Thursday, 2 May 2024
ทำแล้วทำอยู่ทำต่อ

รทสช. ดึง 6 แกนนำ ชู!! นโยบาย 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ผ่านคลิปสั้น  ส่งไม้ต่อ 'ผู้สมัคร ส.ส.' ช่วยบอกต่อ ปชช. เน้นเข้าใจง่าย เห็นภาพ  

(23 เม.ย.66) นายธนกร วังบุญคงชนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการจัดกำหนดการหาเสียงและการปราศรัย เปิดเผยว่า รทสช.เตรียมเผยแพร่คลิปนโยบาย เพื่อให้ผู้สมัคร ส.ส.นำไปเผยแพร่บอกต่อประชาชนทั้งประเทศว่า 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ตามสโลแกน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแคนดิเดตพรรค ผ่านแล้วนำ 6 คน โดยมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาว์ ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรค, ม.ล.ชโยทิต กฤดากร หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค, พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต, นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และตน  

นายธนกร กล่าวว่า ตนชี้แจงเรื่องโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่จะต่อยอดเป็นบัตรสวัสดิการแห่งรัฐพลัสให้ประชาชนคนละ 1,000 บาท สามารถใช้บัตรนี้ไปกู้เงินฉุกเฉินได้อีก 10,000 บาท / โครงการคนละครึ่งที่ทำมา 5 เฟส พรรครวมไทยสร้างชาติจะมาทำต่อโครงการคนละครึ่งภาคสอง โครงการ 'เราเที่ยวด้วยกัน' ปี 2565 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาถึง 11ล้านคน และปี 2566 เราตั้งเป้า 27.5 ล้านคน ซึ่งจะมีเงินเข้าประเทศถึง 2.3 ล้านล้านบาท โครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) มีการลงทุนถึง 2.2 ล้านล้านบาท และมีการจ้างงานถึง 100,000 อัตรา เป็นการหาเงินของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ทุกนโยบาย 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ทำสำเร็จมาแล้ว เหล่านี้ทำให้เราแตกต่างจากพรรคการเมือง

ส่วน นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ชี้แจงนโยบายโคเงินล้าน โคล้านครอบครัว 'ทำมาแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ซึ่งเป็นนโยบายที่ทำให้คนไทยหลุดพ้นจากความยากจนและสามารถจะเป็นคนรวยได้โดยวิธีง่ายๆ จากการเลี้ยงโค โดยให้กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้านวงเงิน 50,000 บาท นำมาซื้อโคไปเลี้ยง จะมีเงินล้านในระยะเวลาเพียง 6 ปีเท่านั้น โดยโครงการนี้ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ได้อนุมัติ วงเงิน 5,000 ล้านบาท โดยรัฐอุดหนุนดอกเบี้ยทั้งหมด 4 ปี เป็นเงิน 600 ล้านบาท ให้กองทุนหมู่บ้านนำร่องโครงการนี้ 100,000 ครอบครัว โครงการนี้ ทำแล้ว ลองแล้ว สำเร็จแล้ว พรรครวมไทยสร้างชาติจะทำต่อจะทำให้พี่น้องพบกับความร่ำรวยไม่ขายฝัน

ขณะที่ พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ประธานคณะกรรมการด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต พรรครวมไทยสร้างชาติ จะพูดถึงนโยบายพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้านสาธารณสุข จะมีการยกระดับในเมืองใหญ่ ประชากรหนาแน่น ในโครงการ หนึ่งเขต หนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงพยาบาลเอกชนที่เป็นวิสาหกิจเพื่อสังคม โดยไม่สิ้นเปลืองงบประมาณแผ่นดินในการลงทุน โครงการนี้ผู้ป่วยทุกสิทธิ์ที่รักษาพยาบาลได้ประโยชน์ โดยเฉพาะผู้ป่วยบัตรทอง สำหรับการแก้ปัญหาด้านบริการสาธารณสุข ในพื้นที่เขตชนบทอำเภอต่างๆ ในจังหวัดที่มีประชากรไม่หนาแน่น มักประสบปัญหาเรื่องขีดความสามารถทางการแพทย์ ดังนั้นการใช้วิสาหกิจเพื่อสังคมไปเติมขีดความสามารถทางการแพทย์เฉพาะสาขา แต่ละโรงพยาบาลที่ขาดแคนตามสิ่งที่เกิดขึ้นจริง จะลด อุบัติการการเสียชีวิตของผู้ป่วยในพื้นที่ชนบทได้ กรณีสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุซึ่งเกิดขึ้นแล้ว ดังนั้นการจัดตั้งเครือข่ายศูนย์ผู้สูงอายุคนพิการและกลุ่มเปราะบางทางสังคมประจำตำบลอำเภอจังหวัดยังเป็นเครือข่ายเป็นระบบสามารถปฏิบัติได้จริงอันนี้เป็นสิ่งแรกเดือนที่รวมไทยสร้างชาติจะทำ

ด้าน นายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ชี้แจงนโยบายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การให้ทุนการศึกษาเด็กยากจน ตั้งแต่ปี 2563 - 2566 วงเงิน 28,000 ล้านบาท ดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ ที่มีที่พักอาศัยไม่เหมาะสม โดยเข้าไปซ่อมแซมให้ 180,000 ครัวเรือน หาที่อยู่อาศัยให้กับผู้มีรายได้น้อย ทั้งในเมืองและต่างจังหวัดเดือนละ 999 บาท มี 13,000 ครอบครัว ตั้งเป้าทำให้ครบ 100,000 หลัง ดูแลกลุ่มเด็กแรกเกิดได้รับเงินเดือนละ 600 บาทช่วยเหลือค่านม เรามีศูนย์ช่วยเหลือสังคมประจำตำบล และชุมชนทั่วประเทศ 7092 ศูนย์ บูรณาการกันทุกกระทรวงเป็นแอพแจ้งเหตุปักหมุดหยุดเหตุเริ่มดำเนินการ 1 เมษายนและจะขยายไปทั่วประเทศที่โรงพักทั้งหมด 1,483 โรง ร่วมกับศูนย์ชุมชนอีก 7,000 แห่งประชาชนดูแลบริหารเองไม่ได้ใช้งบประมาณแม้แต่บาทเดียว ซึ่งสามารถลดความรุนแรงในครอบครัวแก้ปัญหายาเสพติดรัฐบาล
 

กระแส 'ลุงตู่' ช่วยดัน ส.ส.เขต 'รทสช.' โดดเด่น เชื่อ!! 'ทำแล้ว-ทำอยู่-ทำต่อ' ช่วยปักธงได้แน่

ในวันที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางไปช่วยหาเสียงที่จังหวัดตรัง ซึ่งมี 4 เขตเลือกตั้ง

พลันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ลงจากเครื่องบินที่สนามบินตรัง นอกจากจะมีผู้สมัครในจังหวัดตรัง เช่น สมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล จากเขต 4, อำนวย นวลทอง จากเขต 3 ไปต้อนรับแล้ว ได้มีมวลชนจำนวนมากที่ทราบข่าว เดินทางไปต้อนรับ และให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ถึงสนามบินตรังกันแน่นขนัด

หลังจากนั้นคณะของ พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีทั้งพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ, เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค, อนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยัง อ.กันตัง เพื่อช่วยหาเสียงให้กับสมบูรณ์ ซึ่งมีมวลชนจำนวนมากแห่ไปต้อนรับให้กำลังใจเช่นกัน ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ได้อธิบายถึงแนวทาง 'ทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ' ให้ประชาชนเข้าใจ

คณะ พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางต่อไปในตลาดทับเที่ยง ช่วยถนอมพงศ์ หลีกภัย หาเสียง ซึ่งต้องเสียเวลาไปมาก เนื่องจากมีผู้คนแห่ต้อนรับหน้าแน่นจนไม่มีเวลาทานข้าว เวลาล่วงมาถึงบ่ายสองถึงจะได้ทานข้าว

เสร็จจากทานข้าวเที่ยงเดินทางต่อไปยังอำเภอนาโยง เพื่อช่วย 'อำนวย นวลทอง' หาเสียง โดยก่อน พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินทางไปถึง 'อำนวย นวลทอง' ได้กล่าวปราศรัยก่อนแล้วถึงความมุ่งมั่น-ตั้งใจในการลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้

“ผมลงสมัครรับเลือกตั้ง เพื่อชัยชนะ และจะสู้ไม่มีถอย โดยตั้งใจจะเข้าไปแก้ไขปัญหา 3 อย่าง อย่างแรกคือปัญหาเรื่องการบริหารจัดการน้ำ บ้านเรามีฝนมาก เพราะอยู่ใกล้ภูเขา จึงเกิดปัญหาน้ำท่วมบ่อย แต่น้ำท่วมไม่นานก็จะเกิดปัญหาน้ำแล้งตามมา ที่ผ่านมาไม่มีใครคิดวางโครงสร้างใหญ่ในการแก้ไขปัญหาน้ำ”

อำนวย กล่าวอีกว่า อีกปัญหาที่ต้องการเข้าไปแก้คือปัญหาเอกสารสิทธิ์ที่ดินทำกิน ที่ชาวบ้านถูกครหาว่าบุกรุกอุทยานบ้าง บุกรุกทุ่งเลี้ยงสัตว์บ้าง ทั้งๆ ที่สภาพของที่ดิน ไม่มีต้นไม้ไม่มีทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์แล้ว ชาวบ้านเข้าไปอยู่อาศัยมานานแล้ว แต่ไม่มีการยกเลิกความเป็นทุ่งเลี้ยงสัตว์ และ/หรือเขตอุทยาน ชาวบ้านจึงโดนขับไล่มาโดยตลอด เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไข


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top