุงด้วยซอสส้ม, “orange crepe” เครปนุ่ม ๆ เสิร์ฟกับพีชเชื่อมและส้มเชื่อม และ “rose soda” สดชื่นซู่ซ่า สั่งมากินตัดเลี่ยนได้เป็นอย่างดี

เมนูของหวาน ก็มีมากมายอาทิ เครปสตรอเบอรี่ ที่มาพร้อมไอศกรีมวนิลลาและสตรอเบอรี่ สดกรอบอร่อย เครื่องดื่มก็มีหลากหลายให้เลือก ซึ่งล้วนเข้ากันได้ดีกับอาหาร โดยเฉพาะชาที่มีกลิ่นหอม รสชาติเยี่ยมมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม
เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-พฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 11.00-21.00 น. และวันศุกร์-อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 11.00-22.00 น. 
ที่อยู่ : ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
เบอร์โทรศัพท์ : 098-289-8703

เรื่อง : กันย์ ฉันทภิญญา Content Manager

‘ชาดา’ ในลุคสุดคูล!! แต่งชุดวินเทจ ไฮแฟชั่น เดินเล่นสบายๆ ที่ตลาด 4 แยก FLEA Market

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชาดา ไทย​เศรษฐ์​ รัฐมนตรี​ช่วยว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ โพสต์ภาพและข้อความผ่านเพจ ‘Chada Thaised’ ระบุว่า…

“เดินเล่นตลาด สี่แยก FLEA Market แยกรัชดา–ลาดพร้าว ของสวยๆ เต็มเลยครับ ลองมาแวะดูกันได้”

โดยนายชาดา แต่งตัวในลุควินเทจ สุดเรียบ หรู สบายๆ แต่ความแฟชั่นนั้นจัดเต็ม จนมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก อาทิ

- “ชอบการแต่งตัวของท่านค่ะ”
- “แต่งตัวเทสดีนะ นี่สไตล์ อ.ฟูจิโกะ ฟูจิโอะ ใดๆๆ คือ ช่างภาพหามุมเก่งมาก ถ่ายมาดูดี”
- “กำลังฮิตเลย สไตล์gentlemen”
- “แว้บแรกนึกว่า Vogue ลงงานอะไร”
- “สายแฟชั่นซะด้วยรองเท้าคนละคู่ เท็ตสึกะ โอซามุ สไตล์งี้”
- “ความเดินตลาดวินเทจแบบคนมีเทส”

‘Scomadi Turismo Electronica’ สองล้อ EV วินเทจยุค 60 โฉม 'บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก' เปิดราคาแสนต้น วิ่งไกลร้อยโล

(30 ก.ย. 67) ‘Scomadi Turismo Electronica’ รถสกู๊ตเตอร์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในประเทศไทย ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ในสไตล์บริทิช โมเดิร์น คลาสสิก

ด้วยดีไซน์ รูปลักษณ์ยังคงรักษาเอกลักษณ์รถวินเทจยุค 60 คลาสสิกด้วยโคมไฟหน้าทรงกลมและเบาะนั่งแบบสโลป และเส้นสายโค้งมนของตัวรถ พร้อมโลโก้เสือดำสัญลักษณ์ของแบรนด์ น้ำหนักรถ 137 กิโลกรัม และความสูงเบาะที่นั่ง 800 มิลลิเมตร ออกแบบเพื่อรองรับสรีระของนักขับขี่ทุกเพศทุกวัย ผู้หญิงไทย ไซส์เล็ก ก็ขับขี่ คุมรถได้สบาย ๆ 

รถสกู๊ตเตอร์รุ่นนี้มีทั้งหมด 3 สี คือ สีเขียว Emerald Green, สีเทา Coal Pearl และสีดำ Panther Black

หน้าจอล้ำสมัย แสดงผลแบบ TFT ขนาด 5 นิ้ว บอกเวลา ความเร็ว ระยะแบตเตอรี่ และโหมดการขับ รองรับการเชื่อมต่อและสั่งการผ่านแอปพลิเคชันเพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนชุดชาร์จแบตอยู่ตรงกลางของตัวรถ สามารถเสียบชาร์จไฟบ้านได้สะดวกสบาย ส่วนแบตเตอรี่แบบฝังอยู่ใต้เบาะ และมีสวิตซ์ตัดระบบไฟเพื่อความปลอดภัยติดตั้งมาให้ 

 

‘Scomadi Turismo Electronica’ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3,000 วัตต์ แบตเตอรีความจุ 72 โวลต์ 40 แอมแปร์ต่อชั่วโมง ให้การขับระยะทางไกลถึง 101 กิโลเมตร ในระยะเวลาชาร์จเต็มเพียง 3 ชั่วโมง ทำความเร็วสูงสุด 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผ่านโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ทั้ง Economy Sport และ Normal พร้อมด้วยเกียร์ถอยหลัง 

สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้ ขี่ง่ายมาก แม้จะเป็นรถไฟฟ้า แต่ก็ไม่ต้องปรับตัวเยอะ มีความคล่องตัวสูง และมีจุดเด่นที่ความเงียบ ช่วยลดมลพิษทางเสียง 

อุปกรณ์มาตรฐานที่ติดตั้งมาให้จากโรงงานนั้นประกอบด้วย โช้คคู่หน้า และ โช้คเดี่ยวหลัง OKD แบบไฮดรอลิกปรับพรีโหลดได้ ยางติดรถ เป็นของ Michelin power pure ขนาด 12 นิ้วทั้งหน้าและหลัง ส่วนระบบเบรก เป็นแบบ(CBS) Combi Brake System เน้นการกระจายแรงเบรกระหว่างล้อทั้งสองไม่ให้ลื่นหรือล้อล๊อค เพื่อความปลอดภัย 

ทั้งหมดที่ว่ามา กับราคาค่าตัว 129,740 บาท ของ Scomadi Turismo Electronica คันนี้ถือว่าคุ้มมาก

ผู้ที่สนใจ ‘Scomadi Turismo Electronica’  รถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ในกลิ่นอายสไตล์วินเทจ ก็สามารถชมรถคันจริงพร้อมทดลองขับขี่ ในกิจกรรม Scomadi EV Your Ride Your Way ได้ที่ดีลเลอร์ 4 แห่ง ทั้ง สโกมาดิ อโศก มอเตอร์วิลล์ / สโกมาดิ เอ็มเพอเรอร์ กรุงเทพฯ /สโกมาดิ พัทยา (วัชรคอมเพลกซ์) / และ สโกมาดิ ลพบุรี (ศิริชัย มอเตอร์เซลส์) 

ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมทาง www.scomadithailand.com Facebook:Scomadi Thailand LINE: @scomadithailand  หรือโทร 081 888 6066


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top