Thursday, 2 May 2024
พายุโนรู

'บิ๊กตู่' ยัน!! ทหารทุกเหล่าทัพ หนุนรัฐบาล รับมือ 'พายุโนรู' ย้ำ!! ต้องอยู่ช่วยประชาชนในพื้นที่จนกว่าน้ำจะลด

โฆษก กห. เปิดเผยว่า กห. โดยทุกเหล่าทัพ ที่มีหน่วยทหารในพื้นที่ 25 จว.ที่ประสบอุทกภัย ยังคงกำลังพล เครื่องมือช่าง ทำงานร่วมกับจิตอาสาและหน่วยงานในพื้นที่ ให้การช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่องมา โดยเฉพาะ การเร่งช่วยกันบรรจุกระสอบทรายจัดทำคันกั้นน้ำในพื้นที่เศรษฐกิจและชุมชน การเบี่ยงทางน้ำและการเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ รวมทั้งการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ การอำนวยความสะดวกการสัญจรและการแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กห. ได้ย้ำสั่งการให้ทุกเหล่าทัพ เตรียมกำลังและเครื่องมือช่าง พร้อมหนุนเสริมให้การช่วยเหลือทุกจังหวัด รับมือกับ “พายุโนรู” โดยให้ติดตามสถานการณ์ แจ้งเตือนประชาชนให้ทันเหตุการณ์และเข้าไปช่วยเหลือให้ทั่วถึงไม่ซ้ำซ้อน  พร้อมย้ำให้อยู่กับประชาชนในพื้นที่จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

สำหรับในพื้นที่ กทม.และ จว.ปริมณฑล หน่วยทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงสนับสนุน กทม.และจว.ปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเตรียมรับมือจากมวลน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยาที่เอ่อล้นมากขึ้น จากปรับการระบายน้ำ โดยอยู่ระหว่างเร่งกรอกกระสอบทรายเสริมความแกร่งคันกั้นน้ำริมเจ้าพระยา การเร่งดูดและผลักดันน้ำออกจากพื้นที่เก็บกักน้ำและคูคลอง รวมทั้งการกำจัดขยะวัชพืชและสิ่งกีดขวางทางน้ำจำนวนมากในลำน้ำสายหลักและรอง ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของการระบายน้ำ

เวียดนามเตือนประชาชนออกนอกพื้นที่เสี่ยง หลัง 'พายุโนรู' ทวีความรุนแรงต่อเนื่อง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทางการเวียดนามออกประกาศเตือนให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณตอนกลางอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากไต้ฝุ่นโนรูกำลังเคลื่อนตัวเข้ามาและจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไปทางประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากสร้างความเสียหายไม่น้อยในฟิลิปปินส์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งชาติของเวียดนาม กล่าวว่า พายุไต้ฝุ่นโนรูจะรุนแรงขึ้นในคืนวันอังคาร (27 ก.ย. 65) ระหว่างที่เคลื่อนตัวเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนามตอนกลางมากขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์กลางของพายุอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของหมู่เกาะพาราเซล มีความเร็วลมสูงสุด 183 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพิ่มขึ้นจาก 149 กิโลเมตร/ชั่วโมง ในคืนก่อนหน้า (26 ก.ย.)

นอกจากนี้ เวียดนามต้องปิดสนามบินหลายแห่งทำให้เที่ยวบินทั้งภายในและระหว่างประเทศถูกยกเลิกหลายร้อยเที่ยว การจราจรปั่นป่วน อีกทั้งประชาชนหลายหมื่นคนจำเป็นต้องอพยพออกจากบ้านเรือนกะทันหันอีกด้วย

อ.ปราโมทย์ เตือน!! พายุโนรู ไม่ธรรมดา!! คาด!! สภาพ กทม. อาจท่วมแบบปี 38

พายุโนรู ภัยพิบัติครั้งนี้ไม่ธรรมดา ต้องตื่นตัว!! หน่วยงานที่เกี่ยวข้องระดับพื้นที่ต้องเร่งสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้พร้อมรับมือ พร้อมเตือนประชาชนในภาคอีสานที่อาศัยอยู่แนวพายุเตรียมยกของขึ้นที่สูง ส่วนคนกรุงมีลุ้น!! เสี่ยงน้ำท่วมเหมือนปี 2538 จากผลกระทบของพายุโนรู

หลังจาก ‘พายุไต้ฝุ่นโนรู’ ซึ่งพัดเข้าประเทศเวียดนามไปเรียบร้อย และส่งผลกระทบให้เกิดลมแรง ฝนตกหนัก จนประชาชนหลายแสนคนต้องเร่งอพยพด่วนนั้น ล่าสุดพายุโนรู กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในวันที่ 29 กันยายน 2565 จากการพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา 

คำถาม คือ ไทยจะลดผลกระทบและความสูญเสียโดยภาพรวมจากพายุโนรูได้มากน้อยเพียงใด ทีมข่าว THE STATES TIMES ได้สัมภาษณ์ อาจารย์ปราโมทย์ ไม้กลัด ประธานกรรมการมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ถึงการรับมือภัยพิบัติจาก พายุโนรู ในครั้งนี้ โดยอาจารย์ปราโมทย์ได้แสดงความคิดเห็นว่า…

‘พายุโนรู’ ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่ประเทศไทยในครั้งนี้ ถือเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ไม่เคยเกิดขึ้นบ่อยนัก โดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเร่งด่วน ทำให้เตรียมตัวในการรับมือไม่ทัน อีกทั้งการสื่อสารมักไม่ถึงประชาชนอย่างทันท่วงที จนทำให้ผู้คนไม่เข้าใจถึงขั้นตอนในการเตรียมตัวรับมือพายุว่าจะต้องทำอย่างไร หรือเป็นไปในทิศทางไหน

“ปัจจุบันหน่วยงานต่าง ๆ หรือสื่อมวลชน ต่างนำเสนอแต่การเกิดของพายุ หรือแม้แต่เรื่องเส้นทางของพายุ โดยไม่ได้อธิบายว่า ประชาชนควรทำอย่างไร หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระดับพื้นที่ เช่น ระดับจังหวัด, ระดับอำเภอ หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควรนำข้อมูลพายุที่รับทราบมาขยายความ เพื่อสร้างความเข้าใจกับประชาชนให้เข้าใจเรื่องภัยพิบัติอย่างไรให้มากขึ้น”

เรื่องนี้ อ.ปราโมทย์ จึงได้ให้ข้อแนะนำแก่ประชาชนโดยเฉพาะในพื้นที่อีสานไว้แบบเร่งด่วนว่า “พายุที่เข้ามานี้ มันทั้งด่วนและรวดเร็วมาก ฉะนั้นชุมชนต้องรวมตัวกัน และชาวบ้านต้องมีผู้นำที่มีความเข้าใจสภาพพื้นที่เป็นอย่างดี ที่จะบอกได้ว่าจุดไหนน้ำท่วม จุดไหนน้ำไม่ท่วม เมื่อพายุมาจะสามารถเก็บข้าวของเครื่องใช้ไว้ที่สูงได้ทันการณ์ อย่างประชาชนที่อาศัยในลุ่มน้ำภาคอีสานทั้งหมดไม่ว่าลุ่มน้ำเล็กหรือใหญ่ ก็ต้องเตรียมตัวได้ทันทีภายใต้ชุมชนที่ต้องร่วมปรึกษาและแก้ไขปัญหาด้วยกัน”

ในด้านของกรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบจากพายุโนรูในครั้งนี้หรือไม่? อ.ปราโมทย์ กล่าวว่า “อาจจะไม่ส่งผลกระทบตรงมาถึงโดยตรง แต่กรุงเทพฯ จะได้รับผลกระทบจากพายุฝนที่ตกหนักแบบข้ามวันข้ามคืน ขณะเดียวกันก็จะได้รับผลกระทบจากน้ำที่รวมตัวมาจากแม่น้ำปิง, แม่น้ำวัง, แม่น้ำยม, แม่น้ำน่าน และแม่น้ำป่าสัก ซึ่งไม่รู้ว่ามีมวลน้ำรวมตัวกันมาเท่าไร เพราะแนวทางพายุโนรูพัดผ่านมาทางภาคอีสาน เคลื่อนผ่านชัยภูมิ, พิษณุโลก, เพชรบูรณ์, กำแพงเพชร, ตาก และเข้าสู่ประเทศพม่า ซึ่งพายุโนรูได้เคลื่อนตัวผ่านสายน้ำหลักที่รวมตัวเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อพายุพัดเข้าสู่เพชรบูรณ์ แม่น้ำป่าสักก็ต้องรับน้ำเต็มที่ และไหลลงมาด้านล่างที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ที่ดักน้ำไว้ และเมื่อเขื่อนมีการปล่อยน้ำออกมา น้ำก็จะไปรวมตัวที่พระนครศรีอยุธยา คาดว่าจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน

'ส.ส.เพื่อไทย' ผนึกกำลังรุดพื้นที่อุบลราชธานี เร่ง 'ช่วยเหลือ-ดูแล' ประชาชนในพื้นที่

ภายหลังจากอิทธิพลของ 'พายุโนรู' ถล่มจังหวัดอุบลราชธานี ส่งผลให้หลายชุมชนถูกน้ำท่วมสูงนั้น ล่าสุด 'สมคิด เชื้อคง’ ส.ส.อุบลราชธานี ได้ลงพื้นที่ อำเภอเดชอุดม อำเภอน้ำยืน และอำเภอสำโรง สำรวจความเสียหายจากพายุโนรู พบนาข้าวจมน้ำนับพันไร่ บ้านเรือนพี่น้องประชาชนหลายสิบหลังคาเรือนจมน้ำ ทางนายอำเภอสุทิน นายกฯ อบต. ท่านณัฐพล และกำนัน ร่วมกันหารือพร้อมช่วยเหลือพี่น้องเต็มกำลัง พร้อมให้กำลังใจให้พี่น้องทุกคนปลอดภัย

ขณะที่ด้าน 'กิตติ์ธัญญา วาจาดี’ ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ก็ได้เข้าสังเกตการณ์เฝ้าระวังระดับน้ำที่อำเภอวารินชำราบ ร่วมกับฝ่ายปกครอง และมูลนิธิกู้ภัยสว่างบูชาธรรมอย่างใกล้ชิด พร้อมแสดงความขอบคุณทุกฝ่ายที่ร่วมใจดูแลพี่น้องประชาชนอย่างเต็มกำลัง


ที่มา : https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid0yDAT6hGFCGXoSaRjmrV2YfTJCwDMWbsxQcuSLqeSH6UhBcYj8dQmkrGoSzbmqYuJl&id=100044569743646

https://www.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid02McKxNsEJv8c9i24osfCXGa17Vjk9utJiS7kVnQVLYUZM3Mea4TgimHLSDgPZQHC1l&id=100044569743646

'บิ๊กป้อม' สั่งติดตาม 'พายุโนรู' อ่อนกำลัง ย้ำ!! เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง - เร่งช่วยเหลือปชช.

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกประจำ รอง นรม.เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ สทนช.และ มท. ยังคงติดตามสถานการณ์ผลกระทบจากพายุโนรูที่อ่อนกำลังลงต่อเนื่องไป โดยขอให้ สทนช.และกรมชลประทาน บริหารจัดการรักษาสมดุลการระบายน้ำทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน โดยคำนึงผลกระทบกับประชาชนส่วนใหญ่และพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญ

ขณะเดียวกัน รองนายกรัฐมนตรี ได้กำชับขอให้ฝ่ายปกครอง ให้ความสำคัญทำงานร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ ยังคงเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงที่มีฝนตกหนักน้ำสะสมต่อเนื่อง อันอาจเกิดน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมฉับพลันได้ โดยให้แจ้งเตือนและนำประชาชนออกจากพื้นที่ให้ทันกับเหตุการณ์ และยังคงเฝ้าระวังให้การช่วยเหลือประชาชนริมฝั่งแม่น้ำสายหลัก ที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำริมสองฝั่งที่สูงขึ้น จากการระบายน้ำท้ายเขื่อนที่มากขึ้น

พร้อมกันนี้ จากสถานการณ์พายุที่เริ่มอ่อนกำลังลง พล.อ.ประวิตร’ ยังได้ย้ำ ขอให้ฝ่ายปกครองในทุกพื้นที่ประสบอุทกภัย เร่งหนุนเรื่องเข้าไปช่วยดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือเยียวยาอย่างทั่วถึงในทุกพื้นที่ต่อเนื่องกันไป เพื่อให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบกลับมาใช้ชีวิตโดยปกติเร็วที่สุด โดยเฉพาะการเร่งเข้าไปช่วยเหลือดูแลโรงเรียนและวัดที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้เด็กนักเรียนส่วนใหญ่สามารถกลับมาเรียนได้ตามปกติโดยเร็ว
 

'บิ๊กตู่' สั่งการทุกเหล่าทัพ เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง เตรียมพร้อมเข้าฟื้นฟูหลายพื้นที่ หลังพายุโนรูอ่อนกำลัง

พลเอกคงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้ย้ำสั่งการทุกเหล่าทัพ ให้คงการสนับสนุนรัฐบาล ช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัยในทุกพื้นที่ต่อเนื่องกันไป หลังสถานการณ์พายุโนรูอ่อนกำลัง โดยยังให้ร่วมเฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ที่ฝนยังตกหนักสะสมต่อเนื่อง และให้ช่วยเหลือเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ชุมชนลงลำน้ำสายหลักให้เร็วขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ขณะเดียวกัน ให้เตรียมการช่วยเหลือฟื้นฟูพื้นที่ทันที เมื่อสถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลาย เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติได้โดยเร็ว 

'บิ๊กป้อม' หารือ 'ผู้ว่าฯ หมูป่า' เร่งช่วยชาว 'ปทุมฯ-นนท์' กำชับทุกหน่วยงานต้องดูแลผู้ประสบภัยให้ทั่วถึง

(6 ต.ค. 65) พล.ท.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษก รอง นรม.เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม./ผอ.กอนช. พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม สาเหตุจาก 'พายุโนรู' บริเวณลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ต่อเนื่องจากการลงพื้นที่ จ.ชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง-อยุธยา ที่ผ่านมาแล้ว โดยในวันนี้ได้เดินทางไปยัง ศาลากลาง จ.ปทุมธานี ซึ่งมีนาย ณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ. หรือผู้ว่าหมูป่า ให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายสรุปภาพรวมสถานการณ์ทั่วไปของ จ.ปทุมธานี จากนั้น เลขาฯ สทนช. รายงานแผนงานด้านทรัพยากรน้ำ ต่อด้วยอธิบดีกรมชลประทาน นำเสนอแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ จ.ปทุมธานี, นนทบุรี และกทม. โดยสรุป จ.ปทุมธานี อยู่ในพื้นที่ 2ลุ่มน้ำ คือลุ่มน้ำเจ้าพระยา (77%) และลุ่มน้ำบางปะกง (23%) มีปริมาณน้ำปัจจุบัน 26 ล้าน ลบ.ม.( 39%) ปัญหาอุทกภัยมีสาเหตุหลัก คือน้ำหลากจากต้นน้ำตอนบน ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยา ทำให้เกิดการเอ่อล้นตลิ่ง เข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรม รวม 7 อำเภอ อยู่ในขณะนี้ ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาล ได้มี 13 มาตรการรองรับฤดูฝน ควบคู่กับโครงการ 349 โครงการในปี 61-65 แล้ว และอีก 4 โครงการสำคัญ ในปี 66-67

คน ปตท. ตั้งเป้าบรรจุ 10,000 ถุงยังชีพ ส่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุโนรู

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) พร้อมผู้บริหารและพนักงานกลุ่ม ปตท. ในนาม ‘ชมรมพลังไทยใจอาสา กลุ่ม ปตท.’ ร่วมบรรจุถุงยังชีพจำนวน 1,500 ถุง เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจากอิทธิพลพายุโนรู ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคกลาง ได้แก่ เทศบาลตำบลวารินชำราบ, อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 1,000 ถุง พร้อมส่งทีมปฏิบัติการชมรม PTT Group SEALs เจ้าหน้าที่พร้อมเรือท้องแบนและอุปกรณ์กู้ภัยเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ 

นอกจากนั้นจะนำส่งที่ ตำบลท่ามะนาว อำเภอชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี จำนวน 500 ถุง โดยในปี 2565 นี้ ปตท. มีแผนการดำเนินการแจกจ่ายถุงยังชีพเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยจำนวนกว่า 10,000 ถุง โดยถุงยังชีพประกอบด้วย อาหารพร้อมรับประทาน เครื่องอุปโภค บริโภค ที่จำเป็นต่อการดำรงชีพและสามารถใช้ได้ทันที เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนเบื้องต้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top