Thursday, 9 May 2024
ธนาคารออมสิน

'ออมสิน' ดึงคนฝากเงินแถมลุ้นเงินล้าน 20 รางวัล

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารได้ออก 2 แคมเปญเงินฝาก เพื่อส่งเสริมการออมส่งท้ายปี จูงใจด้วยดอกเบี้ยสูงและร่วมลุ้นรางวัลพิเศษ โดยแคมเปญแรกได้แก่ เงินฝากสลากออมสินพิเศษ 2 ปี (ใบสลาก) จับรางวัลพิเศษ ระหว่างวันที่ 2 พ.ย. – 29 ธ.ค.2564 ร่วมลุ้นเงินรางวัลพิเศษ 1 ล้านบาท จำนวน 20 รางวัล ออกรางวัล 2 ครั้ง ในวันที่ 1 ธ.ค.64 จำนวน 10 รางวัล และ วันที่ 30 ธ.ค.64 อีก 10 รางวัล 

สำหรับสลากออมสินพิเศษ 2 ปี (แบบใบสลาก) ราคาหน่วยละ 100 บาท กำหนดผู้ฝากเป็นบุคคลธรรมดาอายุ 7 ปีขึ้นไป และนิติบุคคลทุกประเภท ฝากได้ที่สาขาธนาคารออมสิน ไม่จำกัดวงเงินฝากสูงสุด ระยะเวลาฝาก 2 ปี มีสิทธิลุ้นถูกรางวัล  24 ครั้ง กำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 1 ของเดือน รางวัลสูงสุด รางวัลที่ 1 เป็นเงิน 5,000,000 บาท และรางวัลอื่น ๆ รวมถึงรางวัลเลขท้าย เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยอีกหน่วยละ 0.10 บาท อัตราผลตอบแทนผู้ฝากขั้นต่ำเมื่อสลากครบกำหนดเฉลี่ยต่อปีตามจำนวนเงินฝาก ตั้งแต่ 0.05-0.35% ต่อปี ผู้ฝากเป็นบุคคลธรรมดา ดอกเบี้ยและเงินรางวัลจะได้รับการยกเว้นภาษี 

ครม. อนุมัติ 1,500 ล้านบาทให้ ธ.ออมสิน เปิด “มาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ” เป็นเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ หรือเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบอาชีพช่างทุกประเภท

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ธนาคารออมสินดำเนินมาตรการสินเชื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ โดยอนุมัติวงเงิน 1,500 ล้านบาท ในส่วนที่ธนาคารออมสินขอชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด  5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อให้ธนาคารออมสินสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเป็นเงินเริ่มทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ หรือเสริมสภาพคล่องให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้  ทั้งยังช่วยลดการพึ่งพาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงหรือสินเชื่อนอกระบบ  โดยมีรายละเอียดมาตรการ ฯ ดังนี้

-กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่  1)ผู้เริ่มประกอบอาชีพและผู้ประกอบการรายย่อย  เช่นผู้ผ่านการอบรมอาชีพ “ช่าง” ทุกประเภท เช่น ช่างปูน ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้าช่างเชื่อม ช่างซ่อมอุปกรณ์ เป็นต้น และผู้ที่ไม่ใช่ช่าง เช่น เสริมสวยหรือตัดผมชาย คนขายของออนไลน์ เป็นต้น โดยมีใบประกาศนียบัตรหรือวุฒิบัตรที่ผ่านการอบรมจากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชนหรือเอกสาร อื่นๆตามประเภทของอาชีพหรือมีประสบการณ์ ในการประกอบอาชีพดังกล่าว 2) ผู้ประกอบการขนาดย่อม ที่มีสถานที่จำหน่ายแน่นอน เช่นค้าปลีก ค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ เป็นต้น โดยมีทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้า สัญญาแฟรนไซส์ หรือเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของอื่น ๆ และ 3) ผู้ขับขี่รถสาธารณะ เช่น ผู้ขับขี่รถแท็กซี่ รถตู้สาธารณะ รถขนส่งสินค้า รถบรรทุก โดยมีใบอนุญาตขับขี่รถสาธารณะหรือเอกสาร อื่นๆตามประเภทของอาชีพ

-วงเงินรวม   5,000 ล้านบาท 
-วงเงินสินเชื่อ  ไม่เกินรายละ 300,000 บาท
-ระยะเวลาการขอยื่นสินเชื่อ   ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบถึง 30 กันยายน 2565
- ระยะเวลาการกู้  รวมระยะเวลาทั้งสิ้นต้องไม่เกิน 5 ปี  (ปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย 6 งวดแรก) 
- อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3.99 ต่อปี

ครม.ไฟเขียว ออมสินปล่อยกู้รายละ 3 แสน ดอกเบี้ย 3.99% กลุ่มไหนเข้าเกณฑ์ เช็กเลย!

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ธนาคารออมสิน ดำเนินมาตรการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพ อนุมัติงบประมาณ 1,500 ล้านบาท ในส่วนที่ธนาคารออมสิน ขอชดเชยความเสียหายที่เกิดจากหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ร้อยละ 30 ของวงเงินสินเชื่อที่อนุมัติทั้งหมด 5,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อดำเนินมาตรการสินเชื่อสร้างงานสร้างอาชีพเพื่อช่วยเหลือประชาชน เป็นเงินทุนเริ่มต้นในการประกอบอาชีพ ลดการพึ่งพาสินเชื่อที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง หรือสินเชื่อนอกระบบ บรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19

โดยมีกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

1.) ผู้เริ่มประกอบอาชีพและผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ผู้ผ่านการอบรมอาชีพช่างทุกประเภท เช่น ช่างปูน ช่างแอร์ ช่างไฟฟ้าช่างเชื่อม ช่างซ่อมอุปกรณ์ เป็นต้น และผู้ที่ไม่ใช่ช่าง เช่น เสริมสวยหรือตัดผมชาย คนขายของออนไลน์ เป็นต้น โดยมีใบประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร ที่ผ่านการอบรมจากหน่วยงานภาครัฐหรือเอกชน หรือเอกสาร อื่น ๆ ตามประเภทของอาชีพหรือมีประสบการณ์ ในการประกอบอาชีพดังกล่าว

2.) ผู้ประกอบการขนาดย่อม ที่มีสถานที่จำหน่ายแน่นอน เช่น ค้าปลีก ค้าส่ง โชห่วย แฟรนไชส์ เป็นต้น โดยมีทะเบียนพาณิชย์ ทะเบียนการค้า สัญญาแฟรนไชส์ หรือเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของอื่น ๆ

ออมสินคาดปล่อยกู้จำนำทะเบียนรถทะลุ 2 หมื่นล้าน

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตลอด 1 ปีที่ผ่านมา ประชาชนที่มีรายได้น้อย จำนวนมากร่วม 800,000 ราย ได้รับอนุมัติสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ “เงินสดทันใจ” ทั้งที่เป็นสินเชื่อใหม่และรีไฟแนนซ์ วงเงินสินเชื่อรวมกว่า 16,000 ล้านบาท ซึ่งช่วยเติมสภาพคล่องในการนำเงินกู้ไปหมุนเวียนใช้จ่ายและแก้ปัญหาการเงิน ด้วยต้นทุนเงินกู้ที่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยในท้องตลาดอยู่ที่ประมาณ 5-8% สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยให้ลูกค้าคิดประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยในปี 2565 นี้ ประเมินว่า จะอนุมัติสินเชื่อรวมกว่า 20,000 ล้านบาท ทั้งประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 

สำหรับการดำเนินการดังกล่าว เป็นไปตามที่รัฐบาลโดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายธนาคารออมสินช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ให้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินกู้ในระบบ ด้วยต้นทุนที่เป็นธรรมและถูกลง โดยในปี 2564 ที่ผ่านมา ธนาคารได้เข้าร่วมทุนในบริษัท เงินสดทันใจ จำกัด เปิดตัวสินเชื่อจำนำทะเบียนรถจักรยานยนต์ คิดอัตราดอกเบี้ยต่ำช่วงเปิดตัวที่ 11% ต่อปี ส่งผลให้หลังจากนั้นไม่นานตลาดสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ได้ทยอยปรับลดโครงสร้างดอกเบี้ยจาก 28% ณ เวลานั้น ลงเหลือ 19% ในปัจจุบัน 

เพจ ธ.ออมสิน เขตสุโขทัย แสดงจุดยืนรัก ‘ชาติ ศาสนา กษัตริย์’ หลังเจอทัวร์ลง เหตุโพสต์ภาพคนสวมเสื้อมีโลโก้พรรคต่อต้านสถาบัน

(2 ต.ค.66) ผู้ใช้งานเฟซบุ๊ก ‘Kawin Kankeow’ ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

จากประเด็นการโพสต์ภาพคนสวมเสื้อซึ่งมีสัญลักษณ์คล้ายพรรคการเมืองพรรคหนึ่งปรากฏในเพจของธนาคารออมสิน เขตสุโขทัย ผมได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหารธนาคารออมสิน เขตสุโขทัยแล้ว ท่านรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าท่านมีความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ส่วนผมก็ได้แสดงจุดยืนว่าการแสดงทัศนคติทางการเมืองในนามบุคคลเป็นเรื่องปกติ แต่ในนามองค์กรโดยเฉพาะอย่างยิ่งธนาคารออมสินซึ่งมีจุดกำเนิดมาจากสถาบันพระมหากษัตริย์ การแสดงสัญลักษณ์ซึ่งดูเหมือนเป็นตัวแทนของการต่อต้านสถาบันฯ เป็นสิ่งที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง และเป็นสิ่งที่กระทบกระเทือนจิตใจของคนรักสถาบันฯ อย่างผมและคนไทยอีกเป็นจำนวนมาก

กรณีนี้เข้าใจว่าผู้ที่เกี่ยวข้องหลายคนอาจไม่ค่อยได้ติดตามข่าวสารบ้านเมืองจนไม่ได้ตระหนักถึงความอ่อนไหวในประเด็นนี้ หลังจากการพูดคุยกันแล้วผมได้รับการตอบรับที่ดีว่าต่อไปนี้ทางธนาคารฯ จะระมัดระวังในการสื่อสารสาธารณะให้มากยิ่งขึ้น และจะปฏิบัติตามปรัชญาของธนาคารออมสินอย่างเคร่งครัดครับ

ส่วนทางด้านเฟซบุ๊ก ธนาคารออมสิน เขตสุโขทัย ก็ได้โพสต์ข้อความระบุว่า…

ในฐานะของผู้บริหารสูงสุดของสาขาเขตรู้สึกเสียใจ และขอน้อมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นทั้งหมด และขอยืนยันว่าธนาคารออมสินซึ่งถือกำเนิดโดยพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า เจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 มีนโยบายให้พนักงานธนาคารทุกคนจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และแสดงออกทางการเมืองอย่างเป็นกลาง ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ธนาคารออมสินพร้อมที่จะให้บริการประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันโดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะและความเชื่อ และจะดำรงตนเป็นแบบอย่างตามรอยพระราชจริยวัตรอันงดงามยิ่งของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร รามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 

โดยธนาคารออมสินจะยึดมั่นในการทำหน้าที่ธนาคารที่จะสร้างความสุขให้พี่น้องคนไทยและนำพาความเจริญเพื่อประเทศชาติพัฒนาในทุกด้านสืบต่อไป

‘รัดเกล้า’ ย้ำ!! รัฐฯ ตั้งเป้าลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน ร้อยละ 80 พร้อมเดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่ายให้ ปชช.

(13 ต.ค. 66) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธนาคารออมสิน ซึ่งกำกับดูแลโดยกระทรวงการคลัง เดินหน้าแก้ไขปัญหา และลดสัดส่วนหนี้ครัวเรือน โดยเฉพาะปัญหาหนี้สินของประชาชนรายย่อย ตลอดจนให้ความรู้ทางการเงิน และพัฒนากำลังคน เพื่อรองรับการทำงานตามนโยบายรัฐบาลในอนาคต ตามที่นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายและย้ำถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย แก้ปัญหาหนี้ภาคประชาชน โดยให้ดำเนินการให้ได้เร็วที่สุด

นางรัดเกล้า กล่าวว่า เพื่อเป็นการขานรับนโยบายของรัฐบาล ธนาคารออมสินจึงได้จัด โครงการเฉลิมพระเกียรติเนื่องในวันนวมินทรมหาราช วันที่ 13 ตุลาคม 2566 มาตรการแก้ไขหนี้ตามนโยบายรัฐบาลเพื่อลูกหนี้รายย่อยธนาคารออมสิน เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 จากการผ่อนชำระ และลูกหนี้บางส่วนที่มีสถานะ NPLs จากผลกระทบดังกล่าว โดยจะเปิดให้เข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566

สำหรับมาตรการแก้ไขหนี้ดังกล่าว เพื่อช่วยเหลือลูกค้ารายย่อยสินเชื่อธนาคารออมสิน ด้วยการให้พักชำระเงินต้นและให้ทางเลือกจ่ายดอกเบี้ยตั้งแต่ 25% - 100% แล้วแต่กรณี ตามเงื่อนไขธนาคารและสถานะของลูกหนี้แต่ละรายเมื่อสามารถผ่อนชำระได้ตามเงื่อนไขของมาตรการ ธนาคารจะยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระก่อนเข้ามาตรการให้

รวมถึงลูกหนี้ที่มีสถานะ NPLs อยู่ก่อนวันที่ 30 ธันวาคม 2565 ธนาคารจะชะลอกระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายโดยไม่ฟ้อง ไม่ยึดทรัพย์ ไม่ขายทอดตลาด และไม่ฟ้องล้มละลาย แล้วแต่กรณี โดยให้ผ่อนชำระได้สูงสุด 10 ปี และคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษตามเงื่อนไขธนาคาร ทั้งนี้ ลูกหนี้ที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการ สามารถติดต่อธนาคารออมสินสาขาเจ้าของบัญชีเงินกู้ หรือสาขาที่สะดวกได้ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2566

“รัฐบาลผลักดันนโยบายไปสู่การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหา พลิกฟื้นเศรษฐกิจ และยกระดับชีวิตประชาชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งเตรียมความพร้อมดำเนินมาตรการต่างๆ ในการแก้ไขปัญหาอย่างตรงจุดและยั่งยืน ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนคลี่คลายขึ้นได้ในระยะต่อไปโดยมีเป้าหมายที่จะลดหนี้ภาพรวมให้ลดลงอยู่ในระดับที่ยั่งยืน หรือต่ำกว่า 80% ต่อจีดีพี” นางรัดเกล้า กล่าว

‘ศิริกัญญา’ มอง ‘ดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่น’ อาจถึงทางตัน เหตุกู้ออมสินไม่ได้ ชี้!! ขัดต่อ พ.ร.บ.ก่อตั้งธนาคาร

(23 ต.ค. 66) น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ที่ยังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมกันอย่างต่อเนื่อง ที่ทิศทางของโครงการอาจจะไปสู่ทางตัน ว่า…

[หรือว่า Digital wallet จะถึงทางตัน...?]

ธนาคารออมสินที่ยืนหนึ่งเป็นแหล่งที่มาของงบที่จะใช้สำหรับ ‘ดิจิทัลวอลเล็ต’ 5.6 แสนล้าน อาจจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว

ไม่ใช่แค่ว่าออมสินมีสภาพคล่องไม่พอ แต่เป็นเรื่องข้อจำกัดของกฎหมายที่ไม่อนุญาตให้ออมสินปล่อยกู้ให้รัฐบาลได้

ตามมาตรา 7 ของ พรบ.ออมสิน กำหนดวัตถุประสงค์เอาไว้ว่าให้ทำกิจการใดบ้าง ซึ่งก็เหมือนกับธนาคารพาณิชย์ รับฝากเงิน ปล่อยกู้ ซื้อขายพันธบัตร ลงทุน ไม่มีข้อไหนที่ให้รัฐบาลกู้เงินได้ แต่หากจะทำกิจการอื่น ต้องตราเป็น พรฎ.

ซึ่งเมื่อไปดูใน พรฎ. กำหนดกิจการพึงเป็นงานธนาคาร ระบุกิจการไว้ 13 ข้อ ลงรายละเอียด ไปจนถึงธุรกิจเงินตราต่างประเทศ การออกบัตรเครดิต ที่ปรึกษาการเงิน แต่ก็ไม่มีข้อไหนเลยที่เข้าข่ายจะตีความว่านำเงินให้รัฐบาลกู้ยืมได้ ถ้าไม่เชื่อลองถามกฤษฎีกาดูก็ได้ค่ะ

ความหวังที่จะใช้เงินออมสินมาเป็นแหล่งเงินของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตก็คงต้องจบลงแค่นี้ ยกเว้นแต่ว่าจะมีการแก้กฎหมาย ซึ่งไม่ใช่ว่าจะทำไม่ได้เสียทีเดียว แต่ก็ไม่ควรทำ

สมัยประยุทธ์ทำรัฐประหารใหม่ๆ ก็เคยออกคำสั่ง คสช. แก้ พรบ.กสทช. ว่าด้วยวัตถุประสงค์ กองทุนวิจัยและพัฒนา ของ กสทช. ให้เพิ่มว่ากองทุนสามารถให้กระทรวงการคลังกู้ยืมเงินได้ ซึ่งต่อมากระทรวงการคลังก็มากู้ไปจริงๆ 14,300 ล้านบาท (ที่ตลกก็คือ มีการออกคำสั่ง คสช.อีกฉบับเพื่อแก้ พรบ.กลับไปเป็นเหมือนเดิม พร้อมยกหนี้หมื่นล้านนี้ให้กระทรวงการคลังด้วย) 
เราก็ต้องมาวัดใจกันดูว่าจะถึงขั้นแก้กฎหมายเพื่อให้รัฐฯ สามารถกู้เงินออมสินได้หรือไม่

**ถ้าไม่แก้กฎหมาย เหลือทางเลือกอะไรอยู่บ้าง**

เหลือแค่ใช้เงินงบประมาณ กับออก พรก.กู้เงิน เหมือนช่วงโควิด

Update ข้อมูลงบ 67 ที่ปรับปรุงใหม่ ตามภาพที่ 2 ถึงจะขยายงบเป็น 3.48 ล้านล้าน แต่ก็ต้องจ่ายหนี้เพิ่ม ลงทุนเพิ่มตามไปด้วย เมื่อหักรายจ่ายที่ยังไงก็ต้องจ่าย ทั้งเงินเดือนสวัสดิการบุคลากรภาครัฐ งบใช้หนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เงินชดใช้เงินคงคลัง งบท้องถิ่น และสวัสดิการตามกฎหมาย

งบที่เหลือมาจัดสรรใหม่ได้จริงเพิ่มมาเป็น 476,000 ล้าน ก็จริง แต่ขอย้ำว่านี่คือรายจ่ายประจำที่ต้องแชร์กับพรรคร่วมรัฐบาล 20 กระทรวง ถ้าใช้หมดนี่ก็หมายความว่า แต่ละกระทรวงได้เงินแค่พอจ่ายเงินเดือน กับงบลงทุนโครงการอื่นๆ ไม่ต้องทำกันแล้ว จะตั้งกองทุน Soft Power ก็ไม่ได้ กองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเพิ่มงบไม่ได้ งบอุดหนุนบรรเทาภัยแล้งก็ไม่ได้ งบอุดหนุนดับไฟป่าแก้ PM 2.5 ก็ไม่ได้ โครงการฝึกอบรม Upskill-reskill อะไรก็ทำไม่ได้ทั้งหมด ไม่ต้องพูดถึงค่าตอบแทน อสม. กำนันผู้ใหญ่บ้าน ก็หายหมดเช่นเดียวกัน ซึ่งเท่ากับว่าทางเลือกนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้เหมือนเดิม

หรือ... จะให้ผู้ประกอบการเก็บเหรียญดิจิทัลไว้ ยังไม่ให้แลกคืน รออีกซักปี 2 ปี ให้มีงบประมาณพอ ก็อาจเป็นอีกทางเลือก แต่ก็เสี่ยงที่จะทำให้ไม่มีร้านค้าเข้าร่วมโครงการ

ทางเลือกสุดท้าย คือออกเป็น พรก.เงินกู้แบบที่ทำช่วงโควิด ก็จะถือเป็นการฆ่าตัวตายทางการเมืองชัดๆ ซึ่งก็ทำไม่ได้อีกเพราะไม่ได้มีความจำเป็นเร่งด่วนตาม รธน.

น่าคิดนะคะ ว่าอาจจะถึงทางตันจริงๆ

‘ธนาคารออมสิน’ มอบสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง ผู้ค้ารายย่อย หนุนอาชีพอิสระมีเงินทุน ไม่ต้องใช้หลักประกัน-ผ่อนได้ถึง 8 ปี

(20 ม.ค. 67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ธนาคารออมสินมอบสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบอาชีพอิสระรายย่อย เพื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินสูงสุด 100,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน ผ่อนชำระนานสูงสุด 96 งวด เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการรายย่อย เช่น ผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซด์รับจ้าง, ผู้ขับขี่รถแท็กซี่, ผู้ขับขี่รถตู้สาธารณะ, พ่อค้าแม่ค้า หรือผู้จำหน่ายสินค้าออนไลน์ เป็นต้น สำหรับเป็นเงินทุนประกอบอาชีพ โดยให้กู้ตามความจำเป็นและความสามารถในการชำระหนี้ ไม่เกินรายละ 100,000 บาท ไม่ต้องใช้หลักประกัน อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อเดือน (Flat Rate) แต่หากอัตราผิดนัดไม่ชำระหนี้ อัตราดอกเบี้ยเท่ากับอัตราดอกเบี้ยสูงสุดตามสัญญา บวกร้อยละ 0.25 ต่อเดือน

นางรัดเกล้า กล่าวว่า โดยผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการรายย่อย ต้องเป็นบุคคลธรรมดา สัญชาติไทย อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และเมื่อรวมอายุผู้กู้กับระยะเวลาชำระเงินกู้ ต้องไม่เกิน 70 ปี และเป็นผู้มีถิ่นที่อยู่หรือสถานประกอบการที่แน่นอน สามารถติดต่อได้

ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจ และมีคุณสมบัติตรงตามเงื่อนไขสามารถสมัครได้ที่ ธนาคารออมสินทุกสาขาหรือสมัครออนไลน์ที่เว็บไซต์ของธนาคาร (https://www.gsb.or.th/gsb_govs/loan4idpc/#section4) โดยนำเอกสารการสมัครไปให้ครบถ้วน

“การกู้ยืมสำหรับผู้ประกอบอาชีพอิสระ หรือผู้ประกอบการรายย่อย ดูเหมือนเป็นเรื่องยุ่งยาก ธนาคารออมสินจึงได้มอบสินเชื่อตามนโยบายรัฐบาลนี้เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่อง หรือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบอาชีพ ซึ่งสินเชื่อนี้จะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าเชื่อถือสำหรับผู้ที่สนใจ” นางรัดเกล้า กล่าว

'รัดเกล้า' เผย!! 'ธนาคารออมสิน' ถูกเพจปลอมแอบอ้าง ยัน!! ไม่มีนโยบายให้เงินกู้ผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์

(7 มี.ค.67) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรณีธนาคารออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อผ่านเพจชื่อ 'ออมสิน สินเชื่อเพื่อประชาชนทุกคน' นั้น จากการตรวจสอบโดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม พบว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นข่าวปลอม โดยศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ตรวจสอบกับธนาคารออมสิน กระทรวงการคลัง ซึ่งยืนยันว่า กรณีที่มีการส่งต่อข้อมูลเรื่องธนาคารออมสิน เปิดให้กู้สินเชื่อผ่านเพจบนเฟซบุ๊ก (Facebook) ชื่อ 'ออมสิน สินเชื่อเพื่อประชาชนทุกคน' นั้น ประเด็นดังกล่าวนั้นเป็นข้อมูลเท็จ โดยเพจดังกล่าว ไม่ใช่เพจของธนาคารและไม่มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับธนาคารออมสิน

รองโฆษกรัฐบาล กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ธนาคารออมสินไม่มีนโยบายให้เงินกู้ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook แอปพลิเคชัน LINE และ Messenger แต่อย่างใด โดยเพจดังกล่าวได้แอบอ้างนำชื่อและตราสัญลักษณ์ธนาคารออมสินไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งยังเผยแพร่ข้อมูลปลอม อันแสดงเจตนาจงใจหลอกลวงประชาชน

"ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อเพจแอบอ้างดังกล่าวที่ โดยสามารถติดตามข่าวสารจากสื่อช่องทางหลักของธนาคารได้ที่เว็บไซต์ www.gsb.or.th, แอปพลิเคชัน MyMo, Social Media ช่องทาง GSB Society และ GSB Now เท่านั้น" รองโฆษกรัฐบาล กล่าว

'สลากออมสิน' แจกหนัก 111 ล้าน แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 งวด 16 พ.ค.นี้ ชี้!! ฝากแค่ 100 บาท ก็มีสิทธิ์ลุ้น เปิดฝาก 1 เม.ย. - 15 พ.ค. นี้

(27 มี.ค. 67) นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารจัดแคมเปญส่งเสริมการออมครั้งใหญ่ มอบโชค 111 ล้านบาท แก่ผู้ถูกรางวัลที่ 1 สลากออมสินพิเศษ 1 ปี งวดวันที่ 16 พ.ค. 2567 เพียงรางวัลเดียวเท่านั้น

สำหรับผู้ที่ฝากสลากออมสินทั้งแบบใบสลาก และสลากดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 15 พ.ค.2567 โดยสามารถฝากได้ตั้งแต่ 100 บาท ก็มีสิทธิ์ลุ้น และไม่จำกัดวงเงินรับฝากสูงสุด ผู้สนใจสามารถฝากสลากออมสินได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ และแอพ MyMo โดยกำหนดออกรางวัลที่ 1 มูลค่า 111 ล้านบาท ในวันที่ 16 พ.ค. 2567

ทั้งนี้ สลากออมสินพิเศษ 1 ปี เมื่อฝากครบกำหนด 1 ปี จะได้รับดอกเบี้ยหน่วยละ 0.35 บาท พร้อมกับเงินต้น และมีสิทธิ์ลุ้นรางวัลทุกเดือน ทั้งรางวัลที่ 1 เงินรางวัล 10 ล้านบาท รวมถึงรางวัลอื่นๆ และรางวัลเลขท้าย รวม 12 ครั้ง กำหนดออกรางวัลทุกวันที่ 16 ของเดือน

นอกจากนี้ สำหรับแฟนพันธุ์แท้กระปุกออมสินไม่ควรพลาด ‘กระปุกออมสินวาระครบ 111 ปี’ ที่ธนาคารสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษ โดยนำงานหัตถกรรมตีลายแผ่นแร่ซึ่งเป็นลวดลายดอกมะลิมาตกแต่งลงบนกระปุกออมสิน ถ่ายทอดผลงานอันทรงคุณค่าด้วยอัตลักษณ์ที่มีความอ่อนช้อยงดงามตามศิลปะล้านนา

ซึ่งเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นดั้งเดิมของชุมชนบ้านป่าสักขวาง จังหวัดเชียงใหม่ นับเป็นการสร้างรายได้และส่งเสริมอาชีพที่เป็นมรดกทางภูมิปัญญาของชาติ

อีกทั้งยังเกิดคุณค่าร่วมที่สร้างประโยชน์ให้แก่ผู้คน ชุมชน สังคม และธุรกิจได้เติบโตไปพร้อมกันอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับการดำเนินภารกิจธนาคารออมสินภายใต้บทบาทธนาคารเพื่อสังคม

สามารถเป็นเจ้าของกระปุกออมสินในวาระ 111 ปีได้ โดยลงทะเบียนจองสิทธิ์ผ่านเว็บไซต์ www.gsb.or.th และ LINE OFFICIAL : GSB Society ตั้งแต่วันที่ 27 – 31 มี.ค.2567 และเปิดให้ฝากเงิน ตั้งแต่ 500 บาทขึ้นไป พร้อมรับกระปุกในวันที่ 1 – 4 เม.ย. 2567 ณ สาขาธนาคารออมสินที่ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ (1 กระปุก ต่อ 1 ท่าน) ของมีจำนวนจำกัด

และสำหรับเด็กที่เกิดในวันที่ 1 เม.ย. 2567 ธนาคารได้มีการมอบเงินทุนประเดิมให้เด็กรายละ 500 บาท โดยบิดาหรือมารดาของเด็กที่มีสัญชาติไทย สามารถนำสูติบัตรฉบับจริงของเด็ก พร้อมบัตรประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของบิดาหรือมารดา มาแสดงตัวตนที่สาขาธนาคารออมสิน ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2567

นอกจากนี้ ธนาคารออมสิน ยังแจกโชคต่อเนื่อง อีก 111 รางวัล สำหรับผู้ที่สมัครและใช้จ่ายผ่าน ‘บัตรเดบิตออมสิน’ มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลรถยนต์ไฟฟ้า BYD Dolphin รุ่น Standard Range สี Coral Pink จำนวน 3 รางวัล และทองคำแท่ง หนัก 2 สลึง จำนวน 108 รางวัล

สำหรับลูกค้าที่สมัครบัตรเดบิตใหม่ ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. - 30 ก.ย. 2567 มีสิทธิ์ร่วมลุ้นรางวัลทันที โดยสมัครบัตรเดบิตออมสิน อินสแตนท์ ได้รับ 1 สิทธิ์/บัตร บัตรเดบิตแบบมีความคุ้มครองทุกประเภท รับ 5 สิทธิ์/บัตร

ส่วนการใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตออมสินทุกประเภทที่มียอดการใช้จ่ายตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป/เซลล์สลิป จะได้รับ 1 สิทธิ์/รายการ ยิ่งสะสมมากยิ่งมีสิทธิ์มาก โดยจะทำการจับรางวัลในวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ทั้งนี้ เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้า และร่วมฉลองในโอกาส 111 ปี ธนาคารออมสิน


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top