Friday, 17 May 2024
ปล้นทรัพย์

สืบนครบาล ผนึกกำลัง สืบภูธรภาค 2 รวบแก๊งมังกร บุกปล้นทรัพย์ชาวจีนย่านห้วยขวาง ก่อนจะเผ่นไปกบดานที่บ่อวิน

วันที่ 27 กันยายน 2566 พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2  , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น./หน.ชป.5 ศอ.ปส.ตร, พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1, พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2, พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.สุกฤต มังคละสวัสดิ์ ผกก.สน.ห้วยขวาง, พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.น.1, พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2, บก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ศานติ กรเกษม ผกก.สส.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.มาโนด หวังสู้ศึก ผกก.สส 1 บก.สส.ภ 2, พ.ต.อ.เอนก สระทองอยู่ ผกก.สภ.บ่อวิน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม

ร่วมแถลงผลการจับกุม Mr.LUI JIAN ( หลิว เจี้ยน ) สัญชาติจีนอายุ 34 ปี ตามหมายจับของ : ศาลอาญา 3267/2566 ลงวันที่ 26 กันยายน 2566 ข้อหาว่า “ ปล้นทรัพย์โดยผู้กระทำความผิดแม้แต่คนหนึ่งคนใดมีอาวุธติดตัวไปด้วย,และโดยมีหรือใช้อาวุธปืน,ร่วมกันเข้าไปหรือซ่อนตัวอยู่ในเคหสถานในความครอบครองของผู้อื่นในเวลากลางคืนโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีอาวุธ,และโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป,พกพาวุธปืนและมีดไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควรทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจโดยการขู่เข็ญ” จับกุมได้ที่ร้านอาหารจีน ตำบลบ่อวิน  อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2566 เวลาประมาณ 20.40 น. มีผู้เสียหายชาวจีน 3 คน พักอยู่บ้านเลขที่ 999/92 ห้องที่ 3 หมู่บ้านเกศินีวิลล์ฯ หลังจากเสร็จสิ้นการออกกำลังกาย ได้กลับมายังบ้าน พบว่ามีชายชาวจีนจำนวน 6 คน พร้อมด้วยอาวุธปืน และมีด เข้ามาก่อเหตุปล้นทรัพย์ผู้เสียหายโดยได้ทรัพย์สินประกอบด้วย 1.แหวนทองคำขาวประดับเพชร ยี่ห้อ BVLGARI มูลค่า 627,500 บาท, 2.กำไลข้อมือทองคำขาว ประดับเพชร ยี่ห้อ CARTIER มูลค่า 1,690,000 บาท 3.กระเป๋าถือ ยี่ห้อ CHANEL สีดำ จำนวน 3 ใบ มูลค่ารวม 540,000 บาท  4.กระเป๋า ยี่ห้อ RIMOWA สีดำ มูลค่า 55,000 บาท, 5.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 14 PRO สีม่วง ราคา 45,000 บาท 6.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อไอโฟน รุ่น 14 PRO สีดำ ราคา 45,000 บาท  ไปจาก ผู้เสียหายชาวจีนทั้ง 3 คน 

ต่อมาตำรวจได้สืบสวน จนสามารถออกหมายจับได้ทั้งหมด พบว่าผู้ต้องหาบางส่วนได้หลบหนีออกไปต่างประเทศ ส่วนตัวผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้หลบหนี ไปเปิดห้องพักอยู่พื้นที่บ่อวินชลบุรีและออกไปรวมกลุ่มลักลอบมั่วสุมเล่นการพนันกับกลุ่มชาวจีน ด้วยกันในร้านอาหารจีน  จึงบูรณาการกำลังสืบ ภ 2 , สน.บ่อวิน , สน.ห้วยขวาง, สืบ บก.น.1 และ สืบนครบาล จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ ส่ง สน.ห้วยขวาง และจับกุมกลุ่มชาวจีนที่ลักลอบเล่นการพนัน ( ไพ่นกกระจอก ) จำนวน 6 คน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.บ่อวิน  

ชั้นการจับกุมผู้ต้องหาให้การผ่านล่ามภาษาจีนปฎิเสธตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จะสืบสวนขยายผลจับกุมกลุ่มบุคคลที่ก่อเหตุ ที่ออกหมายจับไว้แล้วเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่า กลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดเป็นชาวจีน ที่ตั้งใจเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยโดยมีข้อมูลของกลุ่มบุคคลที่จะเข้ามาก่อเหตุอยู่แล้ว มีการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน เมื่อก่อเหตุเสร็จ ก็จะแยกย้ายกันหลบหนีออกนอกประเทศ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เพิ่มความเข้มงวดในการดูแลนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น และจะทำสืบสวนข้อมูลบุคคลต้องสงสัย และกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรม ที่เป็นภัยต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ  และถ้ามีบุคคลพบเห็นลักษณะบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวของต่อไป

ร่วมพลังสืบไล่ล่าอันธพาลรุ่นจิ๋ว….สืบนครบาล สืบ บก 6. สืบนนท์ ร่วมกันจับกุมแก็ง จิ๊กโก๋ท่าน้ำนนท์ ปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย

ด้วยนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนผู้สุจริตสร้างความหวาดกลัว พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6  บูรณาการชุดปฏิบัติการสืบสวน สืบนครบาล สืบ บก 6. และ สน. สำราญราษฎร์ดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ 

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6.  พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น.,  พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์   ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฏร์, พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6บช.น.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก .สส.บช.น. สืบ บก 6. สืบจังหวัดนนทบุรี และ สน. สำราญราฏร์ สืบสวนจับกุมตัว 

นายบี (นามสมมติ )อายุ 16 ปี ที่อยู่ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว ที่ 51/2567 ลงวันที่ 24 เมษายน 2567 กระทำความผิดฐาน ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธในเวลากลางคืน “เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น เพื่อความสะอวกในการที่จะกระทำผิดอย่างอื่นหรือเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร”

ด้วยเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 06.30 น. สน.สำราญราษฎร์ ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คน สวมเสื้อแต่งกายมิดชิดร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้เสียหายเป็นคนขับรถรถแท็กซี่ โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดแทง และชกต่อย บริเวณ หน้าซอยตรอกไข่ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม. ได้เงินสด พร้อมโทรศัพท์มือถือไป จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุ ช่วงเวลาระหว่างหลบหนีพบผู้เสียหายอีกรายนึงซึ่งเป็นเด็กปั้มฯ ที่เดินผ่านมา ได้ใช้อาวุธมีดจี้ไปที่ลำคอ และชกต่อยบริเวณหลังศาลาว่าการกรุงเทพ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. ปล้นโทรศัพท์มือถือ แล้วขึ้นรถสาธารณะที่ขับผ่านมาหลบหนีไป สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุ มี 3 คน ชายสวมเสื้อแจ๊คเก๊ทสีขาว ,ชายสวมเสื้อสีขาว-เทา แบะชายสวมเสื้อฮูดสีดำ 1 คน หลบหนีขึ้นรถเมลล์สาย 12  ไป

เมื่อทราบเหตุแล้ว พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ไม่ยอมนิ่งนอนใจได้สั่งการให้รวมนักสืบ ของ บช.น. เร่งสืบสวนติดตามพิสูจน์ทราบเพื่อจับกุมคนร้ายโดยเร็วไวต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวมี นายบี ผู้ต้องหา อายุ 16 ปี, นายซี อายุ 18 ปี และนายนพพร หรืออาร์ม ทองภิลา อายุ 23 ปี เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีได้รัดกุมจนสามารถยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาออกหมายจับกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 คนได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รอช้าวันนี้ 25 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ได้ทำการจับกุมตัวนายบี อายุ 16 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุได้ที่ริมถนนราชพฤก์-นนทบุรี1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ขณะกำลังจะหลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด

เหตุเกิดที่ บริเวณ หน้าซอยตรอกไข่ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม. ต่อเนื่องบริเวณหลังศาลาว่าการกรุงเทพ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม.

จับกุมสอบถามให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันปล้นทรัพย์คนขับรถแท็กซี่พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน จริง โดยที่ตนเองเป็นผู้ใช้อาวุธมีดจ้วงแทงคนขับรถแท็กซี่ และใช้อาวุธมีดจี้ลำคอเด็กปั้มฯ ก่อนที่จะหลบหนี โดยนายบี ยินยอมสมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจยึดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในวันก่อเหตุที่ห้องพักของตน ส่วนอาวุธมีดนั้นรับว่าได้โยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 7 ในวันก่อเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน คือ นายซี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และนายนพพร หรืออาร์ม ทองภิลา อายุ 23 ปี เมื่อตรวจสอบกับฐานระบบพบว่า นายซี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลเยาวชนจังหวัดนนทบุรี ที่ 2/2567 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์” และนายนพพร หรืออาร์ม เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 324/2567 ลง 30 มีนาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบว่าทั้ง 2 มีหมายจับอยู่แล้ว จึงเร่งติดตามจับกุมตามหมายจับ และนำตรวจยึดสิ่งของ เครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันก่อเหตุก่อนที่จะจับกุมตัวนายบี  ผู้ต้องหาในคดีนี้ หลังถูกจับกุม ทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่าคืนก่อเหตุได้เกิดความคึกคะนองชักชวนกันไปปล้น

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่าภายในวันเดียวกัน (22 เม.ย.67) กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ก่อเหตุในลักษณะแผนประทุษกรรมเดียวกัน ปล้นทรัพย์สิน ในพื้นที่เขต สภ.เมืองนนทบุรี อีก 2 ครั้งต่อเนื่องกันไป ซึ่งกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีประวัติโชกโชนตั้งแต่อายุยังน้อย เข้าออกสถานพินิจเป็นอาจิน  มีพฤติกรรมชอบรวมกลุ่มกันเสพยาเสพติดทั้งวันทั้งคืน เมื่อมีอาการมักจะคึกคะนอง ชอบใช้ความรุนแรงทะเลาะต่อยตีผู้คนไม่เลือกหน้า มีคู่อริไล่ทำร้าย ใช้อาวุธมีดไล่ฟันอยู่เป็นประจำ จนคนในระแวกท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี รู้จักกันเป็นอย่างดีถึงวีรกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนี้

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ควบคุมงานสืบสวนสั่งให้ สืบนครบาล และ สืบ บก 6. บูรณาการไล่ล่าแก็งอันธพาลเยาวชนนี้ ได้เข้ามาก่อนเหตุในย่านสำราญราษฎร์ จึงได้ประสานข้อมูล และการปฏิบัติกับสืบจังหวัดนนทบุรี จึงพบว่ามีประวัติสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งในพื้นที่นนทบุรี และเขตกรุงเทพฯ พฤติกรรมอุกอาจประสงค์ต่อทรัพย์ และทำร้ายเหยื่อ และฝากเตือนให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองช่วยควบคุมบุตร หลานของท่านให้อยู่ภายในกรอบ ไม่ควรปล่อยบุตร หลาน ของท่าน ให้มีการรวมตัว และชักชวนกันไปกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งก่อผลเสียให้กับสังคม นอกจากจะต้องเสียอนาคตก่อนวัยอันควร จะเป็นเหตุให้ผู้ปกครองต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย

เชียงใหม่-ตำรวจภูธรภาค 5 แถลงข่าวการจับกุมแก๊งวัยรุ่นก่อเหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น และการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ต่อเนื่องใน 5 พื้นที่

วันที่ 16 พ.ค.67 เวลา 11.00 น.พล.ต.ท.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ดุลเดชา อาชวสมิตระกูล รอง ผบช.ภ.5, รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ,รอง ผบก.สส.ภ.5, ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ และ ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาแก๊งวัยรุ่น จำนวน 3 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์และทำร้ายร่างกายผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ และการจับกุมผู้ต้องหาก่อเหตุชิงทรัพย์ วิ่งราวทรัพย์ต่อเนื่องใน  5  พื้นที่  ได้แก่ สภ.สันป่าตอง, หางดง, หนองตอง, ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ และ สภ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ณ ห้องประชุมพระพุทธประทานยศบารมี ตำรวจภูธรภาค 5 อ.เมืองเชียงใหม่ จว.เชียงใหม่  

โดยมีรายละเอียด ดังนี้
คดีที่ 1  คดีปล้นทรัพย์ ฯ ของ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์  จับกุมผู้ต้องหา 3 คน คือ นายอนุเดช หรือ บังพีท นายพลาธิป หรือออคิด และ ด.ช.น้ำหนึ่ง  โดยเมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2567  เวลาประมาณ 05.30 น. นายกังสชิต ฯ และนายทักษ์ดนัย ผู้เสียหาย จำนวน 2 คน เล่นสเก็ตพื้นที่ของเอกชน อยู่ที่เขต ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่  ได้มีคนร้ายซึ่งเป็นชายวัยรุ่น จำนวน 3  คน ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาบริเวณลานสเก็ต หนึ่งในคนร้าย  ได้ใช้อาวุธมีดทำร้ายฟันผู้เสียหายบริเวณหน้าผาก  และทำร้ายร่างกายผู้เสียหายทั้งสองได้รับบาดเจ็บ และคนร้ายได้หยิบทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้เสียหายที่ไปประกอบด้วย บุหรีไฟฟ้า, บุหรี่ยี่ห้อ LM แดง จำนวน 1 ซอง, น้ำดื่มเอสรสลิ้นจี่ จำนวน 2 ขวด, แก้วเยติ  จำนวน 1 ใบ

ต่อมาวันที่ 13 พ.ค.67 เวลาประมาณ 23.00 น. ได้ทำการสืบสวนทราบว่าคนร้ายทั้ง 3 คน คือ นายอนุเดช หรือ บังพีท นายพลาธิป หรือออคิด และ ด.ช.น้ำหนึ่ง  เจ้าหน้าที่ ตำรวจจึงได้นำตัวนายพลาธิปฯ และ ด.ช.น้ำหนึ่ง ฯ มาซักถามปากคำ โดยทั้ง 2 ยอมรับว่าได้ร่วมกันกับนายอนุเดช หรือ บังพีท ก่อเหตุจริง ต่อมาเมื่อวันที่ 15 พ.ค.67 ได้ทำการจับกุมตัวนายอนุเดช หรือบังพีช ตามหมายจับของ ศาลจังหวัดเชียงใหม่  พร้อมควบคุมตัวนายพลาธิป หรือออคิด และ ด.ช.น้ำหนึ่ง  มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

คดีที่ 2 จับกุมตัวนายจักรกฤษ ฯ ภูมิลำเนา ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จว.เชียงใหม่ ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ จำนวน 5 ครั้ง ได้ทรัพย์สิน 1  ครั้ง เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 ในพื้นที่ สภ.หนองตอง ครั้งแรก ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอ สีชมพู ไปก่อเหตุที่เขต สภ.สันป่าตอง ไม่ได้ทรัพย์สิน 
ครั้งที่สอง ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นสกูปปี้ไอฯ ไปก่อเหตุที่เขต สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ไม่ได้ทรัพย์สินไปแต่อย่างใด 

ครั้งที่สาม เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 เวลาประมาณ 13.30น. ใช้รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ไปใช้ก่อเหตุ ในเขตพื้นที่ สภ.หนองตอง จ.เชียงใหม่ เมื่อ ได้ทรัพย์สินเป็นสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท นำไปขายที่ร้านทองจำชื่อ ภายในห้างในพื้นที่ ต.ช้างเผือก ในวันเดียวกับวันที่ก่อเหตุ 
ครั้งที่สี่ เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 16.00น. ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำฯ ไปก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.ช้างเผือกจ.เชียงใหม่ แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน 
ครั้งที่ห้า เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2567 เวลาประมาณ 18.50น. ใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำฯ ไปก่อเหตุในพื้นที่ สภ.เมืองลำพูน แต่ไม่ได้ทรัพย์สิน 
รวมก่อเหตุทั้งหมด 5 ครั้ง ได้ทรัพย์สินไปเพียงครั้งเดียว คือ เมื่อวันที่ 7 เม.ย.2567 ในพื้นที่ สภ.หนองตอง 

ตำรวจภูธรภาค 5 ขอยืนยันว่ามีความพร้อมในการดูแลรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่พี่น้องประชาชนและยังคงเน้นย้ำในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชน ทั้งนี้หากพบเห็นอาชญากรรมหรือมีเบาะแสเกี่ยวกับการกระทำความผิดโปรดแจ้ง 191 ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง หรือแจ้งผ่านไลน์ ผบช.ภ.5 ไอดี @police5 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top