Wednesday, 15 May 2024
บัตรทอง

'สปสช.' เพิ่มสิทธิประโยชน์อีก 6 รายการ ค้นหายีนมะเร็งเต้านม - แจกยา PEP ต้าน HIV

14 ธ.ค. 64 - ที่ประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ครั้งที่ 13/2564 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค. 64 ซึ่งมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบสิทธิประโยชน์ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) จำนวน 6 รายการ ซึ่ง 5 รายการจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 65 โดยใช้งบเหลือจ่ายปี 2564 ที่ไม่มีภาระผูกพัน จำนวน 238.59 ล้านบาท ในการจ่ายชดเชยบริการ ขณะที่อีก 1 รายการจะใช้งบจาก พ.ร.ก.กู้เงินฯ ที่ได้รับปีงบประมาณ 2565 ซึ่งได้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64

รศ.พญ. ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สำหรับรายการสิทธิประโยชน์ทั้ง 6 รายการ เป็นการดำเนินการเพื่อดูแลประชาชนให้สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขและการรักษาที่จำเป็นเพิ่มขึ้น ประกอบด้วย

1.) การตรวจยีน BRCA1 BRCA2 ในผู้ป่วยมะเร็งเต้านม มีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจคัดกรองและค้นหาการกลายพันธุ์ของยีนโรคมะเร็งเต้านม ให้พบในระยะเริ่มต้นและได้รับการรักษาเร็ว ซึ่งจะมีความคุ้มค่ากับกลุ่มผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงสูง และประหยัดต้นทุนค่ารักษาในกลุ่มที่มีประวัติครอบครัวตรวจพบยีนกลายพันธุ์

2.) การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี หลังการสัมผัสเชื้อ (HIV PEP) โดยให้ประชาชนทุกคนได้รับยาต้านไวรัสเอชไอวีหลังสัมผัสเชื้อ (PEP) เพื่อป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ซึ่งมีผลการศึกษาของต่างประเทศที่พบว่ามีความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ มีความคุ้มทุน โดยจะให้บริการครอบคลุมประชาชนไทยทุกคน ไม่จำกัดจำนวนครั้งการให้บริการ ซึ่งคิดเป็นภาระงบประมาณจากค่ายาสูตรแนะนำ TDF/3TC/DTG และค่าตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดยเฉลี่ย 1,594 บาทต่อราย

3.) การตรวจคัดกรองผู้ป่วยโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกด้วยเครื่อง Tandem mass spectrometry ซึ่งจะเป็นการขยายการตรวจคัดกรองทารกแรกเกิดโรคทางพันธุกรรมเมตาบอลิก เพื่อเข้าสู่การรักษาโรคหายากได้อย่างรวดเร็วและช่วยชีวิตเด็กได้ ซึ่งการรักษาโรคพันธุกรรมเมตาบอลิกก่อนมีอาการแสดง จะช่วยประหยัดต้นทุนค่ารักษา (cost-saving) และในปัจจุบันการคัดกรองเป็นวิธีการเดียวที่มีความแม่นยำในการระบุตัวผู้ป่วยเพื่อให้การรักษาก่อนมีอาการ โดยคิดเป็นภาระงบประมาณจากค่าตรวจคัดกรอง 500 บาทต่อราย

‘สปสช.’ ปลดล็อคบัตรทอง ‘ผู้ป่วยไตวาย’ เลือกรักษาแบบฟอกเลือด ไม่ต้องจ่ายเงิน

นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช. ได้ออกประกาศ เรื่อง ‘การจ่ายค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขกรณีบริการผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรัง พ.ศ. 2565’ ซึ่งมีสาระสำคัญ คือ เพิ่มทางเลือกการบำบัดทดแทนไตแก่ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังสิทธิบัตรทอง จากเดิมที่กำหนดให้วิธีการล้างไตทางช่องท้องเป็นทางเลือกแรก แต่หากผู้ป่วยปฏิเสธการล้างไตทางช่องท้อง ต้องการใช้วิธีฟอกเลือดจะต้องจ่ายเงินค่าฟอกเลือดเองนั้น

ทหารผ่านศึกฝ่าฝนบุกสภาฯ ขอเงินผดุงเกียรติ น้อยใจ!! รักษาพยาบาลต่ำกว่าบัตรทอง

รบเพื่อชาติ ชีวิตอนาถา! ทหารผ่านศึกนับร้อย ฝ่าฝนบุก สภาฯ ขอเงินผดุงเกียรติ น้อยใจ รักษาพยาบาลต่ำกว่าบัตรทอง ด้าน ‘เต้’ รับลูกนำเข้า กมธ.ทหารทันที

(27 ก.ค. 65) ที่รัฐสภา กลุ่มทหารผ่านศึกนับ 100 คนเดินทางมาที่อาคารรัฐสภา นำโดยนายอิศรพงค์ ณ เชียงใหม่ ประธานกลุ่มพี่น้อง เพื่อน ทหารผ่านศึกทุกหมู่เหล่า เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอความอนุเคราะห์เงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึก โดยมีนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนนท์ ส.ส. บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ในฐานะโฆษก กมธ.ฯ รับเรื่อง ซึ่งตัวแทนกลุ่มฯ เดินเรียงแถวเข้ามายังศาลาแก้ว บริเวณรับหนังสือ กันอย่างพร้อมเพียง ท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ จนร่างกายเปียกชุ่ม แต่สามารถเข้ามายื่นหนังสือได้เพียง 25 คน 

โดยนายอิศรพงค์ กล่าวว่า “บุคคลเหล่านี้ปัจจุบันกลายเป็นคนยากไร้และอนาถา เราไม่อยากเห็นทหารผ่านศึกนอนข้างถนน คุ้ยขยะ หรือป่วยไร้คนเหลียวแล สังคมปัจจุบันคนที่มีเกียรติ คือ คนที่มีกิน แต่ในการมีกินของเราไม่จำเป็นต้องรวยก็ได้ ขอแค่มีเงินใช้จ่ายในแต่ละเดือน เรามาวันนี้เพื่อ ขอความอนุเคราะห์ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ให้ช่วยเหลือทหารผ่านศึก เพราะทุกวันนี้ ทหารผ่านศึกได้รับค่ารักษาพยาบาล 3,500 บาทต่อปี ต่อคนต่อครอบครัว หากคนในครอบครัวหนึ่งคนเจ็บป่วยคนอื่นก็ไม่มีเงินรักษาแล้ว และมีเงินช่วยฉุกเฉินเพียง 1,000 บาท ซึ่งสวัสดิการเหล่านี้บัตรทอง ยังดีเสียกว่า

สถิติ ชี้!! ผู้ป่วยมะเร็งเข้าถึงการรักษาได้มากขึ้น-เร็วขึ้น ตอกย้ำ!! นโยบายรัฐบาล 'ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง'

รัฐบาล โชว์ผลงาน นโยบาย 'ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง' ดูแลประชาชน บัตรทองรักษามะเร็งทุกที่ ครึ่งปีงบประมาณ 2565 มีผู้ป่วยโรคมะเร็งเข้ารับบริการแล้ว 603,060 ครั้ง ทำให้ประชาชนเข้าถึงและได้รับการรักษาโดยเร็วและสะดวกขึ้น 

วันที่ (31 ส.ค. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ด้วยนโยบาย 'ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง' ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เน้นดูแลให้ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงสิทธิและสวัสดิการอย่างเท่าเทียมและมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพที่ได้กำชับให้ทุกภาคส่วนจัดระบบการดูแลอย่างครอบคลุม จึงเห็นได้ปัจจุบัน 'สิทธิบัตรทอง' ได้ยกระดับการให้บริการ ทั้งการขยายการรักษาจำนวนโรค สิทธิประโยชน์ อาทิ ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยาคุมกำเนิด และที่สำคัญคือ การให้ผู้ป่วยเข้าถึงแพทย์ได้อย่างสะดวก หากเจ็บป่วยสามารถเข้ารับบริการเป็นผู้ป่วยนอกได้ที่หน่วยบริการปฐมภูมิในสถานพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยไม่ถูกปฏิเสธ และไม่ถูกเรียกเก็บเงิน

'อนุทิน' สั่งดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองใน 9 รพ.เอกชน ยัน!! ต้องได้รับการรักษาต่อเนื่อง ตั้งแต่ 10 ต.ค.นี้

(9 ต.ค. 65) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้มีการยกเลิกสัญญาการให้บริการปฐมภูมิ ประจำ และรับส่งต่อทั่วไปกับ โรงพยาบาลเอกชน 9 แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพฯ ประกอบด้วย ได้แก่ รพ.มเหสักข์, รพ.บางนา1, รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท เนื่องจากตรวจสอบพบว่ามีการเรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพื่อบริการสาธารณสุขไม่ถูกต้อง โดยมีผลตั้งแต่วันที่ (1 ต.ค. 65) เป็นต้นมา

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ติดตามการดูแลผู้ใช้สิทธิบัตรทองในโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง อย่างใกล้ชิด พร้อมย้ำว่า สปสช. ได้หารือกับโรงพยาบาลทั้ง 9 แห่ง และกรุงเทพมหานคร และมีมาตรการรองรับเพื่อให้ประชาชนยังได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่ระหว่างการรักษา รวมถึงมีช่องทางเลือกหน่วยบริการใหม่โดยสะดวก

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ (10 ต.ค. 65) เป็นต้นไป สปสช. จะเปิดให้ประชาชนที่หน่วยบริการปฐมภูมิและประจำถูกยกเลิกซึ่งมีอยู่ประมาณ 2.3 แสนคน จากโรงพยาบาล 7 แห่ง ประกอบด้วย รพ.ประชาพัฒน์, รพ.นวมินทร์, รพ.เพชรเวช, รพ.ผู้สูงอายุกล้วยน้ำไท2, รพ.แพทย์ปัญญา, รพ.บางมด และ รพ.กล้วยน้ำไท สามารถเลือกหน่วยบริการใหม่ได้ผ่าน 4 ช่องทาง ประกอบด้วย 1. แอปพลิเคชัน สปสช. เลือกเมนูลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการ 2. ไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso เลือกเมนู เปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเอง 3. สายด่วน สปสช. โทร.1330 และ4. ลงทะเบียนเปลี่ยนหน่วยบริการด้วยตนเองได้ที่ที่ทำการของ สปสช. ชั้น 2 อาคารบี ศูนย์ราชการฯ ถ.แจ้งวัฒนะ ตั้งแต่เวลา 08.00-16.00 น.

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สปสช. ได้แจ้งว่าประชาชนที่ต้องเลือกหน่วยบริการปฐมภูมิและประจำใหม่ครั้งนี้ ไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ ให้พิจารณาหน่วยบริการที่ใกล้บ้านหรือสะดวกก่อนตัดสินใจเลือก สามารถตรวจสอบรายชื่อหน่วยบริการใกล้บ้านได้ที่เว็บไซต์ สปสช. http://mscup.nhso.go.th/mastercup/ หรือสอบถามสายด่วน สปสช. 1330 ซึ่งระหว่างที่ยังไม่ได้เลือกหน่วยบริการใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้มีสถานะ 'สิทธิว่าง' นี้ สปสช. ได้หารือกับหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดเตรียมหน่วยบริการไว้รองรับแล้ว

ป่วยที่ไหนไปนั่น!! 'นายกฯ' ช่วยไว!! ให้สิทธิผู้ป่วยบัตรทองในพื้นที่น้ำท่วม 'รักษาฟรี - ที่ไหนก็ได้' แม้ไม่ใช่หน่วยบริการตามสิทธิ

(15 ต.ค. 65) นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กำชับส่วนราชการเร่งช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย และให้ดูแลอย่างใกล้ชิดเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น สำหรับการดูแลสุขภาพประชาชน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมดูแลผู้ป่วยสิทธิบัตรทองในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม มีการจัดระบบให้สามารถรับการรักษาต่อเนื่อง โดยผู้ป่วยสามารถใช้บริการที่หน่วยบริการ หรือ สถานพยาบาลที่ไม่ใช่หน่วยบริการตามสิทธิได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ซึ่งทางหน่วยบริการจะเบิกค่าใช้จ่ายจากสปสช. ตามขั้นตอนต่อไป

บัตรทองเพิ่มสิทธิรักษา 'เจ็บป่วยเล็กน้อย' 16 กลุ่มอาการ ฟรีที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ

บัตรทองเพิ่มบริการ 'เภสัชกรรมปฐมภูมิ' ที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นกว่า 500 แห่งทั่วประเทศ ดูแลอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ครอบคลุม 16 กลุ่มอาการ ให้คำปรึกษาและรับยาไม่เสียค่าใช้จ่าย เตรียมเริ่มให้บริการเร็ว ๆ นี้  

เมื่อวันที่ (30 ต.ค. 65) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า เภสัชกรเป็นหนึ่งในผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ ที่ร่วมดูแลประชาชนเข้าถึงบริการสุขภาพ ส่วนหนึ่งประจำอยู่ในร้านยา ทั้งนี้ ร้านยาชุมชนอบอุ่น เป็นร้านขายยาแผนปัจจุบัน (ขย.1) ที่ร่วมเป็นหน่วยบริการที่รับส่งต่อเฉพาะด้านเวชกรรมในระบบบัตรทอง 

โดยปีงบประมาณ 2566 สปสช.ร่วมกับสภาเภสัชกรรมขยายการให้บริการบัตรทองที่ร้านยาชุมชนอบอุ่นเพิ่มเติม โดยเพิ่มบริการเภสัชกรรมปฐมภูมิ เพื่อดูแลประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองกรณีมีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย (Common Illness) 16 กลุ่มอาการตามแนวทางและมาตรฐานการให้บริการเภสัชกรรมปฐมภูมิโดยสภาเภสัชกรรม ได้แก่...

1. อาการปวดหัว เวียนหัว
2. ปวดข้อ
3. เจ็บกล้ามเนื้อ
4. ไข้
5. ไอ
6. เจ็บคอ
7. ปวดท้อง ท้องเสีย ท้องผูก
8. ถ่ายปัสสาวะขัด
9. ปัสสาวะลำบาก
10. ปัสสาวะเจ็บ
11. ตกขาวผิดปกติ
12. อาการทางผิวหนัง
13. ผื่น คัน
14. บาดแผล
15. ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตา
และ 16. ความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับหู


ที่มา: https://mgronline.com/qol/detail/9650000103674

รัฐบาล ยกระดับบริการ ‘บัตรทอง’ เจ็บป่วยเล็กน้อย รับยาที่ ‘ร้านยาชุมชนอบอุ่น’ ทันที

‘ทิพานัน’ โชว์รัฐบาล ‘พล.อ.ประยุทธ์’ ยกระดับบริการบัตรทอง 'รับยาใกล้บ้าน' เจ็บป่วยเล็กน้อย 16 อาการดูแลทันที ชี้กว่า 2.2 หมื่นราย เข้าถึงการรักษาที่รวดเร็ว ชี้รัฐบาลมุ่งสร้างโอกาสความเท่าเทียม ลดเหลื่อมล้ำทุกมิติ

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งสร้างโอกาสความเท่าเทียม ลดเหลื่อมล้ำในทุกมิติให้กับประชาชน โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ ได้มีการยกระดับและปรับปรุงสิทธิประโยชน์และการรักษาพยาบาลในเชิงรุก เพื่อดูแลให้เข้าถึงประชาชนมากที่สุด ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ รับทราบและพอใจผลการดำเนินการดูแลผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ให้เข้าถึงบริการปฐมภูมิดูแลโรคทั่วไปหรือการเจ็บป่วยเล็กน้อย (common illnesses) 16 อาการ ในร้านยาที่เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการกับ สปสช. โดยไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถรับยาได้ทันที ตามที่สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ร่วมกับสภาเภสัชกรรม โดยมีร้านยาจำนวนกว่า 650 แห่ง กระจายอยู่ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ 'ร้านยารูปแบบใหม่' ซึ่งเริ่มให้บริการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับที่ดีจากพี่น้องประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทอง เข้ารับบริการเป็นจำนวนมาก โดยข้อมูลล่าสุด (เดือนธันวาคม) ผ่านข้อมูลสรุประบบแดชบอร์ด (Dashboard) พบว่ามีผู้ป่วยเข้ารับบริการ common illnesses ที่ร้านยาแล้วจำนวน 22,842 ราย สะท้อนความเชื่อมั่นโครงการและการจัดระบบดูแลสุขภาพของรัฐบาล

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนอาการเจ็บป่วยที่ประชาชนผู้มีสิทธิบัตรทองเข้ารับบริการมากที่สุด  5 อันดับแรก ได้แก่ อาการไข้ ไอ และเจ็บคอ จำนวน 12,177 ราย หรือคิดเป็นร้อยละ 46 ของผู้มารับบริการทั้งหมด รองลงมาคืออาการปวดข้อและเจ็บกล้ามเนื้อ จำนวน 6,557 ราย อาการผื่นผิวหนัง ผื่น คัน จำนวน 3,513 ราย อาการปวดท้อง จำนวน 2,515 ราย และความผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตาม จำนวน 1,515 ราย

'บิ๊กตู่' โชว์ผลงาน 'บัตรทองพรีเมียม' เพิ่มสิทธิประโยชน์ ช่วยประชาชนเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม-ทั่วถึง

(20 ก.พ. 66) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เร่งขับเคลื่อนให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐฯ อย่างมีประสิทธิภาพ เท่าเทียมและทั่วถึง หลักประกันสขุภาพไทยได้เปลี่ยนผ่าน 'บัตรทอง' หรือ 'บัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้า' ให้กลายเป็น 'บัตรทองพรีเมี่ยม' ยกระดับการบริการ เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมและทลายข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการรักษาพยาบาลอย่างแท้จริง

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สำหรับบัตรทองพรีเมียมในยุคของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้สิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์มากมาย เช่น เจ็บป่วยฉุกเฉินวิกฤติ มีสิทธิ์เข้ารับการรักษาพยาบาลได้ในหน่วยบริการสาธารณสุขทุกที่ โดยไม่เก็บค่ารักษาพยาบาลภายใน 72 ชั่วโมงหรือพ้นภาวะวิกฤต รักษาโรคติดเชื้อไวรัส-19 โควิดฟรี โดยสามารถเข้ารักษาในหน่วยบริการปฐมภูมิที่ไหนก็ได้ทั่วประเทศ ผู้ป่วยโรคมะเร็งรับบริการที่ไหนก็ได้ ย้ายหน่วยบริการได้ทันที ไม่ต้องรอ 15 วัน

รวมถึงให้สิทธิฟอกไตฟรี เพิ่มบริการสำหรับแม่และเด็ก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก การเพิ่มวัคซีน HPV ป้องกันมะเร็งปากมดลูก รักษาโรคมะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต่อมน้ำเหลือง โรคติดเชื้อไวรัสตับอักเสบซียาต้านไวรัส HIV เพิ่มสิทธิ์ด้านวัคซีน 5 ชนิด ได้แก่ คอตีบ, บาดทะยัก, ไอกรน, ไวรัสตับอักเสบบี และเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

รวมทั้ง การใช้กัญชาทางการแพทย์ ในผู้ป่วยโรคมะเร็งพาร์กินสัน ไมเกรน ผ่าตัดฝังประสาทหูเทียมสำหรับเด็กหูหนวก การให้บริการแว่นตาเด็ก แจกผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับการขับถ่ายสำหรับผู้สูงอายุ ผู้พิการและผู้มีปัญหากลั้นขับถ่าย การรักษาผู้ป่วยติดบ้านหรือผู้ป่วยติดเตียงในชุมชนทุกสิทธิ์และทุกกลุ่มอายุ และยังลดภาระการเดินทางไปสถานพยาบาลของประชาชน ลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่ สามารถรับยาที่ร้านขายยาแผนปัจจุบันใกล้ เป็นต้น

รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนสมัครรับสิทธิบัตรทองพรีเมียม และสมัครให้บุตรหลาน เพื่อเลือกหน่วยบริการ ซึ่งสามารถสมัครได้ตั้งแต่วัยแรกเกิด ซึ่งในปี 2566 ได้มีการเพิ่มสิทธิ์ใหม่ที่ได้มากกว่าเดิม ได้แก่

1.) การดูแลภาวะความดันเลือดในปอดสูงในทารกแรกเกิด (Persistent Pulmonary Hypertension of the Newborn)
2.) บริการทันตกรรม Vital Pulp Therapy หรือการรักษาเนื้อเยื่อในฟันกรามแท้
3.) บริการรากฟันเทียม
4.) บริการห้องฉุกเฉิน คุณภาพภาครัฐฯ
5.) ผ้าอ้อมผู้ใหญ่และแผ่นรองซับ
6.) บริการยาป้องกัน การติดเชื้อเอชไอวี
7.) เพิ่มยาจำเป็นแต่มีราคาแพง ในกลุ่มบัญชียา จ (2) จำนวน 14 รายการ
8.) บริการดูแลผู้ป่วยกึ่งเฉียบพลัน
9.) บริการดูแลผู้ป่วยที่ได้รับพิษ
10.) เพิ่มเติมบริการที่คลินิกการพยาบาลฯ กายภาพบำบัด คลินิกชุมชนอบอุ่น คลินิกเวชกรรมและคลินิกทันตกรรม

ดองนานจนลืม!! ‘แพทย์ชนบท’ ทวง ‘เสี่ยหนู’ ปมโรคนอกสิทธิ์บัตรทอง ชี้ 4 เดือน ไร้ความคืบหน้า วอน รีบแก้ปัญหาก่อนยุบสภาฯ

(6 มี.ค. 66) เพจเฟซบุ๊ก ‘ชมรมแพทย์ชนบท’ โพสต์ข้อความระบุว่า…

นานแล้วนะ ที่ปัญหาถูกดองไม่ถูกแก้

งบส่งเสริมป้องกันของกลุ่มประชากรที่ไม่ได้ใช้บัตรทอง เช่น กลุ่มสวัสดิการข้าราชการและครอบครัว กลุ่มประกันสังคม กลุ่มครูเอกชน กลุ่มรัฐวิสาหกิจ รวมแล้ว 20 ล้านคน ยังไม่ได้งบลงสู่พื้นที่ สธ. บอกให้โรงพยาบาลให้บริการไปก่อน แต่จริง ๆ ยังมีโรงพยาบาลนอก สธ.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ สธ. สั่งไม่ได้อีกด้วย

นี่ผ่านมากว่า 4 เดือน ไร้ความคืบหน้า ใกล้ยุบสภาฯ เป็นรัฐบาลรักษาการ จะส่งเรื่องให้ ครม.อนุมัติเห็นชอบทันไหม สงสัยจะไม่ทัน เพราะดองลืม ไม่ใส่ใจแก้ปัญหา สนใจแต่เดินสายหาคะแนนเสียง

ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ ยาต้านไวรัส วัคซีนพื้นฐาน ฝากท้อง แว่นสายตาผู้สูงอายุ งบกองทุนสุขภาพตำบล มากมายหลายรายการที่หน่วยบริการปวดหัวมาก เดิมให้ทุกคนทุกสิทธิ ตอนนี้ต้องมาอธิบายชาวบ้าน บ่อยครั้งชาวบ้านไม่เข้าใจ ไม่พอใจ เลยต้องบอกชาวบ้านว่า ให้ไปต่อว่าคนคนนั้นที่ดองงบแทน อย่ามาว่าพยาบาล
 


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top