Monday, 20 May 2024
พงศ์กวิน_จึงรุ่งเรืองกิจ

‘โฟม-พงศ์กวิน’ ชี้!! 14 พ.ค.นี้ รู้ผลโฉมหน้าการเมืองไทย มั่นใจ!! เพื่อไทยยังแลนด์สไลด์ กวาด กทม. เกิน 25 คน

ต้องยอมรับว่า ในช่วงหาเสียงที่ผ่านมา หนึ่งในแกนนำที่ลงมาช่วยหาเสียงให้พรรคเพื่อไทย (พท.) อย่างต่อเนื่อง คงหนีไม่พ้นตระกูล ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ โดย ‘สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ’ อดีตรมว.อุตสาหกรรม ที่ช่วยผู้สมัคร ส.ส. ทั่วประเทศคู่ขนานไปกับแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีแบบไม่เว้นวันพักผ่อน

(5 พ.ค.66) ขณะเดียวกัน ด้าน ‘โฟม’ พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้สมัคร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ก็ช่วยออกไปเป็นกองเสริมสนามกรุงเทพฯ โดยที่ผ่านมาได้ลงช่วย ‘ดร.ตั้น’ กฤชนนท์ อัยยปัญญา ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 29 เขตบางแค (เฉพาะแขวงบางแคเหนือและแขวงบางไผ่) เขตหนองแขม (ยกเว้นแขวงหนองแขม) เบอร์ 9 ซึ่งต้องยอมรับว่า ผลงานของ ดร.ตั้น ที่แม้จะยังไม่ได้เป็น ส.ส.ในเลือกตั้งรอบก่อน แต่ก็ได้รับการตอบรับจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างมาก หลังจากลงช่วยเหลือแก้ปัญหาต่าง ๆ ให้ชาวบ้านย่านนี้มาตลอดหลายปี

ครม. แต่งตั้ง ‘พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ’ นั่งที่ปรึกษา ส่วน ‘สรวุฒิ เนื่องจำนงค์’ นั่งเลขาฯ ‘รมว.คมนาคม’

เมื่อไม่นานมานี้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 66 มีมติเห็นชอบแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมือง ประกอบด้วย 1.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ 2.นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โดยมีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเลขานุการ และที่ปรึกษา รมช. ของนางมนพร เจริญศรี และนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ นั้น จะเสนอที่ประชุม ครม. พิจารณาแต่งตั้งในการประชุมครั้งถัดไป เนื่องจากเสนอจัดวาระการประชุมในครั้งนี้ไม่ทัน

ขณะเดียวกัน นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมยังได้พิจารณาเรื่องฟรีวีซ่า โดยเปิดให้นักท่องเที่ยวจีน และคาซัคสถาน เข้าประเทศได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า ตั้งแต่วันที่ 25 ก.ย. 66-29 ก.พ. 67 ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม ในฐานะที่ดูแลรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยานต่าง ๆ โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) และท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) นั้น ได้สั่งการให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมพร้อมรองรับ และอำนวยความสะดวกทุกด้าน ให้นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังประเทศไทย โดยให้ประสานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และร่วมกันทำงาน เพื่อให้เกิดความรวดเร็ว ไม่เกิดปัญหาคิวผู้โดยสารหนาแน่นรอตรวจหนังสือเดินทาง

นายสุริยะ กล่าวอีกว่า ไม่รู้สึกกังวลใด ๆ มั่นใจว่าทุกหน่วยงานจะรับมือ และดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวได้อย่างดี ซึ่งก่อนหน้านี้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบล่วงหน้าแล้ว จึงคาดว่าทุกหน่วยงานจะเตรียมความพร้อมได้อย่างดี อย่างไรก็ตามในวันที่ 15-16 ก.ย. นี้ ตนจะเดินทางพร้อมคณะของนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และในวันที่ 29 ก.ย. นี้ จะลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยก่อนเดินทางจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปท่าอากาศยานภูเก็ตนั้น จะแวะตรวจเยี่ยมการให้บริการอย่างไม่เป็นทางการของอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ด้วย

อย่างไรก็ดี ในการลงพื้นที่ทั้ง 2 จังหวัดนั้น จะตรวจสอบความพร้อมของท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานภูเก็ต รวมถึงการพัฒนาสนามบินแห่งที่ 2 ของ 2 จังหวัดดังกล่าวด้วย ขณะเดียวกันจะลงไปดูปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ จ.ภูเก็ต รวมถึงการพัฒนาถนนต่าง ๆ ซึ่งจะประชุมหารือร่วมกับ กรมทางหลวง (ทล.) ทางหลวงชนบท (ทช.) และการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในโครงการต่าง ๆ ที่กำลังจะดำเนินการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต โดยจะขอให้เร่งรัดดำเนินการ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชน อาทิ โครงการทางพิเศษ (ด่วน) สายกะทู้-ป่าตอง เป็นต้น ส่วนโครงการรถไฟฟ้าใน จ.ภูเก็ต และรถไฟฟ้าในต่างจังหวัดนั้น ขณะนี้ขอเร่งดำเนินการรถไฟฟ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลก่อน

‘พงศ์กวิน’ เคลียร์ชัด!! ‘สุริยะ’ ไม่เคยเอ่ยคำว่า ‘ยกเลิกแลนด์บริดจ์’ ชี้!! ที่ผ่านมาอยู่ในขั้นศึกษา ‘โมเดลที่เหมาะ-ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่จะเกิด’

(22 ก.ย.66) นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า...

ท่านสุริยะไม่เคยพูดเรื่องยกเลิกโครงการแลนด์บริดจ์

'แลนด์บริดจ์' หรือโครงการสะพานเศรษฐกิจภาคใต้เชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย-อันดามัน (ชุมพร-ระนอง) จะทำให้ประเทศไทย เป็นจุดศูนย์กลางแห่งหนึ่งในการขนส่งสินค้าที่สำคัญของโลก และจะเป็นเส้นทางเดินเรือใหม่ ที่มีแรงจูงใจผู้ประกอบการเข้ามาลงทุน โดยการลดระยะเวลาการขนส่ง จากที่ผ่านช่องแคบมะละกาจาก 9 วัน เหลือ 5 วัน ทำให้ประหยัดต้นทุน และเป็นประตูการค้าเชื่อมต่อ EEC GMS จีนตอนใต้ อาเซียน และ BIMSTEC

แลนด์บริดจ์ เป็นโครงการขนาดใหญ่ มีวงเงินลงทุนสูง ต้องร่วมทุนกับนักลงทุนต่างชาติ จึงจำเป็นต้องมีกฎหมายเฉพาะ และตั้งหน่วยงานขึ้นมาดูแลเฉพาะเพื่อให้มั่นใจว่าประเทศไทยจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุด

ในปัจจุบันโครงการแลนด์บริดจ์อยู่ในไทม์ไลน์ของการศึกษาความเหมาะสม ออกแบบเบื้องต้น ประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และวิเคราะห์รูปแบบโมเดลการพัฒนาการลงทุน โดยสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) ซึ่งจะมีการเสนอให้ครม.เห็นชอบหลักการในเดือนตุลาคม 2566 อนุมัติ EHIA ปลายปี 2567 และเปิดประมูลในช่วงกลางปี 2568

ขอยืนยันว่าทางรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย พร้อมผลักดันทุกนโยบาย ที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้เกิดขึ้นจริงอย่างแน่นอนครับ

'สุริยะ' เตรียมพร้อมรับ VISA Free 'จีน-คาซัคฯ' ยืนยันทุกสนามบินมีความพร้อมรองรับผู้โดยสาร

(22 ก.ย.66) นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานประชุมเตรียมความพร้อมท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานดอนเมือง เพื่อรองรับผู้โดยสารชาวจีนและคาซัคสถานตามนโยบาย VISA Free ของรัฐบาล โดยมี นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2566 ณ ห้องประชุมคมนาคม กระทรวงคมนาคม

นายสุริยะ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสิน ได้กำหนดนโยบายมาตรการ VISA Free ระหว่างวันที่ 25 กันยายน 2566 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวนั้น จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยได้เพิ่มมากขึ้น อันจะนำไปสู่การกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวเพื่อขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศในช่วงปี 2566 - 2567 ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากประเทศจีน

ทั้งนี้ เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่ตรงกับเทศกาลวันชาติของจีน คาดการณ์ว่า จะมีเที่ยวบินจากประเทศจีนเพิ่มขึ้นจากมาตรการ VISA Free ของรัฐบาล จากเดิม เฉลี่ย 72 เที่ยวบิน/วัน เป็น 96 เที่ยวบิน/วัน และปริมาณผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ย จากเดิม 9,680 คน/วัน เป็น 18,656 คน/วัน โดยในปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวจีนใกล้เคียงกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 5 ล้านคน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้มอบหมายให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการความร่วมมือในการเตรียมการรองรับนักท่องเที่ยวให้ดีที่สุดตั้งแต่เดินทางเข้าสู่ประเทศตลอดจนถึงการเดินทางกลับออกจากประเทศไทย

"ผมได้สั่งการให้ ทอท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ รวมถึงหาแนวทางการดำเนินการเพื่ออำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต และให้ประสานงานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อให้กระบวนการทุกขั้นตอนมีความสะดวกรวดเร็ว ไม่ให้ผู้โดยสารเกิดความแออัด หรือใช้เวลานานหลังจากลงจากเครื่องบิน รวมทั้งจัดตั้งศูนย์บัญชาการร่วม (Single Command Center) เพื่อเป็นศูนย์ประสานงานร่วมของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการในทุกขั้นตอนในท่าอากาศยาน ทำหน้าที่ตรวจสอบติดตามการให้บริการ และกวดขันการบริหารการจราจรบริเวณหน้าท่าอากาศยานไม่ให้เกิดความแออัดหนาแน่น และเก็บบันทึกข้อมูลการให้บริการ ภาพถ่ายกล้องวงจรปิด เพื่อนำมาวิเคราะห์ประกอบการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น" รมว.คมนาคม กล่าว

ด้านนายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ ทอท. กล่าวว่า ทอท. ได้เตรียมความพร้อมรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว บริหารจัดการท่าอากาศยานให้การบริการมีประสิทธิภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ดังนี้...

(1) ผู้โดยสารขาเข้า

- ขั้นตอนตรวจคนเข้าเมือง ประสานเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เตรียมประจำการเต็มช่องตรวจหนังสือเดินทาง ทั้ง 138 ช่อง ในชั่วโมงหนาแน่น และเตรียมเครื่องตรวจอัตโนมัติ 16 เครื่อง ซึ่งจะรองรับผู้โดยสารได้ 7,140 คนต่อชั่วโมง ระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจลงตรา 1 นาทีต่อคน

- ขั้นตอนรับกระเป๋าสัมภาระ กำกับดูแลและติดตามเวลาการจัดส่งสัมภาระให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด โดยกำชับให้ผู้ให้บริการภาคพื้นและสายการบิน จัดเตรียมอัตรากำลังและอุปกรณ์ให้เต็มขีดความสามารถและสอดคล้องกับเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น

(1.1) ผู้โดยสารขาออก

- ขั้นตอนการเช็กอิน ประสานสายการบินจัดให้มีพนักงานให้บริการเช็กอินเต็มทั้ง 302 เคาน์เตอร์ และประชาสัมพันธ์เพื่อเชิญชวนให้ผู้โดยสารใช้บริการเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (CUSS) และใช้บริการเครื่องรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (CUBD) (ใช้เวลาเฉลี่ย 1 นาทีต่อคน) นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มเติมการทำ Early Check-in

- ขั้นตอนจุดตรวจค้น จัดเจ้าหน้าที่เกลี่ยแถวผู้โดยสารให้สามารถเข้าสู่จุดตรวจค้นผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ซึ่งมีทั้งหมด 3 โซน ในปริมาณใกล้เคียงกัน เพื่อให้การใช้อุปกรณ์ตรวจค้น ประกอบด้วย เครื่องเอกซเรย์ 25 เครื่อง ที่ได้ติดตั้งระบบ Automatic Return Tray System (ARTS) แล้ว เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะทำให้ระยะเวลาในการตรวจค้นไม่เกิน 7 นาทีต่อคน

- ขั้นตอนการตรวจลงตรา ประสานเจ้าหน้าที่ ตม. ให้นั่งเต็ม 69 ช่องตรวจ

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเร่งด่วน และเตรียมเครื่อง Auto Channel 16 เครื่อง มีพื้นที่รองรับผู้โดยสาร 2,199 ตารางเมตร สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 4,149 คน ซึ่งในส่วนของท่าอากาศยานดอนเมือง ทอท. จะได้ดำเนินการในลักษณะเดียวกัน

นอกจากนี้ นายสุริยะ ยังได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเตรียมการในส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายตลอดการเดินทางในประเทศไทย ประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมท่าอากาศยานในภูมิภาค การเตรียมความพร้อมการเดินทางภายในกรุงเทพมหานคร การเตรียมความพร้อมการเดินทางไปต่างจังหวัดทางรถไฟและรถโดยสาร การเตรียมความพร้อมการเดินทางในต่างจังหวัด และการเตรียมความพร้อมสำหรับความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางน้ำ โดยให้ทุกหน่วยงานถือปฏิบัติตามหลักการเดียวกัน คือ การให้บริการที่มีประสิทธิภาพ สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย สะอาดสวยงาม พนักงานให้บริการด้วยมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และมีอัตราค่าบริการที่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

'กระทรวงคมนาคมได้เดินหน้าบริหารจัดการทุกขั้นตอนการบริการที่เป็นประตูสู่ประเทศไทย พร้อมรองรับปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้ประเทศไทยเป็นประตูและเป็นศูนย์กลางการเดินทางของภูมิภาค กระตุ้นการหมุนเวียนเม็ดเงินในระบบเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และความมั่นคงของประเทศ" รมว.คมนาคม ทิ้งท้าย

เลือดใหม่ ‘เพื่อไทย’ ยุคดรีมทีม ‘พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ’ 

หลายวันมานี้ ได้ฟังแต่ข่าวฉาวโฉ่ของพรรคการเมืองและนักการเมืองไทยที่กองเชียร์ยกให้เป็นคนรุ่นใหม่ช่วงนี้จนเริ่มเอียน และบางทีก็แอบอดหมดศรัทธาในตัวนักการเมืองที่อ้างตนเป็นคนรุ่นใหม่ไปพอสมควร

แต่กระนั้น หากเชิญชวนในประชาชนเหมารวมยกเข่ง ก็คงจะไม่แฟร์ต่อคนที่ตั้งใจอยากเข้ามาทำงานการเมืองยุคใหม่จริงๆ เพราะในปัจจุบันในหลายพรรคการเมือง เราคงเริ่มเห็น ‘เลือดใหม่’ ที่มีความสามารถ มีการวางตัวดี และมีจิตมุ่งมั่นที่อยากทำการเมืองไทยต่อจากนี้ให้ประชาชนคนไทยไว้วางใจได้มากที่สุดไม่น้อย

เฉกเช่นเดียวกันกับ ‘ท่านรองฯ ป้ายแดง’ แห่งพรรคเพื่อไทย อย่าง ‘พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ’ หรือ ‘คุณโฟม’ ที่ปรึกษา รมว.คมนาคม ซึ่งเป็นอีกเลือดใหม่ทางการเมืองที่น่าจับตา หลังเก็บเกี่ยวประสบการณ์มา 4 ปีตั้งแต่การเป็น สส.ในยุคลุงตู่ สะสมชั่วโมงบินจนเริ่มแกร่งกล้า แม้จะวืดเข้าสภาหนนี้ แต่ก็ยังไม่หลุดเฟรมการเมือง 

โดยไม่นานมานี้ คุณโฟม ได้เข้าร่วมทีม ‘เลือดใหม่’ แห่งทัพเพื่อไทย ด้วยการผงาดขึ้นเป็น ‘รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย’ ในยุคที่หัวหน้าพรรค ‘อุ๊งอิ๊ง’ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เรียกว่า ‘ดรีมทีม’

แน่นอนว่า หลายคนคงโฟกัสไปที่นามสกุลดังอย่าง ‘จึงรุ่งเรืองกิจ’ และก็คงห้ามความคิดใครไม่ได้ด้วย แต่เหตุผลที่ โฟม ได้เข้ามาอยู่ในจุดใดทางการเมือง มิใช่เรื่องของตระกูลอย่างที่คิด แต่เพราะเขาต้องการใช้จุดแข็งของการนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคนหนึ่งในเมืองไทย มาท้าทายงานที่ต้องทำเพื่อประชาชน ด้วยความมุ่งหวังที่จะใช้ประสบการณ์ที่มี มาปรับใช้กับงานบ้านเมือง โดยเริ่มนับ 1 บนถนนการเมืองเมื่อปี 62

ภาพของ ‘คุณโฟม’ ในรั้วการเมืองไทย ตามวงคอมเมนต์ของนักการเมืองรุ่นเก๋าและรุ่นใกล้กัน ต่างยอมรับในความเป็น สส.ที่มุ่งมั่นในบทบาทที่ตนเองดูแล มีความตั้งใจ ขยันทำงาน โดยเฉพาะงานฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นทั้งวิปรัฐบาล, รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกีฬา สภาผู้แทนราษฎร ที่สำคัญ ‘พี่โฟม’ เรียกได้ว่าติดอันดับ ‘ตัวท็อป’ ที่มาประชุมสภาผู้แทนราษฎร ไปทุกแมตช์ ยกมือแทบจะทุกรอบ ไม่เคยพลาด จนคำว่า ‘ดาวรุ่ง’ ในเชิงของ สส.ภาพลักษณ์ดี ติดอยู่ในสายตาบรรดาคนการเมือง 

แน่นอนว่า ประสบการณ์ที่อาจจะไม่ได้มากเมื่อเทียบพรรษากับ สส.และนักการเมืองทรงเก๋าจำนวนมากในเวลานี้ แต่ภายใต้ ‘ดรีมทีม’ ของ ‘อุ๊งอิ๊ง’ ที่หมายมั่นปั้นการเมืองยุคใหม่ จากคนรุ่นใหม่ ชื่อของ ‘โฟม’ ในเวลานี้ จึงไม่มีอะไรให้ต้องพิสูจน์มากนัก

ตำแหน่ง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยป้ายแดง อาจจะไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดของโฟม แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด คือ โอกาสที่จะแสดงฝีมือเต็มๆ แบบ 100% ด้วยการทำงานให้ประชาชนเห็น และเรียกศรัทธา ทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้ ‘พรรคเพื่อไทย’ เป็นพรรคอันดับ 1 ในหัวใจประชาชนเหมือนในอดีต 

คนรุ่นใหม่ ต้องท้าทาย เรื่องแบบนี้!!


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top