Friday, 17 May 2024
ม่อนแจ่ม

'อุ๊งอิ๊ง' นำทีม รับฟังปัญหาผู้ประกอบการม่อนแจ่ม โว 'ขยายสนามบิน-รถไฟความเร็วสูง' รองรับ นทท.

(26 ก.พ.66) ที่ม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) จัดกิจกรรมพบปะผู้ประกอบการท่องเที่ยวและกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค, น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย, นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคพท., นายพานทองแท้ ชินวัตร และนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โดยทันทีที่เดินทางมาถึง น.ส.แพทองธารพร้อมคณะได้ร่วมทักทายถ่ายภาพกับกลุ่มชาติพันธุ์ชาวม้ง และเยาวชนนักฟุตบอลของคริสต์ เอฟซี อะคาเดมี่ ของม่อนแจ่ม

ประเทศต้องดีขึ้น!! ‘บิ๊กตู่’ เยือนม่อนแจ่ม รับฟังปัญหาที่ดินทำกินของชาวบ้าน ลั่น!! อยู่แบบเดิมไม่ได้ ประเทศต้องการความสงบสุข

‘บิ๊กตู่’ ถึงม่อนแจ่มพร้อมฝนตก รับฟังปัญหาที่ดินทำกิน ลั่นปชช. อยู่แบบเดิมท่ามกลางความขัดแย้งแตกสาแหรกขาดไม่ได้ ย้ำเปลี่ยนแปลงปท. ฐานต้องดีบ้านเมืองต้องสงบเรียบร้อย เมินผลโพลบอกเปลี่ยนทุกวันดูแล้วปวดหัว
 
(21 เม.ย.66) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะแคนดิเดตนายกฯ พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พร้อมคณะ และร.อ.หญิง เดือนเต็มดวง ณ เชียงใหม่ ผู้สมัครส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 เดินทางถึงสวนอีเดน บ้านหนองหอยเก่า หมู่ 7 ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ เพื่อพบปะชาวม่อนแจ่ม เพื่อรับฟังปัญหาเรื่องที่ดินทำกินและการถือครองสิทธิที่ดินตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 11พ.ค. 2542 และปัญหาสิ่งแวดล้อม  โดยมีประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์เผ่าม้งและลีซู แต่งชุดประจำเผ่ารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมกองเชียร์ชูป้ายภาพ พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมข้อความว่า “กาเบอร์ 22 รวมไทยสร้างชาติ” และ “รักลงตู่ กาเบอร์ 22”

ทั้งนี้ ขณะพล.อ.ประยุทธ์เดินทางมาถึงได้เกิดฝนตก ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ สอบถามชาวม่อนแจ่มว่า ก่อนผมมามีฝนตกหรือไม่  ซึ่งผู้มาต้อนรับ กล่าวว่า “ไม่มี” ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ได้แต่อมยิ้ม

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์  กล่าวกับกลุ่มชาติพันธุ์เผ่าม้งและลีซู ว่า ตนมาในอีกบทบาทหนึ่ง มาในอีกส่วนของหน้าที่หนึ่งมาพูดคุยกับพวกเรา ในการรักษาการชั่วคราวของรัฐบาลมาในนามที่พวกเราเรียกกันว่าลุงตู่ ความจริงตนไม่ใช่คนโหดร้ายใจร้าย ตนเป็นคนง่ายๆเห็นใจคน ซึ่งไม่มีอะไร ทำได้ง่ายง่ายตราบใดที่เรายังไม่เพิ่มฐานะ เพิ่มรายได้ของเรา ฉะนั้นอาชีพต่างๆ ในวันข้างหน้าต้องเดินไปเราได้วางโครงสร้างพื้นฐานไว้แล้ว แต่ตนจะไปพูดอะไรมากไม่ได้ วันนี้พูดอะไรต้องระวังที่สุด เพราะเป็นช่วงหาเสียง และหลายคนในที่นี้เห็นตนหน้าตาดุในโทรทัศน์ตอนเช้า ตอนกลางคืนโมโหอะไรตลอด ปกติตน เป็นคนอารมณ์ดีไม่ใช่อะไรหรอกถ้าไม่มีคนยั่วอารมณ์ตนมาก ก็ไม่โมโหหรอกบางทีงานเยอะ ติดโน้น ติดนี่ ติดอะไรนักหนา 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนต้องดูแลทั้งหมด 21 กระทรวง ข้าราชการ 2 ล้านกว่าคน ซึ่งตอนต้องกำกับดูแลในส่วนนโยบายที่ทำมาแล้ว ทำต่อมีอะไรใหม่ ต้องทำเพิ่ม เรียกว่าทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ บวกพลัสใหม่เพิ่ม เข้าไปด้วยให้ทุกคนอยู่ดีกินดีมากยิ่งขึ้น เพราะการจะสร้างบ้านหลังหนึ่งฐานต้องแน่น แข็งแรง หลังจากนั้นต้องทำเสา ทำโครงสร้างหลังคาและผนัง ฉะนั้นประเทศไทยต้องโตแบบนี้โตจากข้างล่าง ข้างบนหลังคา ให้อบอุ่นปลอดภัยทุกคน อยู่ในร่มเงาฐานดีแน่นประเทศไทยต้องเป็นแบบนี้

“เราทะเลาะกันไม่ได้ ทะเลาะกันเองไปกันใหญ่ บ้านเมืองแตกสาแหรกขาด ถ้าแตกกันจะอยู่ยังไง จะหวังอะไรจากใครได้อีก ถ้าไม่หวังจากสิ่งที่ทำไปแล้ว ทุกอย่างต้องกำเนิด มีเกิดขึ้นมาและถึงจะทำต่อไปได้ ยอมรับว่าหลายอย่างดีขึ้นมาก พอดีขึ้นมากปัญหาก็ตามมาปัญหาเดิมลดปัญหาใหม่มาโลกปัจจุบันเป็นแบบนี้ เราจะอยู่แบบเดิมไม่ได้เราจะอยู่ท่ามกลางความขัดแย้งไม่ได้อีกแล้ว การจะเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องเปลี่ยนแปลงบนพื้นฐานความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่ใช่วุ่นวายไปทั้งหมด มันทำอะไรไม่ได้เลย มีตัวอย่างมาแล้วให้เห็น ขอให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้แก้หลายเรื่องและรับหมดปัญหาที่ดินในวันนี้ ซึ่งปัญหาที่ดินนโยบายของพรรคและนโยบายของรัฐบาลก็มี วันนี้จึงมาอยู่พรรคนี้ เพราะคิดตรงกันจะได้ทำอะไรต่อ ตนถามว่าเคยมีรัฐมนตรี อดีตนายกรัฐมนตรีมานั่งตรงนี้ไหม มีไหม วันหน้าไม่รู้จะมีอีกหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่ตน ไม่ใช่ตนนะ ไม่รู้นะ  ถ้าตนมาได้ก็มา ถ้ามาได้ผมทำให้หมดทุกอย่าง ทั้งนี้ วันนี้ต้องมองดูประเทศอื่นเราต้องคิดว่างว่างเปิดดูโทรทัศน์ดูต่างประเทศ โพลไม่ต้องฟังมาก เวียนหัว ไม่ต้องไปฟังมาก เปลี่ยนทุกวัน วันนี้อยู่ที่ใจต่อใจถึงกันหรือเปล่า

ศาลยกฟ้องกรณีผู้ประกอบการรีสอร์ทม่อนแจ่มฟ้องอดีต ผอ.สจป1เชียงใหม่

จากกรณีนายทุนผู้ประกอบการม่อนแจ่มฟ้อง ผอ.กมล นวลใย อดีต ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 กรณีกล่าวหาว่าไม่ปฏิบัติตาม มติ ครม. 11 พ.ค. 2542 และมติครม. 30 มิ.ย. 2540 ในการดำเนินคดีระงับยับยั้งมิให้นายทุน หรือผู้ประกอบการนำที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเป็นพื้นที่ต้นน้ำชั้น 1Aนำไปทำรีสอร์ท บนพื้นที่ป่าที่มีความลาดชันสูง โดยเปิดกิจการในรูปบริษัทซึ่งบางรายเช่น บริษัทม่อนวิวงาม จำกัด มีอาคารรีสอร์ทนับร้อยหลัง บางรายมีการบุกรุกพื้นที่เกินกว่าที่ถือครองทำกินที่มีการรังวัดไวเแล้วตามมติครม.30 มิย.41 

โดยคดีนี้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ได้ยกฟ้องไปแล้ว แต่ผู้ประกอบการทั้ง 22 ราย ยังไม่สะใจที่จะเล่นงานกล่าวหา จนท.ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาในการระงับยับยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำลำธารเพื่อสร้างรีสอร์ท ...อย่างไรก็ตามคดีนี้ศาลอุทธรณ์พิจารแล้วเห็นว่าจำเลย (นายกมล นวลใย อดีตผอ.สจป.1 (ชม.)) ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตาม ระเบียบกฎหมาย โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า กรณีเป็นการแจ้งข้อกล่าวหาและฟ้องดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติเป็นความผิดและเป็นการกระทำตามอำนาจหน้าที่ของจำเลยตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ จึงมิใช่เป็นการจับกุมโจทก์ทั้งยี่สอบสองเพื่อดำเนินคดีโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากเป็นคนละกรณีกันกับการจะพิสูจน์สิทธิ์ของโจทก์ทั้งยี่สิบสองว่าเป็นผู้มีสิทธิอยู่อาศัยในที่ดินและทำประโยชน์ในที่ดินตามที่กฎหมายให้ความคุ้มครองได้โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ การกระทำของจำเลยเป็นการดำเนินการในฐานะเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานตามที่กฎหมายบัญญัติให้อำนาจไว้ในการดูแลและรักษาทรัพยากรป่าไม้และป่าสงวนแห่งชาติ อันเป็นการกล่าวหาว่าโจทก์ทั้งยี่สิบสองว่าเป็นผู้กระทำความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ โจทก์ทั้ง 22 ราบก็ย่อมมีสิทธิให้การปฏิเสธต่อสู้คดีโดยนำพยานหลักฐานมาสืบพิสูจน์ถึงความบริสุทธิ์ของตนในชั้นพิจารณาคดีของศาลได้ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กฎหมายบัญญัติไว้ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ทั้งยี่สิบสองฟ้อง ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้น จึงต้องด้วยความเห็นของศาลอุทธรณ์แผนกคดีทุจริตและประพฤติมิชอบแล้ว อุทธรณ์ของโจทก์ทั้งยี่สิบสองฟังไม่ขึ้น พิพากษายืน อนึ่งมีผู้ตั้งข้อสังเกตุว่าคดีนี้เจ้าหน้าที่ดำเนินการในรูปคณะทำงานแต่โจทย์ฟ้องจำเลยในนามส่วนตัว เสมือนหนึ่งกลั่นแกล้ง บั่นทอนขวัญกำลังใจ จนท.เป็นการเฉพาะราย และฟ้องให้ดูเป็นตัวอย่างเพื่อมิให้จนท.คนอื่น ๆ หาญกล้าในการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่  ด้วยกลัวจะโดนฟ้องเฉกเช่นกรณีนี้

เรื่องนี้นายกมล นวลใย ได้กล่าวว่าการดำเนินการระงับยับยั้งการบุกรุกพื้นที่ป่าม่อนแจ่ม จนท.ได้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามตัวบทกฎหมายทุกประการ ไม่เคยมีเจตนาแอบแฝงใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งมีรายละเอียดตามคำพิพากษาศาลไว้ครบถ้วนแล้ว..  ความจริงย่อมเป็นความจริงเสมอครับ...ขอให้จนท.สจป.1 (ชม.) กรมป่าไม้ ดำเนินการตรวจสอบการครอบครองพื้นที่เพื่อสร้างรีสอร์ทบนพื้นที่ต้นน้ำตามอำนาจหน้าที่อย่างตรงไปตรงมาต่อไปครับ
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top