ร่วมพลังสืบไล่ล่าอันธพาลรุ่นจิ๋ว….สืบนครบาล สืบ บก 6. สืบนนท์ ร่วมกันจับกุมแก็ง จิ๊กโก๋ท่าน้ำนนท์ ปล้นทรัพย์ และทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย

ด้วยนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รรท.ผบ.ตร., พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร., และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ให้ปราบปรามอาชญากรรมที่กระทำความผิดสร้างความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนผู้สุจริตสร้างความหวาดกลัว พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. สั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์  ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับ พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6  บูรณาการชุดปฏิบัติการสืบสวน สืบนครบาล สืบ บก 6. และ สน. สำราญราษฎร์ดำเนินการจับกุมในครั้งนี้ 

เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567  พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น., พล.ต.ต.สามารถ พรหมชาติ ผบก.น.6 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร รอง ผบก.น.6.  พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.สส.บช.น.,  พ.ต.อ.อรรชวศิษฏ์   ศรีบุณยมานนทน์ ผกก.สส.3 บก.สส.บช.น.,พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฏร์, พ.ต.อ.เชิดศักดิ์ รอดเข็ม ผกก.สส.บก.น.6บช.น.กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก .สส.บช.น. สืบ บก 6. สืบจังหวัดนนทบุรี และ สน. สำราญราฏร์ สืบสวนจับกุมตัว 

นายบี (นามสมมติ )อายุ 16 ปี ที่อยู่ถ.บางกรวย-ไทรน้อย ต.บางกรวย อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลเยาวชนและครอบครัว ที่ 51/2567 ลงวันที่ 24 เมษายน 2567 กระทำความผิดฐาน ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธในเวลากลางคืน “เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายสาหัส, ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น เพื่อความสะอวกในการที่จะกระทำผิดอย่างอื่นหรือเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน และร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร”

ด้วยเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 06.30 น. สน.สำราญราษฎร์ ได้รับแจ้งเหตุกลุ่มคนร้ายเป็นชายวัยรุ่น 3 คน สวมเสื้อแต่งกายมิดชิดร่วมกันปล้นทรัพย์ผู้เสียหายเป็นคนขับรถรถแท็กซี่ โดยคนร้ายได้ใช้อาวุธมีดแทง และชกต่อย บริเวณ หน้าซอยตรอกไข่ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม. ได้เงินสด พร้อมโทรศัพท์มือถือไป จนเป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสนำตัวส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา หลังจากกลุ่มคนร้ายได้ก่อเหตุ ช่วงเวลาระหว่างหลบหนีพบผู้เสียหายอีกรายนึงซึ่งเป็นเด็กปั้มฯ ที่เดินผ่านมา ได้ใช้อาวุธมีดจี้ไปที่ลำคอ และชกต่อยบริเวณหลังศาลาว่าการกรุงเทพ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม. ปล้นโทรศัพท์มือถือ แล้วขึ้นรถสาธารณะที่ขับผ่านมาหลบหนีไป สืบสวนทราบว่าผู้ก่อเหตุ มี 3 คน ชายสวมเสื้อแจ๊คเก๊ทสีขาว ,ชายสวมเสื้อสีขาว-เทา แบะชายสวมเสื้อฮูดสีดำ 1 คน หลบหนีขึ้นรถเมลล์สาย 12  ไป

เมื่อทราบเหตุแล้ว พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ไม่ยอมนิ่งนอนใจได้สั่งการให้รวมนักสืบ ของ บช.น. เร่งสืบสวนติดตามพิสูจน์ทราบเพื่อจับกุมคนร้ายโดยเร็วไวต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมสืบสวนทราบว่ากลุ่มคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุดังกล่าวมี นายบี ผู้ต้องหา อายุ 16 ปี, นายซี อายุ 18 ปี และนายนพพร หรืออาร์ม ทองภิลา อายุ 23 ปี เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับคดีได้รัดกุมจนสามารถยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาออกหมายจับกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 คนได้แล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่รอช้าวันนี้ 25 เมษายน 2567 เวลา 13.30 น. ได้ทำการจับกุมตัวนายบี อายุ 16 ปี ซึ่งเป็น 1 ใน 3 คนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุได้ที่ริมถนนราชพฤก์-นนทบุรี1 ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ขณะกำลังจะหลบหนี เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด

เหตุเกิดที่ บริเวณ หน้าซอยตรอกไข่ ถนนบำรุงเมือง แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กทม. ต่อเนื่องบริเวณหลังศาลาว่าการกรุงเทพ แขวงเสาชิงช้า เขตพระนคร กทม.

จับกุมสอบถามให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันปล้นทรัพย์คนขับรถแท็กซี่พร้อมกับเพื่อนอีก 2 คน จริง โดยที่ตนเองเป็นผู้ใช้อาวุธมีดจ้วงแทงคนขับรถแท็กซี่ และใช้อาวุธมีดจี้ลำคอเด็กปั้มฯ ก่อนที่จะหลบหนี โดยนายบี ยินยอมสมัครใจพาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมตรวจยึดเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายในวันก่อเหตุที่ห้องพักของตน ส่วนอาวุธมีดนั้นรับว่าได้โยนทิ้งลงแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสะพานพระราม 7 ในวันก่อเหตุ ส่วนคนร้ายอีก 2 คน คือ นายซี (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และนายนพพร หรืออาร์ม ทองภิลา อายุ 23 ปี เมื่อตรวจสอบกับฐานระบบพบว่า นายซี เป็นบุคคลตามหมายจับศาลเยาวชนจังหวัดนนทบุรี ที่ 2/2567 ลงวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2567 ข้อหา “ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และทำให้เสียทรัพย์” และนายนพพร หรืออาร์ม เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 324/2567 ลง 30 มีนาคม 2567 ในข้อหา “ร่วมกันมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมทราบว่าทั้ง 2 มีหมายจับอยู่แล้ว จึงเร่งติดตามจับกุมตามหมายจับ และนำตรวจยึดสิ่งของ เครื่องแต่งกายที่ใช้ในวันก่อเหตุก่อนที่จะจับกุมตัวนายบี  ผู้ต้องหาในคดีนี้ หลังถูกจับกุม ทั้ง 3 รายให้การรับสารภาพว่าคืนก่อเหตุได้เกิดความคึกคะนองชักชวนกันไปปล้น

จากการตรวจสอบยังพบอีกว่าภายในวันเดียวกัน (22 เม.ย.67) กลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุ ได้ก่อเหตุในลักษณะแผนประทุษกรรมเดียวกัน ปล้นทรัพย์สิน ในพื้นที่เขต สภ.เมืองนนทบุรี อีก 2 ครั้งต่อเนื่องกันไป ซึ่งกลุ่มคนร้ายทั้ง 3 เป็นกลุ่มวัยรุ่นที่มีประวัติโชกโชนตั้งแต่อายุยังน้อย เข้าออกสถานพินิจเป็นอาจิน  มีพฤติกรรมชอบรวมกลุ่มกันเสพยาเสพติดทั้งวันทั้งคืน เมื่อมีอาการมักจะคึกคะนอง ชอบใช้ความรุนแรงทะเลาะต่อยตีผู้คนไม่เลือกหน้า มีคู่อริไล่ทำร้าย ใช้อาวุธมีดไล่ฟันอยู่เป็นประจำ จนคนในระแวกท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี รู้จักกันเป็นอย่างดีถึงวีรกรรมของวัยรุ่นกลุ่มนี้

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ควบคุมงานสืบสวนสั่งให้ สืบนครบาล และ สืบ บก 6. บูรณาการไล่ล่าแก็งอันธพาลเยาวชนนี้ ได้เข้ามาก่อนเหตุในย่านสำราญราษฎร์ จึงได้ประสานข้อมูล และการปฏิบัติกับสืบจังหวัดนนทบุรี จึงพบว่ามีประวัติสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งในพื้นที่นนทบุรี และเขตกรุงเทพฯ พฤติกรรมอุกอาจประสงค์ต่อทรัพย์ และทำร้ายเหยื่อ และฝากเตือนให้ พ่อ แม่ ผู้ปกครองช่วยควบคุมบุตร หลานของท่านให้อยู่ภายในกรอบ ไม่ควรปล่อยบุตร หลาน ของท่าน ให้มีการรวมตัว และชักชวนกันไปกระทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย กระทั่งก่อผลเสียให้กับสังคม นอกจากจะต้องเสียอนาคตก่อนวัยอันควร จะเป็นเหตุให้ผู้ปกครองต้องถูกดำเนินคดีอีกด้วย