Wednesday, 15 May 2024
ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

'ไบเดน' เดินยุทธศาสตร์ 'ศาลโลกล้อมรัสเซีย' กล่าวหา 'ปูติน' ด้วยข้อหา 'ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์'

โจ ไบเดน ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวออกสื่อเป็นครั้งแรกว่า การใช้กำลังทหารรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นความผิดร้ายแรงถึงระดับ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

โดยไบเดนให้สัมภาษณ์ว่า "ใช่ครับ! ผมเรียกมันว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะสิ่งที่ปูตินทำลงไป มันชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ว่าเขาพยายามลบล้างความเป็นชาวยูเครน และมีหลักฐานเยอะมาก"

ไบเดนยังกล่าวอีกว่า "พวกเราได้ให้ทีมกฎหมายดำเนินการแล้วว่าสิ่งที่รัสเซียทำเข้าข่ายหรือไม่ แต่ในความเห็นของผม ผมแน่ใจว่ามันเป็นเช่นนั้น"

ก่อนหน้านี้ ไบเดนใช้คำว่า "อาชญากรสงคราม" เมื่อเอ่ยถึงปูติน กับปฏิบัติการทางทหารในยูเครนบ่อยครั้ง แต่มาครั้งนี้ ที่ไบเดนเปลี่ยนมาใช้คำว่า "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ที่ถือเป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรงที่สุด

ซึ่งข้อหา "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" โวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ผู้นำยูเครนเคยใช้มาก่อน หลังจากที่เข้าไปสำรวจความเสียหายในเมืองบูชา (Bucha) หลังทหารรัสเซียถอนกำลังออกไป และพบผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในเมือง โจ ไบเดน จึงให้ผู้นำยูเครนรวบรวมหลักฐานมาประกอบสำนวนในการฟ้องร้องปูตินที่ศาลโลก

ถึงแม้โจ ไบเดน ได้ออกมาเปิดหน้าแล้วว่าจะผลักดันให้มีการดำเนินคดีปูตินถึงข้อหาสูงสุด แต่ด้านวลาดิมีร์ ปูติน ก็ได้แถลงออกสื่อครั้งแรกในรอบหลายสัปดาห์เช่นกันว่า รัสเซียจะยังคงเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารในยูเครนต่อไปอย่างเป็นจังหวะ และใจเย็น และเชื่อมั่นว่ากองทัพรัสเซียจะสามารถบรรลุเป้าหมายอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ ข้อหาเรื่อง "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ก็ยังมีข้อถกเถียงอย่างมากในเรื่องการตีความ ซึ่งนิยามของการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มีระบุในที่ประชุมเรื่องการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ขององค์การสหประชาชาติเมื่อเดือน ธันวาคม 1948 ไว้ว่าเป็นการกระทำที่มีเป้าหมายเพื่อทำลายล้างกลุ่มชนชาติ ชาติพันธุ์ เชื้อชาติ หรือศาสนา ให้สูญสิ้นไปทั้งหมด

‘ปชช.เชื้อสายอาร์เมเนีย’ เร่งอพยพออกจากเมืองนากอร์โน-คาราบัค ผู้ลี้ภัยกว่า 6,500 ราย หวั่น ถูก ‘รบ.อาเซอร์ไบจาน’ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

(27 ก.ย. 66) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ประชาชนในเมืองนากอร์โน-คาราบัค ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนเชื้อสายอาร์เมเนีย ต่างหวาดกลัวว่าหากรัฐบาลของประเทศอาเซอร์ไบจาน เข้ามาควบคุมพื้นที่ส่วนนี้ได้ จะทำให้พวกเขาไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจลี้ภัยไปที่ประเทศอาร์เมเนีย

โดยประชาชนที่มีเชื้อสายอาร์เมเนีย ประมาณ 6,500 คน ที่อาศัยอยู่ในนากอร์โน-คาราบัค ได้เดินทางออกจากเมืองและข้ามชายแดนลี้ภัยไปที่อาร์เมเนียแล้ว เหตุที่ทั้งหมดนั้นจะต้องลี้ภัยกันเป็นการเร่งด่วน เพราะพื้นที่ตรงนี้กำลังถูกอาเซอร์ไบจานยึดครอ งพวกเขากลัวว่าจะมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์เกิดขึ้น

ต่อมาทางด้านรัฐบาลของอาเซอร์ไบจาน ได้ออกมายืนยันแล้วว่า จะมีการรวมคนเชื้อสายอาร์เมเนียในพื้นที่ส่วนนี้เข้ากับประชาชนคนอื่นๆ อย่างเท่าเทียม แต่ก็ยังไม่สามารถคลายความวิตกกังวลลงได้ เพราะเคยมีการกล่าวหาว่า อาเซอร์ไบจานพยายามกวาดล้างกลุ่มชาติพันธุ์ชาวอาร์เมเนียมาแล้วในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งอาเซอร์ไบจานปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

ทางด้านรัฐบาลอาเซอร์ไบจานเองก็เผชิญกับเสียงวิพาษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงจากชาติตะวันตก ซึ่งมองว่าการใช้กำลังทหารโจมตีกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอย่างหนักหน่วง ไม่ใช่วิธีการแก้ไขปัญหาที่ถูกต้อง ซึ่งควรจะมีการเจรจาเพื่อหาทางออกกันมากกว่า และยิ่งทำให้วิกฤตด้านผู้ลี้ภัยและมนุษยธรรมที่เป็นปัญหาใหญ่ของโลกต้องเลวร้ายลง โดยมีรายงานว่า วันนี้คณะผู้แทนจากอาร์เมเนียและอาเซอร์ไบจาน เตรียมพบปะกันที่กรุงบรัสเซลส์เพื่อหาทางออก


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top