Saturday, 17 May 2025
TheStatesTimes

เปิดตัว ‘ตุ๊กตาบาร์บี้’ ตุ๊กตาที่มี ‘ยอดขายมากที่สุดในโลก’ 

เชื่อว่าของเล่นในวัยเด็กของใครหลายๆ คน คงไม่พ้นตุ๊กตา แต่นอกจากนี้ก็ยังมีตุ๊กตาที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นั่นก็คือ ‘ตุ๊กตาบาร์บี้’ ตุ๊กตาที่จำลองมาจากคนจริงๆ โดยย่อขนาดให้เล็กลงมาถึง 6 เท่า ซึ่งในวันนี้ก็นับว่าเป็นวันคล้ายวันเกิดของบาร์บี้ก็ว่าได้ โดยเราจะพามาย้อนอดีต รู้จักที่มา กว่าจะมาเป็น ‘ตุ๊กตาบาร์บี้’ กัน 

ตุ๊กตาบาร์บี้ของเล่นในวัยเด็กของผู้หญิงหลายๆ คน สิ่งประดิษฐ์ที่เกิดขึ้นมาจากคนเป็น ‘แม่’ โดยเธอคนนั้นก็คือ ‘แฮนเลอร์’ เธอได้รับแรงบันดาลใจที่จะประดิษฐ์ตุ๊กตาบาร์บี้ หลังจากเธอสังเกตเห็นว่า บาร์บาร่า ลูกสาวของเธอชอบเล่นตุ๊กตากระดาษ และชอบให้ตุ๊กตาเหล่านั้นทำสิ่งต่างๆ เหมือนที่ผู้ใหญ่ทำ เธอจึงเริ่มความคิดที่จะสร้างตุ๊กตาสาวที่มีรูปร่างเป็นผู้ใหญ่ 

ต่อมา เมื่อแฮนเลอร์มีโอกาสได้เดินทางไปท่องเที่ยวในยุโรปในปี 1956 เธอก็ไปสะดุดตากับตุ๊กตา "ไบล์ด ลิลลี" ของเยอรมนี ซึ่งเป็นตุ๊กตารูปหญิงสาววัยทำงานที่วางจำหน่ายครั้งแรกในเยอรมนีปี 1955 โดยเป้าหมายทางการตลาดในตอนแรกต้องการ เจาะกลุ่มผู้ใหญ่ แต่กลับได้รับความนิยมในหมู่เด็กๆ มากกว่า ซึ่งวางขายอยู่ในร้าน ขายของของสวิตเซอร์แลนด์

เธอจึงได้เริ่มการประดิษฐ์ตุ๊กตาขึ้น โดยได้ซื้อกลับบ้านมา 3 ตัว โดยที่ตัวหนึ่งให้ลูกสาว ส่วนที่เหลือนำมาเป็นต้นแบบในการผลิตตุ๊กตาบาร์บี้ จากนั้น แฮนเลอร์ก็ได้ดัดแปลงเปลี่ยนโฉมตุ๊กตาลิลลีใหม่หมด พร้อมกับตั้ง ชื่อให้ว่า "บาร์บี้" ตามชื่อของลูกสาวเธอ หรือในชื่อเต็มว่า บาร์บี้ มิลลิเซ็น โรเบิร์ท (Barbie Millicent Roberts) ด้วยความช่วยเหลือของแจ๊ค ไรอัน (Jack Ryan) 

สกพอ. จับมือกรมโยธาธิการฯ เดินหน้าสร้างการมีส่วนร่วมประชาชนขับเคลื่อน อีอีซี จัดรับฟังความเห็นต่อแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี แก้ไขเพิ่มเติม

เมื่อวันที่ 1 ถึง 7 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา สกพอ. ร่วมกับกรมโยธาธิการและผังเมือง (ยผ.) จัดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินและแผนผังการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2562 หรือแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี (แก้ไขเพิ่มเติม) ในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง จำนวน 7 ครั้ง แบ่งเป็นระดับจังหวัด 3 ครั้ง และระดับอำเภอ 4 ครั้ง โดยครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ที่มีการเปลี่ยนแปลงแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี ประมาณ 1,000 คน ซึ่งการจัดประชุมรับฟังความเห็นในครั้งนี้สืบเนื่องมาจากในปี 2564 ที่ผ่านมาคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เห็นชอบการตั้งและเปลี่ยนแปลงเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ในอีอีซี เพิ่มเติม 7 แห่ง โดยตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษแห่งใหม่ 6 แห่ง  ประกอบด้วยจังหวัดชลบุรี 3 แห่ง ได้แก่

1) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมเอเซีย คลีน จังหวัดชลบุรี

2) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมโรจนะหนองใหญ่

3) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ​

แหลมฉบัง และจังหวัดระยอง 3 แห่ง ได้แก่

1) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล เอสเตท จังหวัดระยอง

2) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ นิคมอุตสาหกรรมเอ็กโก ระยอง

3) เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ศูนย์นวัตกรรมดิจิทัลและเทคโนโลยีชั้นสูงบ้านฉาง

นอกจากนั้นมีการเปลี่ยนแปลงโดยขยายพื้นที่เขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ ศูนย์นวัตกรรมการแพทย์ครบวงจรธรรมศาสตร์ (พัทยา) จังหวัดชลบุรี หรือ EECmd เพื่อเตรียมพร้อมด้านพื้นที่รองรับการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเพียงพอ ซึ่งจะทำให้มีพื้นที่รองรับอุตสาหกรรมและการประกอบกิจการเพิ่มขึ้นกว่า 5,919 ไร่ เป้าหมายการลงทุนเพิ่มขึ้น 308,772.23 ล้านบาท ภายใน 10 ปีข้างหน้า (ปี 2564-2573) และสืบเนื่องจากมติการประชุม กบอ. ครั้งที่ 4/2564 วันที่ 21 มิถุนายน 2564 มีมติให้มีการเปลี่ยนแปลงข้อกำหนดการบังคับใช้โครงการถนนในแผนผังระบบคมนาคมและโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีข้อกำหนดการบังคับใช้ที่เข้มงวด ส่งผลให้ต้องมีการแก้ไขเพิ่มเติมแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2562 ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้

โดยได้มีการจัดการประชุมรับฟังความคิดเห็น ต่อประกาศคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง แผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ เป็นขั้นตอนสำคัญ​ เพื่อรับฟังข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะจากประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงผู้สนใจทั่วไปได้มีส่วนร่วมในการเสนอความเห็นและข้อมูลเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาพื้นที่ อีอีซี และแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดินฯ โดยนางสาวทัศนีย์ เกียรติภัทราภรณ์ ที่ปรึกษาพิเศษด้านพื้นที่และชุมชน สกพอ. บรรยายความคืบหน้าการดำเนินโครงการ อีอีซี เหตุผลและความจำเป็นในการแก้ไขแผนผังการใช้ประโยชน์ที่ดินฯ และนางสาววิชัญญา บำรุงชล นักผังเมืองชำนาญการพิเศษ และนายนครินทร์ ปลั่งพงษ์พันธ์ วิศวกรชำนาญการพิเศษ กรมโยธาธิการและผังเมือง บรรยายให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนผังการใช้ประโยชน์ในที่ดิน อีอีซี ที่มีการเปลี่ยนแปลง และเนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงได้จัดการประชุมที่หลากหลายช่องทาง ทั้งจัดในห้องประชุมในพื้นที่อำเภอบ้านบึง อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี อำเภอบ้านค่าย และอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง และจังหวัดฉะเชิงเทรา และการประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (ZOOM) และ Facebook live โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมรับฟังความเห็นทั้ง 7 เวที จากทุกช่องทางรวมประมาณ 1,100 คน

“โฆษกรัฐบาล” ซัด “ผู้นำฝ่ายค้าน" เลิกโหมโรงซักฟอก เย้ย แค่พิธีกรรม ชี้ พรรคร่วมรัฐบาลนัดทานข้าว โชว์เสียงหนุนรัฐบาลมั่นคง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  กล่าวกรณีที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่าพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคเล็ก จะเทเสียงให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเพื่อโหวตคว่ำรัฐบาล ว่า ฝ่ายค้านโหมโรงรายวัน เหมือนกลัวว่าจะหายไปจากพื้นที่สื่อ ทั้งที่ขณะนี้ยังระบุไม่ได้ด้วยซ้ำว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อไหร่ ประเด็นใดบ้าง ควรจะไปตกลงกันให้ชัดเจนก่อนจะดีกว่า ว่าจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ อย่าทำเหมือนการอภิปรายเป็นแค่พิธีกรรมที่ต้องทำ แต่ไม่สนใจเนื้อหาข้อเท็จเพราะประชาชนจะไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย

“เชื่อว่าข้อกล่าวหาของฝ่ายค้านคงไม่แตกต่างจากเดิมมากนัก โดยจะกล่าวหาว่ารัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินผิดพลาด มีการทุจริตคอร์รัปชั่น มีการแสวงหาผลประโยชน์ เหมือนกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจในหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถระบุให้ชัดเจนได้ว่า สิ่งที่ฝ่ายค้านกล่าวหานั้น มีหลักฐานหรือข้อเท็จจริงอะไรมารองรับบ้าง นอกจากใช้โวหารเพียงอย่างเดียว ท้ายที่สุดฝ่ายค้านก็ถูกประชาชนไม่ไว้วางใจในการทำหน้าที่เสียเอง” โฆษกรัฐบาล กล่าว
 

10 มีนาคม ค.ศ. 1879 กำเนิด ‘นายแพทย์ วู ลีน เทห์’ เชื้อสายจีน ผู้คิดค้น ‘หน้ากากอนามัย’ 

นายแพทย์ วู ลีน เทห์ เกิดในครอบครัวชาวจีน ที่มาตั้งรกรากอยู่ในเมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ซึ่งปีนังในขณะนั้นยังเป็นอาณานิคมของสหราชอาณาจักร

เมื่อเรียนจบประถมที่โรงเรียนในปีนัง นายแพทย์ วู ลีน เทห์ ก็ได้รับทุนการศึกษาของพระบรมราชินีนาถ สำหรับอาณานิคมอังกฤษ ที่มลายู และสิงคโปร์ เพื่อเข้าศึกษาแพทยศาสตร์ ต่อที่มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ในปี 1896 

การได้รับทุนการศึกษาของ นายแพทย์ วู ลีน เทน์ ในครั้งนี้นับว่าเป็นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ เนื่องจากเขาคือนักเรียนเชื้อสายจีนคนแรกที่คว้าปริญญาสาขาแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ 

ต่อมาในปี ค.ศ. 1910 นายแพทย์ วู ลีน เทห์ ได้รับการเชื้อเชิญ จากรัฐบาลชิง ในการเป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหา “โรคระบาดแมนจูเรีย” ในเมืองฮาร์บิน 

ซึ่งเมื่อนายแพทย์ วู ลีน เทห์ ได้ศึกษาผู้ป่วยและการระบาดอยู่ช่วงหนึ่ง เขาก็พบว่าการระบาดครั้งนี้เกิดจากการติดต่อระหว่างคนสู่คนผ่านฝอยละอองขนาดเล็ก จากการที่ผู้ป่วยไอหรือจาม

'รัฐบาล' เห็นชอบ ร่างปฏิญญาร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านแรงงานรอบอ่าวอาหรับ (ADD) จับมือ พัฒนาขีดความสามารถ คุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ของแรงงาน 

น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมครม. เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา ได้ให้ความ เห็นชอบร่างปฏิญญาร่วมของการประชุมระดับรัฐมนตรี Abu Dhabi Dialogue ครั้งที่ 6 (The Joint Declaration of the Abu Dhabi Dialogue Sixth Consultation) ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ 

ซึ่งการประชุม ADD นี้ เป็นการประชุมหารือระหว่างประเทศสมาชิกกระบวนการโคลัมโบ (ประเทศผู้ส่งแรงงาน) 12 ประเทศ ได้แก่ อัฟกานิสถาน บังกลาเทศ กัมพูชา จีน อินเดีย อินโดนีเซีย เนปาล ปากีสถาน ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไทย และเวียดนาม กับกลุ่มประเทศรอบอ่าวอาหรับผู้รับแรงงาน รวม 7 ประเทศ ได้แก่ บาห์เรน คูเวต โอมาน กาตาร์ ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเยเมน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล พัฒนาขีดความสามารถ ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของแรงงาน ณ ประเทศปลายทาง เพื่อให้การเคลื่อนย้ายแรงงานที่ไปทำงานตามสัญญาจ้างชั่วคราวเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศต้นทางที่ส่งออกและประเทศปลายทางที่รับแรงงาน

ร่างปฏิญญาร่วมฉบับนี้ มีขอบเขตความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกใน 5 ประเด็นสำคัญ ดังนี้ 1.การพัฒนาการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรมของแรงงานที่มีสัญญาจ้างชั่วคราว เช่น  สนับสนุนให้มีโครงการเพื่อแบ่งปันความรู้ระหว่างประเทศสมาชิกเกี่ยวกับการนำเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์มาใช้เป็นระบบการแก้ปัญหาข้อพิพาทอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมุ่งสร้างระบบที่เอื้อให้เข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม ตลอดจนมีการแบ่งปันบทเรียนทางนโยบายที่ได้รับระหว่างประเทศสมาชิก ADD และอื่นๆ รวมทั้งสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกพิจารณาขยายขอบเขตระบบการคุ้มครองด้านค่าจ้างให้ครอบคลุมแรงงานที่มีสัญญาจ้างชั่วคราว

2.การอำนวยความสะดวกและยกระดับการเคลื่อนย้ายฝีมือแรงงานและการเทียบคุณวุฒิแรงงานระหว่างประเทศผู้รับและประเทศผู้ส่งแรงงาน เพื่อตอบสนองต่อภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปของงาน เช่น การศึกษาเพื่อวิเคราะห์บทเรียนที่ได้รับ โดยมุ่งเน้นไปที่ประเด็นความต้องการทักษะแรงงาน รวมทั้งพัฒนาทักษะที่สอดคล้องในระดับภูมิภาคระหว่างคู่เจรจา เพื่อให้ตรงกับความต้องการและประเด็นที่ให้ความสำคัญของประเทศสมาชิก ADD

“นายกฯ” ห่วงปชช.สั่ง ศปม.จัดกำลังพล ช่วยรับโทรศัพท์ สายด่วนสปสช. 1330 บรรเทาความเดือดร้อน

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(ศบค.)มีคำสั่งให้ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.)จัดกำลังพลสนับสนุนสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)ปฏิบัติหน้าที่รับสายด่วนของ สปสช. (1330)ซึ่งมีปริมาณผู้โทรเข้ามาจำนวนมาก เพื่อช่วยเร่งนำผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เข้าสู่ระบบ ให้ประชาชนเข้าถึงการดูแล และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนอย่างเร่งด่วน

นายธนกร กล่าวว่า ศปม. ได้จัดตั้งศูนย์ประสานงานสายด่วน ศปม.สนับสนุนสปสช. (1330) จำนวน 200 คู่สาย โดยแบ่งเป็น กองบังคับการศปม.40 คู่สาย ศปม.กองทัพบก 80 คู่สาย ศปม. กองทัพเรือ 40 คู่สาย และศปม. กองทัพอากาศ 40 คู่สาย ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา สปสช. ได้จัดการอบรมและซักซ้อมการปฏิบัติงานให้เจ้าหน้าที่สายด่วน และการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ  โดยสปสช. มีแนวทางการปฏิบัติเป็นคู่มือ มีรายละเอียดของหน่วยงานที่จะต้องประสานส่งต่อข้อมูล มีกลุ่มไลน์ของผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำแนะนำเจ้าหน้าที่ และรับเคสที่มีความซับซ้อนไปดำเนินการต่อ รวมทั้งมีช่องทางประสานส่งต่อเคสด่วนไปยัง 1669 โดยแต่ละเหล่าทัพจัดสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และคอมพิวเตอร์ ให้เพียงพอกับการปฏิบัติภารกิจ

11 มีนาคม พ.ศ. 2473 ระลึกถึง ‘อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ’ ผู้ให้กำเนิดแบบเรียน ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’

หากพูดถึงชั่วโมงเรียนภาษาไทยในวัยประถม หลายคนคงนึกถึงตัวละคร ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ แบบเรียนที่เด็กไทยหลายคนต้องเคยได้สัมผัสและในวันที่ 11 มีนาคม ก็นับว่าเป็นวันเกิดของผู้ให้กำเนิดแบบเรียนในความทรงจำ ‘อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ’

โดยแบบเรียน ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ เคยใช้เป็นแบบเรียนวิชาภาษาไทย ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ ตามหลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. 2521-2537 แน่นอนว่าสำหรับใครที่อายุเลข 3 ขึ้นไป ต้องเคยได้สัมผัสและเติบโตไปพร้อมกับเรื่องราวของมานะ มานี จนเขียนอ่านได้คล่อง ถึงแม้ว่าอาจารย์รัชนี ได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่ตัวละครต่างๆ ก็ได้กลายเป็นความทรงจำสีจางให้กับหลายคน

‘อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ’ เกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม พ.ศ. 2473 นับได้ว่าท่านเป็นผู้สร้างคุณูปการยิ่งใหญ่ต่อการศึกษาไทยในวิชาภาษาไทยเป็นอย่างมาก ซึ่งขณะรับราชการเป็นศึกษานิเทศก์ครูภาษาไทย ท่านได้รับมอบหมายจากสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เขียนเรื่องประกอบหนังสือแบบเรียนภาษาไทย ตามหลักสูตรประถมศึกษา พุทธศักราช 2521 ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อ ‘มานะ มานี ปิติ ชูใจ’ โดยนำมาใช้เป็นแบบเรียนตามหลักสูตรจวบจนถึงปี 2537 และเป็นผลงานที่ทำให้ท่านได้รับการยกย่องมาจวบจนถึงทุกวันนี้ 
 

มุกไม่ฮาพาเครียด!! ทัวร์ลง ‘พิมรี่พาย’ ไลฟ์มุกเมียปูตินขายของ จวกยับ เอาสถานการณ์สงครามมาเป็นเรื่องตลก

กลายเป็นดราม่าร้อนไปทั้งโซเชียล เมื่อผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ลงคลิปแม่ค้าออนไลน์สาวชื่อดัง "พิมรี่พาย" พูดถึงสงครามรัสเซียกับยูเครนในเชิงตลกระหว่างไลฟ์ขายของ พร้อมระบุแคปชันว่า "ประเทศหนึ่งถูกรุกราน ละเมิดอำนาจอธิปไตย บ้านเมืองเสียหาย ประชาชนล้มตาย ไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หรือคนแก่ และคนอีกมากมายต้องพลัดบ้านพลัดถิ่น มีคนต้องหลบซ่อนในชั้นใต้ดิน หวาดกลัวเสียงไซเรน สมควรแล้วเหรอที่เอามาเป็น Joke ในการขายสินค้า"

ซึ่งต่อมาได้มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมากจนแฮชแท็ก #พิมรี่พาย ติดเทรนด์ในทวิตเตอร์ อาทิ ...

"อีกแล้วหรอ ชาติที่แล้วเกิดเป็นหนอนหรอบ้งไม่เลิก เล่นกับความเป็นความตายแบบลอยหน้าโอ้ยไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยาย(ด่า)ล่ะ #พิมรี่พาย"

สงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ บทบาท ‘จีน’ อยู่ตรงไหน?! | Click on Clear THE TOPIC EP.164

📌จับตาบทบาท ‘จีน’ ในสงคราม ‘ยูเครน’!! ไปกับ ‘ดร.ปิติ ศรีแสงนาม’ ผู้อำนวยการศูนย์อาเซียนศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย!
📌ใน Topic : สงคราม ‘รัสเซีย-ยูเครน’ บทบาท ‘จีน’ อยู่ตรงไหน?!

ในรายการ Click on Clear THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES

.

.

“บิ๊กตู่”โพสต์ข้อความ โลกกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตซ้อนวิกฤต ทั้งจากโควิด-เงินเฟ้อ-เงินฝืด-ความขัดแย้งยูเครน-รัสเซีย “ชี้”ผลกระทบราคาน้ำมัน พลังงาน “ยัน”ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นรัฐบาลมีแผนการรองรับไว้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ขณะนี้โลกของเรากำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตซ้อนวิกฤต อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สภาวะเงินเฟ้อพร้อมกับเงินฝืด และความขัดแย้งยูเครน-รัสเซียที่ส่งผลให้ราคาพลังงานโลกและราคาน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าและค่าขนส่งที่มีน้ำมันเป็นต้นทุนการผลิตขยับตัวสูงขึ้นตามไปด้วย กระทบต่อค่าครองชีพของเราชาวไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้พยายามออกมาตรการเร่งด่วน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและบรรเทาความเดือดร้อน ให้กับพี่น้องประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง เช่น การตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร การปรับลดอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง การลดค่าใช้จ่ายสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน (ค่าน้ำ-ค่าไฟ) รวมทั้งการอุดหนุนเงินให้แก่ผู้ที่มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบาง ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และผ่านโครงการคนละครึ่ง เป็นต้น ซึ่งก็สามารถกระตุ้นกำลังซื้อและเสริมสภาพคล่องให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมได้อีกด้วย

อย่างไรก็ตามวิกฤตต่างๆ ยังคงมีความผันผวนอย่างต่อเนื่อง และต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในเรื่องของราคาพลังงานโลก ซึ่งในวันนี้ (9 มี.ค.) จะมีการประชุม “วาระเร่งด่วน” ของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อกำหนดมาตรการด้านพลังงาน และเร่งรัดให้มีผลบังคับใช้ เพื่อลดค่าครองชีพของประชาชนโดยเร็วต่อไป

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับมาตรการด้านพลังงานในระยะยาว ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) นั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลมุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม เช่น 1.โครงการโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำแบบไฮบริด “Hydro Floating Solar Hybrid System” ที่เขื่อนสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ประมาณ 70 สนามฟุตบอล มีแผงโซลาร์เซลล์มากถึง 145,000 แผง สามารถผลิตกระแสไฟฟ้า 45 เมกะวัตต์ ลักษณะสำคัญคือเป็น "ทุ่นลอยน้ำ" ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่ส่งผลกระทบกับระบบนิเวศใต้น้ำ

รวมทั้งช่วยลดการระเหยของน้ำในเขื่อนได้ประมาณ 460,000 ลูกบาศก์เมตร/ปี และมีประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าดีกว่าการติดตั้งบนบกถึง 10-15% ซึ่งได้เริ่มดำเนินการจ่ายกระแสไฟตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว และกลายเป็นต้นแบบการผลิตพลังงานสะอาดที่ต่างประเทศให้ความสนใจเป็นอันมาก ซึ่งรัฐบาลมีโครงการสนับสนุนการสร้างโซลาร์ฟาร์มลอยน้ำแบบไฮบริดนี้ในเขื่อนอื่นๆ ทั่วประเทศ ซึ่งนอกจากจะได้พลังงานสะอาดแล้ว ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นและจุดยืนของประเทศไทยในการเป็นผู้นำด้านนโยบายสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคให้กับประชาคมโลก และยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดอีกด้วย 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top