Tuesday, 22 April 2025
ปลาหมอสีคางดำ

‘ประมงสมุทรสาคร’ ลุยกำจัด ‘เอเลี่ยนสปีชีส์’ ดีเดย์!! เริ่มกำจัด ‘ปลาหมอสีคางดำ’ 9 ก.ค. นี้

(7 ก.ค.67) นายนิรันดร์ พรหมครวญ ประมงอาวุโสจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ในช่วงเวลานี้ “ปลาหมอสีคางดำ” ระบาดหนักมาก ทำให้ระบบนิเวศทางน้ำเสียไป ทางประมงจังหวัดสมุทรสาครจึงจัดเตรียมลงแขกลงคลอง ดีเดย์วันที่ 9 ก.ค.นี้ ก่อนที่จะมีการปล่อยลูกปลากะพง และสัตว์น้ำ ลงสู่คลองต่อไป เพื่อสร้างระบบนิเวศทางน้ำให้สมดุลกลับสู่สภาพดังเดิม

จากสถานการณ์ที่พบปลาหมอคางสีดำ ซึ่งถูกขนานนามว่า “เอเลี่ยนสปีชีส์” หรือสิ่งมีชีวิตอันตรายในแหล่งน้ำทุกประเภททั้งน้ำจืดและน้ำกร่อย โดยขณะนี้พบการแพร่ระบาดอย่างหนักในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเป็นการร่วมกันตัดวงจรชีวิตและกำจัดปลาหมอสีคางดำในแหล่งน้ำ ทางนายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้จับมือร่วมกับพันธมิตร เตรียมจัดกิจกรรม “ลงแขกลงคลอง ครั้งที่ 1” ในวันอังคารที่  9 กรกฎาคม 2567 เวลา 10.00 น. ณ คลองท่าแร้ง (บริเวณวัดยกกระบัตร) ตำบลยกกระบัตร อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อร่วมกันกำจัดปลาหมอสีคางดำออกจากแหล่งน้ำธรรมชาติในจังหวัดสมุทรสาคร อีกทั้งยังเพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้กับประชาชนในพื้นที่ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในจังหวัดสมุทรสาคร 

ขณะที่นายกมล ไกรวัตนุสสรณ์ ประธานชมรมเรืออวนลาก จังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า สถานการณ์ปลาหมอสีคางดำระบาดขณะนี้ ถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติหนัก หากไม่รีบกำจัดหรือทำให้ปริมาณลดลงนั้น จะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศอย่างแน่นอน โดยเฉพาะพวกกุ้ง หอย ปู ปลา ที่อยู่ในแหล่งน้ำธรรมชาติและบริเวณปากแม่น้ำ ที่จะต้องถูกกินไปจนหมด อีกทั้งปลาประเภทนี้เป็นปลาที่ทนต่อสภาพน้ำทุกประเภท และยังมีการแพร่พันธุ์ได้เร็ว ดังนั้นการเร่งกำจัดพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ให้ได้มากที่สุด จะช่วยลดการเกิดใหม่ของลูกปลาได้ ทำให้การแพร่ระบาดลดน้อยลง

ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาทางรัฐบาลได้สนับสนุนงบประมาณมาอุดหนุนช่วยซื้อปลาหมอสีคางดำ 500,000 กิโลกรัม (กก.) ตอนนี้ยังคงเหลือเงินที่รับซื้อได้อีกราวๆ 30,000 กิโลกรัม โดยสนับสนุนให้แพปลา 3 แห่งในอำเภอเมืองสมุทรสาคร และอีก 2 แห่งในอำเภอบ้านแพ้ว เป็นผู้รับซื้อปลาหมอสีคางดำส่งให้กับโรงงานปลาป่น ซึ่งแพปลาจะรับซื้อไว้ในราคากิโลกรัมละ 5 บาท และทางแพจะได้รับค่าดำเนินการเพิ่มอีก 2 บาท

นอกจากนี้ทางประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้เร่งทำเรื่องถึงอธิบดีกรมประมงเพื่อของบประมาณนำมาซื้อปลาหมอสีคางดำเพิ่มอีก เพื่อให้การกำจัดโดยวิธีการจับมาขายให้กับแพปลาส่งต่อโรงงานปลาป่นนั้น ยังคงเดินหน้าต่อไปได้อีก เพราะจังหวัดสมุทรสาครนับเป็นจังหวัดผู้นำในเรื่องกำจัดปลาหมอสีคางดำที่มากที่สุดในประเทศไทย ดังนั้นหากทุกฝ่ายร่วมมือกันอย่างจริงจัง เชื่อจะสามารถกำจัดปลาหมอสีคางดำได้อย่างแน่นอน

ตรวจพบ DNA ‘ปลาหมอสีคางดำ’ เอี่ยวเอกชนรายใหญ่นำเข้าเมื่อปี 2553 โป๊ะ!! มีการขออนุญาตนำเข้า แต่หลุดระเบียบความปลอดภัยทางชีวภาพ

(10 ก.ค.67) จากเพจ 'BIOTHAI' ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กกรณีปลาหมอสีคางดำที่กำลังระบาดในไทย ระบุว่า...

มีความพยายามจากบุคคลบางกลุ่ม เพื่อบิดเบือน เบี่ยงเบน ปัดความรับผิดชอบ โดยปล่อยเอกสารผ่านสื่อ อ้างว่าปลาหมอสีคางดำ (Sarotherodon melanotheron) ที่ระบาดเพราะมีการนำเข้าจากกลุ่มเพาะเลี้ยงปลาหมอสีสวยงาม (โดยอ้างสถิติการส่งออกปลาหมอสี ซึ่งเป็นคนละสปีชีส์ และไม่ใช่เอเลี่ยนสปีชีส์เดียวกับที่บริษัทเอกชนรายใหญ่นำเข้าในปี 2553 แถมดันเอาสถิติการส่งออกปี 2556-2559 มาโชว์) 

แต่ผลการวิเคราะห์ DNA จากงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์กรมประมง ทำให้บริษัทเอกชนที่ละเมิดระเบียบความปลอดภัยทางชีวภาพ ไม่อาจหลบเลี่ยงความรับผิดชอบจากปัญหาที่เกิดขึ้นได้อีกต่อไป 

การศึกษาเรื่อง 'การวิเคราะห์เส้นทางการแพร่ระบาดของปลาหมอสีคางดำในเขตพื้นที่ชายฝั่งของไทยจากโครงสร้างพันธุกรรมของประชากร' โดย อภิรดี และคณะ (2565) กลุ่มวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพสัตว์น้ำจืด กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด พบว่าประชากรปลาหมอสีคางดำที่แพร่ระบาดในประเทศไทยมีแหล่งที่มาร่วมกัน และความแตกต่างระหว่างกลุ่ม haplotype อยู่ในระดับการเปลี่ยนแปลงเพียง 1-2 ลำดับเบสเท่านั้น ซึ่งสามารถอธิบายความแตกต่างทางพันธุกรรมของประชากรแต่ละจังหวัดไว้ว่า น่าจะเกิดจากกลไกของจีเนติกดริฟท์ หรือความคลาดเคลื่อนจากการสุ่มตัวอย่าง ซึ่งเกิดจากปลาที่นำไปปล่อย มากกว่าเกิดจากการนำเข้าหลายครั้ง (multiple introduction)

ดังนั้น "การศึกษาครั้งนี้ช่วยยืนยันที่มาของการแพร่ระบาด โดยข้อมูลระยะห่างทางพันธุศาสตร์ และการจัดลำดับความสัมพันธ์เชิงวิวัฒนาการ ชี้ให้เห็นว่าประชากรปลาหมอสีคางดำที่แพร่ระบาดในประเทศไทยมีแหล่งที่มาร่วมกัน"

หมายเหตุ : ขอบคุณทีมนักวิจัย กลุ่มวิจัยความหลากหลายทางชีวภาพสัตว์น้ำจืด กองวิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืด ของกรมประมงมาก ๆ ครับ อย่าลืมสรุปและส่งรายงานวิจัยนี้ให้ท่านอธิบดีอ่านโดยด่วนด้วยครับ


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top