Thursday, 24 April 2025
วางมือทางการเมือง

นายกฯอิ๊ง จรดปากกาเซ็นตั้ง 2 ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพิ่ม เซอร์ไพรส์ ชื่อ ‘ณัฐวุฒิ’ โผล่นั่งตำแหน่ง หลังเคยประกาศวางมือ

(7 ต.ค. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 348/2567 ณ วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม โดยมีเนื้อหาระบุว่า

ตามที่ได้มีคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ 319/2567 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 16 กันยายน 2567 นั้น เพื่อให้การบริหารราชการแผ่นดินและการขับเคลื่อนงานของรัฐบาลเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 11 (6) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีเพิ่มเติม เพื่อทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและพิจารณาเสนอความเห็นหรือข้อเสนอแนะต่างๆ ตามที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ดังนี้

1. นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส
2. นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2566 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เคยประกาศยุติบทบาททางการเมือง โดยขอลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย หลังเชิญพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) เข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล 

‘ณัฐวุฒิ’ เปลือยเบื้องลึกหวนคืนสู่เส้นทางสายการเมือง รับบท ‘กุนซือการเมือง’ เคียงข้าง ‘แพทองธาร’

(8 ต.ค. 67) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกฯ ให้สัมภาษณ์นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ผู้ประกาศข่าว ผ่านเพจ 'สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว' ว่า

กรณีที่นายสรยุทธ สอบถามว่าถือเป็นการกลืนน้ำลายตัวเองหรือไม่ที่กลับมาช่วยพรรคเพื่อไทยทั้งที่ในปี 2566 ได้ประกาศออกจากหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เพราะไม่เห็นด้วยที่พรรคเพื่อไทยจับมือกับ 3 ลุง โดยนายณัฐวุฒิ ตอบนายสรยุทธว่า ไม่ เพราะตนมีเหตุผล เนื่องจากสถานการณ์ทางการเมืองเปลี่ยนไป การเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรอำนาจซึ่งสถานการณ์ขณะนั้นเป็นหมากล็อก ถึงต้องตั้งรัฐบาลแบบนี้

ที่ถอยออกมาเพราะได้ประกาศกับประชาชนไปแล้วและหวังว่าเมื่อเกิดรัฐบาลแบบนี้ก็น่าจะประคับประคองและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนได้ในหลายเรื่อง แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1 ปี นายเศรษฐา ทวีสิน กลับพ้นตำแหน่งคือทุกอย่างเกิดขึ้นภายในสัปดาห์เดียว คือพรรคก้าวไกลถูกยุบตามด้วยนายเศรษฐาพ้นตำแหน่ง พอตนเห็นแบบนี้ก็เป็นห่วงนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร

ตนไม่คิดว่านายเศรษฐาจะอยู่แค่ปีเดียว เมื่อเป็นแบบนี้ก็เลยเป็นห่วงน.ส.แพทองธาร แล้วทางนี้ก็อยากให้ตนเข้ามาช่วยด้วย

โดยตนจะเข้ามาร่วมกับทีมงานในการคิดประเมินสถานการณ์ทางการเมือง ออกความเห็นทางการเมืองรายงานต่อนายกฯ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารออกสู่ประชาชน ซึ่งหลายคนในทีมงานก็จะมีประสบการณ์มาช่วยคิดอ่านสถานการณ์ทางการเมืองกัน

เมื่อถามว่ามาช่วยวิเคราะห์กับดักนายกฯ นายณัฐวุฒิ ไม่ปฏิเสธ พร้อมขยายความว่ามาช่วยสื่อสารกับสังคม มีทีมทำงานอยู่ซึ่งเป็นปกติของทุกนายกฯ ที่จะมีทีมงานแบบนี้

เมื่อถามต่อว่าแล้วทีมงานบ้านพิษณุโลก 5-6 ท่านถือว่าเป็นทีมเดียวกันหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ภารกิจจะไม่ได้เกี่ยวเนื่องกัน เพราะบ้านพิษณุโลกเน้นนโยบายและเอกสารที่จะขับเคลื่อนนโยบาย ส่วนตนจะเกี่ยวข้องกับตัวนายกฯ สถานการณ์ต่าง ๆ ที่แวดล้อมนายกฯ อยู่

เมื่อถามว่าถือเป็นพี่เลี้ยงนายกฯ นายณัฐวุฒิ ปฏิเสธว่าไม่ใช่พี่เลี้ยงนายกฯ นายกฯไม่จำเป็นต้องมีพี่เลี้ยง เพราะมีศักยภาพ มีความชัดเจนเด็ดขาดแบบที่น.ส.แพทองธารเป็น

เมื่อถามต่อว่า พรรคเพื่อไทยโดนข้อหาตระบัดสัตย์ เมื่อนายณัฐวุฒิกลับเข้ามาทำให้ภาพตระบัดสัตย์นี้กลับมาอีกครั้ง นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ไม่ เราจะไปห้ามไม่ให้พูดไม่ได้ ตนคิดว่าอย่าไปเปลืองเวลา เพียงแต่เราต้องบอกเหตุผลกับตัวเราเองให้ได้ก่อน เมื่อบอกเหตุผลกับตัวเองได้แล้วก็จะบอกสาธารณะได้ ส่วนว่าจะเชื่อหรือไม่ก็เป็นเรื่องสิทธิเสรีภาพของคนฟัง


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top