Saturday, 4 May 2024
ช้างป่า

จันทบุรี - เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบภัยช้างป่า จ.จันทบุรี ยื่นหนังสือผ่านจังหวัดจันทบุรีเพื่อให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เร่งแก้ปัญหาช้างป่า พร้อมให้รัฐบาลประกาศภัยจากช้างป่าเป็นวาระแห่งชาติ

บริเวณหน้าศาลากลาง จังหวัดจันทบุรี เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบภัยช้างป่าจังหวัดจันทบุรีนำโดย นายสุวิชาญ สุวรรณาคะ ได้เดินทางมายื่นหนังสือผ่านจังหวัดจันทบุรีไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมอ่านแถลงการณ์ให้รัฐมนตรีว่าการรับผิดชอบจากสถานการณ์ภัยช้างป่าที่มีมาอย่างต่อเนื่องยาวนานกว่า 15 ปี และในช่วง 15 วันที่ผ่านมาจังหวัดจันทบุรีมีผู้ได้รับผลกระทบจากช้างป่าทำร้ายร่างกายเสียชีวิตไปถึง 4 ราย พืชผลทางการเกษตรถูกทำลาย เกษตรกรเสียโอกาสในการสร้างรายได้จากการประกอบอาชีพรวมทั้งความหวาดกลัวหวาดผวากับการที่ต้องดำรงชีวิตอยู่บนความไม่ปลอดภัย

 

ชลบุรี - ปลื้มใจ!! สวนนงนุชพัทยา เผย “พังฟ้าใส” ลูกช้างป่าถูกบ่วง - ยิงบาดเจ็บ อาการดีขึ้นมาก

เมื่อวันที่ 22 ธ.ค.64 นายกัมพล ตันสัจจา ประธานสวนนงนุชพัทยา ได้เปิดเผยถึง ความคืบหน้าอาการ "พังฟ้าใส" ลูกช้างป่า ที่ได้รับบาดเจ็บข้อเท้าหน้าขวา ถูกบ่วงพรานป่าหนีบจนขาด และบาดแผลถูกยิงบริเวณหน้าขาซ้าย หัวกระสุนฝังใน 10 นัด จากในพื้นที่ป่าอุทยานแห่งออ ชาติเขาสิบห้าชั้น อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี ส่งมอบให้อยู่ในความดูแลรักษาของ ปางช้างสวนนงนุชพัทยา ตั้งแต่ 1 ธ.ค.64 รวมระยะเวลาแล้ว 21 วัน

คืบหน้าเรื่องนี้ โดย ทีมสัตวแพทย์ ปางช้างสวนนงนุชพัทยา ร่วมกับ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้มีการผ่าตัดชิ้นส่วนข้อเท้า ทำการใส่เฝือก เพื่อรักษาบาดแผล และผ่าตัดเอาหัวกระสุนออกทั้งหมดแล้ว ขณะนี้ อยู่ในการรักษาบาดแผล ด้วยการใช้ยาปฏิชีวนะ และทำความสะอาดบาดแผลทุกวัน เพื่อไม่ให้เกิดการติดเชื้อ พบว่า หลังการรักษา เริ่มมีผิวหนังงอกใหม่เพิ่มขึ้น ไม่พบเศษเนื้อตาย แต่พบหนองเล็กน้อย และขอบแผลด้านในเป็นเนื้อสดสีชมพู

นอกจากนี้ ได้ทำการเลเซอร์อาการอักเสบ และเร่งการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ อาจต้องใช้เวลา 2-3 เดือน ในการฟื้นฟูเนื้อเยื่อ และหากหายจากอาการบาดเจ็บ ก็จะทำการธาราบำบัด (ด้วยน้ำ) เพื่อให้ช้างสามารถใช้ชีวิต เดินได้อย่างเป็นปกติ เต็มกำลังความสามารถ

ส่วนด้านสภาพจิตใจ และการตอบสนองโดยรวม “พังฟ้าใส” ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ดิ้น ไม่ร้อง ไม่งอแง และยังมีอารมณ์ร่าเริง ดื่มนมเก่งวันละ 14 - 17 ลิตร อีกทั้ง ได้มีการเปลี่ยนเฝือกรองเท้าตามสีประจำวัน จนทำให้น้องช้างดูสดใส อีกด้วย

สุดเศร้า! "คุณปู่ป่าละอู" ช้างป่าแก่งกระจาน ล้มแล้วจากพิษกระสุนปืน หลัง 'หมอล็อต' ระดมทีมสัตวแพทย์ช่วยยื้อชีวิตนาน 2 สัปดาห์ พร้อมเร่งหาตัวคนใจโหดยิงช้างนับร้อยนัด!!

พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จ.เพชรบุรี เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นายอำเภอแก่งกระจาน ทีมสัตวแพทย์ เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดกรณีช้างพลายงาด้วนชื่อ “คุณปู่ป่าละอู” อายุ 60 ปี หนักกว่า 5 ตัน ได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลบริเวณลำตัวหลายจุดจากการต่อสู้และถูกยิงหลายแห่ง หลังจากทีมสัตวแพทย์ได้เข้าช่วยเหลือรักษาอาการนานกว่า 2 สัปดาห์ “คุณปู่ป่าละอู”ได้เสียชีวิตลงบริเวณอ่างเก็บน้ำกระหร่าง 3 หมู่ 3 ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา จากการตรวจบาดแผลนอกเหนือบาดแผลจากการต่อสู้กับช้างด้วยกันแล้ว พบบาดแผลถูกยิงด้วยปืนลูกซอง ปืนขนาด .38 และปืนขนาด.22 ถึง 186 นัด ฝังอยู่บริเวณผิวหนังก่อนทางอุทยานฯได้แจ้งความไว้เพื่อหาตัวคนยิง

“ช้างตัวดังกล่าวเป็นช้างที่มีอายุมากแล้วไม่สามารถเข้าฝูงกับช้างหนุ่มได้ จึงถูกช้างงาไล่แทงขับออกจากฝูงและออกมาหากินพืชผลของชาวบ้านในชุมชน ก่อนถูกชาวไร่ใช้ปืนยิงขับไล่ ซึ่งบาดแผลจากถูกกระสุนปืนบางนัดทำให้เกิดอักเสบ บวกกับบาดแผลที่ชนกันเองติดเชื้อเป็นหนองรุนแรงจนเสียชีวิต จากการตรวจสอบกระสุนปืนฝังที่ตัวช้างมาหลายปีแล้วอีกทั้งแก่งกระจานก็มีพื้นที่กว้างใหญ่ครอบคลุมหลายอำเภอทั้งเพชรบุรี-ประจวบฯ ขณะนี้ได้มอบกระสุนทั้งหมดให้ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัด(พฐ.)เพชรบุรี นำไปตรวจเปรียบเทียบหาอาวุธปืนว่าใครเป็นผู้ครอบครองเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป” 

นทท. ขับกระบะเร่งเครื่องยนต์ใส่ 'ช้างป่า' แถมเปิดประตูถ่ายรูป เมินคำเตือน นทท. คนอื่น

ผู้สื่อข่าว จ.นครนายก รายงานว่า มีการเผยแพร่คลิปวิดีโอ ที่นักท่องเที่ยวสามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ระทึก ขณะขับรถอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยช้างป่ากำลังหาอาหารกินอยู่ริมถนน มีรถกระบะได้ขับเข้าไปใกล้ช้างป่า และพยายามขับฝ่า จนช้างวิ่งเข้าใส่รถ ก่อนที่รถกระบะจะเร่งเครื่องควันดำโขม่งลักษณะท้าทาย ก่อนจะเปิดประตูรถ พร้อมหยิบมือถือขึ้นมาบันทึกภาพช้างในระยะใกล้

จากการสอบถาม นักท่องเที่ยว เล่าว่า เห็นช้างป่าเดินอยู่บนถนน จึงพากันจอดรถเพื่อรักษาระยะห่างประมาณ 200 เมตร จู่ ๆ รถกระบะขับเข้ามา และพยายามฝ่าวงเข้าไป โดยไม่สนคำเตือนของนักท่องเที่ยวด้วยกัน และพูดทิ้งท้ายว่า "ช้างหรอ เอ้าลุยสิ !!" และขับรถฝ่าผ่านช้างไป จากนั้นก็จอดรถ เบิ้ลเครื่อง และเปิดประตูดูช้างด้วยท่าทางท้าทาย และถ่ายรูป

‘หน.อุทยานฯ เขาใหญ่’ แจงดรามา กลุ่มคนวิ่งไล่ตามถ่ายภาพช้างป่า เตือน!! อย่าหาทำ เพราะเป็นช่วงฤดูตกมัน หวั่นเกิดอันตรายกับ นทท.

หลังมีดรามา ตามถ่ายภาพช้างป่าเขาใหญ่ 3 ตัว ชื่อแม่ด้วน ช้างแม่ลูกอ่อน ‘น้องจิ๊ดริด’ และพี่สาวชื่อไพริน ออกมาหากินริมถนน ระหว่า กม.37-38 ถนนที่ทำการไปเหวนรก บนอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขณะเจ้าหน้าที่กำลังดูแลและเพื่อต้อนช้างป่าอยู่นั้น มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก จอดรถลงไปเดินตามช้างถ่ายภาพ ดูแล้วอาจจะเกิดอันตรายหากช้างมีอาการหงุดหงิด และบางคนวิ่งตามถ่ายภาพ เห็นภาพแล้วหลายคนบอกเป็นการไปรบกวนช้างป่าหรือไม่

ล่าสุดวันที่ 15 ต.ค. 66 นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า หลังจากมีการเผยแพร่ภาพทางโลกโซเชี่ยล หลายคนก็โทรมาสอบถาม และได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ ที่ดูแลในเวลานั้นว่า เหตุการณ์จริงช่างภาพ กับช้างอยู่ห่างกันไกลพอสมควร ประมาณ 50 เมตร แต่มุมภาพจะดูว่าอยู่ใกล้ช้าง

แต่ถึงอย่างไรก็ไม่ควรให้นักท่องเที่ยวหรือช่างภาพลงมาเดินถ่ายภาพ อาจจะเกิดอันตรายหากมีช้างตัวอื่น ๆ ที่หลบอยู่ในป่าข้างทางวิ่งออกมาทำร้ายได้ เนื่องจากช่วงนี้เป็นฤดูช้างตกมัน และพื้นที่ก็เป็นบ้านของสัตว์ป่า และได้กำชับเจ้าหน้าที่ให้เข้มงวดมากกว่านี้ ถ้าเป็นไปได้ อย่าหาทำ

ซึ่งก็ขอฝากนักท่องเที่ยวขึ้นไปท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบ 4 ม.คือ 1.) ไม่ขับรถเร็ว 2.) ไม่ส่งเสียงดังรบกวน 3.) ไม่ให้อาหารสัตว์ป่า 4.) ไม่ทิ้งขยะ และห้ามนำสัตว์เลี้ยงขึ้นไปไม่กดแตรรถ ไม่ดับเครื่องยนต์ และอย่าเข้าใกล้สัตว์ป่าอยู่ห่างอย่างน้อย 50 เมตร เพื่อความปลอดภัย

'พล.ต.อ. พัชรวาท' สั่งการกรมอุทยานฯ เร่งช่วยเหลือเหตุช้างป่าเขาอ่างฤาไนทำร้ายเจ้าหน้าที่เสียชีวิตพร้อมถอดบทเรียนไม่ให้เกิดซ้ำ

(1 พ.ย. 2566) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยว่าจากเหตุการณ์นายจงรัก จงศรี เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า ปฏิบัติงานประจำ ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ที่ถูกช้างป่าทำร้ายจนเสียชีวิต ขณะปฏิบัติหน้าที่ผลักดันช้างป่า เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมานั้น ซึ่งตนได้รายงานให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทราบแล้ว

โดยพล.ต.อ.พัชรวาทฯ ภายหลังจากได้รับรายงานการเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ก็ได้แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียชีวิต และแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่เสียสละทั้งแรงกายแรงใจในการเข้าไปปฏิบัติหน้าที่เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ทั้งนี้ สำหรับผู้เสียชีวิตได้นำศพไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดด่านชัยพัฒนา ตำบลทุ่งมหาเจริญ อำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว ซึ่งพล.ต.อ.พัชรวาทฯ ได้มอบหมายให้นายอรรถพลฯ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติฯ เดินทางไปเป็นประธานในงานฌาปนกิจเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต พร้อมกับนำความห่วงใยไปยังครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ เร่งดำเนินการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตตามสิทธิและสวัสดิการที่จะได้รับ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทุนสวัสดิการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กองทุนเพื่อผู้พิทักษ์ป่า มูลนิธิสืบ นาคะเสถียร มูลนิธิผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล สมาคมอุทยานแห่งชาติ และมูลนิธิต่าง ๆ ที่มีวัตถุประสงค์สงเคราะห์ช่วยเหลือผู้พิทักษ์ป่าในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้รับการเยียวยาและประโยชน์สูงสุด

นายอรรถพลฯ กล่าวต่อว่า เบื้องต้นกรมอุทยานแห่งชาติฯ โดยสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 50,000 บาท เครือข่ายอนุรักษ์ในพื้นที่ จำนวน 60,000 บาท ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว จำนวน 20,000 บาท โดยในวันพรุ่งนี้ ( 2 พ.ย. 66) ตนจะเดินทางไปเป็นประธานในพิธีฌาปนกิจเจ้าหน้าที่ผู้เสียชีวิต ตามที่ได้รับมอบหมายจากพล.ต.อ.พัชรวาทฯ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งนำเงินจำนวน 700,000 บาท ซึ่งประกอบด้วยเงินอนุรักษ์สัตว์ป่า จำนวน 500,000 บาท เงินสวัสดิการกรมอุทยานแห่งชาติฯ จำนวน 100,000 บาท และเงินจากกองทุนผู้พิทักษ์ป่าและรักษาทะเล จำนวน 100,000 บาท ไปมอบให้โดยตรง อย่างไรก็ตามต่อกรณีที่เกิดขึ้น ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานด้วยความรอบคอบไม่ประมาท อีกทั้งได้สั่งการให้มีการถอดบทเรียนสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตของเจ้าหน้าที่ ต่อไปในอนาคต

พล.ต.อ พัชรวาท สั่งผู้ช่วย รมว.ทส. ลงพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ด่วนเร่งช่วยเหลือ ประชาชนจากโขลงช้างป่าร้อยตัว สั่งตั้งวอร์รูมระดมกำลัง 200 คน ร่วมกับอาสาสมัครชุมชน 50 คน ผลักดันเข้าป่าให้ได้

จากกรณีที่มีเหตุการณ์ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กว่า 100 ตัว ออกนอกพื้นที่ป่าอนุรักษ์ เข้ามาในพื้นที่ทำกินของชาวบ้านซึ่งเป็นไร่อ้อย บริเวณหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 11 ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้รอ.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วยนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง  รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมกับนายเผด็จ  ลายทอง ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า นายธานนท์ โสภิตชา ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 นายก้องเกียรติ  เต็มตำนาน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 นายสมเกียรติ สุสัณพูลทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดปราจีนบุรี ร่วมกันลงพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี และเข้าร่วมประชุมที่องค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี เพื่อรับทราบข้อมูลจากหน่วยงานและชุมชนในพื้นที่ ประกอบด้วย นางสาวภัทริน ภู่มณี นายกองค์การบริการส่วนตำบลวังท่าช้าง นายธนุวัฒน์ เมืองจันทร์  ปลัดอำเภอกบินทร์บุรี นายวัชรธรรม พรมสามสี กำนันตำบลท่าช้าง และนายแอ็ด ตะเภาพงษ์ ตัวแทนราษฎรผู้ได้รับผลกระทบ ที่ประชุมได้ร่วมกันวางแผนเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหาที่เกิดขึ้น รอ.รชฎฯได้ให้กำลังใจชุมชนและเจ้าหน้าที่ ในการแก้ไขปัญหาและผลักดันช้างป่าให้กลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ผลการร่วมประชุมหารือ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ให้จัดตั้งศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ เพื่ออำนวยการแก้ไขปัญหาและกำหนดมาตรการในการผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน โดยเป็นการบูรณาการสนธิกำลังร่วมกัน ระหว่างหน่วยงานของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดปราจีนบุรี และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น

โดยใช้ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้าง เป็นสถานที่ตั้งศูนย์บัญชาการ มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 เป็นผู้บัญชาการ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า  เป็นหัวหน้าคณะทำงาน โดยสนธิกำลังเจ้าหน้าที่จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) จำนวน 100 คน สำนักบริหารที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) จำนวน 100 คน และจังหวัดปราจีนบุรี อำเภอกบินทร์บุรี องค์การบริหารส่วนตำบลเขาไม้แก้ว และองค์การบริหารส่วนตำบลวังท่าช้างจำนวน  50 คน รวมทั้งสิ้น 250 คน ในการจัดตั้งชุดปฏิบัติการเพื่อดำเนินการเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ให้กลับคืนสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป โดยให้มีการรายงานผลเป็นประจำทุกวัน ออกปฏิบัติงานในทันทีอย่างต่อเนื่องจนกว่าภารกิจจะสำเร็จ


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top