Wednesday, 14 May 2025
รถไฟฟ้าสีชมพู

บทสรุป!! 'รางจ่ายไฟฟ้า' รถไฟฟ้าสายสีชมพู ร่วง!! เหตุรถก่อสร้างจากด้านล่าง ยกของขึ้นไปชนรางหลุด

(27 ธ.ค.66) เพจ 'โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure' ได้เปิดเผยบทสรุป รางจ่ายไฟฟ้า รถไฟฟ้าสายสีชมพู ร่วง เพราะเกิดจากรถก่อสร้างจากด้านล่าง ยกของขึ้นไปชนรางหลุดจากอุปกรณ์ยึดราง ขบวนรถไฟฟ้าแล่นมาเกี่ยว ทำรางหลุดยาวกว่า 5 กิโลเมตร ไว้ว่า...

เพื่อนๆ คงทราบเรื่อง ปัญหา รางจ่ายไฟฟ้า หลุดจากคานทางวิ่ง (Guide Way Beam) ของรถไฟฟ้า Monorail สายสีชมพูกันแล้ว ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข่าวช๊อกวงการ ของคนที่ติดตามโครงสร้างพื้นฐานกันมาก เพราะเหตุการณ์แบบนี้มันไม่เคยเกิดขึ้น และมีคนผูกเรื่องว่าเป็นปัญหาจากรถจีน หรือ การก่อสร้าง ไม่ได้คุณภาพ ต่างๆ นาๆ 

ซึ่งส่วนตัวผม พอเห็นครั้งแรกก็คิดว่ามันไม่น่าจะเกิดเหตุจากการติดตั้ง หรือการให้บริการตามปรกติแน่ๆ เพราะมันหลุดระยะกว่า 5 กิโลเมตร ซึ่งมันต้องมีแรงกระทำที่ผิดปรกติมากๆ

>> เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

- รางจ่ายกระแสไฟฟ้าขับเคลื่อนสะดุดที่ระหว่างสถานีแยกปากเกร็ดถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK06-PK01) ของรถไฟฟ้าตรวจสอบเส้นทาง (Inspection Train) ขบวนหมายเลข PM40 

บริเวณระหว่างสถานีสนามบินน้ำ (PK03) กับสถานีแคราย (PK02) มุ่งหน้าศูนย์ราชการนนทบุรี เจ้าหน้าที่ประจำขบวนรถไฟฟ้า จึงทำการหยุดขบวนรถฉุกเฉิน 

- นายสถานีที่สถานีสามัคคี (PK04) แจ้งศูนย์ควบคุมการเดินรถว่า พบรางจ่ายกระแสไฟฟ้า (Conductor Rail ด้าน Positive Rail ที่อยู่ด้านข้างคานทางวิ่งด้านนอก) หลุดร่วงจากคานทางวิ่ง (Guideway Beam) ร่วงลงพื้นถนนบริเวณหน้าตลาดชลประทาน โดนรถทื่จอดอยู่ระดับดิน และเกี่ยวเสาไฟฟ้าบริเวณดังกล่าวเอนเข้าหาเส้นทางวิ่งของรถไฟฟ้า ระยะประมาณ 500 เมตร

- ผู้ควบคุมด้านวิศวกรรม (EC) ตัดกระแสไฟฟ้ารางตัวนำไฟฟ้าระหว่างสถานีแยกปากเกร็ด (PK06) ถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) และ ศูนย์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้า (CCR) แจ้งดับเพลิงปากเกร็ด

>> การวิเคราะห์สาเหตุของเหตุการณ์

ปัญหาเกิดจาก 'การกระทำภายนอกไปกระทบกับตัวรางจ่ายไฟฟ้า' ซึ่งเกิดจากผู้รับเหมาก่อสร้างงานสาธารณูปโภค ทำกำแพงกันดินชั่วคราว โดยใช้ Sheet Pile ที่อยู่ใต้คานทางวิ่ง (Guide Way Beam) ได้ทำการถอด Sheet Pile ออกจากดิน ในรูปแบบ ยกขึ้นสูงจากดิน 

ซึ่งยกสูงโดยไม่ได้ระวังด้านบน จนมีบางส่วนยกขึ้นไปชนชุดรางจ่ายไฟฟ้า จนทำให้หลุดออกจากตัวยึด และเสียรูป (ดูจากรูป ประกายไฟไหม้ที่ติดอยู่ที่คานทางวิ่ง) แต่ไม่มีใครทราบ (ทำงานกลางคืน) ซึ่งไปโดนตรงจุดเชื่อมต่อราง (Expansion Joint) เอาซะด้วย 

>> เหตุมาเกิด เมื่อรถไฟฟ้าขบวนตรวจสอบรางมาถึง 

พอวิ่งมาถึงจุดที่หลุด ทำให้รถไฟฟ้า Monorail ซึ่งมีชุด ขารับไฟฟ้า (Collector Shoe) ไปเกี่ยวกับอุปกรณ์ Expansion Joint แล้วลาก ทำให้รางในส่วนอื่น หลุดออกจากตัวยึดกับคานทางวิ่ง และส่วนด้านหน้า ก็ถูกดันให้หลุดเช่นกัน

แล้วพอรถเกี่ยวแล้ว รถก็ยังวิ่งต่อไป โดยลากเอาชิ้นส่วนฉนวนครอบราง ติดไปกับตัวรถด้วย แล้วก็ติดคาอยู่ตามรูป

>> สรุปเหตุการณ์

รถก่อสร้างด้านล่าง ยกของขึ้นไปกระแทก รางจ่ายไฟฟ้าที่ติดอยู่บนคานทางวิ่ง ทำให้หลุดออกจากจุดยึด

รถไฟฟ้า Monorail วิ่งมาไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ไปเกี่ยวรางที่ลุด แล้วลาก รางด้านหลัง และดันรางด้านหน้า ของขบวนรถ จนหลุดออกจากอุปกรณ์ยึดเกาะ ระยะกว่า 5 กิโลเมตร

- การซ่อมแซม และกลับมาเปิดให้บริการ 

ตามข้อมูลของ NBM และ กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม แจ้งว่าจะซ่อมแซมในจุดนี้ให้กลับมาใช้งานได้ปรกติ ภายใน 7 วัน และจะทดสอบ เพื่อความมั่นใจ ก่อนให้บริการจริงอีกครั้ง

ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องข้อสงสัยการติดตั้งรางจ่ายไฟฟ้า ของรถไฟฟ้าสายสีชมพู

‘NBM’ แจง!! เหตุ ‘ชิ้นส่วน’ ร่วงใส่รถเก๋ง จนท.เทศกิจ หลังถูกร้องเรียน ชี้ ไม่ใช่อุปกรณ์จาก ‘รถไฟฟ้าสายสีชมพู’ แต่เป็นของจักรยานยนต์รุ่นหนึ่ง

(29 มี.ค.67) ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (NBM) ผู้รับสัมปทาน โครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย - มีนบุรี ชี้แจงกรณี เจ้าหน้าที่เทศกิจร้องเรียนสื่อว่า มีวัตถุปริศนาจากรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ร่วงใส่รถเก๋งขณะพาลูกกลับบ้านว่า โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค.67 ซึ่งเจ้าหน้าที่เทศกิจคนดังกล่าวได้เข้ามาร้องเรียน และเขียนใบคำร้องที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี (PK01) ในเวลา 8.30 น. ของวันที่ 27 มีนาคม 2567

อย่างไรก็ดี ทางเจ้าหน้าที่หน่วยงานความปลอดภัย (Safety) และเจ้าหน้าที่สถานี ได้ชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้ร้องเรียนไปแล้วว่าไม่ใช่ชิ้นส่วนของรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู เป็นเพียงชิ้นส่วนจากรถจักรยานยนต์รุ่นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งผู้ร้องเรียนก็ได้รับทราบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว และยังยืนยันร่วมกันว่าน่าจะเป็นชิ้นส่วนของรถจักรยานยนต์มากกว่า และขอนำชิ้นส่วนดังกล่าวกลับไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top