Thursday, 15 May 2025
WeekendNews

'พงศ์พรหม' ชี้!! ดราม่า Car seat สะท้อนสังคมไทย ประชาชนขาดความเข้าใจ ส่วนภาครัฐก็ไม่สื่อสาร

นายพงศ์พรหม ยามะรัต รองโฆษกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์เฟซบุ๊ก เกี่ยวกับ ดราม่าเรื่อง Car seat ทำให้สังคมเห็น 2 อย่าง คือ การไม่เข้าใจของประชาชน และการไม่สื่อสารของรัฐ ว่า...

ในความเห็นผม

กฎหมายนี้ดี ต้องบังคับใช้ โดยไม่ต้องมีข้ออ้าง

ผมเคยพูดถึงขนาดตลาดแต่งรถไปแล้ว ใครลองไปดูตามหัวเมือง สระบุรี ขอนแก่น โคราช สุราษฎร์ธานี ฯลฯ ได้ แต่งรถกันด้วยเงินหนักกว่า car seat เป็นหลายสิบเท่า

- เปลี่ยนเทอร์โบ แต่งท่อ 
- มอเตอร์ไซค์ยุคนี้แต่งกันเป็นแสน

สถิติฟ้องครับ คนซื้อรถ ซื้อมอเตอร์ไซค์ แต่งกันหนักมากที่สุดในอาเซียน

- ลองดู Isuzu DMax 4 ประตูมือ 2 ราคา 4.8 แสน
- มาดู Ecocar มือ 1 ราคา 4.8 แสน
- ราคา Car seat “คุณภาพดี” เริ่มต้นก็ 4 พันกว่าบาท
- มันคือแค่ “1% ของราคารถ” 

>> เริ่มง่ายๆ ครับ ทำไมต้องใช้ Car seat?

ผมว่าคลิปนี้เข้าใจง่ายสุด https://m.youtube.com/watch?v=0AEu1xQLAJ8

ก็เพราะเด็กยังมีสรีระ กล้ามเนื้อที่ไม่แข็งแรง อุบัติเหตุชนหน้ารถ ข้างรถ เบาๆ ก็ทำให้หลังคด คอหัก พิการ หรือเสียชีวิตได้

>> ลองดูคลิปเพิ่มครับ https://m.youtube.com/watch?v=3YF34gzwiaQ

แล้วถ้ามองว่ามนุษย์มีความสำคัญ ก็จะเข้าใจว่ามันสำคัญกว่าเหล้า ความสนุก การแต่งรถของผู้ใหญ่มากมาย 

>> คราวนี้มาดูการใช้

การจะซื้อ Car seat ต้องดูอะไรบ้าง?
1.) ดูอายุ และความสูงลูกคุณ

2.) ดูชนิดเบาะรถคุณ มี Isofix หรือ ไม่มี ซึ่งพูดตรงๆ ไม่ใช่ปัญหา แค่มี Isofix ก็จะทำให้สะดวก และการยึดฐานแน่นหนาหน่อย แต่หากไม่มี การใช้ Seatbelt รัดในรุ่น Car seat ที่ออกแบบให้ใช้กับเบาะที่ไม่มี Isofix ก็จะมีจุดยึดแน่นหนาไม่ต่างกัน

3.) ดูชนิด seat belt รถคุณ แม้รถส่วนใหญ่จะเป็น belt 3 จุดหมดแล้ว แต่ก็ยังมีรถเช่น Hyundai H-1 ที่เบาะแถว 2-4 เป็น seat belt 2 จุดรัดเอวแบบเก่าอยู่ เป็นต้น

4.) Car seat ได้มาตรฐานรับรองจากอะไร? เริ่มต้นก็ มอก. กระทรวงอุตสาหกรรม อย่างน้อยมั่นใจได้ว่าดีแล้ว แต่ตัวที่แพงขึ้น ก็จะเริ่มมีมาตรฐานที่สูงกว่าไปเรื่อยๆ เช่น TUV, NHTSA ซึ่งมักจะหมายถึงมาตรฐานความปลอดภัยที่สูงขึ้นไปอีก

>> อันนี้ต้องเน้นหลายๆ ทีว่า...

Car seat ที่ได้รับมาตรฐานรับรอง แล้วมีราคา 3-4 พันบาทนั้น ยังไงก็ดี และปลอดภัย “มาก” กว่าการที่จะให้ลูกหลานคุณนั่งเบาะติดรถ ในขณะที่เขายังตัวเล็ก

เพียงแต่ในรุ่นที่สูงขึ้น ก็จะมีโครงสร้างที่แข็งแรง และปกป้องการชนได้หลายทิศทางมากกว่า

'ประธาน PIF แห่งซาอุฯ' เข้าเยี่ยมคารวะ 'นายกฯ' หารือความร่วมมือการค้า-การลงทุน-พลังงาน

วันที่ 15 พ.ค. 65 เมื่อเวลา 06.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร (บน.6) นายยาเซอร์ บิน อุสมาน อัล-รูมัยยาน (Yasir bin Othman Al-Rumayyan) ประธานกรรมการกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund: PIF) ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการหารือว่า นายกรัฐมนตรียินดีที่ได้พบกันในวันนี้ ยินดีด้วยกับกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย PIF ได้เป็นบริษัทที่มีมูลค่าอันดับหนึ่งของโลก ขณะนี้ไทยกำลังยกเลิกมาตรการเข้าประเทศซึ่งเป็นไปตามพัฒนาการด้านการจัดการโควิด-19 ทั้งนี้ จะช่วยอำนวยความสะดวกความร่วมมือระหว่างไทยซาอุได้ดีขึ้น โดยที่ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเป็นไปด้วยดีแล้ว ไทยยินดีที่จะพัฒนาความร่วมมือ และความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น

ตำรวจ เตือน 'แฟนหงส์แดง' อย่าแซวแรง หวั่นเกิดเหตุซ้ำรอยในอดีต

15 พฤษภาคม 2565 ภายหลัง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ดวลจุดโทษเอาชนะ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ มาครองได้สำเร็จเมื่อคืนนี้ ซึ่งถือเป็นแชมป์ที่ 2 ของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้แล้วนั้น 

ล่าสุดเพจ “ตำรวจสอบสวนกลาง” ได้โพสต์รูปภาพข่าวพาดหัวในอดีตเป็นข่าวอาชญากรรมยิงกันเสียชีวิต และประมวลกฎหมายอาญา อัตราโทษ โดยมีข้อความในภาพว่า “เบาได้…เบา” พร้อมข้อความระบุว่า “นายชนะเราดีใจ ถึงอย่างไร เราก็เพื่อนกัน เตือนถึงแฟนบอล… หลังได้แชมป์ แซวกันได้ แต่ขออย่าแซวแรง ด้วยความปรารถนาดีจากตำรวจสอบสวนกลาง #สอบสวนกลาง #CIBpolice #ลิเวอร์พูล #แชมป์เอฟเอคัพ”

'กอบศักดิ์' โพสต์เตือน อย่าเชื่อผู้แอบอ้างชื่อชวนลงทุน ยัน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หากพบเจอรีบแจ้งเบาะแส

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ หรือ BBL / นักเศรษฐศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประเทศ การเงิน และตลาดทุน / อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก กรณีมีผู้แอบอ้างใช้ชื่อไปหลอกลวงผู้อื่นให้ลงทุน โดยระบุว่า...

ช่วงนี้ มิจฉาชีพมีมากมายครับ 

ตามที่ได้มีการแอบอ้างนำรูปของผม (กอบศักดิ์ ภูตระกูล) ไปใช้ประกอบ เพื่อเชิญชวนเปิดพอร์ตลงทุน และชักชวนมาสมัครลงทะเบียนหลักสูตรการลงทุน ผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางอื่นๆ นั้น

IMF เพิ่มอัตราส่วนเงินหยวน ใน SDR ครั้งแรก สวนทาง เงินเยน-ปอนด์-ยูโร ที่ถูกปรับลง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงาน กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ว่าได้เพิ่มอัตราส่วนของดอลลาร์และหยวนของจีนในการทบทวนสกุลเงินที่ประกอบขึ้นเป็นสิทธิพิเศษถอนเงิน (SDR) ซึ่งเป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศของทางกองทุน 

การทบทวนครั้งนี้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เงินหยวนหรือเงินเหรินหมินปี้ (renminbi) เข้าร่วมตะกร้าสกุลเงินในปี 2559 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในความพยายามของปักกิ่งในการทำให้สกุลเงินเป็นสากลมากขึ้น

IMF ได้เพิ่มน้ำหนักของสกุลเงินสหรัฐเป็น 43.38% จาก 41.73% และเงินหยวนเป็น 12.28% จาก 10.92% การถ่วงน้ำหนักของเงินยูโรลดลงเหลือ 29.31% จาก 30.93% เงินเยนลดลงเหลือ 7.59% จาก 8.33% และเงินปอนด์อังกฤษลดลงเหลือ 7.44% จาก 8.09%

กองทุนการเงินระหว่างประเทศกล่าวในแถลงการณ์ว่าคณะกรรมการบริหารได้กำหนดอัตราส่วนสกุลเงินโดยพิจารณาจากการพัฒนาการค้าและตลาดการเงินตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2564

สามีโพสต์เตือน!! ภรรยาแพ้กุ้งเฉียดตาย หลังทานบุฟเฟต์โรงแรมหรู เหตุโรงแรมไม่ติดป้าย พนักงานบอกว่าไม่มี

หนุ่มเผยอาการแพ้กุ้งของภรรยาหลังไปรับประทานบุฟเฟต์โรงแรมแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ ไม่มีการติดป้ายชื่ออาหารหรือคำที่แสดงส่วนประกอบของอาหาร ทำภรรยาที่แพ้กุ้งมีอาการหมดสติ บวม หายใจไม่ออก และต้องนำตัวไปรักษาเร่งด่วน โดยทางโรงแรมมีเพียงติดตามสอบถามอาการตามมารยาท แต่ไม่มีการแสดงความรับผิดชอบด้านอื่น

วันนี้ (15 พ.ค.) เพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part 3" ได้โพสต์อุทาหรณ์ หลังหนุ่มรายหนึ่งได้เผยเหตุการณ์ที่ภรรยาต้องรับประทานกุ้งในโรงแรมแห่งหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ ทั้งที่มีอาการแพ้กุ้งอย่างรุนแรง เนื่องจากทางโรงแรมไม่ได้ติดป้ายบอกชนิดอาหารให้ชัดเจน และพนักงานบริการในห้องอาหารไม่สามารถอธิบายส่วนผสมของอาหารได้ ทำให้ภรรยาได้รับอันตราย และยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดเอง

โดยระบุเนื้อหาว่า “แพ้กุ้งรุนแรงใครควรรับผิดชอบ ป้ายแสดงเมนูของโรงแรมสอบถามพนักงานบริการบอกไม่มี สอบถามอีกที พนักงานไปถามในครัว บอกมี 

สวัสดีครับ วันนี้ขออนุญาตเตือนเพื่อนๆที่ชอบรับประทานอาหารประเภทบุฟเฟต์ ในโรงแรม เพราะคำนึงถึงความปลอดภัย การบริการดูแลที่ดี ซึ่งความเป็นจริงอาจไม่เป็นเช่นนั้น คุณอาจจะเจอกับป้ายชื่ออาหารที่จัดวางไม่ตรงตำแหน่งที่ควรเป็น วางสลับตำแหน่ง หรืออาจจะไม่วางเลยก็ได้ และเมื่อสอบถามกับพนักงาน ท่านอาจได้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จนเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายร้ายแรง อย่างเช่นเคสภรรยาของผม

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2565 เวลาประมาณ 18.10 น. ผมและภรรยาได้ไปรับประทานอาหารประเภทบุฟเฟต์ ที่ห้องอาหาร ณ โรงแรมแห่งหนึ่งย่านทองหล่อ โดยภรรยาได้ตักสลัดที่ไม่มีป้ายชื่อ หรือคำที่แสดงส่วนประกอบของอาหาร โดยเข้าใจว่าเป็นสลัดผักธรรมดา ตามรูป

เมื่อรับประทานเข้าไปคำแรก แฟนรู้สึกถึงความผิดปกติเบื้องต้น จึงได้สอบถามพนักงานของห้องอาหารว่า ในสลัดที่ตักมามีส่วนผสมของกุ้งที่ตนเองแพ้หรือไม่ พนักงานตอบว่า "ไม่มีครับ เป็นสลัดผักกับผลไม้" ผมจึงได้พูดย้ำไปว่า ชัวร์นะครับ เพราะภรรยาผมแพ้กุ้งรุนแรงมาก พนักงานได้ตอบกลับมาว่า "ไม่มีครับ"

ดังนั้น ภรรยาผม (ซึ่งขณะนั้นอาการยังไม่ชัด) จึงรู้สึกสบายใจและได้รับประทานอาหารดังกล่าวซ้ำอีกหนึ่งคำ ซึ่งครั้งนี้กัดโดนเนื้อกุ้ง (จึงคายออกมาในทันที โดยคาดว่ามีกุ้งออกมาครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งกลืนลงไปแล้ว) ระหว่างนี้จึงแก้ไขโดยดื่มน้ำตามมากๆ แต่อาการเริ่มรุนแรงมากขึ้น (หายใจเริ่มติดขัด) ด้วยความตกใจจึงได้เรียกพนักงานคนเดิมมา แล้วชี้บอกว่าในสลัดนี้มีกุ้งอยู่ พนักงานคนเดิมเลยเข้าไปถามข้างในครัว แล้วเดินออกมาบอกว่า "มีกุ้งครับ"

“เฉลิมชัย” เดินหน้าขยายความร่วมมือด้านการเกษตรกับซาอุดิอาระเบีย เน้นตอบโจทย์วิสัยทัศน์ 2030 มุ่งความมั่นคงด้านอาหาร การค้าสินค้าเกษตรและการลงทุนอุตสาหกรรมเกษตร

ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เปิดเผยวันนี้ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เล็งเห็นถึงโอกาสร่วมกันของประเทศไทยและประเทศซาอุดิอาระเบียในการขยายความร่วมมืออย่างใกล้ชิดทางด้านการเกษตรจึงได้มอบหมายให้ นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นหัวหน้ำคณะผู้แทนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เดินทางเยือนซาอุดีอาระเบียระหว่างวันที่ 15-19 พฤษภาคมนี้ร่วมกับคณะของรัฐบาลและภาคเอกชนโดยการนำของนายดอน ปรมัติถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

 

ชาวสวนทุเรียนได้เฮ!!! เที่ยวบินปฐมฤกษ์ขนทุเรียนไทยจากกรุงเทพสู่สนามบินหนานหนิงด่านใหม่ของจีนสำเร็จเป็นล็อตแรก

“อลงกรณ์” ชี้เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ. และฟรุ้ทบอร์ดในการเพิ่มระบบขนส่งทุเรียนทางอากาศจากไทยถึงจีนใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง

นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาผลไม้ล่วงหน้าในคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) เปิดเผยวันนี้ว่า นับเป็นข่าวดีสำหรับชาวสวนทุเรียนอีกข่าวหนึ่งเมื่อสายการบินเทียนจินแอร์คาร์โก้ (Tianjin Air Cargo) บรรทุกทุเรียนไทยสู่สนามบินหนานหนิงซึ่งเป็นด่านใหม่ได้สำเร็จเป็นเที่ยวปฐมฤกษ์โดยใช้เวลาบินเพียง 2 ชั่วโมง 

ซึ่งการบริการเที่ยวบินสินค้าเส้นทางใหม่จะกระตุ้นธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างกว่างซีและไทยโดยเฉพาะทุเรียนสินค้ายอดนิยมของไทยในประเทศจีน

สำหรับเทียนจิน แอร์ คาร์โก เป็นสายการบินขนส่งสินค้าในภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-เหอเป่ยของจีน เปิดบริการขนส่งสินค้าทางอากาศที่เชื่อมนครหนานหนิงและกรุงเทพมหานคร

นายอลงกรณ์กล่าวต่อไปว่า สนามบินหนานหนิงเป็นด่านใหม่ล่าสุดที่ทางการจีนเปิดให้มีการนำเข้าผลไม้จากไทยภายหลังจากที่สำนักงานศุลกากรแห่งชาติจีน (GACC)ได้ประกาศอนุมัติให้ท่าอากาศยานหนานหนิง สามารถนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศได้ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ซึ่งเป็นผลมาจากเจรจาและผลักดันของทีมประเทศไทย ณ นครหนานหนิงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2565 หลังจากการใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง เที่ยวบิน HT3828 ของสายการบินเทียนจินแอร์คาร์โก้ (Tianjin Air Cargo) ได้ขนส่งทุเรียนไทยล็อตแรกที่นำเข้าผ่านด่านสนามบินหนานหนิงภายหลังจากได้รับกำหนดให้เป็นสถานที่ควบคุมตรวจสอบผลไม้นำเข้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าด่านสนามบินหนานหนิงได้เปิดรับการนำเข้าผลไม้จากต่างประเทศอย่างเป็นทางการ 

“คณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) โดย ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานกำหนดเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ในการบริหารโลจิสติกส์สำหรับฤดูกาลผลไม้ปี 2565 โดยให้เพิ่มการขนส่งทางเรือเป็น 55% ทางบก 40% ทางราง (รถไฟสายจีน-ลาว) และทางอากาศรวมกัน 5% เพื่อลดความแออัดของด่านทางบกในช่วงผลผลิตทุเรียนออกมาก โดยในปี 2564 มีการขนส่งทางเรือ 51% ทางรถ 48% และทางเครื่องบิน 0.5% การเปิดสนามบินหนานหนิงเป็นด่านใหม่ได้สำเร็จจะเพิ่มโอกาสในการบรรลุเป้าหมายที่วางไว้มากยิ่งขึ้น”

'หมอวรงค์' ชี้!! เลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. สะเทือนระบอบทักษิณ พร้อมหนุนเลือก 'อัศวิน' เอาชนะระบอบจำแลง

15 พ.ค. 65 นพ.วรงค์​ เดชกิจวิกรม​ หัวหน้าพรรคไทยภักดี​ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก​ โดยมีรายละเอียดดังนี้ #ระบอบทักษิณหวั่นไหวกับการเลือกผู้ว่ากรุงเทพฯ ระบอบทักษิณ หวั่นไหวกับการเลือกตั้งผู้ว่า กทม. มาก ถึงขนาดเพจของเขา ยังพยายามมาปั่นกระแสว่า ถ้าวันนี้ระบอบทักษิณยังอยู่ เมืองไทยวันนี้จะปังขนาดไหน และไปเอานโยบายเก่าๆ มาคุยโม้โอ้อวด ให้คนลืมความเลวร้าย

ทั้งๆ ที่คำว่าระบอบทักษิณ มันสื่อถึงการปกครองที่ใช้อำนาจ เผด็จการรัฐสภา ตอนเลือกตั้งก็กวาดต้อนส.ส. บางพรรคซื้อยกพรรค โกงที่ดินรัชดา ฆ่าตัดตอนยาเสพติด สังหารหมู่ที่กรือเซะ ตากใบ แปลงสัญญาสัมปทานเอื้อชินคอร์ป ขายหุ้นไม่เสียภาษี แทรกแซงศาลและองค์กรอิสระ

'ดร.ไตรรงค์' วอนกลุ่ม 'ไทยไม่เฉย'  อยู่ปกป้อง 'ชาติ-ศาสน์-กษัตริย์'

อดีตรองนายกรัฐมนตรี ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ยกเหตุการณ์โกงบ้านโกงเมืองและจาบจ้วงสถาบันในอดีต รอดพ้นปลอดภัยมาได้เพราะกลุ่ม "ไทยไม่เฉย" หวังจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป

เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี อดีตรองนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก "ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี" ระบุถึงกรณี ลาซาด้า จัดจ้างกะเทยรายหนึ่งทำโฆษณาที่มีลักษณะก้าวล่วงสถาบัน จนคนไทยจำนวนมากวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม และโดนหลายหน่วยงานแบนตามที่ได้รายงานไปแล้วนั้น โดย ดร.ไตรรงค์ได้ระบุข้อความว่า

"ไทยไม่เฉย ไทยเฉย VS ไทยขายชาติ

จากกรณีที่บริษัทต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทยบริษัทหนึ่ง ได้บังอาจทำการตลาดด้วยการโฆษณาก้าวล่วงสถาบัน จนคนไทยจำนวนมากรู้สึกสะเทือนใจ ได้ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อปกป้องสถาบัน คุณเปลว สีเงิน (คนปลายซอย) ได้อธิบายปรากฏการณ์นี้ไว้ยืดยาว เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ผมขออนุญาตตัดบางส่วนมาให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้ครับ

ลำพัง "รัฐบาล" ฝ่ายเดียว ถึงแม้ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ จะผนึกแน่นในการควบคุมสถานการณ์รักษาชาติบ้านเมืองก็เถอะ ถ้ามีแต่คน "รักชาติ-รักสถาบัน" อยู่แต่ในที่ตั้ง ใครจะขึ้นช้าง-ลงม้าอย่างไร จ้วงจาบหยาบช้าสถาบัน-ล่มชาติ ขนาดไหน?

กู "ไทยเฉย" อย่างเดียวละก็ ไม่มีคน "รักชาติ-รักสถาบัน" กลุ่มหนึ่งออกมาต้านสู้ ด้วยหัวจิต-หัวใจอย่างที่เห็น ป่านนี้ "เสร็จไอ้สามสัส" กับพวกไอ้จานจัญไรไปนานแล้ว! เพราะลำพังเจ้าหน้าที่รัฐ ด้วย "กฎ-กรอบ-กติกา" มันมัดมือ-มัดเท้า จะทำอะไรกับ "พวกมากลากไป" เฉพาะหน้าได้ไม่ถนัดหรอก

ยิ่งมาเห็นชัดวันนี้-ตอนนี้ กรณีโฆษณานี้ ทำให้อบอุ่นใจ มีความมั่นใจมากขึ้นว่า ต่อให้ลูกหลานไทยเข้าสู่ระบบ "รุ่นใหม่" อีกกี่ร้อยรุ่น-พันรุ่น ก็ไม่ต้องห่วงว่าใครจะ "ล่มชาติ/ล้มสถาบัน" ไทยเราไปได้

เพราะ "เนื้อแท้" แล้ว.........ไทยขายชาติ กับไทยเฉย และไทยคอยฉกฉวยโอกาส ที่เราเห็น มันมีตามวิสัย "สัตว์นรกมาเกิด" กระหย่อมหนึ่งเท่านั้น แต่โดยมนุษย์แก่นไทย.......คนรักชาติ-บ้านเมือง จะเป็นส่วนใหญ่ เมื่อถึงจุดหนึ่ง เขาจะออกมาป้องชาติ-ป้องสถาบัน ด้วยใจมันสั่งมา โดยไม่มีใครต้องนัดหมาย

"เลือดไทย" นั่นแหละ มันไหลออกมาผนึกรวมกันเอง!


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top