Friday, 17 May 2024
ครูกายแก้ว

ส่องเลขเด็ด ‘ครูกายแก้ว’ บรมครูผู้เรืองเวทย์ เทพเจ้าแห่งโชคลาภ จากเหตุการณ์ขนย้ายรูปปั้นลอดใต้สะพานหน้าโค้งร้อยศพ

‘ครูกายแก้ว’ หรือที่หลายๆ คนอาจรู้จักกันในนามของ "พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์" มีที่มากับพระธุดงค์ในจังหวัดลำปาง จากการที่พระรูปนี้ได้ธุดงค์ไปทำสมาธิที่ปราสาทนครวัดนครธม ประเทศกัมพูชา และต่อมาก็ได้มอบครูกายแก้วนี้ให้กับลูกศิษย์นั่นก็คือ อาจารย์ถวิล มิลินทจินดา หรือ พ่อหวิน นักร้องเพลงไทยเดิมของกองดุริยางค์ทหาร ผู้เป็นอาจารย์ของท่านอาจารย์สุชาติ รัตนสุข ผู้สร้างองค์ปฐมของครูกายแก้วขึ้นในประเทศไทย

ในครั้งแรกที่อาจารย์สุชาติได้รับมอบครูกายแก้วมานั้น องค์ครูมีขนาดเล็ก เป็นลักษณะคนนั่งหน้าตักเพียงแค่ประมาณ 2 นิ้วเท่านั้น และต่อมาครูกายแก้วก็ปรากฎกายให้อาจารย์สุชาติได้เห็น ในตอนนั้นเองอาจารย์สุชาติก็ได้ทำการวาดภาพของครูกายแก้วจากจินตนาการ และทำการหล่อรูปองค์ครูขึ้นเป็นองค์แรก มีลักษณะเป็นองค์ยืน คล้ายคนแก่ นำไปไว้ที่สำนัก จุดประสงค์ก็เพื่อเป็นการบูชาครูนั่นเอง

โดยรูปร่างลักษณะขององค์ครูกายแก้วที่อาจารย์สุชาติสร้างขึ้นมานั้น เป็นลักษณะของผู้บำเพ็ญกึ่งมนุษย์กึ่งนก มีปีกด้านหลัง มีเขี้ยวทองเพื่อสื่อถึงนกการเวก อ้างอิงตามหลักฐานที่ปรากฎอยู่บนกำแพงบายน ที่มีประวัติของการเวกซึ่งเป็นพวกนักดีดสีตีเป่า ถือเป็นครูของศาสตร์ศิลป์ทั้งหลายในยุคของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ของกัมพูชา

ปัจจุบันองค์ปฐมแบบยืนของครูกายแก้วนั้นถูกย้ายไปไว้ที่บ้านของคุณสุวรรณี เต็มเจริญสุข ส่วนองค์ต่อมาที่เป็นแบบองค์นั่งก็ถูกเก็บเอาไว้บูชาที่บ้านของท่านอาจารย์สุชาติเอง แต่หากว่าใครอยากจะกราบไหว้ขอพรองค์ครูกายแก้ว ก็สามารถไปได้ที่เทวาลัยพระพิฆเนศห้วยขวาง ที่นั่นมีองค์ครูกายแก้วแบบนั่งเช่นเดียวกัน

การบูชาองค์ครูกายแก้ว นั้นจะต้องทำการบูชาครูด้วยธูป 5 ดอก กราบไหว้องค์ครู หลังจากนั้นจะทำการถวายเงินที่ตู้แก้วของครูกายแก้ว และทำการเคาะ จากนั้นจึงขอพรบอกกล่าวความปรารถนาแก่องค์ท่าน

นอกจากองค์ครูกายแก้วที่อยู่ที่ประเทศไทยแล้ว ความศรัทธาที่มีต่อครูนี้ก็ยังเผยแผ่ไปไกลยังฮ่องกง โดยที่นั่นเองก็มีองค์ครูกายแก้ว ซึ่งเป็นที่เลื่องลือในด้านของความศักดิ์สิทธิ์ ให้พรในเรื่องความสำเร็จ ความร่ำรวย เจริญรุ่งเรืองเงินทอง จนชาวฮ่องกงพากันเปรียบองค์ครูกายแก้วเป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยเลยทีเดียว

จากเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อวาน (9 ส.ค. 2566) การขนย้ายรูปปั้น ครูกายแก้ว ลอดใต้สะพานหน้าโค้งร้อยศพไม่พ้น ทำให้การจราจรช่วงเช้าที่ ถ.รัชดาภิเษก ขาเข้า ช่วงหน้าศาลอาญา รถติดสะสมต่อเนื่องถึงสะพานพระราม 7 จนเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พหลโยธิน ต้องเข้าเคลียร์การจราจร โดยให้ปล่อยลมยางและเข้าจอดช่องทางซ้ายสุด ก่อนจะเปิดทางให้สัญจรได้ตามปกติ

หลายท่านที่ติดตามข่าว ก็คงอยากจะอยากจะได้เลขเด็ดกัน THE STATES TIMES ได้ไปติดตามมาให้แล้ว โดยได้รับการยืนยันจาก พ.ต.ต.ศรีธกริช พิทักษ์ชนะกิจ สว.จร.สน.พหลโยธิน ซึ่งเปิดเผยว่ารถบรรทุกรูปปั้น ครูกายแก้ว นั้นมีเลขทะเบียน 72-7679 สระบุรี โดยได้เดินทางมาจากโรงหล่อ จ.ราชบุรี เพื่อจะนำไปตั้งบูชาที่โรงแรมแห่งหนึ่งบริเวณแยกรัชดา-ลาดพร้าว 

'อ.เทพมนตรี' ชี้!! ที่แท้ 'กายแก้ว' มาจาก 'การ์กอยล์' ไม่เกี่ยวกับมหาราชกัมพูชาและไม่น่ามาบูชาโดยไม่รู้ความจริง

(15 ส.ค.66) อาจารย์เทพมนตรี ลิมปพยอม นักประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thepmontri Limpaphayorm ว่า...

ที่แท้ 'กายแก้ว' มาจาก 'การ์กอยล์' 

แปลกแต่จริงที่มีคนหลงเชื่องมงายได้เพียงนี้ โดยไม่ไปศึกษาหาความรู้ก่อนที่จะเชื่อสิ่งใด จึงอาจกลายเป็นเหยื่อถูกล่อลวง มอมเมาเข้าสู่ความมีอคติต่อความเชื่อความดีในทางศาสนา

กายแก้ว อาจมีที่มาคือ การ์กอยล์ ซึ่งเป็นสัตว์ผสมหากินกลางคืน เป็นมารกึ่งอมนุษย์ - มังกร ที่ปกปักษ์รักษาผู้คนตามความเชื่อของชาวยุโรป เป็นเครื่องประดับอาคารสถานต่าง ๆ บริเวณที่เรียกว่า 'ปนาลี' ช่องรางน้ำทั้งในอังกฤษ ฝรั่งเศส

แน่นอนว่า ไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 มหาราชกัมพูชาในอดีต

และย่อมไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยที่พยายามทำรูปลักษณ์ให้เป็นยักษามีปีก

สังคมไทยไปไกลสุดกู่ เอาทุกอย่างมาบูชาปะปนกันโดยความไม่รู้เรื่องจริง

(การ์กอยล์ :Gargoyle คือคำที่ไว้ใช้เรียกรูปปั้นหรือรูปสลักตัวประหลาดที่เอาไว้ใช้ระบายน้ำจากบนหลังคาตามตัวอาคารหรือโบสถ์ โดยรูปแบบของการ์กอยล์ที่ได้รับความนิยมนั้น มักจะเป็นมังกรหรือปีศาจหันหน้ายื่นออกจากตัวอาคารและโบสถ์)

‘เปิ้ล ไอริณ’ เผยมุมมองเรื่อง ‘ครูกายแก้ว’ ใจศรัทธาถือว่าไม่ผิด พร้อมแนะ!! สิ่งที่ควรเคารพ-ศรัทธามากที่สุด คือ ‘ตัวเราเอง’

(15 ส.ค.66) ว่าด้วยเรื่อง ‘ครูกายแก้ว’ มันก็แล้วแต่ความศรัทธาและความเชื่อส่วนบุคคลจริงๆ อย่างล่าสุด ‘เปิ้ล ไอริณ’ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก เปิดเผยถึงมุมมองส่วนตัวในเรื่องนี้ พร้อมกับทิ้งท้ายไว้ว่า ฝากไว้ให้คิด โดยระบุว่า…

"Morningg!! ว่าด้วยเรื่อง ‘ครูกายแก้ว’ คนวงในสายมู ย่อมรู้จัก อ.สุชาติ ผู้ตั้งศาลครูกายแก้วดี อ.สุชาติ ท่านเป็นผู้ตั้งศาลใหญ่ ๆ ระดับประเทศ อย่างพระตรีมูรติที่เซ็นทรัลเวิลด์ และพระพิฆเนศที่ห้วยขวาง เหล่าดารา นักแสดง และไฮโซ ต่างก็รู้จัก อ.สุชาติ ดี

เราเองเคยเจออาจารย์ครั้งแรก ท่านทัก "เห็นมันเซ็กซี่ แต่ไอ้นี่ไม่ง่ายนะ" เราว่าท่านแม่น

ในมุมมองเรา ถือว่าครูกายแก้ว ไม่ได้มีพิษมีภัยใด ๆ เพราะองค์พญาครุฑ พญานาค ที่พวกเรานับถือ ก็มีความเป็นเทพกึ่งชั้นบนโลกมนุษย์ ซึ่งพระพุทธเจ้าก็ทรงเขียนในพระกัณฑ์ไตรปิฎกไว้ว่า เรามีถึง 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน เพราะฉะนั้นถ้าใครจะเลือกเคารพศรัทธาสิ่งใด ตามสัญญาเก่า ตามภพภูมิบารมีของตน ก็ไม่ถือว่าผิด!

แต่อีกด้านหนึ่ง คนศึกษาเรื่องจิตวิญญาณต่างรู้ดีว่า "เราจะมีรูปลักษณ์ กายภาพ คล้อยตามสิ่งที่เราศรัทธา เคารพบูชา" สังเกตง่าย ๆ สำนักสงฆ์ชีบางที่ ที่เราไปปฏิบัติธรรม แม่ชีทั้งวัด ก็ตัดผมทรงเดียวกับแม่ชีที่เป็นผู้นำที่ยังไม่ปลงผม ลูกศิษย์ในโซเชียล ก็จะแต่งกาย ทำผม มีลักษณะ ความคิดจิตวิญญาณ คล้อยตามโค้ชชิ่งต่าง ๆ

ถ้าถามว่า เรามีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจอะไร? เราเลือกศรัทธา บูชาสิ่งที่มีเรื่องราว มีตัวตนจริง ๆ ที่ได้สร้างคุณงามความดี มีคำสอนที่ดี เราจึงศรัทธา บูรพกษัตริย์ต่าง ๆ บนหิ้งบูชาบ้านเรา มีเสด็จพ่อร.5, ร.9 พระนเรศวร พระเจ้าตากสิน และพระสงฆ์สาวก พระอรหันต์ ที่มีอภิญญา อย่างหลวงพ่อสด หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ถือเป็นสามเด้ง ได้ยึดเหนี่ยวจิตใจ ได้เคารพศรัทธา และได้ระลึกแสดงความกตัญญูรู้คุณ ต่อสถาบันหลักของชาติด้วย ถือว่าเป็นมงคลของชีวิต

จะบอกว่า "การรัก และเคารพศรัทธาสิ่งใด เรากำลังมอบพลัง อำนาจ ที่เรามีอยู่ ให้กับสิ่งนั้นค่ะ" ครู อาจารย์ โค้ชต่าง ๆ ถึงได้ดูดี มีพลัง รวยขึ้น สวยขึ้น แม่ที่รักลูก รักสามีหมดใจ จะปล่อยให้ตัวเองโทรมลง เพราะยกพลังอำนาจ ความรัก ความศรัทธาตน ให้ครอบครัวหมด สุดท้ายสามีและลูก จะไม่ค่อยรักแม่!!

เรามีเคล็ดลับเพิ่มพลังความรักความศรัทธาตน มาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ สิ่งที่เราควรรัก และศรัทธาที่สุด คือ ‘ตนเอง’ หมั่นให้พลังตัวเอง ลองตั้งรูปตัวเอง ช่วงที่ชอบที่สุด ช่วงที่ดูดี และมีความสุขที่สุด มองบ่อย ๆ จุดกำยานหอม ๆ เคลียร์พลังงาน แล้วพูดบวก ๆ ให้พลังตัวเอง ยามส่องกระจก ก็มอง แล้วพูดบ่อย ๆ "ฉันรักเธอนะ ฉันศรัทธาในตัวเธอ เธอผ่านหลายอย่างมาด้วยความเก่ง และปัญญา และฉันขอสัญญากับเธอในอนาคตว่า ฉันจะพัฒนาตัวเอง ให้ดีขึ้นทุก ๆ ด้าน ชั้นจะทำทุกอย่าง ที่เธอหวังตั้งใจไว้ ให้สำเร็จให้ได้!!" พูดเลย พูดบ่อย ๆ ค่ะ

อย่าลืม เวลายามเสียใจ ยามทุกข์ยาก ยามล้ม ยามเจ็บป่วย ใครเช็ดน้ำตา ใครดูแลเราคะ?? เพราะฉะนั้นบนโลกนี้ คนที่คุณควรรัก เคารพ และศรัทธาให้มากที่สุด คือ "ตัวคุณเองค่ะ!!
#ฝากไว้ให้คิด"

‘มดดำ’ รู้จัก ‘ครูกายแก้ว’ มานาน 20 ปี ตั้งแต่สมัยยังไม่เป็นดารา เคยถ่ายรายการเรื่องนี้ แต่ทำได้แค่ครึ่งเทป เหตุไม่มีข้อมูลมากพอ

(16 ส.ค. 66) ยังคงเป็นประเด็นดรามาที่พูดถึง ตลอด 2-3 วันที่ผ่านมา สำหรับเรื่องราวของ ‘ครูกายแก้ว’ ที่ประชาชนหลายคนเสียงแตก มีทั้งคนที่นับถือบูชา และคนที่เห็นต่าง มีการพูดและถกเถียงกันในโลกโซเชียลมากมาย ขณะที่พิธีกรดัง ‘มดดำ คชาภา ตันเจริญ’ ตัวแม่สายมู ได้เผยถึงเรื่องนี้ ในรายการข่าวใส่ไข่ โดยเปิดเผยว่า…

"วันนั้นมดดำไปถ่ายรายการ ไม่ได้ไปบวงสรวงนะ ไปถ่ายรายการ ก็ไปกันหมด มีแจ็ค มีอะไร ก็ไปกันหมด เชื่อไหม รายการของคชาภาพาไปมู เคยทำแล้วแต่ทำไม่จบ ทำได้แค่ครึ่งเทป จนครูกายแก้วมาวันนี้ เราทำตั้งแต่เราอยู่เชียงใหม่ แต่ปรากฏว่าอยู่ดี ๆ ก็มาดัง แล้วเขาบอกว่าเหรียญที่แพง ๆ ตอนนี้เท่าไหร่นะ (2,500 ใช่ไหมครับ?) เดี๋ยวคชาภาแจกฟรี อยู่ที่บ้านฉัน 250 เหรียญ” 

ท่านมีอิทธิฤทธิ์อะไร? “คือเขาเป็นนกการเวก แต่กลายเป็นที่ฮือฮา ในติ๊กต็อกบอกผีป่าจะเข้าเมือง เขาว่าอย่างนั้น ผีป่าจะวิ่งมาสิงเมือง และมีครูบอกกระแสครูกายแก้ว เหรียญขึ้นไป 2-3 พันบาท มันจะเป็นมงคลยังไง คือตัวเองเคยรู้จัก ครูกายแก้ว เมื่อสมัย 20 ปีที่แล้ว คือรู้จักที่ห้วยขวาง อ.สุชาติ เป็นคนสร้างพระพิฆเนศ ที่ห้วยขวาง เป็นคนสร้างพระตรีมูรติ แต่ปรากฏว่าลูก ๆ เขา 2 คน ได้ครูกายแก้วมาคนละองค์ แต่องค์จริง ๆ เขาบอกว่าพระธุดงค์ให้มา เป็นตำนานที่เขาเล่า ตัวเองเพิ่งไปทำรายการคชาภามา เขาบอกว่าองค์ขนาดนี้ องค์เล็ก ๆ เขาบอกว่าแล้วเราก็ไปเติมอีกเติมหางกันเอาเอง บางคนก็บอกมาจากนครวัด นครธม” หลังจากนั้นก็อ่านข่าวครูกายแก้วต่อ

และเล่าต่อว่า “เอาตรง ๆ นะ ฉันไปถ่ายรายการ คือฉันรู้จักมานาน ถ้าแอ๊บบอกไม่รู้จักไม่ได้ รู้จักมา 20 ปีแล้ว มีมานานแล้ว ตั้งแต่ฉันยังไม่เป็นดารา เมื่อก่อนคนไปไหว้ตรงตั้งฮั่วเส็ง ตรงจรัญสนิทวงศ์ เมื่อก่อนอยู่ตรงนั้น มีมานานแล้ว เป็นความเชื่อของครูกายแก้ว ซึ่งเขาเป็นรูปปั้นจริง ๆ เมื่อก่อนองค์เล็กกว่านี้อีก อยู่ที่ห้วยขวาง 20-30 ปีแล้วนะ แต่ห้วยขวางเขาไว้ข้างใน คือข้างในเยอะไปหมดเลย”

“คือเอาจริง ๆ เขาก็ไม่ได้บอกว่าการตั้งตรงนี้ถูกหรือผิด ถ้ามองให้เป็นอาร์ต แต่ สว.ไพศาล ก็ถามแล้วคนไม่ตกใจเหรอ ฉันว่านะใครหาว่าฉันเชื่อพญานาคและงมงาย อันนี้ไม่หนักกว่าเหรอ ถามว่าเคยไหว้ เคยรู้จักไหม รู้จักมา 20 ปีแล้ว เคยทำรายการคชาภา แต่ทำได้ครึ่งเทป ทำไม่เสร็จจนต้องไปถ่ายใหม่”

ทำไมถึงทำไม่เสร็จ? “มันไม่มีคอนเทนต์ มันมีเรื่องแค่นั้นแล้วจบ สมมติเราทำปู่อือลือ เรายังมีคนนี้คนนั้น ที่มาที่ไป ถูกต้องไหม แต่อันนี้เทปที่ถ่าย ถ่ายไว้ครึ่งเทป เพิ่งมาถ่ายได้เต็มเทป ตอนที่เป็นกระแส" 

‘ดร.สุวินัย’ ชี้!! ‘ครูกายแก้ว’ แท้จริงเป็นของขลังจากเขมร แต่ถูกพวกไสยพาณิชย์ ใช้เป็นเครื่องมือลวงเงินคนสิ้นหวัง

(17 ส.ค. 66)  ดร.สุวินัย ภรณวลัย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ ‘ครูกายแก้ว’ โดยระบุว่า…

ครูกายแก้ว คือ ของขลังเขมรคล้ายกุมารทองที่พระธุดงค์นิรนามรูปหนึ่งจากลำปางได้มาจากเขมรแล้วมอบให้ อาจารย์ถวิล มิลินทจินดาซึ่งเป็นอาจารย์ของ อาจารย์สุชาติ รัตนสุข

ครูกายแก้วของจริง เป็นแค่ของขลังชิ้นเล็ก ๆ ชิ้นหนึ่งเท่านั้น

ต่อมาอาจารย์ถวิลได้มอบของขลังชิ้นนี้ (ปอบขาว) ให้อาจารย์สุชาติเก็บรักษาดูแล โดยที่อาจารย์สุชาติสามารถสื่อทางจิตกับ ปอบขาวตนนี้ได้

แต่หลังจากอาจารย์สุชาติสิ้นบุญแล้ว …‘ตำนานครูกายแก้ว’ ได้ถูกพวกไสยพาณิชย์เอามาปั่นสร้างกระแสงมงายเพื่อดูดเงินจากพวกที่กำลังสิ้นหวังในชีวิตเพราะประสบปัญหาหนี้สิน

ใครจะบูชา ‘ครูกายแก้ว’ ที่กำลังเป็นกระแส จงพิจารณาให้ดีให้ถี่ถ้วนเถิด

อวิชชา คือสิ่งที่อยู่คู่สังสารวัฏ 

อวิชชาทั้งหลายถือกำเนิดมาจาก ความกลัว 
พลังด้านมืดทุกชนิดก็มาจากความกลัว มิใช่ความรัก 
ความกลัวทำให้แบ่งแยก แตกแยก จากจิตเดิมแท้อันบริสุทธิ์

การจะเลือกนับถือบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้นั้นจะต้องไม่เอากิเลสหรืออัตตาตัวตนนำหน้าเป็นอันขาด

คืออย่ามุ่งเอาสิ่งศักดิ์สิทธิ์มารับใช้ตัวตนของตน หรือสนองความอยากทางโลกของตัวเองเป็นอันขาด

เพราะนี่คือการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่ถูกต้อง เป็นมิจฉา... แถมมีดอกเบี้ยหรือราคาที่ต้องจ่ายแพงมาก ๆ เพราะโลกนี้ไม่มีของฟรีหรอก…ขอได้ แต่อาจแลกมาด้วยชีวิตของเจ้าตัวที่จะสั้นลงมาก

ในการสร้างความสัมพันธ์กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเลือกเคารพบูชา สิ่งสำคัญสุดคือ ‘การมอบตัวตน’ (surrender) ยินดีพลีกายใจเป็นเครื่องมือของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อข้ามพ้นตัวตนของตน

คนมีหลายระดับ ดอกบัวมีหลายประเภท

ถ้าใครยังพึ่งรัตนตรัยไม่ได้ ก็ควรมีความรู้ที่จะมีความสัมพันธ์ที่ถูกต้องกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน

ผู้นำทางจิตแบบบูรณาการต้องมีใจที่เปิดกว้าง สามารถชี้นำคนทุกระดับได้ตามสติปัญญาของคนแต่ละประเภท

อย่าไปโจมตีลอย ๆ ว่า นั่นเป็นมาร ซาตาน แต่ควรเตือนสติคนที่หลงเชื่อว่า ตัวเขาบูชาครูกายแก้วเพื่ออะไร เพราะเหตุใด

ทำให้เขาเห็นจิตโลภ จิตหลงของตนเองก่อน

คนที่มีตบะ มีอำนาจจิตที่เข้มแข็งจะไม่ไปขอพร พึ่งอะไรแบบนี้หรอก

แต่อย่างว่าคนเราบุญวาสนาบารมีไม่เท่ากัน

ช่วยอย่างแรกที่ทำได้ทันทีเลย คือเตือนสติ

ช่วยอย่างที่สอง คือทำจิตตัวเองให้เข้มแข็งด้วยการฝึกจิต ฝึกลมปราณกรรมฐาน

คนที่ทำได้เท่านั้นถึงจะคู่ควร มีคุณสมบัติบำเพ็ญวัชรจิตได้

‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ กล่าวผ่านรายการ ‘Me สติ’ Ep.53 ตอน ทำดีไม่ได้ดี?

‘หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ’ กล่าวผ่านรายการ ‘Me สติ’ Ep.53 ตอน ทำดีไม่ได้ดี? | หากินกับความเชื่อของคน!? ถึงปรากฏการณ์ ‘ครูกายแก้ว’ หรือ ‘พ่อใหญ่ บรมครูผู้เรืองเวทย์’ ที่กำลังเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมขณะนี้ โดยระบุว่า…

“การไปไหว้เทพองค์นั้น เทพองค์นี้ เพราะคิดว่าท่านจะช่วยเราได้ ในความเห็นของหมอบี ถ้าเราไม่มีบุญ บารมีไม่ถึง ท่านก็ช่วยเหลือเราไม่ได้ แต่ถ้าบุญบารมีเราถึง แล้วเราขอท่าน ก็เหมือนไปร้องขอผู้ใหญ่ ผู้ใหญ่ก็อาจจะช่วยผลักดัน เพื่อให้มันชัดเจนขึ้น ได้เร็วขึ้น แต่ถ้าเราไม่เคยทําบุญเลย ไม่มีทางที่ใครจะมาช่วยเราได้ เราต้องสะสมบุญเป็นทุนเดิมด้วย เรียกว่า ‘ต้นทุนบุญ’ เราต้องมี”

“เรากําลังพูดถึงเรื่อง ‘บุญกับบาป’ บุญ แปลว่า ‘ความสบายกายและสบายใจ’ อะไรก็ตามที่ทําแล้วสบายกายสบายใจเท่ากับเป็นบุญ อะไรที่ทําแล้วไม่สบายกายไม่สบายใจเท่ากับเป็นบาป แต่เราอย่าไปตีความว่าการทำบาป คือต้องตกนรก ลงกระทะทองแดงอะไรอย่างนั้น

คนเราสามารถทําบุญและบาปได้ตลอดเวลา ทุกลมหายใจ เราคิดไม่ดี เราก็บาปแล้ว เพราะเราไม่สบายใจ แต่ถ้าเราคิดสิ่งดีๆ เราก็โล่งอก สบายใจ ก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว เป็นเรื่องเบสิกมากๆ คือ ทําอะไรแล้วมันสบายกาย และสบายใจ เราก็ได้บุญหมด”

‘ใหม่ สุคนธวา’ เดือด!! ถูกเพจเล่นข่าวแพ้ท้อง อยากกินของแปลก โยงเป็น ‘ร่างทรงครูกายแก้ว’ จนโดนทัวร์ลง ยัน!! เอาเรื่องให้ถึงที่สุด

เดือดไม่ไหว!! คุณแม่ลูกสอง ใหม่ สุคนธวา เกิดนิมิตร เจอเพจมั่วโยงข่าวที่ตัวเองเคยแพ้ท้องลูกคนแรกแล้วอยากกินอะไรแปลกๆ มาผสมกับข่าวที่เป็นกระแสเรื่องการฆ่าหมาและแมวบูชายัญ ‘ครูกายแก้ว’ ที่คนกำลังแห่กราบไหว้กันอยู่ในเวลานี้

ล่าสุด ข่าวสดบันเทิงออนไลน์ ต่อสายตรงสอบถามถึงเรื่องที่ออกมาโพสต์เดือด งานนี้ สาวใหม่ จัดหนัก ยืนยันเอาเรื่องเพจที่ลงข่าวถึงที่สุด หลังทำทัวร์ลงคนมาด่าโดยที่ตัวเองไม่ได้ทำอะไรผิด โดยบอกว่า…

“ตอนแรกก็ไม่ได้เดือดนะ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย งงๆ อยู่ จนมีแฟนคลับคนหนึ่งแท็กมาให้แล้วก็ถามว่าเกิดอะไรขึ้นมันคืออะไร เราเลยกดเข้าไปดูอ้าว! มันเป็นเพจหนึ่งที่ชื่อว่า ‘น้องง’ ซึ่งมีคนติดตามเยอะมาก แล้วเขาก็เอารูปและข่าวเก่าที่เราเคยสัมภาษณ์กับไนน์เอ็นเตอร์เทนไว้เมื่อ 3 ปีที่แล้วมาลง เขียนแคปชัน “ร่างทรงครูกายแก้วประทับ” บอกเลยว่างงมาก ตกใจ และโกรธมาก

แต่เราอยากจะแยกเป็น 2 ประเด็นก่อน ประเด็นแรกคือ ตอนนี้คนเข้าใจผิดคิดว่าเราโกรธนักข่าวไนน์เอ็น หรือว่าด่านักข่าวไนน์เอ็น ซึ่งไม่ใช่ แต่ที่เราโกรธคือเพจที่ชื่อว่า น้องง ที่เขียนแคปชันว่า “ร่างทรงครูกายแก้วประทับ” แต่ดันเอาข่าวของไนน์เอ็นที่เราเคยให้สัมภาษณ์ มาผสมกันกับกระแสตอนนี้ คนเลยเข้าใจผิดจนทัวร์ไปลงไนน์เอ็น ซึ่งอันนี้ก็ต้องขอโทษแทนแฟนคลับที่เขารักเราเลยโมโหแทนเรา”

“ประเด็นที่ 2 คือจุดประสงค์ของเพจนั้นต้องการเรียกยอดแชร์ ยอดไลก์ และยอดเมนต์ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จมาก เขาเอากระแสในตอนนี้ให้มันมาเป็นข่าวเก่าของใหม่ ให้เกิดข่าวใหม่เกิดขึ้นมา มันก็เก่งเนาะ ใหม่ยอมรับว่าเคยให้สัมภาษณ์ไปแบบนั้นจริง นักข่าวถามว่าใหม่แพ้ท้องอ่ะแพ้อะไร ใหม่ก็พูดตามปกติ พูดเลยนะที่ใหม่อยากกินหมาหรืออะไรอย่างเนี้ยมันเบสิกมาก คนแพ้ท้องเขาจะแพ้อะไรที่อยู่ดีๆ เราไม่เคยกินมันจะอยากกินขึ้นมา บางคนอยากกินดิน หิน ทราย ยางรถยนต์ ตุ๊กแก จิ้งจก ซึ่งกลุ่มคนแพ้ท้องจะรู้กัน

แต่ต้องแยกแยะนะ พูดเนี่ยไม่ได้กินจริง มันเป็นอารมณ์มันเขี้ยวหมั่นไส้น้องหมาเรามากกว่า แบบอยากขยำอยากกินอะไรอย่างเนี้ย แต่ไม่ได้กิน มาดูที่บ้านได้ชิวาวา 3 ตัวยังอยู่เท่าเดิม ใครจะไปกินชิวาวา มันน่ารักแบ๊วขนาดนั้น มันเป็นไปไม่ได้ และมีสิตพอที่จะไม่กินหมา คนท้องไม่ได้คนบ้า คนท้องไม่ได้ประสาท คนท้องไม่ได้ผิดปกติทางด้านจิตใจ อันนี้โกรธนะ”

“แล้วก็เลยงงว่าทำไมหวยมาออกที่เราได้ไง ซึ่งมันก็มีแว้บนึงที่คิดนะ เอ๊ะ!! หรือว่าเราไปทำอะไรลบหลู่ดูถูกเหยียดหยามโดยไม่ตั้งใจหรือเปล่า แล้วท่านหรือครูกายแก้วมาลงโทษเราให้ทัวร์มาลงให้เป็นข่าวแบบนี้หรือเปล่า ทั้งที่ใหม่ไม่เคยลบหลู่หรืออะไรกับคนที่ศรัทธาท่านอยู่แล้ว” ใหม่ สุคนธวา กล่าว

ผลกระทบตอนนี้คือกลายเป็นคนกลัวเรา?
ใหม่ : “ใช่… คนกลัว ตอนนี้เหมือนคนกลัว เรามีของ เรามีองค์ เราเป็นครูกายแก้ว เรากินหมา บอกเลยไม่ได้เป็นปอบ

ทางเพจนั้นได้ติดต่อมาขอโทษไหม?
ใหม่ : “ไม่มี แต่ใหม่ติดต่อไป ไปด่าเลย บอกว่าลบเดี๋ยวนี้เลยนะ ทางนั้นก็แบบแม่… ขอโทษ หนูชอบแม่มาก แม่สวยมาก หนูไม่ได้ตั้งใจ หนูจน แม่อย่าเอาเรื่องอะไรหนูเลย เราก็เลยบอกไปว่าไม่รับคำขอโทษ แล้วก็จะเอาคำขอโทษเป็นเงินด้วย ถ้าคนที่ติดตามผลงานเราหรือชอบเราจริงอย่างที่ปากพูด เขาคงไม่ทำร้ายเราด้วยข่าวหรือแคปชันแบบนี้หรอก ยืนยันว่าฟ้องเพจแน่นอน ส่วนคนที่คอมเมนต์ก็นั่งไล่แคปอยู่เหมือนกัน”

“ถ้าคนรักใหม่จริงๆ อยากให้ติดตามใหม่ทางช่องทางของใหม่เท่านั้น จะได้รู้นิสัยที่แท้จริงของใหม่ว่าเป็นยังไง ไม่ใช่ไปเชื่อในสิ่งที่คนคนหนึ่งเขียนแคปชัน แล้วก็มาด่าใหม่เป็นพันอ่ะ ด่าแรงด้วย อินี่มันบ้า ป่วย โรคจิต กินหมา คือด่างงอ่ะ บอกเลยคนด่าเยอะ เหมือนใหม่เป็นปอบอ่ะ” ใหม่ สุคนธวา กล่าวทิ้งท้าย

‘โรงแรม’ ยัน!! ไม่ย้าย ‘ครูกายแก้ว’ ไม่ผิดเงื่อนไข สัญญาเช่า 20 ปี แต่จะสร้างโดมครอบแทน เพื่อลดกระแสความไม่สบายใจของสังคม

(28 ส.ค. 66) จากกรณีรูปปั้นครูกายแก้วที่ถูกนำมาตั้งไว้บริเวณโรงแรมเดอะบาซาร์ โฮเทล แบงค็อก จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ของหลายฝ่าย สู่การตั้งคำถามของสังคมว่าสมควรย้ายรูปปั้น ‘ครูกายแก้ว’ หรือไม่

ล่าสุด ที่ห้องรัชโยธินแกรนด์ ชั้น 20 โรงแรมเดอะ บาซาร์ โฮเทล แบงค็อก นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการประธานกรรมการบริหาร พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หอมศิริวรรณ ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย แถลงกรณีรูปปั้นครูกายแก้ว ที่ตั้งบริเวณโรงแรม เดอะ บาซาร์ โฮเทล แบงค็อก ประเด็น “รูปปั้นครูกายแก้ว อยู่ หรือ ไป”

นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา เลขานุการประธานกรรมการบริหาร กล่าวว่า ขอขอบคุณสภาศิลปินส่งเสริมพระพุทธศาสนา โดย ดร.ศุภาชัย คณะราษฎรไทยแห่งชาติ รวมถึงคณะราษฎรไทยแห่งชาติ องค์กรตามรัฐธรรมนูญตามมาตรา 42 โดยคุณพลภาขุน เศรษฐญาบดี โดยทั้ง 2 หน่วยงานส่งหนังสือถึงทางโรงแรมว่า บัดนี้มีความเข้าใจแล้วว่า ‘รูปปั้นครูกายแก้ว’ ไม่กระทบต่อความเชื่อต่อทางพระพุทธศาสนา แต่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ทั้งนี้ ทางหน่วยงานยินดีให้ความร่วมมือกับโรงแรงในภายภาคหน้าต่อไป

ขณะที่ประเด็นเรื่องการวางรูปปั้นครูกายแก้ว จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องของความเชื่อทางศาสนานั้น นายชาลี กล่าวว่า แยกออกเป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรก ทางโรงแรมได้เช่าที่ดินของการรถไฟทั้งหมด โดยมีวัตถุประสงค์ในการเช่ามาทำธุรกิจการให้บริการในด้านการโรงแรม และส่วนอื่นๆ ตามไปด้วย ดังนั้น โรงแรมได้แบ่งพื้นที่ให้บริษัทของครูกายแก้ว โดยมีอาจารย์หน่อยเป็นผู้เช่า ทางโรงแรมแบ่งพื้นที่ด้านหน้าที่จะเห็นว่ามีรูปปั้นต่างๆ ซึ่งพื้นที่หน้าโรงแรมทั้งหมด ทางโรงแรมมอบให้ผู้เช่าไป เป็นสัญญาระยะเวลา 20 ปี ปีละ 2,400,000 บาท เพื่อให้อาจารย์หน่อยช่วยปรับฮวงจุ้ยของโรงแรมให้ดีขึ้น และระบุในสัญญาชัดเจนว่าต้องไม่ให้เกิดความเสื่อมเสียกับโรงแรม ไม่มีผลกระทบต่อสังคม แต่ไม่ได้ทราบว่าจะนำรูปปั้นของครูกายแก้วมาวาง แต่ถือเป็นสิทธิ์ของผู้เช่า เพราะทางผู้เช่าต้องการจะทำธุรกิจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งโรงแรมก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะรูปปั้นครูกายแก้วช่วยทำให้โรงแรมกลายเป็นที่รู้จัก โด่งดังมากขนาดนี้ และถือว่าเป็นการสร้างกระแสในทางบวกให้กับโรงแรมด้วยซ้ำ เพราะมีลูกค้าและมีการจองโรงแรมมากขึ้น

เบื้องต้นโรงแรมหารือกับ กทม.ว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร และได้ข้อสรุปว่าการตั้งรูปปั้นครูกายแก้วนั้น ไม่ได้มีความผิด แต่เพื่อความสบายใจของประชาชน จึงมีการขอให้ปกปิด โดยการสร้างประติมากรรมส่วนครอบ งบประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งผู้เช่าช่วงสถานที่จะเป็นคนออกค่าใช้จ่าย แต่นายชาญ ตุลยาพิศิษฐ์ชัย หุ้นส่วนที่ถือหุ้นประมาณ 20 % จะช่วย 20 ล้านบาท คาดใช้ระยะเวลาในการสร้าง 2 เดือน เพื่อลดกระแสความไม่สบายใจ และให้หันมาสนใจประติมากรรมครอบแทน ซึ่งออกแบบโดยสถาปัตยกรรม จะมีรูปทรงคล้ายโดมของสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนในอนาคตหลังหมดสัญญาจะมีการย้ายรูปปั้นครูกายแก้วออกหรือไม่ คงต้องรอดู แต่คาดว่าคงไม่ย้าย เพราะตอนนี้ก็มีถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

‘รฟท.’ สั่งด่วน!! ย้ายรูปปั้นครูกายแก้วออกนอกพื้นที่หน้าโรงแรมเดอะบาซาร์ฯ พร้อมเจอค่าปรับอ่วมกว่า 1.3 ล้านบาท เหตุผิดกฎหมายควบคุมอาคาร

(28 ธ.ค. 66) ที่โรงแรมเดอะบาซาร์ แบงค็อก ถนนรัชดาภิเษก เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่โรงแรมได้ทำพิธีย้ายครูกายแก้วออกจากที่ตั้งเดิม โดยมีพระสงฆ์ 5 รูปทำพิธี และมีรถเครนจอดอยู่เพื่อเตรียมการย้ายในขั้นตอนต่อไป โดยจะย้ายรูปปั้นไปที่ด้านหลังโรงแรมก่อน เพื่อรอให้ผู้จัดสร้างมารับคืนออกนอกพื้นที่ โดย 10.30 ได้เริ่มทำการย้ายรูปปั้นครูกายแก้วและรูปปั้นจิ้งจอกเก้าหาง ออกจากพื้นที่ด้านหน้าโรงแรม

ก่อนหน้านี้ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เจ้าของที่ดินที่ตั้งโรงแรมเดอะบาซาร์ แบงค็อก สั่งให้ย้ายรูปปั้นครูกายแก้วออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 30 ธ.ค. 2566 พร้อมกับให้บริษัท สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก จำกัด จ่ายค่าปรับกว่า 1.3 ล้านบาท เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวห้ามมีการก่อสร้างใดๆ ตามกฎหมายควบคุมอาคาร

ด้าน นายไพโรจน์ ทุ่งทอง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สวนลุมไนท์บาซาร์ รัชดาภิเษก จำกัด เปิดเผยกับสำนักข่าวมติชนว่า ขณะนี้ได้กลับมาเป็นผู้บริหารของโครงการแล้ว กำลังเร่งเคลียร์ปัญหารูปปั้นครูกายแก้ว ด้วยการย้ายออกไปพร้อมกับรูปปั้นจิ้งจอกเก้าหาง และได้ชำระค่าปรับแล้ว โดยพื้นที่ดังกล่าวจะนำมาทำเป็นลานกิจกรรม เพื่อรองรับลูกค้าที่มาพักโรงแรม

ก่อนหน้านี้ได้ให้บริษัทครูกายแก้วมาย้ายแล้ว แต่บริษัทไม่ดำเนินการใดๆ จึงต้องย้ายไปเก็บไว้ในพื้นที่ไม่มีคนเห็นก่อน หากใครสนใจสามารถติดต่อขอรับได้


TRENDING
© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top