Thursday, 2 May 2024
ลำพูน

สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน จัดโครงการเสริมสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อ-จัดจ้าง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ที่ โรงแรม กัชชัน พาโนรามา กอล์ฟ คลับ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้าง ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดลำพูน  จัดโดย สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน  โดยมีนางสาววิศรา รัตนสมัย  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดลำพูน   กล่าวรายงาน  มีนายชาตรี กิตติธนดิตถ์  ปลัดจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงาน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานหน่วยงานขององค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น 58 หน่วยงาน และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง  จำนวน 140 คน  เข้าร่วมโครงการ

สืบเนื่องจากสภาพปัญหาการกระทำความผิดและเรื่องร้องเรียนที่ สำนักงาน ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการในปีที่ผ่านมา พบว่าในระดับประเทศและระดับจังหวัด จากข้อมูล สถิติเรื่องกล่าวหาที่สำนักงาน ป.ป.ช. รับไว้ดำเนินการในปี พ.ศ. 2563 ปรากฏว่าการกระทำความผิดมีสัดส่วนสูงที่สุด 2 อันดับแรก คือ 1. การจัดซื้อจัดจ้าง จำนวน  1,199 เรื่อง    2. ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จำนวน 1,024  เรื่อง โดยพบว่า จำนวน เรื่องร้องเรียนกล่าวหาเกี่ยวกับการกระทำความผิดการจัด จัดจ้างสูงเป็นลำดับที่ 1 ดังกล่าว หน่วยงานที่ถูกร้องเรียนกล่าวหา เป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นถึง 2,212 เรื่อง คิดเป็นสัดส่วน 1 ใน 3 ของเรื่องร้องเรียนกล่าวหาทั้งหมด

สำนักงาน ปปช. ประจำจังหวัดลำพูน จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น โดยมีการเสวนา แลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการให้ความรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560  และประเด็นปัญหาด้านพัสดุ ในเพื่อสร้างความตระหนักและความเข้าใจให้แก่ผู้บริหาร และข้าราชการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานเกี่ยวข้องในพื้นที่จังหวัดลำพูน ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยความถูกต้องโปร่งใส อันเป็นการลดปัญหาการกระทำความผิดเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ตลอดจนส่งเสริมให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีการบริหารงานด้วยหลักธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน  ต่อไป

ภาพ/ข่าว  นายคมศักดิ์  หล่อเถิน

ลำพูน - โรงพยาบาลสนามแห่งที่ 2 ของจังหวัดลำพูน ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน สามารถรองรับผู้ป่วย COVID19 ได้จำนวน 100 เตียง

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 เวลา 13:30 นาฬิกา กองพลทหารราบที่ 7 โดย กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 7 ค่ายกาวิละ และ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้า จัดกำลัง หน่วยละ 1 ชุดปฏิบัติการ (ชป.ๆ ละ 10 นาย) รวม 20 นาย ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการ ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดลำพูน (ศปก.จ.ลพ.) , สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน (อส.) สังกัด ร้อย บก.บร. บก.อส.จ.ลพ. , องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน (อบจ.ลำพูน) ,  สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน , ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน และ โรงพยาบาลลำพูน ดำเนินการจัดตั้ง โรงพยาบาลสนาม เพิ่มเติมเป็นแห่งที่ 2 ของ จังหวัดลำพูน ณ อาคารหอประชุม อบจ.ลำพูน บ้านน้ำบ่อเหลือง หมู่ที่ 15 ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน โดยได้รับเตียงสนาม (แบบกล่องกระดาษ) จำนวน 100 ชุดจากภาคเอกชน

โดยได้ดำเนินการประกอบจนแล้วเสร็จ เพื่อรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของ จังหวัดลำพูน โดยสถานการณ์เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2564 มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้น จำนวน 12 ราย ทำให้ยอดผู้ป่วยสะสมมีจำนวน จำนวน 141 ราย โรงพยาบาลสนาม แห่งที่ 1 (โรงพยาบาลลำพูนสาขาเวียงยอง) ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน ไม่สามารถรองรับผู้ป่วยได้หมด

ทั้งนี้ จังหวัดลำพูน ได้รับการสนับสนุนเตียงสนาม แบบกระดาษ จากบริษัท SCG Packaging จำกัด (มหาชน) บริษัทในเครือบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 100 ชุด เพื่อดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคม (CSR)


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

ลำพูน - มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย ได้นำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือพระราชทาน แจกจ่ายเครือข่ายและประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19

มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย  ได้นำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือพระราชทาน ของพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ และ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภานเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราช ที่ได้ทรงห่วงใย ช่วยเหลือนำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือพระราชทาน จำนวน 5 แกลลอน แจกจ่ายให้แก่เครือข่าย และประชาชนเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโควิด-19

โดยในวันนี้ (20 เม.ย. 64) ที่ห้องประชุม ชั้น 3 องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ลำพูน บ้านน้ำบ่อเหลือง หมู่ที่ 15 ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นำโดย นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายก อบจ.ลำพูน เป็นผู้แทนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย นำเจลแอลกอฮอล์ล้างมือพระราชทาน มอบให้กับ วัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย เลขที่ 226 หมู่ที่ 2 ตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน  โดยมีพระรัฐเวช อุตตมญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย รับมอบฯ พร้อมแจกจ่ายให้กับ ผู้นำชุมชนในพื้นที่ตำบลต้นธง และ ตำบลเวียงยอง ร่วมเข้ารับมอบเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในพื้นที่ให้กับประชาชนต่อไป


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

ลำพูน – จู่โจม !! รวบนักพนันมวยตู้คาวงเหล้า ศปก.จ.ลพ. พร้อม "พยัคฆ์เทวี" หลังรับการร้องเรียน เจ้าของร้านเจอข้อหา จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลา

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 เวลา 15:30 น. ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดลำพูน (ศปก.จ.ลพ.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำพูน "พยัคฆ์เทวี" ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเมืองลำพูน (ศปก.อ.เมืองลำพูน.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำพูน "บัวขาว" เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นิคมอุตสาหกรรม , สมาชิก อส. สังกัด ร้อย บก.บร. และ ร้อย อส.เมืองลำพูน ที่ 1 ได้ร่วมกันตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณี มีการลักลอบเล่นการพนันมวยตู้ ในร้านขายของชำแห่งหนึ่ง หมู่ที่ 19 บ้านใหม่เหมืองกวัก ต.มะเขือแจ้ อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน

ขณะเข้าตรวจสอบ พบนักพนันกำลังเล่นการพนันหมวยตู้ และนั่งดื่มสุรา เชียร์มวยกันอย่างเมามัน เมื่อชุดจับกุมได้แสดงตัว นักพนันวิ่งแตกตื่นกันไปคนละทิศคนละทาง ชุดจับกุมฯจึงได้วิ่งติดตามจับกุมนักพนันมาได้ รวมกับผู้ที่นั่งดื่มสุรา เชียร์มวย จำนวนทั้งสิ้น 8 ราย พร้อมของกลางทั้งหมด

นักพนันทั้งหมดยอมรับว่าได้ร่วมกับพวกที่หลบหนีลักลอบเล่นการพนันหมวยตู้ ชุดจับกุม จึงได้แจ้งให้เจ้ามือ และนักพนันทั้งหมดทราบว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ข้อหา "เป็นผู้จัดให้เล่นการพนัน และเจ้ามือรับกินรับใช้ และร่วมกันลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และฝ่าฝืน "คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ที่ 39/2564 วันที่ 17 เมษายน 2564 เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรมการมั่วสุม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แอดอัด หรือสถานที่อื่นใดในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดลำพูน" และได้แจ้งข้อหากับเจ้าของร้าน ในข้อหา "จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์นอกเวลากฎหมายกำหนด" ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ชุดจับกุมฯจึงได้แจ้งสิทธิและนำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.นิคมอุสาหกรรม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

ลำพูน – นักพนันไก่ชน...แตกกระเจิงในสังเวียน หลังได้รับเรื่องร้องเรียน สนธิกำลังร่วมเข้าจับกุม ผู้เล่น 21 รายพร้อมของกลางจำนวนมาก

เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 64 เวลา 20:40 น. ชุดอำนวยการประกอบด้วย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผวจ.ลพ. นายอนุพงษ์ วาวงศ์มูล รอง ผวจ.ลพ. นายชาตรี กิตติธนดิตถ์ ปจ.ลพ.

นายโยธิน ประสงค์ความดี นอภ.เมืองลำพูน ได้นำกำลัง ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคจังหวัดลำพูน (ศปก.จ.ลพ.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองจังหวัดลำพูน "พยัคฆ์เทวี" ชุดปฏิบัติการศูนย์ปฏิบัติการควบคุมโรคอำเภอเมืองลำพูน (ศปก.อ.เมืองลำพูน.) ชุดปฏิบัติการพิเศษฝ่ายปกครองอำเภอเมืองลำพูน "บัวขาว" เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เหมืองจี้ , สมาชิก อส. สังกัด ร้อย บก.บร. และ ร้อย อส.เมืองลำพูน ที่ 1 ได้ร่วมกันตรวจสอบเรื่องร้องเรียน กรณี มีนักพนันรวมตัวกันเล่นพนันไก่ชน หมู่ที่ 6 บ้านสันป่าสัก ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน

นอภ.เมืองลำพูน ได้วางแผนการเข้าจับกุม เข้าตรวจสอบพื้นที่ร้องเรียนดังกล่าว เมื่อถึงพื้นที่ร้องเรียน เจ้าหน้าที่ฯจึงเข้าทำการปิดล้อมพื้นที่สนามประลองไก่(สังเวียนไก่)  พบนักพนันจำนวนมากกำลังเชียร์ลุ้นไก่ชนอย่างสนุกสนาน ชุดจับกุมฯจึงได้แสดงตัวเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เข้าทำการจับกุม นักพนันไก่ชนเห็นพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้ตื่นตกใจวิ่งแตกกันไปคนละทิศคนละทาง

ชุดจับกุมจึงได้วิ่งติดตามนักพนันไก่ชน ได้จำนวน 21 คน พร้อมของกลางจำนวนมาก จึงได้แจ้งข้อหาเจ้าของบ้าน และผู้ถูกจับกุมกับพวกที่หลบหนีในข้อหา "เป็นผู้จัดให้เล่นการพนัน และเจ้ามือรับกินรับใช้ และร่วมกันลักลอบเล่นการพนันเอาทรัพย์สินโดยไม่ได้รับอนุญาต" ตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 และฝ่าฝืน "คำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ที่ 39/2564 วันที่ 17 เมษายน 2564 เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรมการมั่วสุม ณ ที่ใด ๆ ในสถานที่แอดอัด หรือสถานที่อื่นใดในลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่จังหวัดลำพูน" ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เหมืองจี้ ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้ ผวจ.ลำพูน ได้เข้ามาชี้แจงกับนักพนันชนไก่ ขอความร่วมมือห้ามเล่นการพนันชนไก่ และการพนันอื่น ๆ อีก เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมาย และพื้นที่ดังกล่าวมีการรวมกลุ่มคนจำนวนมาก เป็นสุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ  ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดลำพูน

ลำพูน - อบจ.ลำพูน พร้อมด้วย ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน MOU สร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน

การทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัยของประชาชนในท้องถิ่น และชุมชน ระหว่าง ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ประจำปี 2564

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2564 องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน(อบจ.ลำพูน) ร่วมกับ ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน  นำโดย นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายก อบจ.ลำพูน พร้อมด้วย พลตำรวจตรี นฤชิต เนียวกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงในการส่งเสริมสนับสนุนและประสานงาน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อย และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน พร้อมสนับสนุนนโยบาย แผนงาน โครงการ งบประมาณ และอาสาสมัคร วัสดุอุปกรณ์ เพื่อการรักษาความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้ขอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหนังสือสั่งการต่าง ๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น  ตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับ หรือหนังสือสั่งการของกระทรวงมหาดไทย

ทั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะได้ประสานความร่วมมือในการบูรณาการสนับสนุนดำเนินการตลอดจนติดตาม ประเมินผลการดำเนินงาน ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยอยู่ภายใต้ภารกิจ อำนาจหน้าที่ และไม่ขัดต่อข้อระเบียบ กฎหมาย และหลักศีลธรรมตลอดไป

บันทึกข้อตกลงว่าด้วย ความร่วมมือในการรักษาความสงบเรียบร้อย การรักษาความปลอดภัยของประชาชนในท้องถิ่นและชุมชน ระหว่าง ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน บันทึกข้อตกลงความร่วมมือฉบับนี้ ทำขึ้นระหว่าง ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน และ องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน(อบจ.ลำพูน) เพื่อสร้างนวัตรกรรมที่สามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในท้องถิ่นภายใต้ยุทธศาสตร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 20 ปี ( พ.ศ.2563 - 2580 ) ยุทธศาสตร์ที่ 3 การมีส่วนร่วมของประชาชนในการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคมอย่างยั่งยืน ระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ว่าด้วยการส่งเสริมให้ประชาชน ชุมชน ท้องถิ่น และองค์กรมีส่วนร่วมในกิจการตำรวจ พ.ศ.2551 และระเบียบคณะกรรมการนโยบายสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ส.ต.ช.) ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการจัดระบบการบริหาร การปฏิบัติงานต้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อย และการรักษาความปลอตภัยของประชาชนให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่นและชุมชน พ.ศ.2559

โดยมุ่งเน้นให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด และ หัวหน้าสถานีตำรวจทุกหน่วยประสานงานกับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทั้งในส่วนที่เกี่ยวกับนโยบาย แผนงาน โครงการ งบประมาณ และอาสาสมัคร ตลอดจนการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติงานของตำรวจ เพื่อเป็นการขับเคลื่อนการพัฒนาจังหวัดลำพูน และการส่งเสริมสนับสนุนและ

ประสานการดำเนินงานให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์แห่งบทบัญญัติดังกล่าวอย่างยั่งยืนต่อไปทั้งสองฝ่ายจึงตกลงความร่วมมือ ดังนี้

1. องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จะส่งเสริมสนับสนุนและประสานงาน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อยและการรักษาความปลอดภัยของประชาชน ให้มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับความต้องการของแต่ละท้องถิ่นและชุมชน ให้คำแนะนำ กำหนดหลักเกณฑ์

วิธีปฏิบัติสำหรับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการสนับสนุนนโยบาย แผนงาน โครงการ งบประมาณ และอาสาสมัคร วัสดุ อุปกรณ์ เพื่อการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยของประชาชน ภายใต้ขอบอำนาจและหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหนังสือสั่งการต่งๆ ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

2. ตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน จะดำเนินการควบคุม และกำกับดูแลให้หน่วยงานในสังกัดปฏิบัติภารกิจค้านการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดทางอาญา การรักษาความสงบเรียบร้อย และการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนให้เหมาะสมกับความต้องการแต่ละท้องถิ่นและชุมชน โตยเปิดโอกาสให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน ได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นในเรื่อง นโยบาย แผนงาน หรือ โครงการให้เกิดผลสำเร็จภายใต้ชอบอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ หรือหนังสือสั่งการต่าง ๆ ของตำรวจภูธรจังหวัดลำพูน

ทั้งนี้ ทั้งสองหน่วยงานจะประสานความร่วมมือระหว่างกัน และจะสนับสนุนการดำเนินงาน ตลอดจนติดตามผล ประเมินผลการดำเนินงาน ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือให้เกิตประโยชน์สูงสุดทุกระยะ การประสานความร่วมมือและสนับสนุน โดยให้อยู่ภายใต้ภารกิจ อำนาจหน้าที่ และไม่ขัดต่อข้อระเบียบ

กฎหมาย และหลักศีลธรรมอันดีตลอดไป บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ จัดทำขึ้นจำนวน 6 ฉบับ มีข้อความถูกต้องตรงกัน ทุกฝ่ายได้อ่านทำความเข้าใจขัอความ ข้อตกลงโดยละเอียดแล้ว จึงได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นสำคัญ ต่อหน้าพยาน ให้ยึดถือโดยบันทึกข้อตกลงที่ได้ลงนามแล้วนี้ ไว้ฝ่ายละ 1 ฉบับ และจะมีผลผูกพันในการปฏิบัติร่วมกัน นับตั้งแต่วันที่ลงนาม (6 พ.ค. 64) เป็นต้นไป


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดลำพูน

ลำพูน - พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ ไม่กักตัว 14 วัน แจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ

จังหวัดลำพูน พบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 เพิ่ม 4 ราย สถิติผู้ป่วยสะสม 298 ราย รักษาหายแล้ว 285 ราย คงเหลือผู้ป่วยรักษาตัวอยู่  7 ราย กลุ่มผู้ป่วยทั้ง 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ แล้วไม่เข้าสู่กระบวนการกักตัว 14 วัน ซึ่งจังหวัดลำพูนจะแจ้งข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ             

วันนี้ ( 26 พ.ค. 64 ) ที่ศาลาประชาคม ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วยนายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน , นายแพทย์สาริกข์ พรหมมารัตน์ นายแพทย์ชำนาญการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน และ นายเดช ศิรินาม ศึกษาธิการจังหวัดลำพูน ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ของจังหวัดลำพูน

พบรายงานผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มเติมจำนวน 4 ราย  ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อสะสมตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน -  26 พฤษภาคม  มีจำนวน 298 ราย เสียชีวิตสะสม 6 ราย ซึ่งประชาชนสามารถ ดูข้อมูลการเดินทางของผู้ติดเชื้อ ที่ Facebook ศูนย์ข่าวโควิด -19 ลำพูน และ Facebook สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดลำพูน 

ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า วันนี้ในพื้นที่ จังหวัดลำพูน มีผู้ป่วยติดเชื้อ เพิ่ม 4 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่เข้าสู่กระบวนการกักตัว จนทำให้มีความเสี่ยงในการนำเชื้อไปติดต่อบุคคลอื่นในครอบครัว การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ขัดต่อคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ซึ่งเมื่อทำการรักษาหายแล้วนั้น จะต้องมีการดำเนินคดีตามกฎหมาย เนื่องจากฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน เนื่องจากสร้างผลกระทบต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดลำพูนหลังจากที่ไม่พบผู้ติดเชื้อมาติดต่อกันเป็นเวลา 12 วันแล้ว

หากแม้ว่าไม่พบผู้ติดเชื้อไม่ได้หมายความว่าสถานการณ์จะจบลง การปฏิบัติตัวในการเฝ้าระวังและป้องกัน ยังคงต้องดำเนินต่ออย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะผู้ที่มาจากจังหวัดเสี่ยง และไม่ทำการกักตัว จะเกิดความเสี่ยงต่อการแพร่กระจายเชื้อเป็นวงกว้าง ซึ่งผู้ที่เดินทางกลับมาจากจังหวัดเสี่ยงแล้วกักตัวตามกระบวนการ เมื่อเจ็บป่วยทางจังหวัด จะนำเข้าสู่กระบวนการรักษาจนหาย หากประชาชนพบเห็นผู้ฝ่าฝืนไม่กักตัว สามารถแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายอำเภอ หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ ลงพื้นที่ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนผู้ที่มาจากจังหวัดเสี่ยงและมีใบรับรองการฉีดวัคซีนป้งกันไวรัสโควิดจนครบ 2 เข็ม บุคคลเหล่านี้ยังคงต้องดำเนินการกักตัว จนครบ 14 วัน  เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่ามีภูมิคุ้มกันและจะไม่มีการแพร่เชื้อในพื้นที่

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน  และ นายแพทย์ชำนาญชำการพิเศษ โรงพยาบาลลำพูน ยังได้เชิญชวนประชาชน ให้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด – 19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดการติดเชื้อ และลดความเสี่ยงการเสียชีวิต ในกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว

ด้านการเตรียมความพร้อม สำหรับสถานศึกษา ศึกษาธิการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า ในช่วงที่มีเปิดภาคเรียน ได้กำชับให้สถานศึกษาที่มีความพร้อม สามารถเปิดทำการเรียน – การสอน ได้ในวันที่ 1 มิถุนายน นี้ และดูแลเอาใจใส่ เด็กนักเรียน โดยให้เว้นระยะห่าง ทั้งในช่วงระหว่างที่มีการเรียนการสอน และช่วงพัก ให้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันตามหลักสาธารณสุขอย่างเข้มงวด และขอความร่วมมือผู้ปกครองให้จัดเตรียมหน้ากากอนามัยให้แก่เด็กนักเรียนอย่างน้อย 3 ชิ้นต่อวัน สำหรับใช้ทดแทนเมื่อเด็กทำหล่นหาย


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ลำพูน – อธิบดีกรมสุขภาพจิต ติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหา ‘การฆ่าตัวตาย’ ภายใต้กิจกรรม 4 Plilar

แพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิตพร้อมคณะฯ ติดตามการขับเคลื่อนการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย ภายใต้กิจกรรม 4 Plilar ณ ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน ถนนอินทยงยศ ตำในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน และประชุมติดตามผลการดำเนินงานสุขภาพจิตชุมชนในโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย (4 pillar) จังหวัดลำพูน ในวันนี้ (30 มิ.ย. 64) เมื่อเวลา 09:30 น.

นอกจากนี้ ยังได้มีการอภิปรายหัวข้อการป้องกันแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายประเด็น

1. นโยบายการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายของจังหวัดลำพูน โดย นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน

2. สถานการณ์การฆ่าตัวตายของประเทศไทย และแนวทางแก้ไขปัญหา โดย แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต

3. บทบาทของพระสงฆ์ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตาย โดย พระเทพรัตนนายก เจ้าคณะจังหวัดลำพูน

4. การป้องกันและแก้ไขปัญหาการฆ่าตัวตายโดยใช้ลำพูนโมเดล (4 pillar) โดย นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน

ดำเนินรายการ โดย นายแพทย์ กิตต์กวี โพธิ์โน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสวนปรุง และ นางบุษบา อนุศักดิ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำพูน

จากนั้น อธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมคณะฯ เดินทางไปยังเทศบาลตำบลทากาศเหนือ อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน เพื่อติดตามผลการดำเนินงานสุขภาพจิตชุมชน และ มอบทุนประกอบชีพให้กับผู้เปราะบาง โดย แพทย์หญิงพรรณพิมลฯ ก่อนเดินทางกลับ

นางพรรณพิมล อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยว่า "จากสถานการณ์การฆ่าตัวตายประเทศไทย ในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมา พบมีอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จต่อแสนประชากรสูงอยู่ในช่วงวิกฤตต้มยำกุ้ง , 2540 โดยในปี 2540-2542 พบร้อยละ 6.92-8.12 และสูงสุดในปี 2542 ร้อยละ 8.59 ส่วนในปี 2563 อัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จ ต่อแสนประชากร อยู่ที่ร้อยละ 7.37 และจากการรวบรวมข้อมูลตามเขตสุขภาพ ในช่วงเดือน ตุลาคม 2563 ถึง พฤษภาคม 2564 พบเขตสุขภาพที่ 18 จังหวัดภาคเหนือตอนบน) มีอัตราการฆ่าตัวตายสําเร็จต่อแสนประชากร ร้อยละ 10.01 และ สูงสุดในจังหวัดลำพูน ถึงร้อยละ 14.22"

สำหรับ การป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายและการลดอัตราการฆ่าตัวตายจะสำเร็จได้นั้น เกิดจากแรงขับเคลื่อนจากทุกภาคส่วน โดยมีคณะกรรมการระดับจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ภาคส่วนต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันช่วยเหลือ ค้นหา ผู้ที่มีความเสี่ยงการฆ่าตัวตายในกลุ่มนายจ้าง ลูกจ้าง และแรงงานในชุมชน ด้วยการใช้เครื่องมือ Mental Health Check-In เพื่อตรวจเช็คสุขภาพใจ สำรวจผู้ที่มีภาวะเครียด ซึมเศร้า ภาวะหมดไฟ เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย โดยข้อมูลที่ได้จะส่งต่อทีมสุขภาพจิตให้คำปรึกษา จะลดผลกระทบดังกล่าวได้ หรืออีกหนึ่งช่องทางการติต่อเพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพจิต สามารถติดต่อสายตรง 1323 หรือปรึกษาช่องทางออนไลน์ผ่านแฟนเพจ  Facebook  สายด่วนสุขภาพจิต 1323

ทั้งนี้ การใช้วัคซีนใจในชุมชน 4 สร้าง 2 ใช้ คือ สร้างชุมชนปลอดภัย สร้างชุมชนให้สงบ สร้างชุมชน ให้มีความหวัง สร้างชุมชนที่เข้าใจและให้โอกาส ใช้ศักยภาพชุมชน และใช้สายสัมพันธ์ในชุมชน รวมถึงการสอดส่อง มองหา ใส่ใจรับฟัง และส่งต่อเชื่อมโยง ในหลัก 3 ส. จะช่วยส่งเสริมป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายได้อย่างยั่งยืน อธิบดีกรมสุขภาพจิต เปิดเผยในที่สุด


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ลำพูน - ร่วมส่งกำลังใจ "นักรบชุดขาว" จังหวัดลำพูน ชุดที่ 5 เพื่อเดินทางไปร่วมปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี

วันนี้(25 ก.ค. 64) ที่โรงพยาบาลลำพูน ตำบลในเมือง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์ สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด(สสจ.)ลำพูน , แพทย์หญิงภาวิณี เอี่ยมจันทน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน , นางปนัดดา เนาวรัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน , หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด , คณะผู้บริหารและบุคลากรทางการแพทย์  และเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมส่งกำลังใจให้นักรบชุดขาว ชุดที่ 5 จำนวน 3 คน ประกอบด้วย

1. นางสาว จารุวรรณ คงภักดี พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ

2. นางสาว ธีราภรณ์ สุทธกุล พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ

3. นางสาว วรณัน ไชยพรหม พยาบาลวิชาชีพ

เพื่อเดินทางไปร่วมปฏิบัติงานดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ณ โรงพยาบาลสนามบุษราคัม เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ระหว่างวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ถึง 8 สิงหาคม 2564

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน , นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดฯ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลลำพูน , หัวหน้าส่วนราชการจังหวัด ผู้บริหารบุคลากรทางการแพทย์ ได้มอบกระเป๋าสัมภาระให้แก่คณะบุคลากรการแพทย์ (นักรบชุดขาว ชุดที่ 5) และพยาบาล เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลลำพูน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ร่วมมอบดอกไม้ และของใช้ที่จำเป็น เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่คณะอีกด้วย


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์  วิจิตรสกลการ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน

ลำพูน - ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal ของ "แพนดอร่าฯ" พร้อมเตรียมจัดสถานที่พักโรงแรมเป็น Local Quarantine เพื่อรองรับพนักงานที่มีความเสี่ยงต่ำ และลดการติดเชื้อเพิ่ม

วันที่ (7 ก.ย. 64)  นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน , นายชาตรี กิติธนดิตถ์ ปลัดจังหวัดลำพูน , นายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอเมืองลำพูน , นายแพทย์โภคิน ศักรินทร์กุล นายแพทย์ชำนาญการพิเศษโรงพยาบาลลำพูน , ฝ่ายปกครองจังหวัด  ตลอดจนเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินการ ตามมาตรการ Bubble and Seal   ณ ลานสนามบิน สวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์  ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ถูกจัดให้เป็นสถานที่ Bubble and Seal ของบริษัท แพนดอร่าโพรดักชั่น จำกัด  มีพนักงานที่เข้ารับการสังเกตุอาการ จำนวน 700 คน                  

นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวว่า จากสถานการณ์ ของสถานประกอบการ บริษัท แพนดอร่า มีพบผู้ติดเชื้อภายในสถานประกอบการและได้มีการดำเนินการตามมาตรการ Bubble and Seal นั้น  ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฯ ได้รวบรวมข้อมูล และมีการวิเคราะห์ รวมถึงมีการติดตามสถานการณ์ อย่างต่อเนื่อง ตามลำดับ ในช่วงเวลานี้พนักงานบริษัท จำนวน 700 คน เดิมทีเป็นกะ 08  กะที่เวลาทำงานในช่วงกลางวันของทาง บริษัท แพนดอร่าฯ จำกัด นั้น ได้ย้ายออกมา และไม่ได้มีการปฏิบัติงานในช่วงเวลานี้  การทำ Bubble and Seal ต้องมีการปรับเปลี่ยน ประกอบกับการรวมพนักงานอยู่ ถึง 700 คน โดยไม่ได้มีการทำงานนั้น ก็อาจจะทำให้มีการเพิ่มยอดของผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นได้   

   

ทางจังหวัดลำพูน โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ได้มีการปรับกระบวนการดำเนินงานเพิ่มเติม คือ ในส่วนของผู้ที่มีการติดเชื้อโควิด-19 ของพนักงาน บริษัท แพนดอร่าฯ ช่วงเวลานี้ จะมีการดำเนินการย้ายไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลสนาม หรือ โรงพยาบาลสนามของทาง บริษัท แพนดอร่าฯ เอง ส่วนที่ไม่เป็นผู้ป่วยแต่เป็นผู้ที่มีความเสี่ยง จะดำเนินการนำแยกออกไปสังเกตอาการ ที่โรงแรม ที่พักต่างๆ ที่เป็น Local Quarantine ในพื้นที่จังหวัดลำพูน

ทั้งนี้  เพื่อเป็นการบริหารการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในหมู่พนักงานเอง และในส่วนของพี่น้องประชาชนในภาพรวมของจังหวัดลำพูนจะได้มีความปลอดภัยต่อการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 การบริหารจัดการนั้นเป็นไปตามขั้นตอน ได้มีการคัดแยก กลุ่มคน และมีการนำพนักงาน เข้าสู่ที่พักในโรงแรม ที่ทางจังหวัดจัดเตรียมไว้ ตามมาตรการของทางสาธารณสุข ขอให้เชื่อมั่นในความปลอดภัย และมาตรการต่าง ๆ ที่ทางจังหวัด ได้มีการประชุมเตรียมพร้อม โดยทางผู้บริหาร บริษัท แพนดอร่าฯ เอง ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ในการดำเนินการไปพร้อม ๆ กัน ที่สำคัญคือพี่น้องพนักงาน บริษัท แพนดอร่าฯ ได้มีความเข้าใจและได้มีการเตรียมตัว เข้าสู่ จุดต่าง ๆ ที่ทางจังหวัดลำพูน และทาง บริษัท แพนดอร่าฯ ได้เตรียมพร้อมในช่วงเวลา ต่อไป


ภาพ/ข่าว  กรรณิการ์ วิจิตรสกลการ / ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดลำพูน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top