‘พระพยอม’ ยัน พระเล่นหนังไม่ผิดธรรมวินัย หลัง ‘พระมหาไพรวัลย์’ โผล่เล่นหนังหอแต๋วแตกฯ
ดรามาวงการผ้าเหลือง! เหตุเพราะ “พระมหาไพรวัลย์” เล่นหนังหอแต๋วแตกฯ ด้าน “พระพยอม” เผย พระธรรมวินัยไม่มีบัญญัติห้าม แค่สอนธรรมะสั้นๆ ไม่น่ามีปัญหา แต่หากแสดงตามบทสมมติ ไม่ได้แน่นอน!!
กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นดรามาที่สังคมกำลังให้ความสนใจอยู่อยู่ขณะนี้ กับภาพยนตร์ “หอแต๋วแตกแหกโควิดปังปุริเย่” ของผู้กำกับดัง พชร์ อานนท์ ที่นอกจากจะมีนักแสดงชุดเดิมอย่าง จาตุรงค์ มกจ๊ก, ติ๊ก กลิ่นสี และ โก๊ะตี๋ อารามบอย มาสร้างเสียงหัวเราะแล้ว
ยังได้นักแสดงชุดใหม่ที่เป็นคนในกระแส ทั้ง แม่หญิงลี พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ และ เจ้าทิพย์, สิตางศุ์ บัวทอง ตลอดจนนิมนต์ “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระนักเทศน์ชื่อดังแห่งวัดสร้อยทอง มาร่วมแสดงอีกด้วย
ทันทีที่เรื่องราวนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็นำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักถึง ความไม่เหมาะสม ที่เอาผู้ครองผ้าเหลือง อย่างพระมหาไพรวัลย์ มาแสดงหนัง
โดยทางด้านของผู้กำกับของเรื่องนั้น กล่าวถึงกระแสที่เกิดขึ้นว่า ไม่ได้เอาพระมาแต่งกะเทย อยู่ที่เจตนา อย่าเพิ่งดรามา รอดูหนังก่อน
“พส.ถ่ายเสร็จไปแล้ว มันก็ดรามาทุกเรื่องแหละ เราก็เฉยๆ พระท่านมาให้พรโรงแรมเจ๊แต๋ว ก็ให้น้ำมนต์ คือ ไม่ได้มาเล่นแบบวี้ดว้าย เขาเล่นเป็นพระ ทุกคนก็กราบพระ แล้วพระก็ให้พรทุกคน
เจตนาเราให้พระสงฆ์สอนธรรมะ แต่คนส่วนใหญ่วัยรุ่นหรือใครที่ไม่ได้เข้าวัด ก็มาดูหนังได้ธรรมะกลับบ้านไป เราไม่ได้เอาพระสงฆ์มาแต่งเป็นกะเทย ไม่ได้เอาพระสงฆ์มาเล่นเป็นเจ๊แต๋ว พระสงฆ์ก็เล่นเป็นพระทุกคนก็กราบ พระก็สอนว่าเราต้องทำดี คือเรารู้เพราะเราศาสนาพุทธเหมือนกัน”
ขณะที่ความคิดเห็นของโลกโซเชียลฯ ก็แตกออกเป็นหลายแง่มุม บ้างก็มองว่า พระไม่ควรเล่นหนัง ส่วนอีกด้านก็มองว่า คนไทยดรามาได้กับทุกเรื่อง รวมไปถึงมองว่าผู้กำกับผู้นี้ ใครมีกระแสเป็นต้องจับมาเล่นหนังของตนเสียหมด
พระราชธรรมนิเทศ หรือ พระพยอม กัลยาโณ เจ้าอาวาสวัดสวนแก้ว ซึ่งเป็นพระนักคิดนักเทศน์ชื่อดังอีกรูป โดยท่านให้ความเห็นว่า หากเป็นแค่ออกมาเพียงฉากสั้นๆ เป็นการให้ศีลให้พร และไม่ได้สวมบทบาทเป็นตัวละคร ก็ไม่น่าจะผิดอะไร
“จะต้องคิดธรรมะในขณะนั้น ต้องไม่มีเล่นบทบาทอะไร ไม่เกิน 3 นาที 5 นาที จบ ประโยคสั้นๆ แค่ให้ศีล ให้พร ให้ธรรมะ ให้ข้อคิดเตือนใจ อาจจะเป็นตัวละครนางเอก พระเอก เตือนใจผู้ร้าย อะไรต่างๆ ถ้าลักษณะอย่างนี้ มันเป็นประโยชน์ด้วยซ้ำไป
อย่างคนมันจะกินเหล้า พระอาจจะเดินผ่าน แต่มีคำทิ้งไว้ กินเหล้า เสียทั้งสติ เสียทั้งสตางค์ แล้วก็ผ่านไป แค่นี้มันไม่มีอะไร เหลือทิ้งไว้แต่การเตือนสติ มันฝากในหนัง ในละครได้ทั้งนั้น อย่างนี้ไม่มีปัญหา 100 เปอร์เซ็นต์
เพราะว่าเขาใช้ล้อต๊อกแสดง ใช้เท่งแสดง บางทีมันก็ไม่ค่อยแนบเนียน เขาไม่ได้มีสมณสัญญา แต่ถ้าให้พระ พระมีสมณสัญญา รู้ว่าตัวเองเป็นพระ แล้วก็ให้หลักธรรมที่ถูกต้อง ชัดเจน แหลมคม ลึกซึ้ง น่าจะได้ ก็จะเกิดประโยชน์
ไม่ใช่เขาคิดเขียนบทให้ทำ ไปตีบทให้พระ แสดงตามบท ต้องออกอาการอย่างนั้นอย่างนี้ เหมือนกับเล่นตามบทประพันธ์ อันนี้ก็จะไม่ค่อยเหมาะเท่าไหร่ ถ้าเปิดฉากแรกยันจบ มันไม่ได้หรอก อันนั้นมันเกินไป ไม่ได้แน่นอน ไม่ดีแน่นอน”
“ห้ามพระเล่นหนัง” พระธรรมวินัยไม่มีบัญญัติ
