Saturday, 7 June 2025
ซิโนแวค

คณะที่ปรึกษา WHO แนะคนสูงวัย ใครรับ 'ซิโนแวค-ซิโนฟาร์ม' ควรฉีดเข็มกระตุ้น

คณะที่ปรึกษาด้านวัคซีนขององค์การอนามัยโลก (WHO) ออกคำแนะนำในวันจันทร์ (11 ต.ค.) บุคคลที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอควรฉีดเข็มกระตุ้นวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการอนุมัติจาก WHO นอกจากนี้แล้วยังระบุด้วยว่าผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ฉีดวัคซีนซิโนแวคและซิโนฟาร์มของจีน ก็ควรได้รับเข็มที่ 3 เพิ่มเติมเช่นกัน

อย่างไรก็ตามคณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก (Strategic Advisory Group of Experts on Immunization : SAGE) เน้นย้ำว่าพวกเขาไม่แนะนำฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชาชนทั่วไป แม้บางประเทศได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว

องค์การอนามัยโลกต้องการให้พักฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นสำหรับประชาชนทั่วไปไปจนกระทั่งสิ้นปี เพื่อเป้าหมายฉีดวัคซีนเข็มแรกแก่ประชาชนในประเทศต่างๆ หลายสิบประเทศที่ขาดแคลนวัคซีนเสียก่อน

หน่วยงานของสหประชาชาติแห่งนี้วางเป้าหมายอยากเห็นทุกประเทศทั่วโลกฉีดวัคซีนประชากรของตนเองอย่างน้อยๆ 10% ในช่วงสิ้นเดือนกันยายน อย่างไรก็ตามมีถึง 56 ประเทศที่พลาดเป้าหมายดังกล่าว ผิดกับบรรดาชาติรายได้สูง ซึ่งมีเกือบ 90% ที่ทำได้ตามเป้า

คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลกระบุว่าจะมีการทบทวนประเด็นฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นแก่บุคคลทั่วไปในวันที่ 11 กันยายน

ปัจจุบันมีวัคซีนโควิด-19 หลายตัวที่ได้รับอนุมัติจากองค์การอนามัยโลกสำหรับใช้ในกรณีฉุกเฉิน ประกอบด้วยของไฟเซอร์-ไบออนเทค จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โมเดอร์นา ซิโนฟาร์ม ซิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า เกือบทั้งหมดเป็นวัคซีน 2 เข็ม ยกเว้นของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

ขณะเดียวกันองค์การอนามัยโลกอยู่ระหว่างการพิจารณาว่าจะอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินวัคซีนของภารัต ไบโอเทค แห่งอินเดียหรือไม่

คณะที่ปรึกษายุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิคุ้มกันขององค์การอนามัยโลก ได้จัดการประชุม 4 วันเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อทบทวนข่าวสารและข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับวัคซีนโรคโควิด-19และโรคอื่นๆ

‘โจ-มณฑานี’ โพสต์!! สามกีบสายแยกแยะ ถูกลากไปให้ทัวร์ยำ หลังให้ค่าซิโนแวค

ไม่นานมานี้ คุณโจ-มณฑานี ตันติสุข นักเขียนและวิทยากรการเงิน ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก ‘Jo Montanee’ ระบุว่า…

พี่โจเคยลงคลิป “สามกีบ” (เค้าเรียกตัวเองแบบนี้) ที่รักพระเจ้าอยู่หัว…

แล้วไลฟ์ตำหนิสามกีบด้วยกันที่ทำการหยามหมิ่นสถาบันฯ

วันนี้ขอลงชมเชยน้องคนรุ่นใหม่ หลังได้ทวิตฯ ขอบคุณ ‘ซิโนแวค’ แล้วโดนเพจสามนิ้วลากไปแขวนให้ทัวร์มาลงน้อง

พี่โจเลยอยากให้กำลังใจน้องว่า…

น้องเค้าจิตใจน่ารักจังเลยค่ะ

UK ไฟเขียวรับคนฉีดซิโนแวค - ซิโนฟาร์ม เข้าปท. เปิดทางต้อนรับนักท่องเที่ยว - นักศึกษาต่างชาติ

วัคซีนโควิด-19 ของจีนและอินเดียได้รับอนุมัติจากสหราชอาณาจักรสำหรับเดินทางเข้าประเทศ เปิดทางสำหรับต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักศึกษาต่างชาติ ซึ่งฉีดวัคซีนดังกล่าวครบเข็มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

วัคซีนของซิโนแวค ไบโอเทค บริษัทสัญชาติจีน วัคซีนซิโนฟาร์ม รัฐวิสาหกิจจีน และวัคซีนของภารัต ไบโอเทค อินเตอร์เนชันแนล ลิมิเต็ด เป็นวัคซีนอีก 3 ตัวที่อยู่ในบัญชีรายชื่อที่สหราชอาณาจักรใช้สำหรับอนุญาตเดินทางเข้าประเทศ โดยต้องแสดงข้อพิสูจน์ว่าผ่านการฉีดวัคซีนครบเข็มแล้ว จากประกาศที่ออกโดยกระทรวงคมนาคม และกรมอนามัยและบริการสังคมของสหราชอาณาจักรในวันจันทร์ (22 พ.ย.)

ส่งผลให้เวลานี้วัคซีนทั้ง 7 ตัวที่ได้รับการอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินจากองค์การอนามัยโลก จะเป็นที่ยอมรับโดยสหราชอาณาจักร ในนั้นรวมถึงโควาซินของอินเดีย ซึ่งองค์การอนามัยโลกเพิ่งอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินเมื่อช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา

ความเคลื่อนไหวของสหราชอาณาจักรเกิดขึ้นตามหลังออสเตรเลีย ที่เมื่อเดือนที่แล้วเพิ่งขยายจำนวนวัคซีนที่พวกเขาให้การยอมรับ เช่นเดียวกับสหรัฐฯ ที่บอกว่าจะยอมรับวัคซีนทุกตัวที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก ครั้งที่พวกเขาเปิดชายแดนต้อนรับนักเดินทางต่างชาติเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

WHO ยัน ‘วัคซีนจีน’ มีประสิทธิภาพพอ ช่วยป้องกันการป่วยหนักจาก โอมิครอน

ผู้เชี่ยวชาญ WHO ชี้ Sinovac - Sinopharm ช่วยป้องกันการป่วยหนัก - เสียชีวิตจาก Omicron

เว็บไซต์ข่าว South China Morning Post และ The National รายงานว่าดร.อับดี มาฮามุด จากฝ่ายจัดการด้านโรคอุบัติใหม่ขององค์การอนามัยโลก (WHO) กล่าวว่า วัคซีนโควิด-19 ของ Sinopharm และ Sinovac .
สามารถป้องกันการป่วยหนักเข้าโรงพยาบาลและการเสียชีวิตจากการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้

มาฮามุด กล่าวว่า แม้ว่าโอมิครอนจะสามารถหลบเลี่ยงแอนติบอดีทำให้ผู้ที่ได้รับวัคซีนแล้วมีโอกาสติดเชื้อได้ แต่มีหลักฐานว่าวัคซีนยังคงป้องกันอาการเจ็บป่วยรุนแรง การรักษาในโรงพยาบาล และการเสียชีวิต รวมถึงวัคซีนชนิดเชื้อตายของ Sinopharm และ Sinovac

ข่าวดี! เด็กไทย 3 ขวบขึ้นไป เตรียมตัวรอฉีดวัคซีนเชื้อตายได้แล้ว

1 ก.พ. 65 - นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านบล็อก ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย ระบุว่า ข่าวดี!! เด็กไทยอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป เตรียมตัวรอฉีดวัคซีนเชื้อตายของ Sinovac ได้แล้ว รอเพียง อย. อนุมัติอย่างเป็นทางการ

จากประสิทธิผลของวัคซีนป้องกันโควิด ที่มีความชัดเจนทั่วโลกว่า สามารถลดการติดเชื้อได้ในระดับหนึ่ง ดีกว่าไม่ฉีดวัคซีนและสามารถลดการเจ็บป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้เป็นอย่างมากโดยมากกว่ากลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน 4-15 เท่าตัว จึงมีผู้ประสงค์จะฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในประเทศไทยเอง มีประชากรกว่า 70% ได้ฉีดวัคซีนไปแล้วนั้น

แต่อย่างไรก็ดี มีประชากรใหญ่อีกกลุ่มหนึ่ง ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือฉีดเป็นจำนวนน้อย เพราะมีข้อจำกัด ได้แก่ เด็กและเยาวชนที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี

โดยในปัจจุบันนี้ เด็กที่สามารถฉีดวัคซีนคือ เด็กที่อายุ 5 ขวบขึ้นไป และฉีดได้เพียงชนิดเดียวคือวัคซีนเทคโนโลยี mRNA ของ Pfizer เพราะ อย. ได้อนุมัติแล้วนั้น

แต่ยังคงมีคำถามอย่างต่อเนื่อง จากพ่อแม่ผู้ปกครองที่มีบุตรหลานอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไปว่า ถ้าไม่สบายใจที่จะฉีดวัคซีน mRNA ของ Pfizer

แต่อยากจะฉีดวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย เช่น Sinovac เนื่องจากคุ้นเคยกับวัคซีนเชื้อตายที่ฉีดในวัคซีนอื่นๆ ให้กับบุตรหลานของตนเองมาโดยตลอด จะทำอย่างไร

ขณะนี้ มีข่าวดีล่าสุดว่า คณะอนุกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ได้ประชุมกันเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 เห็นชอบในหลักการจากข้อมูลต่างๆ ที่มีการเสนอมาว่า ทางบริษัท Sinovac ได้ส่งข้อมูลให้ทาง อย. พิจารณามาระยะหนึ่งแล้ว คาดว่าจะได้รับการอนุมัติภายในระยะเวลาอันใกล้นี้

‘รอยเตอร์’ เผย ‘กองทัพสหรัฐฯ’ เปิดยุทธการลับบน ‘สื่อสังคมออนไลน์’ เพื่อป้ายสี ทำลายชื่อเสียง วัคซีนโควิดของจีน ในช่วงแพร่ระบาดโควิด-19

(16 มิ.ย.67) ยุทธการของเพนตากอน สำหรับทำลายชื่อเสียงวัคซีนจีน มีขึ้นระหว่างช่วงฤดูใบไม้ผลิปี 2020 ถึงกลางปี 2021 โดยมุ่งเน้นไปที่ฟิลิปปินส์ ก่อนขยายวงสู่พื้นที่อื่นๆ ของเอเชียและตะวันออกกลาง ตามรายงานของรอยเตอร์ที่กล่าวอ้างในบทความชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่ในวันศุกร์ (14 มิ.ย.)

เพนตากอนพึ่งพิงบัญชีปลอมบนสื่อสังคมออนไลน์ แอบอ้างตัวเป็นผู้ใช้ชาวฟิลิปปินส์ เผยแพร่คำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จว่า วัคซีนซิโนแวคของจีน เช่นเดียวกับชุดตรวจและหน้ากากอนามัยที่ผลิตโดยประเทศแห่งนี้มีคุณภาพที่ย่ำแย่

ซิโนแวค ซึ่งเริ่มต้นแจกจ่ายในเดือนมีนาคม 2021 กลายเป็นวัคซีนตัวแรกที่ชาวฟิลิปปินส์เข้าถึงได้ระหว่างโรคระบาดใหญ่

‘โควิดมาจากจีนและวัคซีนก็มาจากจีนเช่นกัน ดังนั้นอย่าไว้ใจจีน’ รูปแบบการโพสต์หนึ่ง ส่วนหนึ่งในยุทธการทำลายชื่อเสียง ภายใต้สโลแกน #ChinaAngVirus (จีนคือไวรัส) ตามรายงานของรอยเตอร์ ส่วนอีกโพสต์ที่สามารถพบเห็นได้ทั่วไป กล่าวอ้างว่า ‘ทุกอย่างที่มาจากจีน ทั้งชุดป้องกัน หน้ากาก และวัคซีน ล้วนแต่เป็นของปลอม แต่โคโรนาไวรัสนั้นเป็นของจริง’

ยิ่งไปกว่านั้น เพนตากอนพยายามสื่อสารไปยังพวกผู้ใช้ชาวมุสลิมในเอเชียและตะวันออกกลาง สืบเนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่าบางครั้งวัคซีนอาจมีส่วนผสมของเจลาตินหมู ดังนั้น วัคซีนของจีนจึงอาจเป็นสิ่งต้องห้ามภายใต้กฎหมายอิสลาม

รอยเตอร์ระบุว่า จากการตรวจสอบของพวกเขา พบว่ามีอย่างน้อย 300 บัญชีบนทวิตเตอร์ ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นเอ็กซ์ ที่มีคุณลักษณะตรงตามกับคำกล่าวอ้างของอดีตเจ้าหน้าที่กองทัพสหรัฐฯ ที่เปิดเผยเรื่องราวเกี่ยวกับยุทธการนี้แก่สื่อมวลชน

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงกลาโหมของสหรัฐฯ ยืนยันกับรอยเตอร์ว่า ยุทธการลับๆ บนสื่อสังคมออนไลน์สำหรับป้ายสีซิโนแวคนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ปฏิเสธให้รายละเอียดเพิ่มเติม

โฆษกรายหนึ่งของเพนตากอน บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า กองทัพสหรัฐฯ ใช้แพลตฟอร์มที่หลากหลาย ในนั้นรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ สกัดอิทธิพลที่มุ่งร้าย ที่เล็งเป้าเล่นงานสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู และปักกิ่งคือหนึ่งในนั้น ที่เริ่มเปิดยุทธการบิดเบือนข้อมูล กล่าวโทษอันเป็นเท็จ หาว่าสหรัฐฯ เป็นคนแพร่กระจายโควิด-19

ในปฏิกิริยาที่มีต่อรายงานของรอยเตอร์ ทางกระทรวงการต่างประเทศของจีน เน้นย้ำผ่านทางอีเมล ว่ารัฐบาลสหรัฐฯ บงการสื่อสังคมออนไลน์และเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนมานานแล้ว

‘กองทัพสหรัฐฯ’ ส่งจดหมาย สารภาพความผิดให้ ‘ฟิลิปปินส์’ ยอมรับ!! อยู่เบื้องหลังดิสเครดิต ‘วัคซีนซิโนแวค’ ของจีน

(28 ก.ค. 67) กองทัพสหรัฐฯ ยอมรับสารภาพแล้วว่า เป็นผู้ดำเนินยุทธการลับ มีเป้าหมายทำลายความน่าเชื่อถือวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวคของจีนในฟิลิปปินส์ รวมถึงทั่วเอเชียและตะวันออกกลาง ตามรายงานของรอยเตอร์

‘มันเป็นความจริงที่ (กระทรวงกลาโหม) ส่งสารถึงผู้รับฟิลิปปินส์ ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวค’ พวกเจ้าหน้าที่เพนตากอนเขียนถึงเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมฟิลิปปนส์ ในจดหมายลงวันที่ 25 มิถุนายน และทางรอยเตอร์หยิบยกมารายงานในวันศุกร์ (26 ก.ค.)
.
ในจดหมายดังกล่าว กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) ยอมรับว่าพวกเขาได้กระทำการผิดพลาดบางอย่างในด้านการส่งสารที่เกี่ยวข้องกับโควิด แต่ได้รับประกันกับมะนิลาว่า เพนตากอนได้ระงับปฏิบัติการดังกล่าวไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2021 และนับตั้งแต่นั้นยกระดับการกำกับดูแลและเพิ่มความรับผิดชอบต่อปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารต่างๆ แล้ว

ปฏิบัติการที่เป็นเรื่องเป็นราวเริ่มขึ้นในปี 2020 หลังจากจีนประกาศว่าจะแจกจ่ายวัคซีนซิโนแวคให้ฟิลิปปินส์แบบไม่คิดค่าใช้จ่าย ในความพยายามตอบโต้ผลประโยชน์ทางประชาสัมพันธ์ที่ปักกิ่งจะได้รับจากโครงการนี้ ทางเพนตากอนออกคำสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการจิตวิทยาในฟลอริดา จัดตั้งบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ปลอมขึ้นมาอย่างน้อย 300 บัญชี เพื่อใส่ร้ายป้ายสีวัคซีนจีน อ้างอิงผลการสืบสวนของรอยเตอร์ที่ออกมาแฉเมื่อเดือนที่แล้ว

โควิดมาจากจีนและวัคซีนมาจากจีน อย่าไปเชื่อใจจีน หนึ่งในรูปแบบข้อความที่สร้างโดยทีมงานปฏิบัติการทางจิตวิทยา ขณะที่อีกข้อความเน้นว่า PPE (ชุดป้องกันเชื้อโรค) หน้ากากอนามัย วัคซีน ล้วนเป็นของปลอม แต่โคโรนาไวรัสเป็นของจริง

รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเพนตากอน ยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ทหารหลายนายที่เกี่ยวข้องกับยุทธการนี้รู้ดีว่าเป้าหมายของแผนการไม่ได้ปกป้องชาวฟิลิปปินส์จากวัคซีนที่ไม่ปลอดภัย แต่เป็นการสร้างความแปดเปื้อนแก่ชื่อเสียงของจีน

รายงานของรอยเตอร์ระบุว่า ไม่นานยุทธการโฆษณาชวนเชื่อดังกล่าวก็ถูกขยายวงออกไปนอกฟิลิปปินส์ โดยผู้รับสารมุสลิมทั่วเอเชียกลางและตะวันออกกลาง ได้รับการบอกเล่าว่าวัคซีนซิโนแวคปนเปื้อนเจลลาตินหมู เพราะฉะนั้นมันจึงเป็นสิ่งฮะรอมหรือเป็นสิ่งต้อมห้ามตามกฎหมายอิสลาม ยุทธการนี้บีบให้ทางซิโนแวคเผยแพร่ถ้อยแถลงยืนยันว่าวัคซีนผลิตโดยปราศจากส่วนประกอบของหมูใดๆ

เพนตากอนไม่ยอมรับต่อสาธารณะว่าได้ส่งหนังสือยอมรับสารภาพไปยังกองทัพฟิลิปปินส์ ขณะที่รัฐบาลของสหรัฐฯ และฟิลิปปินส์ปฏิเสธแสดงความคิดเห็นต่อรายงานของรอยเตอร์

อย่างไรก็ตาม เมื่อเดือนที่แล้วโฆษกรายหนึ่งของเพนตากอนชี้แจงกับรอยเตอร์ ว่ากองทัพอเมริกา ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ในนั้นรวมถึงสื่อสังคมออนไลน์ ตอบโต้อิทธิพลมุ่งร้ายที่เล็งเป้าโจมตีสหรัฐฯ พันธมิตรและคู่หู และอ้างว่าวอชิงตีนแค่ตอบโต้ ยุทธการบิดเบือนของมูลของจีนที่กล่าวโทษอันเป็นเท็จ ว่าสหรัฐฯ เป็นผู้แพร่กระจายโควิด-19

กระทรวงการต่างประเทศของจีนบอกกับรอยเตอร์ว่า พวกเขาเน้นย้ำมานานแล้วว่า สหรัฐฯ เป็นผู้แพร่กระจายข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับจีน

ฟิลิปปินส์ รายงานของรอยเตอร์กระตุ้นให้คณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของวุฒิสภาเปิดการสืบสวน และระหว่างการพิจารณาเมื่อเดือนที่แล้ว วุฒิสมาชิกไอมี มาร์กอส ประธานคณะกรรมาธิการ ประณามยุทธการของเพนตากอนว่าเป็น ปีศาจ ชั่วร้าย อันตรายและไม่มีจริยธรรม  และแย้มว่ามะนิลากำลังตรวจสอบความเป็นไปได้ว่าจะสามารถดำเนินการทางกฎหมายกับวอชิงตันได้หรือไม่


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top