ตำรวจภูธรภาค 5 สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ตรวจยึดยาบ้า 220,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.ลำพูน
ตำรวจภูธรภาค 5 สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ตรวจยึดยาบ้า 220,000 เม็ด ในพื้นที่ จ.ลำพูน ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ร่วมกันสอดส่องเฝ้าระวังบุคคลที่มีลักษณะพฤติกรรมน่าสงสัย ซึ่งอาจจะก่ออาชญากรรมหรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหากพบ โปรดแจ้งสายด่วน 191, หรือline@inthanon1 (ผบช.ภ.5) และ Application Police I lert U ได้ตลอด 24 ชม.
ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการแพร่ระบาดของยาเสพติด ซึ่งเป็นภัยคุกคามและอาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมได้สร้างผลกระทบต่อประชาชน และสร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./หน.ศอปส.ตร. ได้มอบนโยบายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ เร่งรัดติดตามจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดอย่างจริงจัง โดยให้มีผลการปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมนั้น
วันที่ 12 ต.ค. 64 เวลา 10:00 น. ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.มงคล สัมผวะผล ผบก.ภ.จว.ลำพูน พร้อมด้วย ผกก.ฯ และ รอง ผกก.ปป.สภ.ทากาศ จว.ลำพูน ร่วมแถลงผลการตรวจยึดยาบ้า ประมาณ 220,000 เม็ด
พฤติการณ์ เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2564 เวลาประมาณ 08:20 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทากาศ จว.ลำพูน ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนัดหมายส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่สวนลำไย หมู่ 11 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จว.ลำพูน จึงได้ร่วมกันวางแผนเพื่อทำการจับกุม ต่อมาได้ประสานกับนายสุทัศน์ ขาวกาศ เจ้าของสวนลำไยที่เกิดเหตุ เข้าทำการตรวจสอบ พบกระเป๋าต้องสงสัยสีดำจำนวน 2 ใบ ซุกซ่อนอยู่บริเวณแนวรั้วของสวนลำไยที่เกิดเหตุ และเมื่อตรวจสอบในกระเป๋าพบว่าในกระเป๋าทั้งสองใบมีห่อกระดาษไข สีเหลืองจำนวน 22 ห่อ บรรจุอยู่ โดยข้างในแต่ละห่อ บรรจุยาบ้าชนิดสีส้มประทับตราอักษรภาษาอังกฤษ wy นับได้จำนวน 220,000 เม็ด จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบและร่วมกันทำการตรวจยึดยาบ้าของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทากาศ เพื่อดำเนินคดีการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
โดยเบื้องต้นเชื่อว่าผู้ก่อเหตุ น่าจะมีการนัดหมายเพื่อส่งมอบยาเสพติดกันในพื้นที่บริเวณดังกล่าวข้างต้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจพบก่อนจึงได้หลบหนีไปและทิ้งของกลางไว้ในที่เกิดเหตุ ทาง ผบช.ภ.5 ได้เร่งรัดทุกหน่วยในสังกัด ภ.5 ให้หาตัวผู้กระทำผิดดังกล่าว มาดำเนินคดีในข้อหา "มียาเสพติดให้โทษประเภท1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฏหมาย" ต่อไป
