Tuesday, 29 April 2025
ลำพูน

ตำรวจภูธรภาค 5 สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ตรวจยึดยาบ้า 220,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.ลำพูน

ตำรวจภูธรภาค 5 สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ตรวจยึดยาบ้า 220,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.ลำพูน ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ร่วมกันสอดส่องเฝ้าระวังบุคคลที่มีลักษณะพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งอาจจะก่ออาชญากรรมหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหากพบ โปรดแจ้งสายด่วน 191, หรือline@inthanon1 (ผบช.ภ.5)  และ Application Police I lert U  ได้ตลอด 24 ชม.

ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย  อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./หน.ศอปส.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนั้น

วันที่ 12 ต.ค. 64 เวลา 10:00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ  ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ,  พล.ต.ต.มงคล สัมผวะผล ผบก.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วย ผกก.ฯ และ รอง ผกก.ปป.สภ.ทากาศ จว.ลำพูน ร่วมแถลงผลการตรวจยึดยาบ้า ประมาณ 220,000 เม็ด

พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 08:20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทากาศ จว.ลำพูน ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่สวนลำไย หมู่ 11 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จว.ลำพูน จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อทำการจับกุม ต่อมาได้ประสานกับนายสุทัศน์ ขาวกาศ เจ้าของสวนลำไยที่เกิดเหตุ เข้าทำการตรวจสอบ พบกระเป๋าต้องสงสัยสีดำจำนวน 2 ใบ ซุกซ่อนอยู่บริเวณแนวรั้วของสวนลำไยที่เกิดเหตุ และเมื่อตรวจสอบในกระเป๋าพบว่าในกระเป๋าทั้งสองใบมีห่อกระดาษไข สีเหลืองจำนวน 22 ห่อ บรรจุอยู่ โดยข้างในแต่ละห่อ บรรจุยาบ้าชนิดสีส้มประทับตราอักษรภาษาอังกฤษ wy นับได้จำนวน 220,000 เม็ด จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบและร่วมกันทำการตรวจยึดยาบ้าของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทากาศ เพื่อดำเนินคดีการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

โดยเบื้องต้นเชื่อว่าผู้ก่อเหตุ น่าจะมีการนัดหมายเพื่อส่งมอบยาเสพติดกันในพื้นที่บริเวณดังกล่าวข้างต้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบก่อนจึงได้หลบหนีไปและทิ้งของกลางไว้ในที่เกิดเหตุ ทาง ผบช.ภ.5 ได้เร่งรัดทุกหน่วยในสังกัด ภ.5 ให้หาตัวผู้กระทำผิดดังกล่าว มาดำเนินคดีในข้อหา "มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย" ต่อไป

 

ลำพูน - ‘วัดมหาวัน’ เชิญพุทธศาสนิกชน! ร่วมไหว้สาใส่ขันดอกบูชาพระรอดหลวง โอกาสสมโภชวัดมหาวันครบ 1,365 ปี

พระประกอบบุญ สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เจริญพรว่า ประชาชนชาวพุทธทั่วประเทศต่างเดินทางมากราบไหว้ขอพรพระรอดหลวงในเทศกาลขึ้นปีใหม่ 2565 พระรอดหลวงอายุ1,400 ปี คู่เมืองลำพูน ไหว้ขอพรพระรอดหลวง แก้บนพระรอด เช่าบูชาพระรอดสุดขลังของดีเมืองลำพูน และเที่ยวชมบรรยากาศภายในวัดมหาวัน ชมศิลปวัฒนธรรม ในวันที่ 26-30 มกราคม 2565 เชิญชาวพุทธมาร่วมพิธีไหว้สาใส่ขันดอกแขวนโคมจุดประทีปหมื่นดวง ถวายบูชาพระรอดพันปีชมนิทรรศการพระเครื่องพระสกุลลำพูน  การแสดงศิลปวัฒนธรรม กาดมั่ว สินค้าอาหารพื้นเมืองเหนือ

ทั้งนี้นักนิยมพระเครื่องหลายต่อหลายคนเมื่อมีโอกาสเดินทางไปจังหวัดลำพูน ส่วนใหญ่ไม่พลาดที่จะแวะเข้าไปที่วัดมหาวัน วัดแห่งนี้นอกจากจะเป็นวัดหลวงเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยพระนางจามเทวีแล้ว วัดนี้ยังเป็นต้นตำนานของพระรอดเมืองลำพูน ที่นักสะสมพระเครื่องต่างต้องการมีไว้ครอบครอง เป็นที่รู้กันดีว่าวัดมหาวันลำพูนเป็นต้นกำเนิดของพระรอด

พระประกอบบุญ สิริญาโณ เจ้าอาวาสวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน เจริญพรอีกว่า พิธีสมโภชมหาพุทธาภิเษกพระรอดสัมฤทธิ์ พระรอดรัตนมณีหยกดำ พระพุทธธาตุเจ้า บูรระปิดทองพระพุทธรูปโบราณ พระกริ่งอิ่มบุญ มหากุศลสร้างมหามณฑปพระพุทธสิกขีปฏิมากรพระรอดหลวง กำหนดการ ในวันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 14.00 น. จะมีพิธีแห่พระรอดสัมฤทธิ์ พระรอดรัตนมณีหยกดำพระพุทธธาตุเจ้า จากวัดพระสิงห์วรมหาวิหารจังหวัดเชียงใหม่สู่วัดมหาวันจังหวัดลำพูน และในวันที่ 26 มกราคม 2565 เวลา 16.00 น.พิธีแห่อัญเชิญพระรอดพันปีสู่ข่วงแก้วลานบุญบูชา ใส่ขันดอกทุกวัน

ในเวลา 16.00 น.มีพิธีเปิดงานพระรอดมหาวัน วันที่ 28 มกราคม 2565  เวลา 17.00 น.ประกอบพิธีทำบุญอุทิศแด่บูรพาจาร์ยและอดีตเจ้าอาวาสวัดมหาวัน ในวันที่ 29 มกราคม 2565  เวลา 19.00 น.ประกอบพิธีสมโภชมหาพุทธาพิเษกพระพุทธรูปต่าง ๆ จุดประทีปโคมไฟ และวันที่ 30 มกราคม 2565  ตั้งแต่เวลา 08.00 น.พิธีบรวงสรวง และพิธีแห่พระรอดคุ้มเมือง และเวลา 13.00 น. พิธีบรวงสรวง ยกปลีฉัตรพระรอดหยก และเจริญพระพุทธมนต์สมโภชเบิกเนตรพระกริ่งอิ่มบุญ พระรอดหยก พระรอดสัมฤทธิ์ พระพุทธธาตุเจ้า พระพุทธรูปโบราณปิดทอง และพิธีทอดผ้าป่าสร้างมณฑปพระพุทธสิกขีปฎิมากรพระรอดหลวงเทิดพระบารมีพระนางเจ้าจามเทวีศรีหริภุญชัย ตามลำดับ

 

ลำพูน - ผบก.ภ.จว.ลำพูนคุมเข้ม!! ลงพื้นที่สุ่มตรวจห้องเย็นต่อเนื่อง ป้องกันการแอบสต๊อกเนื้อหมูก่อนถึงตรุษจีน เพื่อป้องกันการฉวยโอกาส และย้ำเตือนประชาสัมพันธ์! สร้างการรับรู้ป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย

พล.ต.ต.มงคล สัมภวะผล ผบก.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วย พ.ต.อ.วีรชาติ ระตะเจริญ ผกก.สภ.นิคมอุสาหกรรม จ.ลำพูน และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.ภ.จว.ลำพูน ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.จังหวัด ล.พ., พนักงานฝ่ายปกครอง, ปศุสัตว์ จ.ลำพูน และ พาณิชย์ จ.ลำพูน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นำกำลังเข้าสุ่มตรวจห้องเย็นสต็อกเนื้อสุกรแปรรูปในจำนวน 3 จุด ในพื้นที่อำเภอเมืองลำพูน ได้แก่ บ. ดับเบิ้ลยู ทรานส์ อินเตอร์เทรด จก. พื้นที่ ต.มะเขือแจ้  อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน, บ.พิสิฐอุตสาหกรรม จก. พื้นที่ ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน และ บ.สยามแม็คโคร จก. ต.บ้านกลาง อ.เมืองลำพูน  จ.ลำพูน  เพื่อตรวจสอบและป้องกันการแอบลักลอบกักตุนเนื้อหมูแปรรูป และป้องกันการฉวยโอกาสปรับราคาเนื้อหมูของผู้ประกอบการ

จากการตรวจสอบ ทั้ง 3 แห่ง พบว่าห้องเย็นแต่ละจุดมีปริมาณเนื้อหมูตามเกณฑ์ในการจัดส่งจำหน่าย ไม่พบการกักตุนสินค้าแต่อย่างใด  รวมถึงตรวจการลักลอบนำเข้าซากสัตว์โดยไม่ได้รับอนุญาตตาม พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.2558 ยังไม่พบการกระทำผิด  เพื่อเป็นการป้องปรามโดยหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะได้มีการสุ่มตรวจสอบผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง  เพื่อป้องกันการฉวยโอกาส และ ย้ำเตือนประชาสัมพันธ์  สร้างการรับรู้ป้องกันการกระทำที่ผิดกฎหมาย

ซึ่งในช่วงนี้คาดการณ์ว่าเนื้อหมูมีแนวโน้มจะขยับราคาเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลตรุษจีน และคาดว่าจะขยับราคายาวไปถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ 

นอกจากนี้ สนง.พาณิชย์ จ.ลำพูน  ได้ฝากเน้นย้ำถึงผู้ประกอบการ ขอให้ปฏิบัติตามมาตรการควบคุมราคาสินค้าและการบริการ ให้แจ้งสต๊อกสินค้าที่เก็บไว้ในห้องเย็นและการเลี้ยงสุกร แจ้งให้กับทางสำนักงานพาณิชย์จังหวัดได้ทราบตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด 

 

ลำพูน - จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ตามโครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (ATK) เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุก ในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยในพื้นที่จังหวัดลำพูน

ที่ห้องประชุมจามเทวี ศาลากลางจังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน พร้อมด้วย นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน , นายแพทย์สุผล ตติยนันทพร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำพูน และ นายเสริมชัย ลี้เขียววงศ์ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน  ร่วมกันลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือตามโครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (Antigen Test Kit : ATK) ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูนระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน เพื่อตรวจคัดกรองเชิงรุกในกลุ่มเสี่ยงผู้ที่ไม่มีสัญชาติไทยในพื้นที่จังหวัดลำพูน    

นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน กล่าวว่า องค์การบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.)ลำพูน ได้ดำเนินการจัดหาชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (Antigen Test Kit) ตามโครงการจัดซื้อชุดตรวจโควิด-19 แบบตรวจหาแอนติเจน (Antigen Test Kit)ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน  ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดลำพูน ครั้งที่ 50/2564 เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2564 และมติที่ประชุมครั้งที่ 51/2564 เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2564

ลำพูน - มอบแบบผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา”

จังหวัดลำพูนประกอบพิธีการมอบแบบผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” ให้กับช่างทอผ้า และผู้ผลิตผ้าทุกกลุ่มทุกเทคนิค ได้นำลายผ้าพระราชทานไปเป็นต้นแบบและพัฒนาต่อยอด เพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์พื้นถิ่น 

เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2565  ที่ห้องประชุมจามเทวี ชั้น 4 ศูนย์ราชการจังหวัดลำพูน  ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายวรยุทธ เนาวรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานในพิธีการมอบแบบผ้าลายพระราชทาน “ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” โดยมี นายภาษเดช หงส์ลดารมภ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  นางปนัดดา เนาวรัตน์  ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดลำพูน ปลัดจังหวัดลำพูน นายอำเภอทุกอำเภอ พัฒนาการจังหวัดลำพูน หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ผู้ประกอบการช่างทอผ้า ผู้ผลิตผ้าทุกกลุ่มทุกเทนิคและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในพิธีฯ

โดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา เปิดกรวยกระทงดอกไม้ธูปเทียนแพ ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา  จากนั้นประธานกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา     ที่ทรงพระราชทานแบบลายผ้า“ผ้าขิดลายนารีรัตนราชกัญญา” พระราชทานให้กับกลุ่มทอผ้าจังหวัดลำพูน จำนวน 8 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมืองลำพูน  อำเภอแม่ทา  อำเภอป่าซาง  อำเภอบ้านโฮ่ง อำเภอลี้  อำเภอเวียงหนองล่อง  อำเภอทุ่งหัวช้าง และ อำเภอบ้านธิ  

จากนั้นประธานในพิธีฯยืนประจำจุดที่กำหนด เจ้าหน้าที่เชิญแบบผ้าลายพระราชทานวางบนพาน  หัวหน้าส่วนราชการประจำจังหวัดลำพูน ขึ้นรับมอบแบบลายผ้าพระราชทาน เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตามลำดับ  นายอำเภอและคู้สมรสหรือบุคคลที่เหมาะสมทั้ง 8 อำเภอ ขึ้นรับแบบลายผ้าพระราชทานเบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณวรี นารีรัตนราชกัญญา ตามลำดับ เป็นอันเสร็จพิธี

เทศบาลตำบลศรีบัวบาน ร่วม มูลนิธิพระพุทธสันติธรรม และ มูลนิธิสุทธาธรรมสถาน มอบเตียงสนามกระดาษ จำนวน 50 เตียง เพื่อใช้ในศูนย์ CI

ลำพูน - เทศบาลตำบลศรีบัวบาน ร่วมกับ มูลนิธิพระพุทธสันติธรรม และมูลนิธิสุทธาธรรมสถาน มอบเตียงสนามกระดาษ จำนวน 50 เตียง เพื่อใช้ในศูนย์ CI อำเภอเมืองลำพูน

ที่ศูนย์พักคอยและแยกกักตัวในชุมชน หรือ Community Isolation : CI เทศบาลตำบลศรีบัวบาน ค่ายลูกเสือหริภุญไชย ตำบลศรีบัวบาน อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน นายจรูญ คำปันนา นายกเทศมนตรีตำบลศรีบัวบาน ร่วมกับ นายอนุกูล ชวพงศ์ ผู้แทนมูลนิธิพระพุทธสันติธรรม และมูลนิธิสุทธาธรรมสถาน ผู้แทน บริษัท SCG จำกัด พร้อมด้วยคณะทำงาน ร่วมมอบเตียงสนามกระดาษ จำนวน 50 เตียง โดยได้รับการประสานงานของเทศบาลตำบลศรีบัวบาน โดยได้รับเกียรติจากนายโยธิน ประสงค์ความดี นายอำเภอเมืองลำพูน เป็นผู้รับมอบ โดยมี สาธารณสุขอำเภอ(สสอ.)เมืองลำพูน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (.อบจ.) ลำพูน เขตอำเภอเมืองลำพูน, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาเทศบาล ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

ตัดทางนายทุน!! ‘ธนาธร’ รุด ‘ลำพูน’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียง ชู!! เปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด จำกัด 50 ไร่ต่อสิทธิ์

ธนาธร’ เดินสายช่วย ‘ก้าวไกล’ หาเสียงที่ลำพูน เปิดเวทีแนะนำนโยบายและรับฟังปัญหา ส.ป.ก. หวังประชาชนเลือกก้าวไกลเป็นรัฐบาล ชื่นชมเตรียมพร้อมร่างกฎหมายดันผ่านสภาฯ หลังเลือกตั้ง

(8 มี.ค.66) นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคก้าวไกล ออกเดินสายหาเสียงสนับสนุนผู้สมัครของพรรคก้าวไกลอย่างต่อเนื่อง โดยวันนี้ได้ร่วมเปิดเวทีรับฟังปัญหาจากประชาชนที่บ้านสบเมย ตำบลทาขุมเงิน อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน ร่วมกับ นายมานพ คีรีภูวดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และผู้สมัคร ส.ส.ลำพูน พรรคก้าวไกล ทั้ง 2 คน คือ นายวิทวิสิทธิ์ ปันสวนปลูก และนายชัชพีร์ วรรณาพิรัชย์

โดย ต.ทาขุนเงิน เป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีประเด็นปัญหาการใช้ที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนายธนาธรระบุว่า เป็นหนึ่งในเรื่องที่มีความสำคัญ ตนเห็นว่า พรรคก้าวไกลได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิดตั้งแต่สมัยเป็นพรรคอนาคตใหม่ เช่นเดียวกับประเด็นข้อพิพาทที่ดินอื่น ๆ เพราะปัญหาที่ดินเป็นเรื่องสำคัญที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของคนนับล้าน และนั่นทำให้พรรคอนาคตใหม่มาจนถึงพรรคก้าวไกล มุ่งมีบทบาทในคณะกรรมาธิการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม มาโดยตลอด

จากที่ตนติดตามการทำงานของพรรคก้าวไกล เห็นว่าพรรคได้ไปรับฟังประชาชนผู้ได้รับผลกระทบมาตลอด 4 ปีในหลากหลายพื้นที่ ทำให้พรรคก้าวไกลวันนี้ ได้ข้อสรุปการแก้ไขปัญหาเป็นชุดร่างกฎหมายปฏิรูปที่ดินตามที่มีการเผยแพร่ก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงร่างกฎหมายเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนด อันเป็นผลมาจากการตกผลึกร่วมกันว่า ทางแก้ปัญหาไม่ใช่การออก ส.ป.ก. เพิ่ม แต่คือการทำให้ ส.ป.ก. เป็นโฉนด แก่ประชาชนที่ควรต้องได้รับสิทธิ์นั้น ในกรณีที่ตามเอกสารยังเป็นชื่อผู้ใช้ประโยชน์เดิมหรือทายาทที่ได้รับสิทธิ์โดยชอบธรรม และจำกัดไม่ให้เปลี่ยนเกิน 50 ไร่ต่อเจ้าของสิทธิ์ เพื่อไม่ให้นายทุนฉวยโอกาส

‘มูราตะ’ ทุ่ม 2,900 ล้าน ขยายโรงงานในนิคมอุตฯ ลำพูน เดินหน้าผลิตชิ้นส่วน MLCC ป้อนตลาดโลก

‘มูราตะ’ ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ปักหมุดนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ ลำพูน ทุ่ม 2,900 ล้านบาท ขยายโรงงานแห่งใหม่ เพิ่มศักยภาพการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น - MLCC ป้อนตลาดโลก

ปัจจุบันความต้องการใช้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลกยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางการก้าวไปสู่เศรษฐกิจดิจิทัล ขณะเดียวกันการเติบโตของสมาร์ตโฟน และอุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นปัจจัยเร่งทำให้อุตสาหกรรมนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว

ล่าสุด บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นฐานการผลิตในเครือของบริษัท มูราตะ แมนูแฟ็คเจอริ่ง จำกัด ประเทศญี่ปุ่น ได้เปิดโรงงานผลิตชิ้นส่วนแห่งใหม่เพิ่มเติม พื้นที่อาคารรวม 35,088 ตรม. ซึ่งตั้งอยู่ภายในนิคมอุตสาหกรรมเวิลด์ จังหวัดลำพูน

นายฮิโรคะซุ ซาซาฮาร่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงการขยายโรงงานแห่งใหม่ว่า อย่างที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันมีความต้องการชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้น (Multilayer Ceramic Capacitors - MLCC) เพื่อนำไปประกอบในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเติบโตพร้อมกับตลาดสมาร์ตโฟน ซึ่งหากเป็นระดับไฮเอ็นด์สามารถติดตั้งคาปาซิเตอร์ชนิดนี้ได้มากถึง 1,000-1,200 ตัว ทำให้ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ MLCC มีอัตราการเติบโตถึง 3 เท่า

และแน่นอนว่าชิ้นส่วน MLCC ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ระดับเรือธงของมูราตะ และครองส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกสูงถึง 40% โดยโรงงานแห่งใหม่นี้ จะเน้นผลิต MLCC เป็นหลัก เพื่อป้อนสินค้าไปยังผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั่วโลก 

นายฮิโรคะซุ ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โรงงานแห่งใหม่นี้ได้ใช้งบประมาณในการลงทุนเฉพาะตัวอาคารอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท ซึ่งภายในระยะเวลา 3 ปีข้างหน้า หากเดินกำลังการผลิตได้เต็มระบบ จะสามารถผลิต MLCC ได้ราว 30,000 ล้านชิ้นต่อเดือน และจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2,000 อัตรา จากปัจจุบันที่มีอยู่กว่า 600 อัตรา

ด้านนายโนริโอะ นากาจิมา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท มูราตะ แมนูแฟ็คเจอริ่ง จำกัด จากญี่ปุ่น กล่าวว่า ปัจจุบัน มูราตะ เป็นเป็นผู้นำระดับโลกในการออกแบบ ผลิต และจัดจำหน่ายโซลูชั่นและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์พื้นฐานเซรามิกแบบพาสซีฟ โมดูลการสื่อสารและโมดูลจ่ายไฟ โดยได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 100 บริษัทนวัตกรรมชั้นนำของโลกติดต่อกัน 2 ปีซ้อน จาก Clarivate (Thomson Reuters เดิม) 

ทั้งนี้ มูราตะ ซึ่งมีส่วนแบ่งทางการตลาดทั่วโลกสูงถึง 40 % มาจากกลยุทธ์การรักษาผู้นำตลาดด้วยระบบการทำงานแบบบูรณาการตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ เริ่มตั้งแต่การออกแบบ การพัฒนาเครื่องจักรการผลิต วัสดุ และกระบวนการทำงาน รวมไปถึงเทคโนโลยีที่เป็นเอกลักษณ์ภายในองค์กร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้บริษัทมีความสามารถในการแข่งขันในระดับสูง ขณะเดียวกัน มูราตะ ยังได้จัดสรรงบวิจัยและพัฒนา (R&D) อีกราว 7% ของยอดขาย ซึ่งในปีที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขายสูงถึง 1,686,796 ล้านเยน หรือราว 4.2 แสนล้านบาท 

ขณะที่ การขยายโรงงานเพิ่มขึ้นในประเทศต่าง ๆ จะช่วยขยายศักยภาพการผลิตและทำให้ มูราตะ เป็นผู้นำตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะโรงงานในประเทศไทยแห่งใหม่แล้วเสร็จสมบูรณ์จะเสริมให้มูราตะ มีฐานการผลิตคาปาซิเตอร์ในต่างประเทศเพิ่มเป็น 4 แห่ง (นครอู๋ซี เซินเจิ้น ประเทศจีน ประเทศสิงคโปร์ และประเทศไทย) และอีกสองแห่งในประเทศญี่ปุ่น (นครฟูกูอิ และนครอิซูโมะ) รองรับการขยายกำลังการผลิตตัวเก็บประจุแบบเซรามิกหลายชั้นเพิ่มขึ้นอีกปีละ 10% เพื่อตอบสนองต่อการขยายตัวในวงการอิเล็กทรอนิกส์ที่เพิ่มขึ้นทุกปี

อนึ่ง สำหรับ มูราตะ อิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) ได้เข้ามาลงทุนตั้งฐานการผลิตในประเทศไทย ที่จังหวัดลำพูน ตั้งแต่ปี 2531 ทุนจดทะเบียน 6,093,731,000 บาท มีจำนวนพนักงานทั้งสิ้น 6,167(เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566) 

‘ภูมิธรรม’ ยิ้มปลื้ม ลำไยราคาพุ่ง หลังภาครัฐช่วยหาตลาดให้ ‘เกษตรกร’ เร่งประสาน ‘กลาโหม-แรงงาน-มหาดไทย’ แก้ไขปัญหา ขาดแคลนแรงงาน

(4 ส.ค. 67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังนำคณะลงพื้นจังหวัดลำพูน ที่ บริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด ต.น้ำดิบ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ช่วงเย็นวานนี้ (3 ส.ค.67) เพื่อติดตามการรับซื้อลำไยสดช่อ และพบปะเกษตรกรผู้ปลูกลำไย ซึ่งบริษัทรับซื้อลำไยสดจากชาวสวนในพื้นที่ มาคัดแยกเกรดและนำเข้าห้องรมเพื่อยืดอายุผลผลิตก่อนส่งไปยังปลายทางในตลาดสำคัญอย่างจีนและอินเดีย

นายภูมิธรรม ระบุว่า มาที่นี่วันนี้ ‘ใจพองโต’ เพราะราคาลำไยแพง เกษตรกรพอใจ ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านนายกฯได้ รับปากเกษตรกรในการดูแลราคาลำไย และสั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดูแลอย่างใกล้ชิด ไม่ปล่อยให้ราคาขึ้นลงไปตามธรรมชาติ ปัจจัยที่ทำให้ราคาลำไยราคาขึ้นสูง ปัจจัยแรกเพราะผู้ผลิต เกษตรกรทุ่มเทเอาใจใส่ในการปลูก ทำลำไยคุณภาพ ปัจจัยที่สองภาครัฐช่วยกันบริหารจัดการ หาตลาดให้กับเกษตรกร และคนกลางก็ช่วยกันรับซื้ออย่างครบวงจร

“ผมได้ให้นโยบายกระทรวงพาณิชย์ยึดหลักสมดุลไม่มีใครได้อยู่คนเดียว ต้องพึ่งพาร่วมมือกัน รัฐอำนวยความสะดวก ในการลงพื้นที่ผู้ประกอบการแจ้งกับผมว่าประสบปัญหาขาดแคลนแรงงาน จึงได้ประสานกับหลายภาคส่วนในการเร่งแก้ไขปัญหา ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงกลาโหม ผู้บังคับการตำรวจภูธร ขอให้ทุกภาคส่วนช่วยกันคลี่คลายปัญหา รัฐบาลพร้อมช่วยกันทำงานดูแลราคาพืชผลโดยใช้ทุกกลไกเป้าหมาย เพื่อให้ผลผลิตเกษตรกรมีราคาดีและมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น” นายภูมิธรรม กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายในงานมีนายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน นายณธกฤษ เอี่ยมสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แพลททินัม ฟรุ๊ต จำกัด ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเกษตรกรชาวสวนลำไยในพื้นที่เข้าร่วมด้วย ข้อมูลจากกรมการค้าภายในระบุว่า สำหรับปริมาณผลผลิตลำไยทั้งประเทศในปี 2567 คาดการณ์ว่าจะมีปริมาณอยู่ที่ 1,438,137 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 2% แหล่งผลิตสำคัญอยู่ที่ภาคเหนือ คาดการณ์ปริมาณผลผลิตที่ 994,953 ตัน คิดเป็น 69% ของปริมาณผลผลิตทั้งหมด โดยช่วงเดือน ม.ค.-มิ.ย.2567 ที่ผ่านมา ไทยส่งออกลำไยสดรวม 165,231 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ในช่วงเดือนเดียวกัน 23% ตลาดสำคัญ ได้แก่ จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม และอินเดีย กระทรวงพาณิชย์ได้ออก 5 มาตรการในการบริหารจัดการลำไย ปี 2567 จำนวนกว่า 91,609 ตัน ในการร่วมมือทุกภาคส่วนกระจายและดูดซับผลผลิต ขณะนี้ ลำไยช่อเกรด AA ราคาเฉลี่ย 38-43 บาท/กก. ราคาสูงกว่าปีก่อนหน้า 25% ลำไยช่อ เกรด A ราคาเฉลี่ย 33-38 บาท/กก. ราคาสูงกว่าปีก่อนหน้า 29% ลำไยรูดร่วง เกรด AA ราคาเฉลี่ย 32-35 บาท/กก. ราคาสูงกว่าปีก่อนหน้า 43% และลำไยรูดร่วง เกรด A ราคาเฉลี่ย 17-18 บาท/กก. ราคาสูงกว่าปีก่อนหน้า 13%

ลำพูน- ผู้ว่าฯลำพูน เปิดกิจกรรมและปล่อยขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ “ลำพูนอากาศสะอาด ปราศจากหมอกควันและ PM 2.5”

(3 ก.พ. 68) เปิดกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนในการลดหมอกควันเชิงรุก เปิดยุทธการป้องกันไฟป่าจังหวัดลำพูน (Kickoff) ภายใต้แนวคิด “ลำพูนอากาศสะอาด ปราศจากหมอกควันและ PM 2.5"

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.30 น. ที่วัดดอยติ ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน นายวิวัฒน์ อินทร์ไทยวงศ์  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เพื่อเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนในการลดหมอกควันเชิงรุก เปิดยุทธการป้องกันไฟป่าจังหวัดลำพูน (Kickoff) ภายใต้แนวคิด “ลำพูนอากาศสะอาด ปราศจากหมอกควันและ PM 2.5" โดยมีนายรวมศิลป์ มานะจงประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดลำพูน กล่าวรายงาน พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายไฟป่า เจ้าหน้าที่ และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรม

ปัญหามลพิษหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ที่ปกคลุมพื้นที่จังหวัดลำพูน สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการเผาในที่โล่ง เผากิ่งไม้ ใบไม้ เผาขยะ เผาเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อเตรียมพื้นที่ของเกษตรกร และการลักลอบ เผาป่าเพื่อล่าสัตว์และหาของป่าในฤดูแล้ง สร้างผลกระทบต่อประชาชน ทั้งในด้านสุขภาพ วิถีชีวิต ความเป็นอยู่ เศรษฐกิจ รวมถึงสิ่งแวดล้อม 

ดังนั้นเพื่อประชาสัมพันธ์เสริมสร้างความตระหนักของประชาชน ในการลดหมอกควันเชิงรุก และเปิดยุทธการป้องกันไฟป่าจังหวัดลำพูน (Kick off) แสดงความพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของจังหวัดลำพูน ที่จะควบคุม ป้องกัน ปัญหาหมอกควัน และ PM 2.5 ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ในห้วงระยะวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม ประกอบกับผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดลำพูน ได้ลงพื้นที่ทั้งอำเภอ 8 อำเภอ เพื่อประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจ รวมทั้งการบังคับใช้กฎหมายควบคุมการเผาในที่โล่ง และการลักลอบเผาในพื้นที่ป่าให้กับผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ 

โดยมีแนวทางการปฏิบัติงานได้แก่ 1.หน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้มงวดการป้องกัน ควบคุมไฟป่า โดยจัดตั้งจุดเฝ้าระวัง  ตั้งจุดสกัด และดำเนินคดีกับผู้เผาป่า จัดจ้างราษฎรร่วมเฝ้าระวังไฟในเขตพื้นที่ป่า สร้างการรับรู้เกี่ยวกับผลกระทบจากไฟป่าและฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และเสริมสร้างอาชีพให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงที่จะเข้าป่าล่าสัตว์ หาของป่า รวมทั้งสร้างการมีส่วนร่วมในการรักษาระบบนิเวศในพื้นที่สำคัญ 

2.หน่วยงานสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ความรู้เรื่องเกษตรกรรมปลอดการเผา เข้มงวดเผาเศษวัสดุเหลือใช้ ทำความเข้าใจเกี่ยวกับเกษตรกรว่า การเผาทำให้เสียสิทธิ์รับการช่วยเหลือจากรัฐบาล และอาจสิ้นสิทธิ์ในพื้นที่ สปก. 

3.หน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการกวดขัน จับกุม และห้ามใช้รถยนต์ปล่อยควันดำเกินมาตรฐาน  

4.หน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย คุมเข้มท้องถิ่นดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้เผาในที่โล่ง เผากิ่งไม้ ใบไม้ เผาขยะ และควบคุมโครงการก่อสร้างห้ามปล่อย PM 2.5 บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด

5.หน่วยงานสังกัดกระทรวงสาธารณสุข คุมเข้ม 5 มาตรการฝุ่นควัน ได้แก่ (1) เตรียมความพร้อมของศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (2) เร่งประชาสัมพันธ์เชิงรุกและสร้างความรู้เรื่อง มาตรการป้องกัน และแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ฝุ่นละออง PM 2.5) (3) จัดทีมปฏิบัติการทางการแพทย์ลงพื้นที่ดูแลกลุ่มเสี่ยง  กลุ่มเปราะบาง (4) ขยายบริการด้านการแพทย์สาธารณสุขให้ครอบคลุม โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบสูง โดยเพิ่มบริการห้องปลอดฝุ่น และ (5) จัดตั้งคลินิก PM 2.5 การให้คำปรึกษาออนไลน์ รวมทั้งให้สนับสนุนอุปกรณ์เวชภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น หน้ากากอนามัยฯ เป็นต้น
 
ทั้งนี้ภายในงานมีกิจกรรม Kick off ปล่อยคาราวานรณรงค์ประชาสัมพันธ์เพื่อเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนในการลดหมอกควันและป้องกันไฟป่า  และการจัดนิทรรศการ ให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการปัญหาหมอกควันไฟป่าและและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ของหน่วยงานภาครัฐ อีกด้วย


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top