Sunday, 19 May 2024
นฤมลภิญโญสินวัฒน์

‘พปชร.’ เตรียมลุยปราศรัยเมืองกรุงฯ 18 มี.ค. นี้ ชู ‘แก้ ศก.-ปากท้อง’ ตั้งเป้ากวาด ส.ส. 12 คนขึ้นไป

(9 มี.ค. 66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และกรรมการสรรหาผู้สมัคร ส.ส. ให้สัมภาษณ์ถึงการเปิดปราศรัยใหญ่ในกทม. ของพรรค พปชร.ในวันที่ 18 มี.ค.นี้ เวลา 17.00 น. ที่ลานคนเมืองกทม. ว่า ในวันดังกล่าวนอกจากจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.ทั้ง 33 เขต พรรคจะนำเสนอนโยบายสำหรับคนกทม. ที่เน้นเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง โดยจะมีทีมเศรษฐกิจของพรรค นำโดย นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีแนะนำนโยบาย และนอกจากเวทีใหญ่ในกทม.ในวันดังกล่าวแล้ว พรรคจะจัดเวทีย่อยในกทม. ทั้งในกทม.ฝั่งตะวันตกและฝั่งตะวันออก เพื่อที่จะนำเสนอนโยบายของพื้นที่ในเขตนั้นๆ สำหรับความคืบหน้าการวางตัวผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคนั้นขณะนี้ได้ตัวครบเกือบหมดแล้ว มีเพียงบางพื้นที่ที่ทาง กกต.แบ่งเขตใหม่ คือลด 4 จังหวัด และเพิ่ม 4 จังหวัด รวมถึงในกทม.

พปชร. ยัน เปิดตัว ส.ส.ครบ 400 เขต 30 มี.ค.นี้ ชี้!! ‘บิ๊กป้อม’ ยังฟิต!! สุขภาพสมบูรณ์เต็มร้อย

‘ศ.ดร.นฤมล’ นำทัพว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เปิดศูนย์ประสานงาน เขตบางซื่อ ดุสิต หวังเป็นศูนย์กลางเชื่อมโยง ปชช.ยัน ‘พล.อ.ประวิตร’ สุขภาพสมบูรณ์เต็มร้อย เผย 30 มี.ค.นี้ เตรียมเปิดตัว ส.ส.ครบ 400 เขต

(20 มี.ค.66) ที่ศูนย์ประสานงานพรรคประชารัฐ เขตบางซื่อ ดุสิต นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะผู้ดูแลกำกับการเลือกตั้งพื้นที่ กทม.พรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ อำนรรฆสรเดช ว่าที่ผู้สมัศรสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. เขตบางซื่อ - ดุสิต และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม.อีกหลายเขต อาทิ เขต 2 สาทร ราชเทวี ปทุมวัน นายพณิชย์ วิทยาภัทร์, เขต 5 ห้วยขวาง วังทองหลาง นายกานต์ กิตติอำพน, เขต 15 คันนายาว บึงกุ่ม น.ส.ณิรินทร์ เงินยวง, เขต 31 ทวีวัฒนา ตลิ่งชัน น.ต.นิธิ บุญยรัตกลิน, เขต 32 บางกอกน้อย-บางกอกใหญ่-ภาษีเจริญ-ตลิ่งชัน-ธนบุรี, น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์

ศ.ดร.นฤมลฯ กล่าวว่า วันนี้เรามาพร้อมกับว่าที่ผู้สมัคร กทม.หลายท่าน เพื่อมาร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคพรรคประชารัฐ เขตบางซื่อ ดุสิต รวมถึงตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 บริเวณถนนวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ และจัดตั้ง War room ตรวจสอบสถานการณ์คุณภาพอากาศ โดยใช้ดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) เป็นตัวชี้วัดบริเวณพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลตรวจสอบค่าฝุ่น PM 2.5 ผ่านเว็บไซต์ www.air4thai.pad.go.th ของกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง กรมควบคุมมลพิษ เพื่อดูปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในเรื่องของปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ซึ่งประชาชนในหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นระยะยาว

"พรรคพลังประชารัฐไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้บรรจุยุทธวิธีแก้ไขปัญหานี้ในนโยบายของพรรคแล้ว โดยเราพร้อมทำทันที เพื่อนำอากาศบริสุทธิ์กลับคืนมาให้กับประชาชน ในส่วนศูนย์ประสานงานแห่งนี้เราต้องการให้เป็นที่พึ่งของประชาชน และประชาชนสามารถมีส่วนร่วมกับเรา ซึ่งจะทำให้เราสามารถรับรู้ปัญหาต่างๆนาๆของประชาชนได้เช่นปัญหาปากท้อง ปัญหาสังคมสิ่งแวดล้อม สิ่งเหล่านี้จะนำไปแก้ไขให้เร่งด่วนและทันต่อเหตุการณ์"

ด้าน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่าโชคดีที่สภาอากาศที่เขตบางซื่ออยู่ในเกณฑ์ที่ดี โดยค่าฝุ่นพิษ PM 2.5 เท่าที่วัดในตอนนี้ไม่เกินมาตรฐาน แต่ในอีกหลายเขตก็ยังเป็นปัญหาด้านสุขภาพต่อเด็กและผู้สูงอายุ ทั้งนี้ ตนมองว่า ถ้าในพื้นที่ กทม.การเพิ่มต้นไม้เพื่อสร้างอากาศที่ดี และเป็นเครื่องกรองอีกชั้นหนึ่ง และอาจจะต้องพิจารณาไปยังปักกิ่งโมเดล ที่มีการติดเครื่องฟอกอากาศยักษ์ในพื้นที่ เพราะกรุงปักกิ่งเผชิญกับปัญหาหมอกควันอย่างรุนแรง ประชาชนได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง กรุงปักกิ่งจึงได้ตั้งเครื่องฟอกอากาศขนาดยักษ์ภายในพื้นที่ เพื่อขจัดมลพิษทางอากาศ เนื่องด้วยตนเป็นนักสิ่งแวดล้อม จึงต้องการให้ศูนย์ประสานงานแห่งนี้ทำหน้าที่เฝ้าระวังปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ด้วย เพราะปัจจุบันถือว่าเป็นปัญหาอย่างหนัก

‘นฤมล’ สละปาร์ตี้ลิสต์ เปิดทางคนรุ่นใหม่ทำงาน ยัน!! ไม่กลับคำ แม้ผู้ใหญ่พิจารณาลำดับใหม่

เมื่อเวลา 09.50 น. (24 มี.ค.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ แถลงข่าวทิศทางการทำงานการเมืองกับพรรค พปชร.ว่า พรรค พปชร.มีบุคลากรคุณภาพจำนวนมาก ทั้งผู้ที่ร่วมก่อตั้งพรรคมาตั้งแต่ปี 2561 ผู้ที่เข้ามาร่วมพัฒนาพรรคระหว่างทาง และผู้ที่เพิ่งเข้ามาร่วมงานกับพรรค ทุกคนต่างมีความสามารถที่หลากหลายอันเป็นประโยชน์ต่อพรรค และต่างมีความตั้งใจที่จะทำสิ่งที่ดีให้กับพี่น้องประชาชน

นางนฤมล กล่าวว่า สำหรับตนเองมีความตั้งใจมาทำงานการเมือง เพราะปรารถนาที่จะตอบแทนพระคุณแผ่นดินไทย โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่เสียภาษีส่งให้ตนได้เรียนต่อต่างประเทศ ทำให้เด็กยากจนคนหนึ่งที่ต้นทุนชีวิตต่ำมาก ได้มีโอกาสที่ดีในชีวิตมากมาย ตนได้รับโอกาสจากพรรคให้ได้เข้ามาทำงานการเมือง จึงตัดสินใจลาออกจากราชการ ด้วยความหวังและความตั้งใจที่จะนำความรู้และประสบการณ์ที่มีมาทำประโยชน์ตอบแทนผู้มีพระคุณ ซึ่งคือพี่น้องประชาชน

"การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 แหม่มได้รับโอกาสจากผู้บริหารพรรคให้ได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 5 เป็นผู้หญิงคนเดียวใน 10 ลำดับแรก โดยที่ไม่ได้ร้องขอจากท่านใดเลย แต่เป็นความเมตตาล้วนๆ ของผู้บริหารพรรค ณ ขณะนั้น ที่เห็นเราทุ่มเททำงานให้พรรคตั้งแต่ยังตั้งไข่เมื่อมกราคม 2561 ทั้งที่แหม่มเป็นหน้าใหม่ทางการเมือง ไม่ใช่เด็กบ้านใหญ่ ไม่เคยลงสมัครรับเลือกตั้งมาก่อน ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ แหม่มจึงอยากเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทางการเมืองได้เข้ามาอยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ บ้าง หากเราที่เคยได้รับโอกาสมาแล้ว ไม่เสียสละ คนใหม่ๆ ก็จะแทบไม่มีโอกาสที่จะได้ขึ้นมา จึงได้แสดงความจำนงต่อคณะกรรมการสรรหาและผู้บริหารพรรคว่าขอสละสิทธิที่จะได้รับการเสนอชื่อในบัญชี ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ ดังนั้นวันนี้ ทางพรรคจึงจะมีการพิจารณาบัญชีรายชื่อกันใหม่อีกครั้ง"

นางนฤมล กล่าวว่า เคยพูดเสมอว่าถึงเวลา พปชร.ต้องผลัดใบ ให้พลังใหม่ได้เข้ามาทำงาน ครั้งนี้อาจจะได้ผลัดหนึ่งใบ ได้เห็นพลังใหม่หนึ่งใบผลิดอกออกผล ครั้งหน้าก็อาจจะได้ผลัดเพิ่มอีกหลายใบ ต้นไม้ใหญ่ต้นนี้จึงจะเติบโตอย่างเข้มแข็งและสวยงาม และสำหรับตน การทำงานทางการเมืองไม่ได้มีเพียงการทำงานในสถานะ ส.ส.เพียงเท่านั้น ยังมีงานอีกมากมายหลายรูปแบบที่เราสามารถช่วยพรรค ช่วยผู้สมัคร และรับใช้พี่น้องประชาชนได้ ที่สำคัญที่สุด คือ อุดมการณ์ทางการเมือง เพราะสำหรับตน การทำงานการเมือง คือ การเสียสละ ไม่ใช่การเอาชนะ และไม่ใช่การยึดติดในตำแหน่ง ที่ตนเชื่อเสมอว่า เมื่อเราไม่ยึดติด เราจะมีอิสระทางความคิด ซึ่งนำไปสู่อิสระในการตัดสินใจในทุกๆ เรื่องเพื่อส่วนรวม

ผู้สื่อข่าวถามถึงอนาคตทางการเมืองหลังจากที่เสียสละไม่ลง ส.ส.บัญชีรายชื่อจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ และจะช่วยงานพรรคอย่างไรบ้าง นางนฤมล กล่าวว่า จะช่วยงานอย่างอื่น เพราะมีความรับผิดชอบกับบุคคลที่พาเข้ามาทำงานกับพรรค และเสียใจที่ไม่สามารถทำให้ทุกคนได้สมหวังในการลงรับสมัครเลือกตั้ง ที่เป็นผลมาจากการแบ่งเขตเลือกตั้งใหม่ และเกิดพื้นที่ทับซ้อนที่ทำให้เกิดผลกระทบ เพราะเป็นความรับผิดชอบของเราที่ต้องนำพาเขาไปสู่การเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ตนยังช่วยงานสนับสนุนคนรุ่นใหม่ให้สมหวัง แล้ววันนี้ยังเป็นแม่ทัพในกทม.และขึ้นเวทีปราศรัยได้ไม่มีใครห้าม

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าสาเหตุเป็นเพราะลำดับบัญชีรายชื่อของนางนฤมล ตกไปอยู่ลำดับที่ 20 กว่าทำให้เกิดความไม่พอใจ นางนฤมล กล่าวว่า ไม่มี และการประชุมพรรค วันที่ 22 มี.ค.ที่มีชื่อของตนอยู่ในลำดับตามที่เป็นข่าวและเป็นตามนั้นจริงๆ แต่เมื่อมองลำดับ 20 - 30 อันดับแรก ไม่เห็นคนรุ่นใหม่ที่ตั้งใจ ทุ่มเททำงานให้พรรค จะมีโอกาสเข้ามาทำงาน ถ้าเราไม่ถอยไม่เสียสละ ถ้าคิดว่าเป็นผู้บริหารต้องได้ลำดับต้น คนรุ่นใหม่จะไม่มีทางเข้ามาได้ และหลายพรรคการเมืองก็เป็นลักษณะที่คล้ายกัน จึงอยากให้เขาเข้ามามีโอกาสทำงานการเมืองแต่โอกาสจะเป็นไปได้น้อยถ้าไม่เสียสละ ส่วนคนรุ่นใหม่ที่ต้องการให้อยู่ในบัญชีรายชื่อต้องหารือกับกรรมการสรรหาก่อนว่าจะเป็นใคร และตนได้เสนอชื่อไปแล้ว เป็นคนที่ทำงานมาร่วมกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า หากพรรคจัดลำดับให้ขยับมาอยู่ 1 - 3 จะเปลี่ยนใจหรือไม่ นางนฤมลกล่าวว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวหากดูจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว พรรค พปชร.ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ 19 คน ครั้งนี้คาดว่าจะได้ใกล้ๆ เดิม หากอยู่ในลำดับ 10 - 20 ก็มีโอกาสเข้าสภาทั้งสิ้น และ พล.อ.ประวิตร ไม่ได้คัดค้านโดยระบุว่าตามใจ

เมื่อถามว่า หากผลเลือกตั้งพรรค พปชร.ได้กลับมา 12 ที่นั่งใน กทม.จะส่งผลต่ออนาคตของนางนฤมลหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยอะไรในเรื่องนี้ เพราะแค่จัดผู้สมัครลง 33 เขต ก็ลำบากใจแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า การเสียสละครั้งนี้จะช่วยให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามาทำงานจริงหรือเป็นแค่การเปิดช่องให้กับเด็กของคนบางกลุ่มเข้ามาทำงาน นางนฤมล กล่าวว่า ได้ฝากกรรมการสรรหาพิจารณาและให้โอกาสคนรุ่นใหม่ แต่ท้ายที่สุดต้องเคารพมติของกรรมการ

‘นฤมล’ ชี้ พปชร. ปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับเลข 37 ชู นโยบาย 3700 เบี้ยสูงอายุ 3,000 สวัสดิการ 700

(5 เม.ย.66) ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค พปชร. กล่าวถึงการปรับนโยบายหรือกลยุทธ์ให้เข้ากับหมายเลข 37 ว่าผู้สมัคร ส.ส.บอกจดจำง่าย เลือกพรรค พปชร.ได้อย่างน้อย 3,700 โดยมาจากนโยบายเบี้ยผู้สูงอายุ 3,000 บาท และนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาท จำง่ายๆ เลือกลุงป้อม 3700 แต่จะใช้เป็นแคมเปญใหม่หรือไม่ ตอนนี้กำลังหารือกับผู้สมัคร เพื่อบอกกับประชาชนให้จดจำได้ เข้าใจง่าย พลังประชารัฐ 3700 ตอนนี้ทุกอย่างจะผูกให้เป็นหมายเลข 37 คือ 3 นโยบายเร่งด่วน 7 นโยบายเร่งรัด 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตัวเลข 37 จะเป็นปัญหาในการหาเสียงหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. พอใจกับเลข 37 หลายคนบอกเป็นเลขมงคล 3 บวก 7 เป็น 10 เป็นเลขที่ถูกโฉลกกับพรรคและหัวหน้าพรรค ส่วนตัวเชื่อว่าเป็นเลขที่ดี และจะเป็นการสร้างการรับรู้ว่าพรรคพลังประชารัฐ 3,700  อีกทั้งหมอดูต่างๆ ยังกล่าวว่า เลข 37 เป็นเลขมงคลที่ถูกโฉลก จะทำให้ได้รับชัยชนะ

“ต้องชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ หลังจากเห็นเลข 37 ว่าจะต้องเลือกพรรคพปชร.พลังประชารัฐ นอกจากต้องช่วยกันจำ เวลาไปคูหากาบัตรเลือกตั้ง ต้องมองหาโลโก้และชื่อพรรค เป็นการจดจำง่ายขึ้น” นางนฤมล กล่าว

เมื่อถามว่า ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขต เมื่อเห็นว่าเลขพรรคมีจำนวนเยอะ และตัวผู้สมัครมีหมายเลขของตัวเอง จะมีการนัดแนะอย่างไร นางนฤมล กล่าวว่า ตอนนี้ผู้สมัครได้ขึ้นป้าย ทำคลิป ส่งมาให้ดู เป็นภาพของหัวหน้าพรรค และเลข 37 ส่วนผู้สมัครก็จะขึ้นตัวเลขของเขา เป็นการประชาสัมพันธ์คู่กัน ส่วนตัวเชื่อว่าไม่สร้างความสับสน ประชาชนก็ได้รับการชี้แจงแล้วว่าจะต้องเลือกตั้งบัตรสองใบ คนละเบอร์

ผู้สื่อข่าวถามว่า การปราศรัยในพื้นที่กรุงเทพฯ วันที่ 7 เม.ย.นี้ จะจัดขึ้นที่ไหน นางนฤมล กล่าวว่า อาจจะเป็นที่สวนเบญจสิริ จากนั้นวัน 8 เม.ย.จะเป็นเวทีใหญ่ จ.สมุทรสาคร พรรคพปชร.ได้เบอร์ 1 ทั้งสามเขต สำหรับพื้นที่ภาคใต้ ตนจะลงไปช่วยในพื้นที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ไปพูดเรื่องนโยบายให้ชาวภาคใต้ได้รับรู้กับนโยบาย 3,700 

เมื่อถามว่า พรรคพปชร.จะมีคิวเวทีปราศรัยอย่างเต็มรูปแบบหรือไม่ นางนฤมล กล่าวว่า จะมีการปราศรัยเวทีสุดท้ายที่กรุงเทพฯ หลังจากที่ประชุมวางไว้ เป็นวันที่ 12 พ.ค.อาจจะเป็นที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง อีกทั้ง 30 กว่าวันที่เหลือ จะมี 10 เวทีใหญ่ตามจังหวัดต่างๆ

‘นฤมล’ ควง ‘ไปป์ ภูวกร’ ลงพื้นที่หาเสียงเอกมัย 19 ชู ‘บ้านประชารัฐ 360 องศา’ เปลี่ยนเงินเช่าเป็นเงินผ่อน

(18 เม.ย.66) ชุมชนลีลานุช เอกมัย 19 กรุงเทพฯ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วย นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร กทม. เขตวัฒนา-คลองเตย หมายเลข 8 พรรคพลังประชารัฐ ลงพื้นที่ชุมชนลีลานุช เอกมัย 19 พร้อมเปิดตัวพื้นที่ต้นแบบ ‘บ้านประชารัฐ 360 องศา’ โครงการต้นแบบจากนโยบายบ้านประชารัฐ 360 องศา ‘เข้าถึง เข้าใจ ทำได้จริง’ โดยได้ร่วมพูดคุยและรับฟังความคิดเห็น รวมถึงข้อเสนอแนะจากพี่น้องประชาชนในชุมชน

โดย ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า วันนี้เรามาดูแลนโยบายเพื่อที่จะทำให้กับเขตคลองเตยวัฒนา โดยผู้สมัครของพรรคนายภูวกร หรือไปป์ ได้มีการเสนอกับผู้บริหารพรรคให้แก้ไขในเรื่องของที่อยู่อาศัยให้กับพี่น้องประชาชน ซึ่งทันทีที่ได้เข้าไปทำหน้าที่ ส.ส.ในสภา จะต้องมีการผลักดันผ่านหน่วยงานต่าง ๆ และ กทม.รวมถึงภาคเอกชนที่จะต้องเข้ามาช่วยในเรื่องของการออกแบบก่อสร้าง ตกแต่ง ให้ถูกใจผู้อยู่อาศัย และบริเวณภายนอกก็ควรจะเหมาะสมกับพื้นที่นั้น ๆ นอกจากนี้จะต้องมีการประสานกับธนาคารของรัฐ ที่จะเข้ามาช่วยในด้านการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำด้วย

ศ.ดร.นฤมล กล่าวต่อว่า พรรคพลังประชารัฐจะผลักดันให้เป็นสินเชื่อดอกเบี้ย 0% ซึ่งอยู่ในโครงการบ้านประชารัฐ และเป็นบ้านหลังแรก โดยพี่น้องประชาชนก็จะได้มีบ้านที่สวยงาม มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และสามารถสร้างรายได้ให้คนในชุมชนได้ เช่น เมื่อเรามีการพัฒนาพื้นที่ตรงนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ หรือร้านค้าอื่นๆ ก็จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา รายได้ก็จะตามมา 

"พื้นที่บริเวณนี้จะต้องได้รับการพัฒนาเหมือนเช่น คอนโดตึกใหญ่รอบข้างที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ชุมชนตรงนี้ก็จะต้องมีคุณภาพชีวิตที่ดี เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม และลดความเหลื่อมล้ำในสังคมให้ได้ วันนี้ต่อให้เราจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ได้เป็น เราก็จะผลักดันโครงการนี้ให้เกิดขึ้นให้ได้ เพราะ ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่า เราจะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งนโยบายนี้เราจะทำให้เกิดขึ้นในทุกเขต เพื่อให้ชาว กทม.ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นให้ได้ เพราะคน กทม.ยังมีอีกหลายชุมชนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง" ศ.ดร.นฤมล กล่าว

ด้านนายภูวกร กล่าวว่า ตนเป็นคนเกิดที่นี่ และต้องการจะผลักดันโครงการบ้านประชารัฐ วันนี้ตนได้รับข่าวจากประธานชุมชนว่าในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามชุมชน ได้โดนไล่รื้อถอนบ้านที่อยู่อาศัยไปแล้ว ตนจึงไม่อยากให้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้นอีกในชุมชนนี้ ตนต้องการให้ชุมชนลีลานุชแห่งนี้ เป็นชุมชนแรกที่ได้ริเริ่มโครงการบ้านประชารัฐ ที่ผ่านมาเราเคยมีบ้านลักษณะเช่นนี้จากภาครัฐแล้วก็เช่นนี้มาแล้วแต่วันนี้จะทำให้ดีขึ้นอีก

‘นฤมล’ ควง ‘เอ๋ บุณณดา’ ลุยหาเสียงย่านกุฎีจีน ชูนโยบายระบบสาธารณสุขเพื่อประชาชนทุกคน

(3 พ.ค. 66) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นำโดย นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าทีมผู้ดูแลการเลือกตั้งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ลงพื้นที่เขตบางซื่อ เพื่อช่วย น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ หรือเอ๋ ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 32 เบอร์ 6 เขตบางกอกน้อย (เฉพาะแขวงศิริราช) เขตบางกอกใหญ่ เขตภาษีเจริญ (ยกเว้นแขวงบางหว้า แขวงบางด้วน และแขวงคลองขวาง) เขตตลิ่งชัน (เฉพาะแขวงบางเชือกหนัง) เขตธนบุรี (เฉพาะแขวงวัดกัลยาณ์ แขวงหิรัญรูจี และแขวงบางยี่เรือ) เดินรณรงค์หาเสียง โดยได้พบปะพูดคุยกับประชาชนย่านกุฎีจีน
.
โดย นางนฤมล กล่าวว่า พื้นที่เขตนี้ถือว่ามีความกว้างขวางพอสมควร ซึ่งเป็นการแบ่งเขตใหม่ของ กกต.โดยผู้สมัครของเราก็ได้ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเพื่อสอบถามปัญหาต่าง ๆ ของพี่น้องประชาชน ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ เราพร้อมผลักดันให้เกิดการพัฒนาสร้างอาชีพให้กับประชาชน เพราะถือว่าเป็นเขตที่สามารถพัฒนาเป็นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมได้
.
นอกจากนี้ พรรคพลังประชารัฐยังให้ความสำคัญไปยังการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ โดยวันนี้การลงพื้นที่ของเราก็ตรงกับวันที่ทางชุมชนมีกิจกรรมตรวจสุขภาพของผู้กลุ่มอายุ ซึ่งถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมาก ๆ โดย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เน้นย้ำเรื่องนโยบายสาธารณสุข เพื่อให้ทั้งคนกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเข้าถึงบริการทางการแพทย์ด้วยการใช้เทคโนโลยี ซึ่งเป็นนโยบายที่เราดำเนินการมาตั้งแต่ปี 62 โดยชื่อว่า หมอถึงบ้านพยาบาลถึงเรือน ผ่านมา 4 ปี วันนี้เทคโนโลยีก็มีการพัฒนาขึ้นมาก เราก็จะใช้เทคโนโลยีตรงนี้เข้ามาช่วยเหลือประชาชน 
.
นโยบาย ‘ลุงป้อมพาหมอไปหา เอายาไปส่ง’ มีเนื้อหาระบุว่า จะหาหมอทั้งทีต้องเดินทาง ต้องรอคิว เข้าถึงการรักษายากลำบาก แต่วันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะพรรคพลังประชารัฐจะนำระบบ Telelmed หรือการแพทย์ทางไกลมาใช้ โดยจะทำให้ไม่ว่าประชาชนอยู่ที่ไหน ก็สามารถพบแพทย์ได้"


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top