Monday, 7 July 2025
TheStatesTimes

ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ออกกฎเข้ม! สามีต่างชาติเข้าพักโรงแรมกับภรรยาคนไทย ต้องจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย งดคู่ขา คู่นอน หรือสถานะแฟนก็ไม่ได้

เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสแล้วเข้ามา จังหวัดภูเก็ต โดยไม่ต้องกักตัว ที่จะเริ่มในวันที่ 1 ก.ค. นี้ มีการสอบถามโรงแรม ว่า หากสามีเป็นชาวต่างชาติเดินทางเข้าภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ซึ่งต้องเข้าพักในโรงแรมที่ได้รับมาตรฐานด้านการท่องเที่ยวและสุขอนามัย (SHA+) จะสามารถพักร่วมกับภรรยาคนไทยได้หรือไม่นั้น ได้กำหนดว่าต้องเป็นสามีภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย

“หากเป็นแค่แฟนสาว คู่รัก คู่นอน หรือสาวเอ็นฯ จะไม่อนุญาต เช่นเดียวกับคู่รักที่เป็นเพศที่ 3 ก็พักร่วมกันไม่ได้ ยกเว้นเป็นผู้ที่เดินทางมาด้วยกันตั้งแต่ประเทศต้นทาง ซึ่งก็มีชาวต่างชาติถามมาเหมือนกันว่าต้องการมาหาคู่ขาได้หรือไม่ ซึ่งก็ไม่ได้เช่นกัน แม้ในช่วงเวลากลางวันจะไม่สามารถรู้ว่าเขาไปทำอะไรกันบ้าง เว้นแต่มาด้วยกัน” นายภูมิกิตติ์ กล่าว

 

 

ที่มา : https://www.khaosod.co.th/economics/news_6472118


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ดร.เสรี วงษ์มณฑา สมน้ำหน้าพรรคพลังประชารัฐ หลังเหิมเกริมแก้รัฐธรรมนูญ มาตราที่ปราบโกง ลั่นถ้าไม่มี 'บิ๊กตู่' ก็ไร้มนตรา เรียกคะแนน

วันที่ 25 มิถุนายน 2564 ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า สมน้ำหน้าพรรคพลังประชารัฐที่เหิมเกริมเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราที่ปราบโกงไม่ให้ สส. ยุ่งเกี่ยวกับการใช้งบประมาณและการไม่ให้รัฐมนตรี สส. ยุ่งเรื่องการโอนย้ายราชการ

นึกว่ามีอำนาจแล้วจะทำอะไรตามอำเภอใจได้กระนั้นหรือ แค่นี้ก็คงได้บทเรียนแล้วสินะ พรรคพลังประชารัฐ ถ้าไม่มีพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ก็ไม่ได้มีมนตราอะไรมากมายเลย

เลือกตั้งด้วยบัตร 2 ใบ ถ้าไม่มีพลเอกประยุทธ์เป็นชื่อ candidate นายกฯ จะไม่ได้คะแนนบัญชีรายชื่อมากมายอะไร ส่วน สส. เขต พวกสีเทาอย่าหวังว่าจะได้รับเลือกตั้ง

พรรคเล็กเกิดยาก สส. ปัดเศษคงจะไม่มี พรรคที่คะแนน สส. เขต จะไม่มีส้มหล่นจาก สส.บัญชีรายชื่อ พรรคที่เสียงแน่นอย่างเพื่อไทย ได้ประโยชน์ทั้ง สส. เขต และบัญชีรายชื่อ

พรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาจัดตั้งรัฐบาล ส่วนพรรคเก่าแก่ที่เป็นผู้เสนอเรื่องบัตรสองใบนั้นจะฟื้นหรือไม่ก็ต้องดู รักษาระดับเดิมให้ได้ก็แล้วกัน อย่าตกต่ำกว่านี้นะ


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ก.แรงงาน นำนวัตกรรม e-Testing วัดทักษะรวดเร็ว โปร่งใส แม่นยำ

กระทรวงแรงงาน โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ชวนแรงงานทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน ด้วยระบบ e-Testing ประสิทธิภาพสูง โปร่งใส สร้างความเชื่อมั่น สนับสนุนต่อยอดค่าจ้างฝีมือแรงงาน นายธวัช เบญจาทิกุล อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานโดยนายสุชาติ  ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และศาสตราจารย์ นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน มีนโยบายด้านการพัฒนาฝีมือแรงงาน มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ดำเนินการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานเพื่อพัฒนาแรงงานให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน ได้รับค่าจ้างที่เป็นธรรม ตามมาตรฐานฝีมือ พร้อมทั้ง สร้างโอกาสการมีงานทำให้แก่แรงงานทุกกลุ่ม ทั้งแรงงานใหม่ แรงงานที่ถูกเลิกจ้างผู้ว่างงาน นักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาระดับ ปวช. ปวส. และปริญญาตรี เพื่อเป็นแรงงานที่มีคุณภาพเหมาะสมกับความต้องการของตลาดแรงงานในปัจจุบัน 

นายธวัช กล่าวต่อไปว่า กพร.ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้ามาใช้ประกอบภารกิจด้านต่างๆ มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัล โดยเฉพาะการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ ที่มีการทดสอบภาคความรู้ และทฤษฎี ซึ่งเดิมการสอบภาคความรู้เป็นระบบเอกสารทำให้เกิดความล่าช้าในการตรวจ ประเมิน และอาจมีความผิดพลาดขึ้นได้จึงมีการปรับปรุงการทดสอบฯ โดยนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการคลังข้อสอบ (Test Bank) และระบบการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ (ภาคความรู้) ด้วยระบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Testing System) ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล การรายงานผล การเชื่อมโยงข้อมูล และตรวจสอบข้อมูลผู้เข้ารับการทดสอบในการพัฒนาศักยภาพแรงงาน ซึ่งระบบดังกล่าวช่วยลดการใช้ดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ในการประเมินเพิ่มความสะดวกรวดเร็ว โปร่งใส ถูกต้อง และแม่นยำ มีหลักเกณฑ์การใช้ข้อสอบที่สามารถสุ่มเลือกซึ่งมีระบบที่เป็นมาตรฐานเดียวกัน สร้างความน่าเชื่อถือในการปฏิบัติงานของผู้ทดสอบ และผู้เข้ารับการทดสอบ

การนำระบบ e-Testing มาใช้ในกระบวนการทดสอบก่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดของภารกิจดังกล่าว แรงงานได้วัดทักษะฝีมือด้วยระบบที่มีประสิทธิภาพ ช่วยให้ได้รับค่าจ้างตามมาตรฐานฝีมือ นายจ้างและสถานประกอบกิจการ ใช้เป็นเกณฑ์คัดเลือกบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ และทัศนคติที่ดีต่อการทำงาน เข้าปฏิบัติงานในองค์กร หรือเลื่อนตำแหน่งต่างๆ ได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม แรงงานหรือนายจ้างที่สนใจเข้ารับการทดสอบ ติดต่อสอบถามได้ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน (สพร.) และสำนักงานพัฒนาฝีมือแรงงาน (สนพ.) ซึ่งพัฒนาให้บริการด้วยระบบ e-Testing แล้วทุกแห่งทั่วประเทศ หรือสายด่วนกระทรวงแรงงาน 1506 กด 4 หรือ สำนักพัฒนามาตรฐานและทดสอบฝีมือแรงงาน 02 2454837, 02 2451707 ต่อ 718 อธิบดี กพร.กล่าวทิ้งท้าย
 

“เลขาฯสมช.” รอสธ.ชงล็อกดาวน์กรุงเทพฯ ชี้ สุดท้ายให้ “นายกฯ” เคาะ ยันคำนึงกระทบสาธารณสุข-เศรษฐกิจ เผย ใช้มทบ.11 แจ้งวัฒนะเพิ่ม100เตียง รับคนไข้หนัก-ปานกลาง พร้อมรับ ห่วงม็อบชุมนุม 

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) ให้สัมภาษณ์ถึงข้อเรียกร้องให้ล็อกดาวน์กทม.ว่าเรื่องนี้ต้องรอให้กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาและเสนอมา แต่ยังไม่ได้ระบุว่าจะแจ้งเมื่อไหร่ใด เมื่อเสนอมามาแล้ว ต้องรายงานให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค.พิจารณาว่าจะมีการล็อกดาวน์หรือไม่ ที่ผ่านมานายกฯ ก็รับฟังทุกส่วน และเรื่องนี้จำเป็นต้องนำเข้าศบค.ชุดใหญ่ พิจารณาด้วย ทั้งนี้สถานการณ์ขณะนี้มีความเป็นห่วงทั้งการแพร่ระบาดและเตียงรองรับผู้ป่วยที่ไม่เพียงพอ และห่วงคนทำมาหากิน หากจะล็อกดาวน์จะดูแลอย่างไรที่จะไม่ทำให้ประชาชนเดือดร้อน เราห่วงทุกอย่างจึงต้องดูให้รอบด้าน 

ผู้สื่อข่าวถามว่าหากออกมาทำมาหากินแล้วเสี่ยงติดโรคจะหนักกว่าเดิม พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ศบค.ดูอยู่ ทุกวันนี้ส่วนใหญ่เหตุเกิดที่ไซต์งานก่อสร้างและโรงงาน ส่วนจุดที่ประชาชนทำมาหากินทั่วไปยังไม่พบเท่าไหร่ ดังนั้นการพิจารณาต้องรอบคอบทุกด้านไม่ใช่รับฟังด้านใดด้านหนึ่ง 

เมื่อถามว่ากระทรวงสาธารณสุขมีเหตุผลที่กังวลเรื่องใดมากที่สุดที่ต้องการให้ล็อกดาวน์กทม.พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เรื่องเตียงที่จะรองรับผู้ป่วยเพื่อรักษาพยาบาล ซึ่งทางศปก.ศบค.ได้ประสานทุกแห่ง ทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑล และกระทรวงสาธารณสุข เพื่อเพิ่มขีดความสามารถเรื่องเตียงให้มากขึ้น วันนี้คืบหน้ามากเพราะมีเอกชนเข้ามาช่วยด้วย 

เมื่อถามย้ำว่าจะใช้เวลาพิจารณาว่าจะล็อกนานเท่าใด เพราะเวลานี้รพ.ศิริราช รพ.จุฬาฯรพ.ราชวิถี ขอหยุดรับผู้ป่วยเนื่องจากไม่มีเตียงแล้ว พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าเสนอมาก็จะพิจารณา ตอนนี้แค่รอสาธารณสุขเสนอมา เมื่อถามว่าถ้าเตียงไม่พอจะต้องรับรักษาเป็นรายกรณีหรือไม่ เพราะมีคนรอเตียงจำนวนมาก พล.อ.ณัฐพลกล่าวว่า พยายามเร่งอยู่ เราทำอย่างเต็มขีดความสามารถ เบื้องต้นจะใช้มณฑลทหารบกที่ 11 แจ้งวัฒนะ ที่รพ.เอกชน เสนอมาดำเนินการรับผู้ป่วยสีแดง ที่อาการหนักประมาณ 50 เตียง และสีเหลือง 50 เตียง คาดว่าภายใน 7 วัน จะปฎิบัติการได้และพอจะคลี่คลายสถานการณ์ได้ โดยใน 1-2 วันนี้ รพ.สนามพลังแผ่นดินของรพ.มงกุฏวัฒนะ จะอาสารับผู้ป่วยไว้ส่วนหนึ่ง และจะประสานส่วนอื่นๆ โดยคณะที่ปรึกษาณ ที่มีนพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร กำลังหารือเพิ่มในจุดอื่นด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะประสานขอบุคลากรการแพทย์ในต่างจังหวัดเข้ามาช่วยด้วยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องขอ เพราะถ้าเพิ่มขีดความสามารถของโรงพยาบาลก็ต้องขอสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์จากกระทรางสาธารณสุข และกระทรวงกลาโหม ตามที่นายกรัฐมนตรี สั่งการไปแล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าล็อกดาวน์กทม.จะมีแผนรองรับประชาชนที่จะกลับต่างจังหวัดอย่างไร พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ต้องพิจารณาทั้งประเทศ เวลาออกมาตรการที่หนึ่งต้องดูภาพรวมทั้งหมด และต้องคำนึงถึงผลกระทบที่อื่นด้วย ไม่ได้มองเฉพาะกรุงเทพฯและปริมณฑล 

เมื่อถามว่ามองไปถึงภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่จะเปิดแต่สวนทางกลับกรุงเทพฯที่จะปิดหรือไม่ หรือไม่ เลขาฯสมช.กล่าวว่า ต้องพิจารณาทั้งหมด

นอกจากนี้ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความ ยังให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ เมื่อวันที่24 มิ.ย.ที่ผ่านมา ว่า เมื่อรับผิดชอบตรงนี้ขอพูดในมิติการระบาดไม่ใช่การเมืองก็ยอมรับว่ากังวลเป็นธรรมดา เพราะมีความเสี่ยงมาก แต่เห็นว่าทุกคนที่มาระมัดระวังตัวดี

“บิ๊กตู่” เรียกด่วน ทีมแพทย์ - ศปก.ศบค. ถก กระแสล็อกดาวน์กทม.

แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรียกประชุมศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. และ ที่ปรึกษาด้านสาธารณสุขศูนย์โควิด-19 ที่มีนายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธาน และคณะ เข้าหารือถึงการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด - 19 และเรื่องวัคซีน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียด ที่แพทย์และหลายฝ่ายต้องรองรับสถาการณ์โควิด-19

ในขณะที่หลายโรงพยาบาลปิดรับห้องฉุกเฉิน และห้อง ICU ก็เต็มไปหมดแล้ว รวมไปถึงโรงพยาบาลสนามอีกหลายแห่ง และโรงพยาบาลสนามบุษราคัมจะหมดสัญญาเช่า ประกอบกับจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันมีจำนวน 3,000-4,000 ราย ติดต่อกันมาหลายวันและมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นจำนวนมาก

ดังนั้นทำให้บรรดาอาจารย์แพทย์หลายคนเสนอให้ที่ประชุมศบค.พิจารณา ถึงเรื่องการล็อกดาวน์กรุงเทพฯ เพื่อไม่ให้เกิดการเคลื่อนย้ายของประชาชน ไม่ให้เกิดการกระจายเชื้อไปยังต่างจังหวัด
 

“รองโฆษกปชป.” ขอบคุณ ส.ว.โหวตให้ร่างแก้รธน.ของ 3 พรรคร่วมรัฐบาลถึง 201 เสียง ชี้สัดส่วนส.ส.เขต 400 ปาร์ตี้ลิสต์ 100 เหมาะสมแล้ว  จะไม่ถูกตราหน้าเป็น “ส.ส.ปัดเศษ” 

นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราชและรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากผลการลงมติของสมาชิกรัฐสภา ที่ได้ลงมติเห็นด้วยกับร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ร่างที่13 ที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกันเสนอให้แก้ไขมาตรา 83 และมาตรา 91 ด้วยคะแนนเสียง 552 เสียง โดยมี ส.ว ลงคะแนนให้ถึง 210 เสียง ซึ่งเนื้อหารายละเอียดในการเสนอแก้ไข คือให้มี ส.ส. เขต 400 คน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ 100 คน โดยใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบและวิธีคำนวณระบบบัญชีรายชื่อ ต้องขอขอบคุณทางสมาชิกรัฐสภาทุกท่าน โดยเฉพาะทางฝั่งของ ส.ว. ที่คำนึงถึงความเป็นจริงว่า สัดส่วน ส.ส.เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ ตามรัฐธรรมนูญฯ ที่ใช้อยู่ ไม่มีความสมดุลกัน เพราะการให้มี ส.ส.บัญชีรายชื่อ จำนวน 150 คน นั้น ทำให้ ส.ส. บางส่วนไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่และมีจิตสำนึกความเป็น ส.ส. เท่าที่ควร อีกทั้งยังถูกตราหน้าว่าเป็น ส.ส.ปัดเศษ เพราะไม่มีมาตรฐานในการคิดคำนวณอย่างชัดเจน 
          
นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า ดังนั้นการแก้ไขเพื่อให้กลับไปเป็นเหมือนในรัฐธรรมนูญ 2540 ถือว่าเหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะการที่มีส.ส.เขตเป็นจำนวนมาก จะทำให้ได้บุคคลที่มีความรักและความเข้าใจปัญหาในพื้นที่นั้นๆ มาเป็น ส.ส. ส่วนผู้ที่ได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ ก็จะได้รับเกียรติจากประชาชนมากกว่าที่เป็นอยู่ นอกจากนี้ในวงงานวิชาการหลากหลายสำนัก ได้ชี้ถึงปัญหาของการเลือกตั้งในระบบปัจจุบันขอรัฐธรรมนูญปี 2560 ให้เห็นแล้ว

“บิ๊กตู่" ไม่ห่วงความสัมพันธ์ “ส.ว.-พปชร." ปมคว่ำร่างรธน. ลั่นไม่เป็นไร มีนายกฯคนเดียวกัน โยนเป็นเรื่องของสภา

ที่บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการลงมติร่วมรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 13 ร่าง แต่ผ่านเพียง 1 ร่าง ของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า “จบแล้ว เป็นเรื่องของในสภา”

ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์ระหว่าง ส.ว. กับ พรรคพลังประชารัฐ หลัง ส.ว. คว่ำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของ พปชร. ขณะที่พปชร. ก็โหวตปิดสวิตช์ ส.ว. โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวเพียงว่า "ไม่เป็นไร นายกฯ คนเดียวกัน"
 

“บิ๊กป้อม” ประชุม กมช. ติดตามความคืบหน้ามาตรการรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ อนุมัติแผนปฏิบัติการรองรับยกระดับการป้องกัน สั่ง ดีอีเอส เร่งขับเคลื่อน ต่อเนื่องภายใต้กม.ที่เป็นธรรม  มุ่งให้ปชช.ได้ประโยชน์-ปลอดภัย

พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้เวลา 10.00น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นรม. ได้เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (กมช.) ครั้งที่ 1/2564 โดยมี ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล

ที่ประชุม ได้รับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ ห้วง ม.ค. ถึง มิ.ย. 64 ในการป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยง จากภัยคุกคามทางไซเบอร์ รวม 35 เหตุการณ์ และความคืบหน้า การพัฒนาบุคลากร ซึ่งได้ทำการเปิดโครงการพัฒนาผู้เชี่ยวชาญ และกำลังคนด้าน Cyber Security ทั้งภาครัฐ เอกชน และนิสิตนักศึกษาแล้ว จำนวน 2,250 คน  

จากนั้น กมช.ได้ร่วมกันพิจารณาเห็นชอบ (ร่าง)นโยบายและแผนว่าด้วยการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2565-2569 และ (ร่าง) แผนปฏิบัติการฯ พ.ศ.2565-2569 เพื่อเป็นกรอบนโยบาย และแนวทางนำไปสู่การปฏิบัติในการเตรียมรับมือภัยคุกคามไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น และอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ

พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวย้ำว่า นายกรัฐมนตรีได้ให้ความสำคัญต่อการดูแลความปลอดภัยทางเทคโนโลยี มาโดยตลอด จึงได้กำชับ รมว.ดศ. ให้กำกับ และเร่งรัดคณะทำงานให้ดำเนินงาน อย่างต่อเนื่อง ภายใต้กม.ที่กำหนด เพื่อยกระดับมาตรการป้องกัน และลดความเสี่ยงภัยคุกคามไซเบอร์ เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และประเทศชาติ มีความปลอดภัยต่อไป

"พรรคกล้า" ชี้สถานการณ์โควิด-19 "หมอไม่พอ-เตียงไม่มี" ขอ รมว.สาธารณสุขยอมรับสถานการณ์ อย่าจมอยู่กับระบบล้าหลัง ย้ำข้อเสนอ พบผู้ติดเชื้อกักตัวแยกครอบครัว ให้ยาต้านไวรัสทันทีที่พบเชื้อ อย่าปล่อยลุกลามต้องเลือกว่าใครจะอยู่ ใครจะไป เหมือนต่างประเทศ 

นายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมาย และผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งเขตคลองสามวา พรรคกล้า, ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคกล้า กล่าวถึงสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 ว่า สถานการณ์น่าเป็นห่วง การแพร่ระบาดโควิด-19 สูงต่อเนื่อง ผู้ติดเชื้อใหม่ยังคงสูง 3,000-4,000 กว่าคน ผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 30 ถึง 50 คน เสียงเรียกร้องเตียงรักษามากขึ้นเรื่อยๆ นายแพทย์จากโรงพยาบาลรามาธิบดี ยังบอกว่าสถานการณ์เตียงในกรุงเทพฯ และปริมณฑลอยู่ในขั้นวิกฤต อธิบดีกรมการแพทย์ ลดวันรักษาในโรงพยาบาลเหลือ 10 วัน หวังจะเพิ่มเตียงว่างอีก 40 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ศูนย์กล้าสู้โควิดของพรรคกล้า ได้รับแจ้งหาเตียงด่วน เมื่อวานนี้วันเดียวเกือบ 20 ราย และในพื้นที่ต่างๆ อีกหลายสิบราย เหตุการณ์เหล่านี้สะท้อนว่าจำนวนเตียงเพื่อเข้ารับการรักษา เข้าขั้นวิกฤตแล้วจริงๆ 

"ตอนนี้เข้าสู่สถานการณ์ หมอไม่พอ เตียงไม่มี บุคลากรทางการแพทย์ 1 คน ต้องรองรับผู้ป่วย เฉลี่ยถึง 60 คน บางพื้นที่ผู้ป่วยรอ ไม่ได้เตียง จนเสียชีวิตคาบ้าน คนในครอบครัวทั้งติดเชื้อ ทั้งทุกข์ระทม ที่ต้องสูญเสียคนที่รักไป แต่กลับมีข่าวจากรัฐมนตรีสาธารณสุขว่า ไม่ได้รับการรายงานเรื่องเตียงไม่พอ เรื่องแบบนี้สะท้อนระบบราชการล้าหลัง สถานการณ์แบบนี้ ไม่ใช่จะบอกเล่าเพื่อตำหนิการทำงานของบุคคลใด แต่อยากจะสะท้อนให้รัฐบาล โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยอมรับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น และหาทางแก้ไขโดยเร็ว" นายณัฐนันท์กล่าว 

นายณัฐนันท์ ยังย้ำข้อเสนอของพรรคกล้า ที่พยายามบอกมากกว่า 2 สัปดาห์แล้วว่า หากพบผู้ป่วยติดเชื้อ ให้นำไปกักตัวแยกจากครอบครัวทันที เพื่อป้องกันการระบาดแบบทวีคูณภายในครอบครัว จาก 1 ไป 5 ไป 10 ไป 20 โดยรัฐบาลควรเร่งหาสถานที่กักตัวจำนวนมาก เพื่อแยกผู้ที่ทราบผลติดเชื้อออกมาเร็วที่สุด โดยใช้อาสาสมัครดูแลแทนหมอและพยาบาลไปก่อน และควรให้ยาต้านไวรัสทันทีที่เข้าหลักเกณฑ์ โดยไม่ต้องรอเข้าสู่กระบวนการรักษาในโรงพยาบาลหรือโรงพยาบาลสนาม เพราะทางแก้ที่ดีที่สุดคือการได้รับการรักษาให้เร็วที่สุด แต่ทุกวันนี้ผู้ป่วยนอนรอเตียงหลายวัน ไม่ได้รับการจ่ายยาตามหลักเกณฑ์ จึงเกิดปัญหาขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน 

ส่วน ทพ.กันตพงศ์ ย้ำว่า มาตรการนี้จะลดการติดเชื้อทวีคูณได้ จะลดจำนวนผู้ป่วยหนักที่ต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้ ลดภาระของแพทย์ พยาบาลและบุคลากรที่เกี่ยวข้องได้ จึงอยากให้ ศบค. และกระทรวงสาธารณสุข เปลี่ยนวิธีคิด เร่งปรับระบบราชการดำเนินการโดยเร็ว ให้ตอบสนองทันต่อสถานการณ์ เพื่อป้องกันการระบาดทวีคูณและนำไปสู่สถานการณ์ที่วิกฤตกว่านี้ อย่าให้สถานการณ์บานปลาย ที่ต้องเลือกว่าใครจะอยู่ใครจะไป เหมือนอิตาลีกับอินเดีย

"ณัฐชา" อัด "กองทัพบก" ต้องกราดยิงอีกศพ จึงจะปฏิรูปกองทัพได้สำเร็จ ชี้ หน่วยงานที่ใช้งบสูงสุดของประเทศ ควรมีความรับผิดชอบต่อชีวิตปชช.มากกว่านี้

นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์  ส.ส.กทม. ในฐานะโฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีผู้ก่อเหตุกราดยิงผู้ป่วยในรพ.สนามภายในสถาบันธัญญารักษ์ ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี และในร้านสะดวกซื้อ ซึ่งเป็นอดีตพลอาสาฯ หน่วยรบพิเศษ กองพันจู่โจม โดยคนร้ายเปิดเผยว่าถูกผู้บังคับบัญชาและรุ่นพี่ในหน่วยรบพิเศษทำร้ายร่างกายและให้ร้ายใส่ความตนเอง และสาเหตุที่เข้าไปในโรงพยาบาลสนามดังกล่าว เนื่องจากเคยมีเรื่องยาเสพติดและอ้างว่ามีอดีตผู้บังคับบัญชาเกี่ยวข้องด้วย ว่า ตนนึกถึงเหตุการณ์กราดยิงในห้างดัง ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อปีแล้ว ปัญหาการกดขี่จากผู้บังคับบัญชาที่กระทำต่อพลหารไม่เคยหายไป และเกิดขึ้นบ่อยจนเป็นที่เข้าใจตรงกันว่านี่คือวัฒนธรรมของกองทัพไทย วัฒนธรรมที่กดผู้อื่นให้ด้อยค่าเพื่อสนองตัณหาของความยิ่งใหญ่ในตำแหน่งของตน 

"ผมขอถามไปยังผู้บัญชาการทหารบก กองทัพไทยจะปล่อยให้เกิดเหตุลักษณะนี้อีกกี่ครั้งจึงจะมีระบบป้องกันที่ดี มีระบบการดูแลสวัสดิภาพกำลังพล และใส่ใจความปลอดภัยของประชาชนเสียที ข้อร้องว่าอย่าอ้างว่าผู้ก่อเหตุเป็นเพียงผู้มีปัญหาทางจิต หรือเป็นกำลังพลที่ปลดไปแล้วไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพ หน่วยงานที่ใช้งบประมาณสูงที่สุดของประเทศนี้ควรมีความรับผิดชอบต่อชีวิตประชาชนให้มากกว่านี้ ผมในฐานะอดีตพลทหารที่เชื่ออย่างสนิทใจว่าความกดดันภายใต้จิตใจของผู้ก่อเหตุมีต้นเหตุจากกองทัพ จึงขอเรียกร้องให้กองทัพและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมทำการสืบสวนสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด และอย่าปฏิบัติต่อผู้ก่อเหตุเป็นเพียงผู้ก่อเหตุหรือคนร้ายที่ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายเท่านั้น เพราะไม่เช่นนั้นแล้วประเทศไทยก็ไม่สามารถขยับไปไหนได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ หวังว่ากองทัพจะนำข้อผิดพลาดในอดีตไปปรับปรุงแก้ไขในเชิงระบบ เพื่อให้ทั้งกำลังพลและประชาชนมีความปลอดภัย" นายณัฐชา กล่าว

นายณัฐชา กล่าวอีกว่า ข้อเสนอทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของข้อเสนอภาพใหญ่ในการปฏิรูปกองทัพที่พรรคก้าวไกลเสนอมาโดยตลอด เพื่อให้กองทัพเป็นกองทัพที่ทันสมัย กำลังพลมีศักยภาพ สร้างความเป็นธรรมในหน่วยงาน ปราศจากการเอารัดเอาเปรียบและผลประโยชน์ที่มาจากสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ให้กองทัพเป็นกองทัพมืออาชีพ อยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือนประชาธิปไตย เคารพสิทธิมนุษยชนและส่งเสริมความเป็นธรรม ความเสมอภาคในสังคม ให้เป็นกองทัพของประชาชนที่แท้จริง 

"ถึงเวลาที่ผมจะขอทวงถามสัญญาที่ผู้นำกองทัพได้ให้ไว้หลังเหตุกราดยิงโคราชในการปฏิรูปกองทัพ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นจริงและไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด ทั้งการที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ปัดตกร่างกฎหมายยกเลิกเกณฑ์ทหาร รวมทั้งคำสัญญาที่ล้มเหลวของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อดีตผู้บัญชาการกองทัพบก ในการยกเลิกกองทัพพาณิชย์ ปฏิรูประบบผลประโยชน์ในกองทัพ จะต้องเกิดเหตุกราดยิงอีกกี่ครั้ง ประชาชนสูญเสียอีกกี่ศพ ถึงจะปฏิรูปกองทัพได้สำเร็จ" นายณัฐชา กล่าว 


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top