Tuesday, 8 July 2025
TheStatesTimes

กระบี่ - สื่อท้องถิ่นจิตอาสา ร่วม สาธารณสุขคลองท่อม ประชาสัมพันธ์เชิงรุก สถานการณ์โควิด-19 ในพื้นที่ สสอ.คลองท่อม พร้อมเผยทาง สสจ.กระบี่ กำลังรวบรวมหลักฐานสาวโรงงานซิอิ้ว จ.ตรัง แจ้งความเอาผิดฝ่าฝืน พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ

วันที่ 28 มิถุนายน 2564 ที่หน้าโรงเรียนคลองท่อมราษฎร์รังสรรค์ นายอนันต์ ลู่เกียง สาธารณสุขอำเภอคลองท่อม พร้อมด้วยสื่อท้องถิ่น สถานีวิทยุกระเสียง รถแห่ เจ้าหน้าที่กู้ชีพคลองท่อม ได้ร่วมกันปล่อยรถแห่ประชาสัมพันธ์เชิงรุก จำนวน 4 คัน เพื่อประชาสัมพันธ์คำสั่งประกาศคณะกรรมการควบคุมโรคจังหวัดกระบี่ ในพื้นที่อำเภอคลองท่อม เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารข้อมูลได้อย่างถูกต้อง พร้อมกันนั้นได้กระจายเสียงตามสถานีวิทยุท้องถิ่น หลาย ๆ คลื่น เช่น Fm 91.0 เหนือคลอง 95.0 พรุดินนา 102.75 คลองท่อม 101.0 ลำทับ ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนตระหนัก และให้ความร่วมือเข้าใจต่อสถานการณ์ในพื้นที่  

สืบเนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด โควิด-19 คัตเตอร์ใหม่พบผู้ป่วยจำนวนมากในกลุ่มผู้ที่มาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ วัดคลองท่อมซึ่งจัดงานในระหว่างวันที่ 12 ถึง 17 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาและมีความเชื่อมโยงระหว่างการระบาดในพื้น อ.คลองท่อม จ.กระบี่

ผลการตรวจวิเคราะห์ การตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 11/1 ภูเก็ต จากการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก(Active case finding) ณ.วัดคลองท่อม วันที่ 26 มิถุนายน 2564 จำนวน 1287 ราย ผลปกติ 1286 ราย ติดเชื้อ 1 ราย ทางสาธารณสุขได้ดำเนินการประสานและดำเนินการเข้าสู่กระบวนการรักษา และสอบสวนโรค เรียบร้อยแล้ว

ด้านนายอนันต์ ลู่เกียง สาธารสุขอำเภอคลองท่อม พร้อมเผยทาง สสจ.กระบี่ กำลังรวบรวมหลักฐานสาวโรงงานซิอิ้ว จ.ตรัง แจ้งความเอาผิดฝ่าฝืน พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งได้ฝ่าฝืนเดินทางมาร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพ ที่วัดคลองท่อม เมื่อวันที่ 12-17 มิย 2564 ที่ผ่านมา และมีความเชื่อมโยงระหว่างการระบาดไปยังผู้ปกครองครูพี่เลี้ยงเด็กและผู้ที่ไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพในพื้นที่ อ.คลองท่อม ตามวันเวลาสถานที่ดังกล่าว และยังคงรักษามาตรการอย่างเคร่งครัด สวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อย ๆ จนกว่าผ่านสถานการณ์นี้ จนถึงวันที่ 9 กรกฏาคม 2564 จากคำสั่งประกาศคณะกรรมการควบคุมโรค จ.กระบี่ ฉบับที่ 23/2564 โดย พ.ต.ท มล.กิติบดี ประวิตร  ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ 


ภาพ/ข่าว  มโนธรรม ใจหาญ จ.กระบี่  รายงาน

“วิโรจน์” อัดรบ. ประเมินสถานการณ์พลาด ทำโควิดเลวร้าย คนป่วยตกค้างไร้เตียง นอนตายที่บ้าน หนุนล็อกดาวน์คู่มาตรการเยียวยา แนะหารือผู้เชี่ยวชาญหยุดวิธีคิดโง่เขลา จี้เลิกซื้อ “ซิโนแวค” เหตุกระตุ้นภูมิต่ำ ไม่กันสายพันธุ์เดลต้า

ที่พรรคก้าวไกล นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงถึงการที่รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์กรุงเทพฯและปริมณฑล ว่า การควบคุมการระบาดของโรคนั้นพบว่าแพทย์ 1 คน ต้องดูแลผู้ป่วยอย่างน้อย 30 ราย บุคลากรการแพทย์ต้องทำงานหนักวันละ 16 ชั่วโมง ต่อเนื่องกันมานานกว่า 3 เดือน แต่ผู้ติดเชื้อโควิด ที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น และแนวโน้มผู้ติดเชื้อมีจำนวนมากกว่าผู้ที่หายป่วยกลับบ้าน ทางพรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยได้แล้วว่าในแต่ละวันผู้ติดเชื้อใหม่มีจำนวนตรวจที่แท้จริงเท่าใด และจากผู้ที่ติดเชื้อรายใหม่ที่พบเป็นผู้ที่ได้รับวัคซัน 1 เข็มไปแล้วกี่ราย รับวัคซีนครบ 2 เข็มไปแล้วกี่ราย โดยแยกยี่ห้อวัคซีนแจ้งให้ประชาชนทราบด้วย และในจำนวนนี้มีบุคคลากรทางการแพทย์กี่ราย เพื่อให้ประประชาชนได้รับทราบสถานการณ์ที่แท้จริง ซึ่งรัฐบาลมักจะพูดเสมอว่าวัคซีนที่เอามาฉีดกันตาย ไม่กันติด ทั้งที่จริงๆแล้วมีการติดมากน้อยแค่ไหน 

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ยืนยันว่าสถานการณ์ที่เลวร้ายที่เกิดขึ้นในกทม.ถ้ารัฐบาลรู้จักหน้าที่ในการทำงานอย่างแท้จริง สถานการณ์ไม่เลวร้ายถึงเพียงนี้ หากรัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมทุกอย่าง แม้จะอยู่ในสภานการณ์ที่ลำบากก็ไม่น่าจะเกินกว่าขีดความสามารถที่รัฐบาลจะรับมือได้ดีกว่านี้ ที่ผ่านมางบประมาณด้านสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท ที่กันมาจากการเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท รัฐบาลนี้เบิกจ่ายได้เพียงประมาณ  9,556 ล้านบาท หรือ 21 เปอร์เซนต์เท่านั้น รัฐบาลจะอ้างว่าไม่มีงบประมาณไม่ได้ โครงการเตรียมความพร้อมด้านสถานพยาบาลมีการกันเงินเอาไว้ 10,132 ล้านบาท จากเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท จากวงเงินสาธารณสุข 4.5 หมื่นล้านบาท เบิกจ่ายไปได้เพียงแค่ 178 ล้านบาทเท่านั้น คืบหน้าแค่ 1.8 เปอร์เซนต์ โครงการเพื่อรับสถานการณ์ฉุกเฉิน 10,497 ล้านบาท เบิกจ่ายไปได้เพียง 127 ล้านบาท คืบหน้าเพียง 8.5 เปอร์เซนต์  

โฆษกพรรคกก้าวไกล กล่าวต่อว่า ทั้งหมดนี้จึงสะท้อนได้ชัดว่า ที่ผ่านมารัฐบาลดูเบาต่อสถานการณ์ ประเมินสถานการณ์ต่ำเกินไป และละเลยไม่ตั้งใจในการทำหน้าที่ ขาดความรับผิดชอบต่อสาธารณชน จนประชาชนโดยเฉพาะในกทม. ต้องเดือดร้อนแสนสาหัส กระทบกับปากท้องการดำเนินชีวิต การทำมาหากิน ประชาชนทุกเพศทุกวัยเดือดร้อน  และสถานการณ์การฉีดวัคซีนก็ยังคงล้าช้า มีประชาชนถูกลอยแพเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าระบบจัดการฐานข้อมูลยังคงมั่วอยู่ ยิ่งให้โรงพยาบาลเข้ามากำหนดวันหนัดหมายใหม่ได้เอง เลื่อนคิวได้เอง โดยที่ระบบฐานข้อมูลยังไม่ได้จัดทำให้เชื่อมโยงกัน ระหว่างระบบการจองต่างๆ กับฐานข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุข ยิ่งจะทำให้ระบบการจัดการฐานข้อมูลสร้างปัญหาให้กับการจัดการฉีดวัคซีนให้ประชาชนเดือดร้อนกันมากยิ่งขึ้น  ซึ่งเรื่องนี้พรรคก้าวไกลขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งจัดการปัญหาให้เร็วที่สุด ไม่เช่นนั้นปัญหาจะสะสมแและผู้ที่เดือดร้อนคือประชาชน

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า สำหรับวัคฉีนซิโนแวค ที่รัฐบาลยืนยันที่จะดำเนินการจัดซื้ออีก 28 ล้านโดสนั้น ถ้าต้องใช้งบฯ จะอยู่ที่ 15,372 ล้านบาทถึง 1,7500 ล้านบาท เรื่องนี้พรรคก้าวไกล ขอเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนอย่างเร่งด่วน เนื่องจากมีข้อท้วงติงจากผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการ ในประเด็นประสิทธิภาพของวัคซีนซิโนแวก และวัคซีนชนิดเชื้อตายอื่น ๆ ว่าอาจจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดได้อย่างจำกัด และไม่ความสามารถในการสร้างภูมิที่ไม่สูงเพียงพอ และมีแนวโน้มว่าอาจจะไม่สามารถรับมือกับเชื้อสายพันธุ์เดลต้าได้ ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวมีการคาดมายกันว่าจะเป็นสายพันธุ์หลักที่ระบาดในกทม. ภายในเดือน ก.ค.-ส.ค.นี้ 

นายวิโรจน์ กลาวต่อว่า การฉีดวัคซีนซิโนแวก หากรัฐบาลจอ้างว่าฉีด 3 เข็ม แล้วได้ภูมิในระดับน้องๆของ Mrna อย่างไฟเซอร์ พรรคก้าวไกล จึงได้เปรียบเทียบต้นทุนให้รัฐบาลได้ตรหนัก วัคซีนซิโนแวค 3 เข็ม ค่าใช้จ่ายต่อประชาชน อยู่ที่ประมาณ 1,647-1,875 บาทต่อคน เมื่อเทีบกับไฟเซอร์ 2 เข็มมีค่าใช้จ่ายเพียงแค่ 1,216 บาทต่อคน ไม่ว่าจะในแง่ประสิทธิภาพในการป้องกันโรคหรือประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณ การจัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA น่าจะเป็นทางออกในการระงับการแพร่ระบาดจากเชื้อสายพันธ์เดลต้าที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด พรรคก้าวไกลยืนยันว่า การจัดซื้อวัคซีนชนิด mRNA ควรจะเป็นทางออกที่รัฐบาลเร่งพิจารณาและเชื่อว่าจะเป็นการตัดสินใจที่ใช้สติปัญญาในการไตร่ตรองอย่างมีจริยธรรมมากกว่า รัฐบาลจะนอนคดไม่รู้นั่งขู้ไม่เห็นไม่ได้ สิ่งเหล่านี้จะเป็นข้อสังเกตถึงประสิทธิภาพการแพร่ระบาดของวัคซีนซิโนแวคและวัคซีนเชื้อตายที่รัฐบาลนำมาฉีดให้กับประชาชน        

“คำถามที่รัฐบาลต้องชี้แจงกับประชาชนคือเหตุใดการส่งมอบวัคซีนไฟเซอร์ 20 ล้านโดสจึงถูกเลื่อนไปส่งมอบในไตรมาส 4 ทั้งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้มีการเจรจาไว้ตั้งแต่ 20 เม.ย.ซึ่งการส่งมอบที่ล่าช้าถูกเลื่อนไป สวนทางกับประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ที่สั่งไป 50 และ 40 ล้านโดสตามลำดับ ซึ่งทั้งสองประเทศมีการแถลงว่าจะส่งมอบให้ในเดือนส.ค. ประเด็นข้อสงสัยนี้รัฐบาลควรเปิดเผยว่าในวันที่ลงนามจองวัคซีนกับไฟเซอร์เป็นวันที่เท่าไร หากมีการลงนามในสัญญาจองวัคซีนก่อนประเทศอินโดนีเซียและประเทศฟิลิปปินส์ ก็ไม่มีเหตุผลอะไรเลยที่ประเทศไทยจะได้รับการส่งมอบวัคซีนช้ากว่าอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ เรื่องนี้รัฐบาลต้องชี้แจงอย่างเร่งด่วน จะไม่ทำตัวเป็นไม่รู้หรือทำตัวเงียบเนียนไม่ได้ ทั้งนี้วันที่ลงนามในสัญญาไม่ได้เป็นความลับใด ๆ ที่ประชาชนไม่อาจรู้ได้เลย ทั้งนี้เพื่อการเร่งการจัดหาวัคซีน พล.อ.ประยุทธ์ควรจะเข้าหารือกับทูตของประเทศสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยอย่างเร่งด่วนเพื่อขอความร่วมมือในการเร่งหาวัคซีนชนิด Mrna เพื่อใช้ในการควบคุมการระบาดปกป้องชีวิตและลดความเสี่ยงของบุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานอยู่ด่านหน้า” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า การล็อกดาวน์กรุงเทพฯ หากสภาวะอยู่ในสถานการณ์ที่วิกฤตจริงๆ การล็อกดาวน์ก็เป็นมาตรการที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าจะหลีกเลี่ยงได้ หากรัฐบาลมีการเตรียมตัวและใช้งบประมาณ 45,000 ล้านบาทได้ดีกว่านี้ก็ตาม รัฐบาลควรชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลทั้งหมดให้ประชาชนได้เห็นถึงความจำเป็น และมาตราการล็อกดาวน์ควรมาควบคู่กับการเยียวยาอย่างสมเหตุสมผลกับทั้งประชาชนและผู้ประกอบการ SMEs โดยเฉพาะการเยียวยาค่าเช่าตามจำนวนวันที่มีการล็อกดาวน์ นอกจากนี้รัฐบาลต้องประกาศให้ประชาชนทราบถึงภารกิจที่ชัดเจนว่ารัฐบาลจำเร่งดำเนินการอย่างไรในช่วงที่มีการล็อกดาวน์ รวมถึงต้องมีการตรวจเชิงรุกและพบผู้ป่วยนั้นเป็นข่าวดี ไม่ใช่ข่าวร้ายเพราะจะเป็นการนำผู้ป่วยที่มีอาการเบาบางมารักษา ส่งผลให้อัตรการการเสียชีวิตลดลง ขณะเดียวกันก็จะเป็นการควบคุมการแพร่ระบาด ทั้งนี้รัฐบาลควรให้ผู้ป่วยที่มีอาการเบาบางสามารถรักษาตัวที่บ้านเองได้โดยมีระบบรายงานความคืบหน้าให้กับแพทย์เจ้าของไข้ทราบ และเมื่อมีอาการหนักขึ้นควรมีระบบไปรับมารักษาตัวที่โรงพยาบาล มีระบบให้จ่ายยาหรืออนุญาตให้หมอจ่ายยาเพื่อรักษาผู้ป่วยในตอนที่ยังมีอาการไม่หนักมาก รวมทั้งมีระบบการจัดส่งอาหารให้กับผู้ป่วยเพื่อให้ผู้ป่วยได้กักตัวอยู่ที่บ้านได้อย่างมั่นใจ ทั้งนี้ขอให้เร่งติดตามวัคซีนแอสตราเซเนกาอีก 2,113,000 โดสมาให้ทันภายในวันที่ 30 มิ.ย.โดยเร็วที่สุด เพราะเป็นความหวังในการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโควิดในพื้นที่กรุงเทพฯ 

“ความห่วงใยของพรรคก้าวไกลเกิดจากการที่ รมวมหาดไทย ให้ความเห็นว่าจะช่วยลดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 หากประชาชนเดินทางกลับบ้านและช่วยแก้ปัญหาเตียงไม่พอได้ ซึ่งรมว.มหาดไทยอ้างว่าหากติดโควิดก็จะมีเตียงต่างจังหวัด ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าเป็นวิธีคิดที่ขาดสติปัญญาอย่างมาก และการกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการล็กดาวน์ แต่เป็นการกระจายโรคระบาดไปยังทั่วประเทศ จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและยุติวิธีคิดที่โง่เขลาเช่นนี้โดยพลัน”นายวิโรจน์ กล่าว

รมว.แรงงาน ถกสมาคมก่อสร้าง แจงมาตรการเยียวยาคนงานช่วงปิดแคมป์ 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุมระหว่างกระทรวงแรงงานกับผู้ประกอบการสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จำนวน 24 คน อาทิ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) บริษัท ฤทธา จำกัด บริษั ทวีมงคลก่อสร้าง จำกัด บริษัท ยูเวิร์ด 999 จำกัด บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ฯลฯ เพื่อหารือในแนวปฏิบัติกรณีปิด (Seal) แคมป์คนงานก่อสร้าง เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั้งในกลุ่มแรงงานไทยและต่างด้าว ณ ห้องประชุม ศ.นิคม จันทรวิทุร ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสุรชัย ชัยตระกูลทอง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางเธียรรัตน์ นะวะมะวัฒน์ โฆษกกระทรวงแรงงาน (ฝ่ายการเมือง) นายสุทธิ สุโกศล ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

โดย รมว.แรงงาน กล่าว่า ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน ซึ่งที่ประชุมได้มีมติให้ปิดแคมป์คนงานก่อสร้าง งดการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ปทุมธานี นนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ นครปฐม สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส เป็นเวลา 1 เดือน เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในคลัสเตอร์แคมป์คนงานนั้น และได้มอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่าย เงินชดเชยให้แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ในช่วงที่มีการปิดแคมป์ กระทรวงแรงงานจะจ่ายสิทธิประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยโควิด-19 เนื่องจากสถานประกอบการถูกปิดตามคำสั่ง ศบค. โดยให้สำนักงานประกันสังคมจ่ายเป็นเงินสด 50 เปอร์เซ็นของค่าจ้าง ให้คนงานทุก ๆ 5 วัน พร้อมดูแลเรื่องอาหารทุกมื้อด้วย ตลอด 1 เดือน ตามรายชื่อที่นายจ้างรับรองวันต่อวัน ตลอดเวลาการปิดแคมป์ก่อสร้าง

นอกจากนี้ ยังมีระบบการตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยาจะต้องอยู่ในแคมป์ก่อสร้าง หากไม่อยู่ก็จะไม่ได้รับเงินชดเชยดังกล่าว กระทรวงแรงงานจะประสานกระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปตรวจคัดกรองโควิด-19 เชิงรุก (swab) แก่แรงงานในแคมป์คนงาน 100 เปอร์เซ็น หากตรวจพบเชื้อจะต้องแยกตัวแรงงานเพื่อมาเข้าสู่การรักษาตามขั้นตอนของสาธารณสุข ส่วนผู้ที่ตรวจแล้วไม่พบเชื้อก็จะต้องเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิด-19 

รวมทั้งการเฝ้าระวังตรวจสอบทุกโรงงานในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลให้เป็นไปตามมาตรการควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ หรือ Bubble and Seal 

นอกจากนี้ กระทรวงแรงงานยังได้มอบหมายให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เข้าไปตรวจตราทำความเข้าใจกับนายจ้างผู้ประกอบการให้เข้มงวดถึงมาตรการป้องกันโควิด-19 ของลูกจ้างในแคมป์คนงาน และกรมการจัดหางานเข้าไปตรวจสอบหากกรณีพบว่ามีแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายก็จะนำเข้าสู่ระบบทำให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป

เอกชนขอรัฐต้องออกมาเยียวยาเพิ่มเติม

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลได้ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุด รัฐบาลควรมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการครั้งนี้ เช่น คนงานในแคมป์ก่อสร้าง และลูกจ้างร้านอาหาร ให้อยู่รอดต่อไปได้ รวมทั้งมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ต้องหยุดดำเนินงาน เช่น การช่วยเหลือการเงินเสริมสภาพคล่อง การช่วยชดเชยค่าแรง ลดค่าน้ำ ค่าไฟฟ้า 

ส่วนห้างสรรพสินค้าหรือเอกชนที่เป็นเจ้าของพื้นที่เช่า ก็ควรช่วยเหลือลดค่าเช่า หรือด้านอื่น ๆ ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบใน 10 จังหวัดจะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ หากเป็นธุรกิจที่มีหลักฐานจดทะเบียนถูกต้องควรได้รับความช่วยเหลือทันที ส่วนธุรกิจที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนหากมีผู้ยืนยันตัวตนได้จริง ก็ควรได้รับความช่วยเหลือ

"มาตรการนี้ถือเป็นการเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้นแต่ยังไม่ถึงกับล็อกดาวน์ปิดพื้นที่ เพื่อลดความเสียหายด้านเศรษฐกิจ และเพิ่มความสามารถในการควบคุมโรคได้มากขึ้น หากยังไม่ได้ผล รัฐบาลอาจจะขยายไปสู่การล็อกดาวน์บางธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง ภาคเอกชนจะต้องเตรียมรับมือกับมาตรการต่าง ๆ ที่เข้มงวดขึ้น" 

คนร้ายแอบเข้าขโมย ปูไข่ ปูเนื้อ และกั้งทะเล ของร้านขายอาหารในอำเภอขลุง จ.จันทบุรี 3 วันติดต่อกัน ภาพวงจรปิดจับไว้ได้ เหมือนถูกซ้ำเติมจากสถานการณ์โควิด ตำรวจเร่งตามจับ

ที่ร้านขายอาหารทะเล ชื่อเดชา ปูคอนโด ตั้งอยู่ถนนเทศบาลสาย 3 ต.ขลุง อ.ขลุง จันทบุรี ถูกคนร้ายแอบเข้ามาขโมยปูไข่และปูเนื้อไป ซึ่งภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับได้ และเจ้าของร้านนำมาโพสต์เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยร้านค้า และประชาชนให้ช่วยกันระวัง

แต่คืนต่อมาคนร้ายรายเดิมกลับมาอีกครั้ง รวม 3 ครั้ง ครั้งแรกคืนวันที่ 26 มิถุนายน 64 ไม่สามารถบันทึกภาพได้ ส่วนภาพครั้งที่ 2 ไม่ได้เปิดไฟล์ภาพจึงมืดมองไม่ชัด ครั้งที่สองนี้คนร้ายได้ปูไข่กิโลกรัมละ 800 บาท ไปประมาณ 10 กิโลกรัม และภาพล่าสุดชัดเจนมาก เนื่องจากทางร้านได้เปิดไฟแสงสว่าง จึงจับภาพคนร้ายและพฤติกรรมได้อย่างชัดเจน เป็นภาพเวลาประมาณตีหนึ่งเศษของคืนที่ผ่านมา ( 27 มิ.ย.64 )

ครั้งนี้คนร้ายมาพร้อมกับเพื่อนอีกหนึ่งคน เมื่อมาถึงก็มุ่งหน้าไปที่คอนโดปูเหมือนที่เคยขโมยในครั้งก่อน แต่เปิดดูแล้วไม่มีปู เพราะเจ้าของร้านย้ายที่เก็บรักษา จึงหันไปเอากั้งแก้วที่เลี้ยงไว้ ได้ไปประมาณ 2 กิโลกรัม ราคากั้งแก้วตามท้องตลาดกิโลกรัมละ 1,100 บาท ในครั้งแรกทางร้านไม่คิดที่จะแจ้งความ แต่ครั้งนี้ทำซ้ำอีกติดต่อกันแถมเดินเย้ยกล้องวงจรปิดอีกด้วย ตนเองทนไม่ไหวต้องเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรเมืองขลุง

หลังก่อเหตุ ยังไปก่อเหตุที่ร้านขายอาหารตามสั่งที่อยู่ติดกันอีกด้วยและได้ขโมยเงินสดไปได้จำนวนพันกว่าบาท จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวขโมยรายนี้มาดำเนินคดี เพราะช่วงนี้รายได้ของร้านก็ลดลงเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แล้ว ยังถูกขโมยมาซ้ำเติมอีก

ร้านเดชาปูคอนโด เปิดเป็นร้านขายอาหารทะเลสด รับซื้อปูจากชาวประมงพื้นบ้านและนำมาพักเลี้ยงปูเป็น ๆ ในกล่องพลาสติกสีน้ำเงินเรียงเป็นชั้น จึงเรียกว่าปูคอนโด และยังมีกั้งไซส์ใหญ่ ไว้รองรับลูกค้าที่จองโต๊ะมารับประทานที่ร้าน โดยทางร้านเปิดรับจองโต๊ะเพียงวันละ 10 โต๊ะ คือช่วงเที่ยง 5 โต๊ะและช่วงเย็นอีก 5 โต๊ะเท่านั้น เพื่อเป็นการป้องกันโควิด-19 รักษาระยะห่าง และดำเนินกิจการตามที่ ศบค.จังหวัดผ่อนปรนให้ เนื่องจากช่วงนี้ลูกค้าก็น้อยอยู่แล้วยังมาเจอกับขโมยเป็นการซ้ำเติมกันอีก อยากวิงวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับตัวคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุดเพราะอาจจะไปก่อเหตุแบบนี้กับชาวบ้านในละแวกนี้อีกแน่


ภาพ/ข่าว จรัล บรรยงคเสนา ผู้สื่อข่าวจ.จันทบุรี

นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก

Click on Clear เขี่ยบอล เล่าเรื่องบอลก่อนเกม วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564

Click on Clear เขี่ยบอล เล่าเรื่องบอลก่อนเกม ประจำวันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลยูโร​ 2020​ วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน 2564

20.00 น. กลุ่ม เอ : เวลส์ - สวิตเซอร์แลนด์ / สนาม : โอลิมปิก สเตเดียม กรุงบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน

23.00 น. กลุ่ม บี : เดนมาร์ก - ฟินแลนด์ / สนาม : พาร์เคน สเตเดี้ยม กรุงโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก

02.00 น. กลุ่ม บี : เบลเยียม - รัสเซีย / สนาม : เครสตอฟสกี สเตเดียม เมืองเซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ประเทศรัสเซีย

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES และ เบลล์ ขอบสนาม

.

.

Click on Clear เขี่ยบอล เล่าเรื่องบอลก่อนเกม วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564

Click on Clear เขี่ยบอล เล่าเรื่องบอลก่อนเกม ประจำวันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564

โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลยูโร​ 2020​ วันอาทิตย์ที่ 13 มิถุนายน 2564

20.00 น. กลุ่ม ดี : อังกฤษ - โครเอเชีย / สนาม : เวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

23.00 น. กลุ่ม ซี : ออสเตรีย - นอร์ธ มาซิโดเนีย / สนาม : อารีนา เนชันนาลา กรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย

02.00 น. กลุ่ม ซี : เนเธอร์แลนด์ - ยูเครน / สนาม : โยฮัน ครัฟฟ์ อารีนา กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

ดำเนินรายการโดย ปริม กุญชนิตา กุญชร ณ อยุธยา PROGRAM DIRECTOR THE STATES TIMES และ เบล ขอบสนาม
.

.

ศรชล.จว.ชุมพร บูรณาการหน่วยงาน ตรวจจับผู้ลักลอบทำประมงผิดกฏหมาย

เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.64 เวลา 11.00-18.00 น. ภายใต้การอำนวยการของ นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ./ผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร มอบหมายให้ น.อ.กิตติ พงษ์ พุ่มสร้าง รองผอ.ศรชล.จังหวัดชุมพร และ ศปท.จว.ชพ. บูรณาการร่วมกับ นายพงศ์รันย์ รัตนพรหม ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลจังหวัดชุมพร จัดกิจกรรมควบคุม เฝ้าระวังการทำการประมงพื้นที่ทะเลชายฝั่ง โดยมี นายนุรัตน์ ขาวสะอาด เจ้าพนักงานเดินเรือปฏิบัติงาน เป็นหัวหน้าชุดปฏิบัติงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ รวม 4 นาย นำเรือตรวจประมง 324 ออกตรวจพื้นที่ตามภารกิจ ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านที่มีอาชีพเลี้ยงหอย บริเวณชายทะเล อ่าวทุ่งมะขาม อ่าวทุ่งคา และอ่าวสวี ว่ามีการลักลอบนำเครื่องทำการประมงผิดกฎหมายมาใช้ในบริเวณดังกล่าว

ในการนี้ได้ตรวจพบ ลอบพับ (ไอ้โง่) จำนวน 49 ลูก โดยลอบพับ ดังกล่าว เป็นเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 และพ.ร.ก.การประมง (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 เรื่องห้ามมิให้ผู้ใดใช้เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ ที่มีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำสลับซ้ายขาวอยู่ทางด้านข้างใช้สำหรับดักสัตว์น้ำ มีความผิดตามมาตรา 67 มีโทษตามมาตรา 147 ต้องระวางโทษปรับตั้งแต่หนึ่งหมื่นบาทถึงหนึ่งแสนบาท หรือปรับจำนวนห้าเท่าของมูลค่าสัตว์น้ำที่ได้จากการทำการประมง แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า แต่ไม่พบผู้กระทำความผิด เจ้าหน้าที่จึงได้รื้อถอนและทำการยึดเครื่องมือประมงดังกล่าว และนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากน้ำชุมพร อ.เมือง จว.ชุมพร พร้อมลอบพับ (ไอ้โง่) 49 ลูก ไว้เพื่อเป็นหลักฐาน และเก็บของกลางไว้ ณ ศปท.จว.ชพ. เพื่อทำการเผาทำลายต่อไป


ภาพ/ข่าว  สนง.ศรชล.ภาค 1 / นิราช / นันทพล ทิพย์ศรี รายงาน

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ลงวันที่ 26 มิถุนายน 2564 โดยมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้

- ปิดแคมป์คนงาน 1 เดือน

- ร้านอาหารให้ซื้อกลับบ้าน ห้ามทานที่ร้าน

- ห้ามจัดประชุม-สัมมนา

- ห้างสรรพสินค้าเปิดถึง 21.00 น.

- ห้ามรวมกลุ่มเกิน 20 คน (เว้นได้รับอนุญาต)

โดยมีผลเริ่มวันจันทร์ที่ 28 มิถุนายน 2564

- ใช้กับพื้นที่ กรุงเทพมหานคร นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และสงขลา

อ่านรายละเอียด เพิ่มเติม ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่ 25) ได้ที่ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/.../2564/E/140/T_0001.PDF


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

รอยยิ้มคนไทยจากผู้ใหญ่ใจดี ที่ชื่อ ‘โกมล จึงรุ่งเรืองกิจ’ | Contributor EP.18

นาทีนี้คนไทยส่วนใหญ่น่าจะเริ่มรู้จักเขาคนนี้มากขึ้น

คุณโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการ บริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่าย รองเท้ายี่ห้อ 'แอโร่ซอฟ' 

หลังจากสร้างรอยยิ้มให้คนไทย ทั้งการซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลยูโร2020 มาให้ชมภายใต้การตัดสินใจแค่เสี้ยววินาที
และแถมยังเป็นผู้ใหญ่ใจดี ยกเวลาโฆษณาในช่วงพักครึ่งให้ธุรกิจรายเล็กๆ แบบชาวบ้านๆ ได้มาโปรโมทขายของกันฟรี!! อีกด้วย 

.

.


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top