Thursday, 16 May 2024
ช่อง3

‘เชอรี่ เข็มอัปสร’ ปลุกไฟการแสดงในรอบ 8 ปี รับบทหมอผ่าตัดหัวใจ ในละคร ‘ลมเล่นไฟ’

(24 ก.ค. 66) ที่ช่อง3 ‘เชอรี่ เข็มอัปสร สิริสุขะ’ นางเอกชื่อดัง ให้สัมภาษณ์หลังมาร่วมงานบวงสรวงละคร ลมเล่นไฟ ถึงเรื่องที่ตัดสินใจกลับมาเล่นละครในรอบ 8 ปี ปลุกไฟตัวเองเหมือนเป็นนักแสดงหน้าใหม่ พร้อมเผยเคล็ดลับหน้าไม่เปลี่ยน

>>เหตุผลที่กลับมารับละครในรอบ 8 ปี? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ทุกอย่างมันลงตัวค่ะ เราไม่เคยแพลนเลยว่าจะกลับมาเล่นละคร ที่ผ่านมาก็มีคนส่งบทมาให้อ่าน แล้วก็รู้สึกมั่นใจเลยว่ากระทิง (เลือดมังกร) น่าจะเป็นเรื่องสุดท้ายแน่ๆ คิดอย่างนั้นมาตลอด จนพอพี่นก (จริยา) ส่งบทเรื่องลมเล่นไฟมา ซึ่งพี่นกโทรมาด้วยความเกรงใจว่ายังไงเราก็ไม่น่าจะรับหรอก แต่ว่าอยากให้ลองอ่านก่อน แล้วพออ่านแล้วชอบตัวบท อยากเล่นเป็นหมอเพราะไม่เคยเล่นเป็นหมอผ่าตัดหัวใจด้วย แล้วเรื่องครอบครัวแบบนี้ก็ไม่เคยเล่น เลยรู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่ดีเรื่องหนึ่ง”

>>ย้อนไปตอนที่รู้สึกว่าไม่อยากเล่นละคร เป็นเพราะอะไร? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ไม่รู้เลยค่ะ มันแค่อ่านบทแล้วไม่รู้สึกอยากเล่น ตั้งแต่ท้ายๆ ที่รับงานมาจะมาจากการที่อ่านบทแล้วเห็นตัวเองและอยากเล่น แต่มันไม่เห็นเลย ซึ่ง 8 ปีที่ผ่านมาก็ปฏิเสธไปหลายเรื่อง บวกกับมีงานที่เราไปเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมด้วยแล้วเราก็อินมาก กลายเป็นไฟในใจในด้านนั้นไปซะเยอะ พอมันไม่มีไฟด้านการแสดงที่มาคอยเติมเลยแบบมองว่าทางโน้นมันสนุกอยู่”

>>ปลุกไฟตัวเองยังไงให้กลับมาอีกครั้ง? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “อ่านบทค่ะ ต้องขอบคุณเรื่องลมเล่นไฟจริงๆ ไม่ใช่แค่ตัวบทที่เราเล่น แต่ชอบตัวละครรายล้อมทุกตัวเลย มันไม่ค่อยเหมือนเรื่องครอบครัว ความแตกแยก เมียหลวงเมียน้อยอันอื่นๆ ที่เป็นเพราะผู้ชายเจ้าชู้ แต่เรื่องนี้เราเป็นครอบครับที่แข็งแรง แต่อะไรที่มันทำให้เกิดปัญหาขึ้นได้”

>>ลงสนามจริงต้องเคาะสนิมเยอะไหม? 
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ตอนแรกกลัวมากในการกลับมาเล่น (หัวเราะ) เลยขอเวิร์กช็อปและทำการบ้านของตัวเอง ทั้งในแง่ของการเป็นหมอผ่าตัดและในการเล่นละคร แล้วพอเราทำการบ้านเยอะจนถึงวันเปิดกล้อง ปรากฏว่าซีนแรกๆ ที่เขาให้เราเล่นคือดรามาขีดสุดเลย เราก็แบบทำไมรีบปิดโลเคชันเหรอ (หัวเราะ) วันสองวันแรกที่มาถ่ายคือไปถึงตอน 8 แล้ว รีบเหรอคะ ไม่ให้เวลาในการอุ่นเครื่องเหรอคะ แต่ข้อดีคือพอมันยากไปขีดสุดแล้ว มันคลายความกังวลและกำแพงทั้งหลายของเราไปหมดเลย ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเยอะ”

>>บรรยากาศในกองถ่ายเปลี่ยนไปไหมจาก 8 ปีที่แล้ว?
เชอรี่ เข็มอัปสร: “เปลี่ยนค่ะ ความเฟรชของตัวเราในการที่เราเล่นตอนนั้น พอเราหยุดไปแล้วกลับมาเล่นเรารู้สึกว่าเราคือนักแสดงหน้าใหม่ท่านหนึ่ง (หัวเราะ) ตั้งใจในทุกรายละเอียดไปหมดเลย แต่ตัวเองก็ยังคิดว่านี่ก็อาจจะเป็นเรื่องสุดท้ายก็ได้ มันก็เลยเป็นความพยายามที่เราจะทำงานเต็มที่ที่สุดและมีความสุขในทุกๆ วัน (แล้วจะรับละครเรื่องใหม่ต่อเลยไหม?) ไม่รู้เลย ถ้าอ่านบทแล้วเจออีกเมื่อไหร่ก็คือเมื่อนั้นค่ะ”

>>8 ปีที่หายจากละครไป สิ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยคือหน้าเหมือนสตัฟฟ์ไว้?
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ขอบคุณค่ะ (ยิ้ม) ยอมรับว่าเขินพอคนชมแบบนี้ แต่เราก็ดูแลตัวเอง ดูแลนี่หมายถึงทุกอย่างรวมกัน ทั้งภายใน ทั้งอาหารการกิน การพักผ่อน หรือการทรีตเมนต์เสริมความงาม แล้วเราก็เน้นเรื่องของความเป็นธรรมชาติ ทำยังไงให้เราประคองให้ได้แบบสมวัย ไม่อยากจะศัลยกรรม”

>>เคยไปจิ้มๆ บ้างไหม?
เชอรี่ เข็มอัปสร: “ถ้าเป็นทรีตเมนต์ เลเซอร์อะไรอย่างนี้ปกติค่ะ (มีแพลนอยากทำศัลยกรรมบ้างไหม?) ถ้าเป็นสมัยเด็กเลยจะแอนตี้เรื่องศัลยกรรม แต่พอมา ณ วันนี้อาจจะต้องหาข้อมูลอะไรบ้างเผื่อไว้ (หัวเราะ) แต่ก็อยากให้เป็นอนาคตอันไกลที่สุด (โบทอกซ์ล่ะ?) อันนี้ทำได้ จริงๆ จิ้มหางตานิดๆ หน่อยๆ ก็ทำเพราะว่าเป็นคนตาโต ซึ่งถ้าฉีดมันจะเห็นชัดมาก เพราะฉะนั้นเราไม่ชอบอะไรที่มันดูไม่ธรรมชาติอ่ะค่ะ”

‘แจ็คกี้’ ตัดสินใจไม่ต่อสัญญาช่อง 3 หลังอยู่มานาน 14 ปี พร้อมขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคน ที่ให้โอกาสเป็นตัวเองในวันนี้

(20 ส.ค. 66) เรียกว่าถูกพูดถึงบนหน้าโซเชียลอยู่เสมอ สำหรับนักแสดงสาวอารมณ์ดี ‘แจ็คกี้ ชาเคอลีน มึ้นช์’ หรือที่หลายคนตั้งฉายาว่า ‘แม่น้องบอง’ แฟนละครช่องน้อยสีต่างคุ้นหน้าคุ้นตาเธอเป็นอย่างดี เพราะตลอดระยะเวลา 10 กว่าปีมานี้ เธอมีผลงานละครออกมาให้ชม 20 กว่าเรื่องเลยทีเดียว แม้ว่าจะโด่งดังถึงขีดสุดในช่วงที่คนเรียกว่า แม่น้องบอง แฟนๆ ก็ยังหมั่นถามถึงผลงานละครของเจ้าตัวอยู่ตลอด

ล่าสุด ‘แจ็คกี้’ ได้ทำคลิปพาทัวร์ตึกมาลีนนท์ ในรายการ Lady Jackie EP122 พร้อมเปิดใจครั้งแรก ประเด็นที่ตนตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับช่อง 3 หลังจากอยู่บ้านหลังนี้มานานกว่า 14 ปี “วันนี้มีความลับมาบอก ใจหาย เพราะตามกระดาษคือหมดสัญญากับช่องแล้ว ตลอดระยะเวลา 14 ปีที่อยู่กับที่นี่มา ทางช่องให้อะไรเราหลายๆ อย่าง เลยตัดสินใจมาถ่ายเพื่อเป็นการปัจฉิม ระลึกถึง และขอบคุณ ตั้งใจนำพวงมาลัยมาไหว้เจ้าที่และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

ไม่ได้มาเป็นครั้งสุดท้ายนะ เรายังมีงานร่วมกัน ยังไปอ่านข่าว ยังมีละครอย่างต่อเนื่อง แค่รู้สึกหวิว เหมือนเราอยู่ด้วยสัญญากระดาษตลอด พอไม่มีก็เหมือนแอบไม่มีอะไรผูกมัด เอาจริงๆ อีพีนี้ยากที่สุด เจตนาทำคลิปนี้คืออยากมีความทรงจำเก็บไว้ในยูทูบของตัวเอง อยู่มา 14 ปีก็เหมือนบ้านของเราแล้ว พอออกมาก็ยังรู้สึกติดบ้านหลังนี้อยู่ ทำคลิปให้กลับมาดูว่าเราเกิดจากบ้านหลังนี้นะ

ครั้งแรกที่เข้ามาจาก อาปิ่น ณัฏฐนันท์ ค่ายทีวีซีนในเครือช่อง 3 เราก็จะมีความผูกพันกับช่อง ทุกครั้งที่ถ่ายละคร มีการโปรโมตต่างๆ ก็ต้องมาที่ช่องนี้ มันก็เป็นการตัดสินใจที่ยากและลำบาก ขอบคุณผู้ใหญ่ทางช่องที่ดูแลเราดีมาตลอด จนถึงวันนี้ที่เราตัดสินใจกันว่าจะไม่ต่อสัญญา เขาก็น่ารักกับเรามาก เราตัดสินใจและพยายามร่วมกันอย่างดีที่สุด เมื่อผลออกมาแบบนี้ก็ต้องยอมรับ ไม่ใช่ว่าออกมาคนเดียว แล้วผู้ใหญ่ไม่ได้ช่วยอะไรเลย พี่ๆ หลายคนทำให้ฉันโตมาเป็นฉัน สอนฉันทุกเรื่อง และขอบคุณพี่ๆ พนักงานทุกคน เราอยู่กันแบบครอบครัวจริงๆ ขอบคุณทุกคนจากใจจริงค่ะ”

‘เก๋ไก๋’ เซ็นสัญญาช่อง 3 ขึ้นแท่นนางเอกน้องใหม่ เตรียมประกบคู่ ‘กองทัพ พีค’ ในละคร ‘ก็รักมันปักใจ’

​ปังสุดๆ สำหรับ ยูทูบเบอร์สาวชื่อดัง ‘เก๋ไก๋ สไลเดอร์’ หรือ เก๋ไก๋ ณัฐธิชา นามวงษ์ ที่ก่อนหน้านี้มีผลงานทั้งซีรีส์ และเป็นนางเอกภาพยนตร์มาแล้ว ที่ล่าสุดจับปากกาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 3 เป็นที่เรียบร้อย ขึ้นแท่นเป็นนางเอกป้ายแดงของค่าย ชลลัมพีบราเธอร์ ประกบคู่ครั้งแรกกับพระเอกหนุ่ม กองทัพ พีค ในผลงานละครที่มีชื่อว่า ‘ก็รักมันปักใจ’ โดย เก๋ไก๋ ได้เผยถึงความรู้สึกว่า

“รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ ค่ะ ปกติทุกคนจะเห็นเราในช่องยูทูบ แต่ตอนนี้เราจะมาอยู่บนทีวีแล้ว ทุกคนอาจจะเคยเห็นเก๋ไก๋ผ่านงานภาพยนตร์ ซีรีส์มาบ้าง จริง ๆ เราก็ไม่คิดว่าเราจะเข้ามาอยู่ที่ช่อง 3 ซึ่งเป็นช่องที่เราดูมาตั้งแต่เด็ก ๆ เราตื่นเต้นมากไม่รู้ว่าการเป็นเด็กช่องเขาต้องทำยังไง เขาต้องเล่นละคร เขาต้องทำอะไรยังไงบ้าง ต้องเรียนแอคติ้งเพิ่มอีกไหม ต้องไปฝึกอะไรเพิ่มบ้าง ซึ่งตอนนี้รู้แล้วว่าเราต้องเตรียมตัวเป็นนักแสดงยังไง ก็เริ่มจากเรียนการแสดงเพิ่มเติมอันดับแรกเลยค่ะ”

และเมื่อถามว่ามีบทบาทตัวละครแนวไหนที่อยากเล่น เธอก็รีบตอบทันทีว่า “ได้หมดเลยค่ะ ปกติเราชอบแนวตลกคอมเมดี้ ก็อยากลองเล่นบทบาทที่เป็นตัวเราดูค่ะ ยังไงก็ฝากเนื้อฝากตัวกับแฟน ๆ ช่อง 3 ด้วยนะคะ และฝากติดตามผลงานของเก๋ไก๋ในบทบาทนักแสดงช่อง 3 ครั้งแรกด้วยค่ะ”

ช่อง 3 นำนักแสดงร่วมงานแถลงข่าว “24 กันยายน “วันมหิดล” ศิลปินรวมใจช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช” น้อมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย” และร่วมกัน “ให้” ชีวิตใหม่แก่ผู้ด้อยโอกาส รพ.ศิริราช

ศ.นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ในฐานะรองประธานกรรมการจัดงานหารายได้  และประธานกรรมการฝ่ายจัดรายการโทรทัศน์ประจำปี 2566   เป็นประธานเปิดงานแถลงข่าว “24 กันยายน “วันมหิดล” ศิลปินรวมใจช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช” ร่วมกับ ศ.คลินิก นพ.วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ในฐานะประธานกรรมการขอรับบริจาคเนื่องในวันมหิดล รศ. พญ.นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์ ในฐานะคณะกรรมการจัดงานหารายได้เนื่องในวันมหิดล คุณลาวัลย์ กันชาติ ประธานกรรมการ บริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด คุณบงกช อักษรดี ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตรายการ สถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก คุณชาคริต ดิเรกวัฒนชัย รองกรรมการผู้อำนวยการสำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) คุณวรวรรณ ติณสูลานนท์ ผู้จัดการบริหารประชาสัมพันธ์ สำนักกิจการและสื่อสารองค์กร บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด พร้อมสองนักแสดงจากช่อง 3 พทริเซีย-ธัญชนก กู๊ด จากละคร เกมรักทรยศและน้ำหวาน-ภูริต า สุปินชุมภู จากละคร สืบลับหมอระบาด  คุณสมพันธ์ จารุมิลินท รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู วิชั่นส์ กรุ๊ป จำกัด คุณณฐนนท์ ดนัยพิริยะ ผู้อำนวยการฝ่ายออกอากาศ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด(มหาชน)  คุณพลพล พลกองเส็ง ผู้แทนจากบริษัท จีเอ็มเอ็ม  แกรมมี่ จำกัด  (มหาชน) คุณรงวไล หมื่นสวัสดิ์ ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ทีวี ธันเดอร์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมงาน

วันที่ 24 กันยายนของทุกปี ถือเป็นวันมหิดล และเป็นวันคล้ายวันสวรรคตของสมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก หรือพระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันของไทย โดยตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ ทรงทุ่มเทพระวรกาย พระสติปัญญา และพระราชทานพระราชทรัพย์ ในการวางรากฐานพัฒนาการแพทย์และสาธารณสุขไทยให้เจริญก้าวหน้า เพื่อให้พสกนิกรไทยได้รับการรักษาอย่างทั่วถึง โดยไม่เลือกยากดีมีจน ทรงอุทิศพระองค์เป็นแบบอย่างในการ “ให้” อย่างแท้จริง

ในทุกปีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ถือวันมหิดลเป็นประเพณีปฏิบัติในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ น้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาศิริราชให้เจริญก้าวหน้ามาถึงปัจจุบัน พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมเป็นผู้ให้ ด้วยการบริจาคเงินตามรอยพระบาทช่วยผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช โดยคณะฯ ได้รับพระกรุณาธิคุณจากศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ทรงเป็นประธานจัดงานหารายได้ เนื่องในวันมหิดลเสมอมา นับเป็นพระกรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่คณะกรรมการจัดงาน และผู้ป่วยของ รพ.ศิริราช

กิจกรรมการรับบริจาคเงินพร้อมมอบธงวันมหิดลเป็นที่ระลึก ทำต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ 2503 จนถึงปัจจุบัน ถือเป็นปีที่ 63 โดยตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 เป็นต้นมา นักศึกษาวิทยาเขตบางกอกน้อยได้ขอรับบริจาค ตามสถานที่ต่าง ๆ ในปีนี้ คณะฯ กำหนดวันศุกร์ที่ 22 กันยายน 2566 เป็นวันขอรับบริจาคครั้งใหญ่ ทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล และพิเศษสุดกับการเดินสายขอรับบริจาคที่อาคารมาลีนนท์ ร่วมกับศิลปิน นักแสดง ที่กรุณาสละเวลามาช่วยรับบริจาค นำเงินช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาส รพ.ศิริราช โดยผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมบริจาคตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไป จะได้รับธงแขวนเป็นที่ระลึกและตั้งแต่ 300 บาทขึ้นไป จะได้รับธงพร้อมเสาเป็นที่ระลึก สำหรับธงในปีนี้จะเป็นรูปสามเหลี่ยมสีแดง เนื่องจากวันที่ 24 กันยายน ตรงกับวันอาทิตย์ พร้อมสกรีนพระรูปสมเด็จพระบรมราชชนกประทับพระเก้าอี้อยู่กลางผืนผ้า และข้อความ “ที่ระลึกวันมหิดล วันที่ ๒๔ กันยายน โรงพยาบาลศิริราช ๒๕๖๖”

อีกหนึ่งกิจกรรม นั่นคือ การจัดรายการพิเศษเนื่องในวันมหิดล ปี 2566 ภายใต้แนวคิดศิริราชกับคุณภาพชีวิตผู้พิการในประเทศไทย เนื่องจากสถานการณ์ของผู้พิการในแต่ละปียังคงมีความน่าเป็นห่วงซึ่งมีมากกว่า 2 ล้านคน แบ่งเป็นผู้พิการทางการเคลื่อนไหวมากถึง 50% หรือประมาณ 1 ล้านคน ต่างรอคอยการเข้าถึงกายอุปกรณ์ที่เหมาะสม แต่ทุกวันนี้โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร มีกำลังการผลิตอุปกรณ์เพียง 4,000 ชิ้นต่อปีเท่านั้น ในการนี้ ศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี พระราชทานสัมภาษณ์ประเด็น “คุณภาพชีวิตผู้พิการในประเทศไทย” ตลอดจนพระราชทานคำแนะนำการดูแลใจและกายไปยังพสกนิกรที่ในครอบครัวมีผู้พิการหรือทุพพลภาพ นอกจากนี้ ในรายการพิเศษเนื่องในวันมหิดลปีนี้ ยังมีสาระความบันเทิงที่หลากหลายเกี่ยวกับผู้พิการทางการเคลื่อนไหว อาทิ รายการเจาะใจ ตอนพิเศษ ประเด็น “ศิริราชกับกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ และผู้มีความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว” ร่วมสัมภาษณ์ ศ. นพ.อภิชาติ อัศวมงคลกุล คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล และ รศ. พญ.กุลภา ศรีสวัสดิ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร และ VTR สุด Exclusive ส่งต่อเรื่องราวดีๆ พลิกชีวิตจากผู้ที่มีความบกพร่อง เปลี่ยนสู่ผู้ที่มีร่างกายสมบูรณ์ พร้อมส่งต่อรอยยิ้มอันแสนสุขที่มาจากหัวใจ

นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจาก อาจารย์ธนธัช จรัสรุ่งโอฬาร รองผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร โรงเรียนกายอุปกรณ์สิรินธร พาเปิดบ้านเยี่ยมชมภารกิจการผลิตนักกายอุปกรณ์และนวัตกรรรมที่มีส่วนช่วยในการเพิ่มคุณภาพชีวิตของผู้พิการ โดยผู้ที่มีข้อสงสัยหรือสนใจปรึกษาปัญหาสุขภาพเพิ่มเติมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ติดต่อได้ที่หมายเลข 02 270 2555 จำนวน 20 คู่สาย และในปีนี้ได้รับเกียรติจากคุณสัญญา คุณากร (ดู๋) พ.ท.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข (ทิพย์) คุณสุวิกรม อัมระนันทน์ (เปอร์) คุณอรชพร ชลาดล (มิ้นท์) และ นศพ.อิทธิพัฒน์ อารยะการกุล (พีท) ร่วมเป็นพิธีกร

สามารถรับชมและร่วมบริจาคผ่านหมายเลข 02 270 2222 จำนวน 60 คู่สาย ในวันเสาร์ที่ 16 กันยายนนี้ เวลา 16.00 – 18.00 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบก (ททบ. 5) และรับชมได้พร้อมกันทางสถานีโทรทัศน์ไทยรัฐทีวี (ช่อง 32) และทางสถานีโทรทัศน์ TNN 2 (True Visions ช่อง 784) ตลอดจนถ่ายทอดสดผ่านทาง Page Facebook sirirajpr, TV5HD Online, TNN2 True Vision784 และช่องทาง Youtube TNN2 True Vision784 รวมถึงรับชมออนไลน์ผ่านทาง TrueID Application TNN2 True Vision784 และ TrueID TV Box TNN2 True Vision784 อีกช่องทาง

'สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์' ลาออกจากช่อง 3 เผย!! มีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน 2566

(6 พ.ย. 66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท บีอีซีเวิลด์ จำกัด (มหาชน) โดย นายพิริยติส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักการเงินและบัญชี ได้มีหนังสือแจ้งการลาออกจากตำแหน่งของ นายสุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์ กรรมการและผู้บริหาร ของบริษัทฯ โดยระบุว่า นายสุรินทร์ ได้แจ้งความประสงค์ขอลาออกจากการเป็นกรรมการและผู้บริหารของบริษัท และบริษัทในเครือทั้งหมด โดยการลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 3 พฤศจิกายน

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางคณะกรรมการบริหาร ได้มีประกาศมอบหมายการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง รักษาการกรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ โดยระบุว่า ตามที่นายสุรินทร์ มีความจำเป็น ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์ ในช่วงเวลานี้ได้นั้น ทั้งนี้เพื่อให้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท บีอีซี ดำเนินงานไปด้วยความราบรื่น ตามมติประชุมคณะกรรมการบริหารครั้งที่ 12 วันที่ 24 ตุลาคม 2566 ได้มีคำสั่งแต่งตั้ง คุณ ฉัตรชัย เทียมทอง ที่ปรึกษากรรมการบริหาร รักษาการ และปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง กรรมการอำนวยการ-สายธุรกิจโทรทัศน์ ตั้งแต่วันที่ 24 พฤศจิกายน เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริหารและพนักงานทุกท่านปฏิบัติหน้าที่ตามภาระที่รับผิดชอบตามโครงสร้างการบริหาร และสายบังคับบัญชาตามปกติ และขอให้มั่นใจ บริษัทยังมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำทางด้าน คอนเทนต์และธุรกิจบันเทิงของประเทศไทย

‘ช่อง 3’ ส่ง 2 ละครดังแกะกล่อง สตรีมบน ‘Prime Video’ ที่แรก หวังโชว์วิถีชีวิตคนไทยร่วมสมัย ดึงดูดความสนใจผู้ชมทั่วโลก

(15 พ.ย. 66) บีอีซี เวิลด์ หรือ ช่อง 3 เปิดดีลธุรกิจส่งละครสตรีมบน Prime Video เป็นที่แรก เพื่อเผยแพร่ใน 10 ประเทศและเป็นการสตรีมก่อนหน้าจอ ช่อง 3 อีกด้วย เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมผลิตคอนเทนต์ ของไทยสู่ตลาดสากล  

โดย ช่อง 3 ยังคงเร่งขับเคลื่อนธุรกิจการขายลิขสิทธิ์ละครไปยังตลาดต่างประเทศหรือผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทั้งฝั่งเอเชีย แอฟริกา และ ยุโรป และล่าสุดได้เปิดดีลโมเดลใหม่โดยร่วมมือกับผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งระดับโลกอย่าง Prime Video ได้ลิขสิทธิ์นำ 2 ละครใหม่แกะกล่องที่ยังไม่เคยออกอากาศมาก่อน อย่างเรื่อง ‘ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ’ (The Office Games) และ ‘มือปราบกระทะรั่ว’ (My Undercover Chef) ซึ่งผลิตโดย BEC Studio สตรีมพร้อมกันทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์, บรูไน และ ติมอร์-เลสเต 

สำหรับละคร เรื่อง ‘ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ’ (The Office Games) ว่าด้วยเรื่องราวของเหล่ามนุษย์ออฟฟิศที่พยายามต่อสู้ดิ้นรนเพื่อความอยู่รอดในแต่ละวัน โดยใช้สารพัดเล่ห์เหลี่ยมเพื่อให้ตัวเองไปสู่ความสำเร็จ นำแสดงโดย ‘มิ้นต์ ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง’ รับบท ‘อลิศ’ นักขายฝีปากดีที่แบกโลกทั้งใบไว้ภายใต้คำว่า ‘เพื่อความอยู่รอดของครอบครัว’ ประกบคู่กับ ‘นนกุล’ หรือ ‘ชานน สันตินธรกุล’ รับบท ‘เมษ’ วิศวกรหนุ่มที่ชีวิตพังเพราะตึกที่ได้ออกแบบเกิดพังถล่มลงมา ทั้งคู่จึงตัดสินใจเดินเข้าสู่วงการขายกองทุนที่มีความท้าทาย แต่ที่นั่นกลับเปรียบดังสมรภูมิรบที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงมากมาย อลิศ และ เมษ จะเอาตัวรอดได้อย่างไร เริ่มวันพฤหัสบดีที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ทาง Prime Video

และต่อมากับเรื่อง ‘มือปราบกระทะรั่ว’ (My Undercover Chef) เรื่องราวของ ‘มาวิน’ นำแสดงโดย ‘เต๋อ ฉันทวิชช์ ธนะเสวี’ มือปราบหัวร้อนที่ถูกพักงานเพราะความบุ่มบ่ามทำให้เอเย่นต์ค้ายาหลุดรอดไป เขาจึงต้องออกตามล่าอย่างกัดไม่ปล่อย และสถานที่ที่พวกค้ายาชอบมารวมตัวกันคือ ‘ร้านเภาโภชนา’ ที่เจ้าของร้านมีหลานสาวชื่อ ‘ขิง’ อาชีพยูทูบเบอร์ ที่อยากจะปิดร้านอาหารหนีพวกค้ายาอยู่ทุกวัน นำแสดงโดย ‘เต้ย จรินทร์พร จุนเกียรติ’ เมื่อมาวินเข้าไปแฝงตัวเป็นเด็กเสิร์ฟและทำให้ร้านขายดี ขิงจึงตั้งตัวเป็นคู่กัดและคอยขัดขวางภารกิจการสืบหาคนร้ายเสมอมา แล้วอะไรจะสามารถเปลี่ยนให้ทั้งคู่กลับมาร่วมมือและช่วยกันทำให้ย่านอาชญากรรมกลายเป็นย่าน Street Food ได้บ้าง เริ่มวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ทาง Prime Video  

สำหรับ Prime Video คือผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งระดับโลก ที่ได้นำคอนเทนต์ความบันเทิงไทยออกเผยแพร่ให้กับคนไทยทั่วประเทศได้รับชม ทั้งนี้ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Prime Video ได้มีการประกาศแคมเปญ ‘แกะกล่องไทยบันเทิง’ ขึ้นโดยเปิดพื้นที่เก็บรวบรวมคอลเลกชันเนื้อหาคอนเทนต์ของไทยมากมายไว้ในที่เดียว มีทั้งภาพยนตร์ ละคร ซีรีส์ คอนเสิร์ต เป็นการให้บริการสมาชิกแบบครบวงจรที่คนไทยสามารถเข้าถึงได้โดยตรง ดังนั้นจึงถือเป็นแหล่งส่งเสริมอุตสาหกรรมบันเทิงไทยอีกหนึ่งช่องทางที่จะเติบโตได้ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศต่อไป

และด้วยละครใหม่ทั้ง 2 เรื่อง ‘ร้อยเล่มเกมส์ออฟฟิศ’ (The Office Games) และ ‘มือปราบกระทะรั่ว’ (My Undercover Chef) ล้วนมีบทที่แสดงถึงเอกลักษณ์การใช้ชีวิตแบบคนไทยในยุคปัจจุบัน มีแนวคิดในการดำเนินชีวิตที่ร่วมสมัย จึงถือเป็น Soft Power ของคอนเทนต์จากประเทศไทยที่จะสร้างความสนใจเกี่ยวกับประเทศไทยจากผู้ชมในต่างประเทศ และเมื่อละครของ ช่อง 3 ได้สตรีมบน Prime Video ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิดีโอสตรีมมิ่งระดับโลกก็จะยิ่งทำให้ผู้ชมต่างประเทศได้เข้าใจวัฒนธรรมไทยผ่านคอนเทนต์ได้ง่ายและมากขึ้น


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top