Sunday, 19 May 2024
ภูมิธรรม

‘ภูมิธรรม’ โต้ข่าวลือ ‘ทักษิณ’ เปลี่ยนวันกลับไทย ยัน!! ยังยึด 10 ส.ค. ตามกำหนดการเดิม 

(3 ส.ค. 66) ที่รัฐสภา นายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกระแสข่าวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เลื่อนกำหนดการการกลับประเทศไทย ว่า ยังไม่ทราบอะไร ยังยืนยันอยู่เหมือนเดิม

เมื่อถามย้ำว่า ณ ตอนนี้ยังไม่เลื่อนกำหนดการใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ทุกอย่างยังเหมือนเดิม”

เมื่อถามว่า การแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในวันนี้ (3 ส.ค.66) จะมีพรรคไหนร่วมบ้าง นายภูมิธรรม กล่าวว่า “เดี๋ยววันนี้จะแถลงเวลา 15.00 น.”

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจะไม่มีพรรค 2 ลุงร่วมรัฐบาลนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ยังไม่ทราบ”

เมื่อถามถึงนายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช ฐานะรักษาการรองเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุเงื่อนไขของพรรคเพื่อไทย พูดคุยกันได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “วันนี้จะแถลงทุกอย่าง”

เมื่อถามว่าการดีลเป็นไปได้ด้วยดี สามารถเดินหน้าโหวตเลือกนายกฯ ในวันที่ 4 ส.ค. ได้หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ยังเป็นไปตามกำหนดการเดิม”

เมื่อถามว่ามีการนัดหารือกับใครหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “ยังไม่มีตอนนี้”

‘ภูมิธรรม’ นั่งหัวโต๊ะประชุม ถกแผนรับมือสถานการณ์ ‘เอลนีโญ’ หวั่น ไทยแล้งยาว เล็งตั้งอนุกรรมการ ทำงานเป็นระบบสู้ภัยแล้ง

(29 ก.ย. 66) ที่สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเพื่อรองรับสถานการณ์เอลนีโญ และลานีญา ของประเทศไทย ครั้งที่ 1/2566 มีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองประธานกรรมการฯ นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองประธานกรรมการ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ พรรคเพื่อไทย นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย และคณะกรรมการ เข้าร่วม

นายภูมิธรรม กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญเรื่องนี้สถานการณ์เอลนีโญ และลานีญา อย่างมาก โดยประกาศชัดเจนในวันแถลงนโยบายว่า ให้ความสำคัญกับเรื่องสภาพอากาศ เพราะอาจส่งผลกระทบไปถึงเรื่องเศรษฐกิจด้วย จึงตั้งคณะกรรมการชุดนี้ เพื่อร่วมกันแก้ปัญหาภัยแล้งที่เป็นปัญหาใหญ่ ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างจึงต้องเตรียมการรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้น โดยอีก 3 ปีเราอาจจะเผชิญปัญหาดังกล่าว หากไม่เกิดเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าเกิดก็ได้เตรียมไว้แล้ว ดังนั้นเราจะขับเคลื่อนงานร่วมกันไปข้างหน้า และปรับแนวทางการทำงานให้เข้ากัน เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะน้ำคือชีวิต ถ้าเจอภัยแล้ง 3 ปี จะเหนื่อยมาก จึงต้องเข้าใจว่าเป็นภารกิจสำคัญ

“เราจะหลีกเลี่ยงโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้งบประมาณมาก โดยมุ่งขับเคลื่อนโครงการขนาดเล็ก เพื่อให้กระจายไปทั่วประเทศ และเมื่อเข้าสู่สถานการณ์ปกติ จะกลับมาเดินหน้าโครงการใหญ่ต่อไป เรื่องใดที่ทำได้ นายกฯให้ทำทันที แต่ถ้าติดขัดให้รีบแก้ไข โดยในช่วง100 วันแรก ตนอยากเห็นความคืบหน้าเพื่อประชาชนมีความมั่นใจ” นายภูมิธรรม กล่าว

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เราต้องเตรียมการป้องกันภัยแล้ง โดยให้มีศูนย์สั่งการ หรือ บูรณาการ โดยขอเสนอที่ตั้งศูนย์สั่งการที่กระทรวงพาณิชย์ เพราะอาคารสถานที่มีความเหมาะสม ส่วนเรื่องการจัดทำงบประมาณ รัฐบาลเพิ่งเข้ามาใหม่ เมื่อเจอภัยแล้งอาจไม่สอดคล้องกับเรื่องที่จะทำ จึงเสนอให้มุ่งเน้นไปทำโครงการขนาดเล็กเพื่อให้ทั่วถึงทั้งประเทศ เช่น โครงการธนาคารน้ำใต้ดิน ฝายแกนซอยซีเมนต์ เพิ่มพื้นที่เก็บน้ำ และความชุ่มชื้น ให้ปัญหาภัยแล้งเบาบางลง และสามารถรองรับสถานการณ์ภัยแล้งได้ถึง 3 ปี ขณะที่ฝ่ายวิศวะควรสรุปรายละเอียดการก่อสร้างฝายให้ชัดเจนว่ามี สัดส่วนเท่าไหร่ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นว่ามีความแข็งแรง และใช้ได้นานกว่าฝายปกติ ดังนั้น การแก้ปัญหาตนมองว่า เราควรเน้นไปทำโครงการขนาดเล็ก เพื่อรักษาความชุ่มชื้น

ด้านนายปลอดประสพ กล่าวว่า ปัจจุบันโลกร้อนขึ้น ส่งผลให้เกิดความแปรปรวน ซึ่งไทยมีทะเลทั้ง 2 ด้าน มีความแปรปรวนสูงมากขึ้น ส่งผลด้านชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนปัญหาเอลนีโญหากแย่สุดเกิด 3 ปีต่อเนื่อง น้ำก็จะลดลงจนขาดแคลน จึงต้องเร่งเก็บน้ำ บริหารความเสี่ยงให้ดี และตนมั่นใจว่า เอลนีโญเกิดขึ้นแต่จะไม่แรงจนกว่าจะเข้าหน้าแล้ง ที่จะทำให้เกิดผลกระทบเป็นปัญหาตามมาอีกมาก ทั้ง ฝุ่น PM 2.5 จะรุนแรง เกิดไฟไหม้ง่าย นกจะเข้าอาศัยบ้านคนเพราะร้อน และโรคระบาดต่างจะเกิดขึ้น ไม้ผลจะตาย พืชไร่ใช้น้ำมากจะเสียหาย ส่งผลให้ราคาสินค้าแพงขี้น น้ำกินน้ำใช้ ก็จะขาดแคลน

จึงขอเสนอ 3 มาตรการแก้ปัญหา คือ 1.) ยุทธศาสตร์และเป้าหมาย โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะเป็นเครื่องมือรัฐบาล ในการบรรเทาผลกระทบ ทั้งระยะสั้น-ยาว 2.) ยุทธวิธีติดตามสถานการณ์เป็นรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน พร้อมสร้างคลังข้อมูลให้ลึกมากขึ้น และ 3.) ตั้งอนุกรรมการขึ้นมาขับเคลื่อน 10 คณะ จะทำให้รัฐบาลสามารถรับมือภัยแล้งได้เป็นระบบ

‘ภูมิธรรม’ สอนมวย!! ‘ก้าวไกล’ การเมืองแบบใหม่ไม่ใช่ค้านทุกเรื่อง พร้อมลุยต่อ ‘เงินดิจิทัล’ ตามสโลแกน ‘คิดใหญ่ ทำเป็น’

(27 ต.ค. 66) ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะรักษาการรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถาม นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่นายเศรษฐา มอบให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม มาตอบกระทู้สดแทน จนทำให้พรรคก้าวไกลเกิดความไม่พอใจ ว่า ก็ถือว่าเป็นสิทธิที่พรรคก้าวไกลจะอภิปราย แต่เราได้เคยตกลงกันแล้วว่า เราจะทำงานการเมืองกันอย่างสร้างสรรค์ ตนเชื่อว่า นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล อภิปรายในสภาต้องใจเย็น และรับฟังปัญหาให้มากขึ้น บรรยากาศในการทำงานระหว่างรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน ก็จะดีขึ้น

“แต่ก็ต้องยอมรับว่า นายกรัฐมนตรี จะมาตอบหรือไม่ก็ได้ หากมีภารกิจ ถ้ามีเวลาก็จะมาให้ทัน หากไม่มีอคติมากจนเกินไป เพราะบรรยากาศในสภา ไม่ใช่เรื่องของคน 2 ฝ่ายจะมาขัดแย้งกัน ไม่อยากให้จับผิดหรือใช้เวทีทางการเมือง ทั้งเวทีรัฐสภา หรือเวทีอื่นๆในการดิสเครดิต ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศ เพราะรัฐบาลพร้อมจะทำงาน” นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ฝากถึงพรรคก้าวไกล ในวันที่ 10 พ.ย. จะมีการรับฟังความเห็นเรื่องรัฐธรรมนูญ จากพรรคก้าวไกล และหลายๆภาคส่วน รวมถึงกลุ่มวิชาชีพต่างๆ และภาคประชาสังคม ยืนยันเราไม่คิดจะค้าน ต่างฝ่ายต่างเป็นนักการเมือง อยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เราควรทำการเมืองแบบใหม่ ไม่ใช่ฝ่ายค้าน และจะค้านทุกเรื่อง หรือเสาะหาจุดในการโจมตี อยากให้ประชาชนเห็นแล้วสบาย ไม่ใช่มีแต่ภาพการโจมตีทางการเมืองใส่กัน สิ่งใดที่มีปัญหา ก็ขอให้ช่วยท้วงติง ไม่ใช่ใช้ทุกโอกาสและเวลาในการดิสเครดิตใส่กัน มันไม่เป็นประโยชน์และไม่สร้างสรรค์

ส่วนกรณีที่พรรคก้าวไกลยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต่อที่ประชุมรัฐสภา เพราะไม่เชื่อใจ คณะกรรมการศึกษาการทำประชามติฯ ของรัฐบาล นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนเคยพูดหลายครั้งแล้วว่า การเมืองให้ดูที่ความเป็นจริง และใช้หลักการและเหตุผลที่ถูกต้องที่พยายามเดิน เราจะทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยที่ไม่แตะหมวด 1 และ 2 แต่พรรคก้าวไกลเสนอแก้รัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ซึ่งทำให้เรารู้ว่า คนบางส่วนก็ยังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ถ้ายังดึงดันแบบนี้จะไปต่อไม่ได้ พรรคเพื่อไทย จะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น แต่เราไม่อยากเห็นประชาธิปไตยแบบสุดขั้ว โดยไม่คำนึงถึงความเห็นต่าง และจะต้องคุยกันให้ตกผลึก และเคารพความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่จำเป็นต้องตามใจกัน เราก็แสดงจุดยืนเรา ท่านก็แสดงจุดยืนของท่าน แต่ทำอย่างไรให้สังคมส่วนใหญ่เกิดความเข้าใจ นี่จึงเป็นที่มาของการตั้งอนุกรรมการเข้ามาแก้ไขปัญหาเหล่า ขอร้องอย่าอคติต่อกัน เราจะทำให้ประเทศนี้ไปในทิศทางที่ดี

เมื่อถามว่าแฮชแท็ก #เพื่อไทยตระบัดสัตย์ ซึ่งคาดว่า น่าจะมาจากประเด็นกระแสข่าวอนุกรรมการดิจิทัลวอลเล็ต ที่อาจจะแบ่งหรือเพิ่มหลักเกณฑ์ผู้เข้าร่วมโครงการ ที่จากเดิมจะแจกทุกคน นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่เป็นไร เป็นเพียงความเห็น เรายอมรับความเห็นหลากหลาย มีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง พรรคเพื่อไทยเผชิญสิ่งนี้มาโดยตลอด เรากำลังออกนอกกรอบ เหมือนที่เราเคยทำในโครงการ 30 บาท , กองทุนหมู่บ้าน และโครงการอื่นๆ แต่โครงการเหล่านั้น ก็มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่าง เหมือนดิจิทัลวอลเล็ต ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น ถ้ายังปล่อยก็จะเหมือน 9 ปีที่ผ่านมา แต่ทุกคำวิจารณ์ เรารับฟัง แต่ไม่คิดปรับปรุง แต่เราจะทำให้รอบคอบมากขึ้น

เมื่อถามต่อว่า สโลแกน “คิดใหญ่ ทำเป็น” ในช่วงเลือกตั้ง แต่พอเป็นรัฐบาล ดูเหมือนจะทำไม่ได้ เหมือนในช่วงที่หาเสียง จะกระทบต่อความเชื่อมั่นในการเลือกตั้งรอบหน้าหรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่า เพื่อไทยคิดใหญ่ทำเป็น เราทำเรื่องใหญ่ เรื่องยาก ให้เป็นเรื่องที่ทำได้ และนี่คือด่านสำคัญ ที่พรรคเพื่อไทยจะต้องพิสูจน์ตัวเองให้ประชาชนมั่นใจ แต่ถ้าจะทำให้ 100% นั้นยาก

“ผลงานในอนาคต จะพิสูจน์ได้ว่า เพื่อไทย มีความสามารถ เราเดินทุกนโยบาย ในช่วงที่เป็นรัฐบาล 1-2 เดือนที่ผ่านมา อยากให้คนใช้วิจารณญาณให้กว้างขวาง และให้โอกาสเราในการทำงาน” นายภูมิธรรม กล่าว

‘ภูมิธรรม’ โวย! ‘สส. ก้าวไกล’ ใส่ความเท็จ ปมไม่เซ็นรับรอง พ.ร.บ. อากาศสะอาด

‘ภูมิธรรม’ ฉุน!! ‘สส.ก้าวไกล’ พูดจาใส่ร้ายเพื่อไทย ชี้!! เป็นปัญหาจริยธรรม เตือนหัวหน้าพรรคก้าวไกล ดูแลคนของตัวเองอย่างจริงจัง อย่าปากว่า ตาขยิบ 

(11 ม.ค.67) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่าน X ระบุถึงกรณี สส.พรรคก้าวไกล ออกมาตำหนินายกฯ ไม่ยอมเซ็นรับรอง พ.ร.บ.อากาศสะอาดของพรรคก้าวไกลเพราะกลัวจะเป็นผลงานของก้าวไกล โดยไม่คำนึงถึงประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับ เป็นการเล่นการเมืองทุกอย่างว่า...

“ผมไม่สบายใจ การพูดใส่ร้ายพรรคเพื่อไทยโดยพูดความจริงไม่หมด หรือพูดแค่ครึ่งเดียว เราทำงานให้ประชาชน ไม่ใช่ทำให้พรรคตัวเอง แบบเอาข้อเท็จมาใส่ร้ายพรรคอื่น เพื่อชัยชนะของพรรคตน”

นายภูมิธรรม ฝากถึงหัวหน้าพรรคอีกด้วยว่า “ขอให้ดูแลคนของตนอย่างจริงจังด้วย..นี่เป็นปัญหาจริยธรรมเลยครับ เตือน ‘อย่าปากว่า ตาขยิบ’”

ภูมิธรรม“ เข้ม! เร่งช่วยชาวไร่มันสำปะหลัง พร้อมสั่งทุกหน่วยบังคับใช้กฎหมายเต็มที่ดันราคาสมดุล หลังตลาดโลกยังขาดแคลน

วันที่ 28 มีนาคม 2567 เวลา 9.30 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังประชุมหารือสถานการณ์มันสำปะหลังร่วมกับผู้แทนภาคเกษตรกร (สภาเกษตรกรจังหวัดนครราชสีมา สมาคมชาวไร่มันสำปะหลังแห่งประเทศไทย)  เพื่อติดตามสถานการณ์ราคามันสำปะหลัง และสถานการณ์โรคใบด่างมันสำปะหลัง พร้อมสั่งการกรมการค้าต่างประเทศ และกรมการค้าภายใน ประสานหน่วยงานความมั่นคง เพื่อเฝ้าระวังตามแนวชายแดนป้องกันการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังเถื่อน ที่ห้องประชุมกิติยากรวรลักษณ์ ชั้น 4 สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ ค่ำวานนี้(27 มี.ค.67)

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้รับฟังปัญหาจากผู้แทนเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลัง ในด้านสถานการณ์ราคาที่ลดลงต่อเนื่องจากการกระจุกตัวของผลผลิตที่ออกพร้อมกันและการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการร้องเรียนถึงการลักลอบนำเข้า จึงได้มอบหมายกรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศ  เข้มงวดการนำเข้ามันสำปะหลังให้เป็นไปตามกฎหมายที่รับผิดชอบให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด พร้อมประสานหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงกลาโหม เฝ้าระวังตามแนวชายแดน ป้องกันการลักลอบนำเข้ามันสำปะหลังเถื่อน ซึ่งจะช่วยป้องกันเรื่องการระบาดของโรคใบด่างซึ่งอาจติดมากับมันสำปะหลังนำเข้า ซึ่งการแก้ปัญหาโรคใบด่างมันสำปะหลัง ทางกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือร่วมกับภาคเอกชน เกษตรกร และประสานกับกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรงอย่างใกล้ชิด และจะได้นำข้อเสนอแนวทางป้องกันโรคใบด่างจากผู้แทนเกษตรกรไปพิจารณาร่วมกันต่อไป  

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม ได้มอบปลัดกระทรวงพาณิชย์ในการหารือร่วมกับ ผู้แทนภาคเอกชน (สมาคมการค้ามันสำปะหลังไทย สมาคมแป้งมันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังไทย สมาคมโรงงานผู้ผลิตมันสำปะหลังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และสมาคมเอทานอลจากมันสำปะหลัง) ในการรับซื้อมันสำปะหลังให้เป็นไปตามกลไกตลาด รับซื้อมันสำปะหลังในราคาที่เหมาะสม เพื่อสร้างสมดุลให้กับทุกฝ่าย

“ตลาดโลกยัง มีความต้องการมันสำปะหลังอีกมาก เมื่อปีที่แล้วตลาดโลกมีความต้องการผลผลิตมากกว่าที่เราสามารถส่งได้ถึง 20% ซึ่งราคาในประเทศไม่ควรลดลง สำหรับเรื่องราคาในช่วงนี้ที่ลดลง เพราะมีผลผลิตทะลักเข้ามาเยอะ ตนได้สั่งให้ดูแลอย่างเข้มงวด ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายใน มีกฎหมายที่ควบคุมการขนย้ายได้สั่งการให้ใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดและต้องให้กระทรวงกลาโหมเข้ามาช่วยเข้มงวดแนวชายแดนเพิ่มขึ้น ตนเชื่อว่าราคาจะดีขึ้นเพราะตลาดยังขาดแคลน และที่เกษตรกรต้องเร่งขุดมันสำปะหลัง เพื่อไปชำระหนี้ ธ.ก.ส. ในช่วงเดือน มี.ค. ตนจะรับเรื่องนี้ไปหารือกระทรวงการคลังต่อไป กระทรวงพาณิชย์จะบูรณาการการทำงานอย่างเต็มที่กับทุกหน่วยงาน ขอให้ความสบายใจได้ว่าเราจะไปหาทางออก เพื่อให้ราคามันสำปะหลังเป็นไปตามกลไกตลาด” นายภูมิธรรม กล่าว

'ภูมิธรรม' ลุยปทุมธานีวันหยุด คุยผู้ประกอบการ คนรุ่นใหม่ 4 จังหวัดใหญ่รอบกรุงฯ รับฟังปัญหา ช่วยกันหาทางออก เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ

วันที่ 20 เมษายน 2567 เวลา 14.30 น. ที่ร้าน Yung 7 Lifestyle&Eatery จ.ปทุมธานี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่จังหวัดปทุมธานี เพื่อพบปะพูดคุยกับกลุ่มผู้ประกอบการ และกลุ่มคนรุ่นใหม่ของจังหวัดปริมณฑล 4 จังหวัดใหญ่(นครปฐม สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี) ถึงปัญหาและอุปสรรคในการประกอบธุรกิจ เพื่อช่วยเหลือหาทางออกและส่งเสริมผู้ประกอบการสร้างรายได้ให้ประเทศ ร่วมกับกลุ่ม YEC กลุ่ม Young Smart Farmer หอการค้า สภาอุตสาหกรรม MOC Biz Club และท่องเที่ยว

นายภูมิธรรม กล่าวว่า 4 จังหวัดรอบกรุงเทพฯ(นครปฐม สมุทรปราการ นนทบุรีและปทุมธานี) มีลักษณะพิเศษ ทั้งความเป็นเมืองและชนบท วันนี้ตนได้เจอกับผู้ประกอบการรุ่นใหญ่ทั้งสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม และเจอรุ่นเยาว์ YEC  Young Smart Farmer และ MOC Biz Club ที่มีแนวคิดแบบใหม่ ซึ่งอยากให้คนรุ่นใหญ่ที่มีประสบการณ์เดิมรับแนวคิดใหม่มาต่อยอด เมื่อวานนี้ตนได้ให้นโยบายกับผู้ว่าราชการทั้ง 4 จังหวัดช่วยกันหาทางออก ให้เอกชนเป็นทัพหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจทำเงินเข้าประเทศ ส่งเสริมเอกชนให้เขาเดินหน้าได้  ทั้งเรื่องระบบโลจิสติกส์ การคมนาคมต้องเชื่อมต่อกัน ทั้งทางน้ำ ทางบก ทางราง สัมพันธ์กับผังเมืองสอดคล้องกับความเป็นจริงไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาในอนาคต

รัฐจะช่วยต้องแก้ไขกฎระเบียบให้เศรษฐกิจฐานรากโต สนับสนุนส่งเสริมให้เอกชนโตได้มากกว่านี้ ตนสนใจที่จะฟังคนรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของจังหวัด มีองค์ความรู้ มีแนวคิดสร้างสรรค์ เห็นความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาของจังหวัด รัฐจะมาเป็นแบ็คอัพสนับสนุนเอกชนให้เป็นทัพหน้าหารายได้เข้าประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า นายภูมิธรรมได้ล้อมวงคุยกับผู้ประกอบการ ซึ่งร่วมกันแสดงความเห็นสะท้อนปัญหาในแต่ละจังหวัดปริมณฑล ร่วมกันหาทางออก ซึ่งอยากให้รัฐช่วยอำนวยความสะดวกผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น จะได้ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเติบโต ซึ่งนายภูมิธรรมรับข้อเสนอเพื่อดำเนินการส่งเสริมต่อไป


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top