Monday, 28 April 2025
TheStatesTimes

“ประวิตร” โยนเป็นเรื่องจนท.บล็อกม็อบ เคลื่อนปิดทำเนียบ ลั่น ไม่อยากให้ชุมนุม หวั่นคลัสเตอร์ใหม่ หนุน “นายกฯ” ยังทำงานได้

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดชุมนุมใหญ่ของหลายกลุ่ม ในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ กำชับเจ้าหน้าที่ดูแลสถานการณ์อย่างไร ว่า “ผมไม่อยากให้ชุมนุม เพราะกลัวเรื่องติดเชื้อโควิด-19 เพราะถ้ามากันจำนวนมากก็มีความเสี่ยง แต่ถ้าจะมาก็ต้องเว้นระยะห่างให้ดี”

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะประสานไปถึงผู้ชุมนุม ขอร้องในเรื่องนี้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า กำลังพูดอยู่ว่าไม่อยากให้มา สื่อต้องช่วยกันด้วย และไม่น่าจะมาชุมนุมกันข้ามวันข้ามคืนเพราะตอนนี้โควิดระบาดมาก หากมากันเยอะก็ไปติดประชาชนอื่นๆ ส่วนเรื่องเจรจาคงไม่เจรจาอะไร ให้สื่อช่วยไปเจรจาหน่อยว่าอย่าเพิ่งชุมนุมเลยในช่วงนี้ ให้โควิดน้อยลงหน่อย เพราะรัฐบาลเป็นห่วงเรื่องนี้มาก 

เมื่อถามว่าการนัดรวมตัวที่สะพานผ่านฟ้าลีลาศและประกาศเคลื่อนมาทำเนียบรัฐบาลจะต้องบล็อกไม่ให้เข้ามาถึงทำเนียบฯหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ไม่ต้องห่วงแต่ที่เป็นห่วงเรื่องของการมาชุมนุมเยอะๆ แล้วเดี๋ยวก็ไปติดโควิด-19 

ผู้สื่อข่าวถามว่าสถานการณ์ตอนนี้เหมาะสมที่จะมาขับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่งหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็รู้อยู่แล้ว และสถานการณ์บ้านเมืองตอนนี้ก็สงบดีไม่มีอะไร เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ ยังต้องเดินหน้าทำงานต่อใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็ต้องทำต่อและวันนี้ก็ทำอยู่ทุกวัน ตลอด 2 ปี ก็ทำงานอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่าการชุมนุมอาจมีแกนนำบางคนที่มาร่วมจะเข้าข่าย ฝ่าฝืนคำสั่งศาลในการปล่อยตัวหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องดูว่าอันไหนผิดกฎหมายก็ว่าไปตามนั้น เพราะเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง 

“ประวิตร” ยันไม่แก้ ม.144,185 อุบไต๋ วางกลยุทธ์ดันพปชร. ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ชี้ เป็นเรื่องอนาคต กั๊กตอบ จับมือร่วมงานเพื่อไทย

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในส่วนของพรรคพปชร. ว่า ยืนยันจะไม่แก้มาตรา 144,185 ไม่แก้แน่นอน เรื่องนี้นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ในฐานะผู้เสนอร่างให้สัมภาษณ์ไปแล้ว และจะมีการปรับร่างที่ยื่นไปแล้วของพรรคพปชร. 

เมื่อถามว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญควรจะต้องคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลก่อนหรือไม่ หรือต่างคนต่างยื่น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า แต่ละพรรคก็ยื่นข้อเสนอมาเพื่อแก้ไข ก็ต้องไปคุยกันในสภาฯ ซึ่งแกนนำพรรคร่วมก็ได้คุยกัน ก็พูดกันทุกเรื่องร่วมทั้งเรื่องประเด็นบัตรเลือกตั้งด้วย

เมื่อถามว่าพรรคพปชร.กับพรรคเพื่อไทย (พท.) มีโอการจับมือกันในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ข้างหน้า อย่าไปประมาณการณ์ เพราะเราไม่รู้อะไรเป็นอะไร เมื่อถามย้ำว่าพรรคพปชร.จะไม่ปิดประตูร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ยังไม่รู้ เป็นเรื่องอนาคต ตอบได้ว่าไม่รู้จริงๆ ยังไม่คิดอะไรทั้งนั้น 

เมื่อถามว่ามั่นใจว่าพรรคพปชร.จะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่รู้ ก็บอกเป็นเรื่องข้างหน้าจะไปรู้ได้อย่างไร จะไปพูดได้อย่างไร วันนี้ต้องการให้พรรคเข้มแข็ง มีความคิดเป็นหนึ่งเดียวไม่แตกแยก ความคิดแตกต่างแต่อยู่ในพรรคเดียวกันก็ให้มีความคิดเหมือนๆกัน คิดไปในทางสร้างสรรค์ ให้ประชาชนอยู่ดีกินดี ให้ประเทศเจริญก้าวหน้าเราก็ทำ ส่วนการสร้างพรรคให้เป็นสถาบันการเมืองเป็นเรื่องของกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) เราทำงานโดยใช้กก.บห.พรรค 

เมื่อถามว่าพรรคพปชร.จะไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็เห็นแล้วจะถามทำไม เมื่อถามย้ำว่าในอนาคตพรรคพปชร. จะตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ได้หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “โอ้ยจะไปรู้ได้อย่างไร” การณ์ข้างหน้าจะไปรู้ได้อย่างไร ยังไม่ได้เลือกตั้งเลย ยังเหลืออีกตั้ง 2 ปี และตอนนี้รัฐบาลยังอยู่ได้แน่นอน ส่วนตนจะอยู่ต่อหรือไม่ยังไม่รู้เพราะแก่แล้ว

เมื่อถามถึงการวางกลยุทธ์ขับเคลื่อนพรรคพปชร. เป็นอย่างไรพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มีเราอาสาสมัครมา ไม่ใช่นักการเมือง 

ตำรวจเตือนแกนนำ หากร่วมชุมนุม 24 มิ.ย. ส่อโดนถอนประกันตัว

จากกรณี วันที่ 24 มิถุนายน 2564 ที่จะถึงนี้ จะมีกลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง 4 กลุ่ม ประกอบไปด้วย

1.) กลุ่มหมู่บ้านทะลุฟ้า นำโดย นายชาติชาย ไพรลิน เวลา 13.00-20.00 น. ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลาฯ เพื่อจัดกิจกรรมรำลึกถึงเหตุการณ์ครบรอบ 89 ปี อภิวัฒน์สยาม 2475

2.) กลุ่มประชาชนคนไทย นำโดย นายนิติธร ล้ำเหลือ เวลา 12.00 น. ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล วัตถุประสงค์ เรื่อง ขอให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

3.) กลุ่มเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี นำโดย นายเจษฎา ศรีปรั่ง เวลา 11.00 น. ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 11.00 น. วัตถุประสงค์เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล

4.) กลุ่มไทยไม่ทน คณะสามัคคีประชาชนเพื่อประเทศไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นัดหมายทำเนียบรัฐบาล เพื่อทำกิจกรรมขับไล่รัฐบาล

ด้าน พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล ได้ออกมาเตือนประชาชนที่จะเข้าร่วมการ ‘ชุมนุม’ ช่วงนี้เข้าข่ายจำคุก 2 ปี ตามพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ พร้อมเผยว่า ทางการข่าวสืบทราบว่าแกนนำที่จะมาเข้าร่วมการชุมนุม หรือเป็นผู้เชิญชวนชักชวนให้ผู้อื่นมาร่วมการชุมนุม ยังเป็นจำเลย หรือผู้ต้องหาในคดีความมั่นคง ซึ่งอยู่ในระหว่างการประกันตัว โดยมีเงื่อนไขของการปล่อยตัวชั่วคราว

พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อไปว่า โดยผู้ที่ได้รับการประกันตัวและศาลได้กำหนดเงื่อนไขไว้ เช่น ห้ามกระทำการใดๆ ในลักษณะเช่นเดียวกับที่ถูกกล่าวหา, ห้ามเข้าร่วม ‘ชุมนุม’ ในลักษณะที่เป็นการก่อความวุ่นวาย หรือความไม่สงบในบ้านเมือง, ห้ามพกพาอาวุธเข้าไปร่วมชุมนุมทางการเมือง หรือใช้กำลังประทุษร้ายต่อเจ้าหน้าที่ “จึงแจ้งเตือนผู้อยู่ในระหว่างประกันตัว ให้ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาลดังกล่าว อย่างเคร่งครัด หากฝ่าฝืน ทาง บช.น. จะทำการร้องขอต่อศาล พิจารณาให้ถอนการให้ประกันตัว" โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าว

นอกจากนี้ พล.ต.ต.ปิยะ ยังกล่าวย้ำเตือนประชาชนว่า การออกมาชุมนุมช่วงนี้เป็นความผิดตามข้อกำหนดซึ่งออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 24) ลงวันที่ 19 มิถุนายน 2564 และที่เกี่ยวข้อง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ประกอบประกาศกรุงเทพมหานคร ฉบับที่ 33 ลงวันที่ 20 มิถุนายน 2564 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 20,000 บาท

 

ที่มา: https://www.komchadluek.net/news/crime/471448


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

กรมการทหารช่าง กักตัว ครูฝึก-นร.นายสิบ ติดโควิด-19 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กรณีการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโคโรนา 2019 ในค่ายภาณุรังษี ทางเฟซบุ๊ก กรมการทหารช่างได้ชี้แจ้ง ว่า การแพร่ระบาดเกิดขึ้นภายในหน่วยฝึกหลักสูตรนายสิบกองหนุน ที่เข้ารับการฝึกตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2564 ถึง วันที่ 6 สิงหาคม 2564 มีระยะเวลาการฝึก 3 เดือน และด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดในห้วงที่ผ่านมา หน่วยได้มีการเตรียมการตามมาตรการข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข และตามแนวทางการจัดการฝึกของกองทัพบกภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาด ซึ่งการเตรียมการหน่วยได้ดำเนินการกักตัวครูฝึกเป็นระยะเวลา 14 วันก่อนที่จะดำเนินการฝึก และในวันรายงานตัวเพื่อเข้ารับการฝึกของนายสิบนักเรียน หน่วยได้ดำเนินการคัดกรองนายสิบนักเรียนเป็นรายบุคคล โดยประเมินความเสี่ยงจาก ประวัติการเดินทาง ภูมิลำเนา และคัดแยกนักเรียนออกเป็นกลุ่ม เพื่อเฝ้าสังเกตอาการก่อนที่จะเริ่มดำเนินการฝึกเป็นเวลา 14 วัน 

โดยมีจำนวนนายสิบนักเรียน 147 นาย ซึ่งการดำเนินกิจกรรม เช่น การฝึกอบรม การรับประทานอาหาร การนอน และการทำกิจกรรมต่างๆ หน่วยได้แยกนายสิบนักเรียนออกเป็นกลุ่มย่อย เพื่อรักษามาตรการเว้นระยะห่าง สวมหน้ากากอนามัยป้องกันเชื้อโรค ตามแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของกระทรวงสาธารณสุขและกรมแพทย์ทหารบก นอกจากนี้ยังได้มีแผนรองรับ หากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดภายในหน่วย โดยได้จัดเตรียม โรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ติดเชื้อ พื้นที่กักกันตัวสำหรับกำลังพลกลุ่มเสี่ยงสูง และพื้นที่กักกันตัวเพื่อสังเกตอาหารสำหรับกำลังพลกลุ่มเฝ้าระวัง

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 หน่วยได้รับทราบจากครูฝึกซึ่งได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับไปพัก ในห้วงวันหยุด ซึ่งระหว่างการพัก ได้ไปสัมผัสกับผู้ป่วย ซึ่งทราบผลว่าเป็นผู้ป่วยยืนยัน ในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 หน่วยจึงได้นำตัวครูฝึกดังกล่าว เข้ารับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งผลการตรวจพบว่าติดเชื้อ และในวันที่ 21 มิถุนายน 2564 กรมการทหารช่าง จึงแจ้งโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี เข้าดำเนินการตรวจคัดกรองเชิงรุก ครูฝึก และนายสิบนักเรียนทั้งหมด จำนวน 161 นาย และทราบผลในคืนวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ว่ามีครูฝึกและนายสิบนักเรียนติดเชื้อ จำนวน 72 นาย หน่วยจึงได้ดำเนินการร่วมกับโรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี คัดแยกครูฝึก นายสิบนักเรียนที่ติดเชื้อ และที่ไม่พบการติดเชื้อออกจากกัน โดยกลุ่มผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามกองทัพบก (โรงพยาบาลค่ายภาณุรังษี) และส่วนที่เหลือซึ่งเป็นผู้มีความเสี่ยงสูง เข้ากักตัวในพื้นที่กักตัวค่ายบุรฉัตร จำนวน 84 นาย ตามแผนการป้องกันที่หน่วยได้เตรียมการไว้

ต่อมา เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2564 กระทรวงสาธารณสุข และกรมแพทย์ทหารบก ได้จัดส่งบุคคลากรทางการแพทย์ เข้าตรวจคัดกรองอาการผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมดภายในโรงพยาบาลสนาม ซึ่งได้ดำเนินการตรวจโลหิต และเอ็กซเรย์ปอด เพื่อประเมินอาการเข้าสู่กระบวนการรักษาต่อไป

กรมการทหารช่างจึงขอแจ้งให้ทราบถึงเหตุการณ์ การเตรียมการ มาตรการป้องกัน และการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และขอยืนยันเพื่อให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจว่าการติดเชื้อดังกล่าวจะไม่แพร่กระจายไปสู่พี่น้องประชาชนภายนอก เนื่องจากกำลังพลนายสิบนักเรียนดังกล่าวทั้งหมด อยู่ภายใต้มาตรการควบคุมและมาตรการป้องกันโรคมาโดยตลอด ซึ่งมิได้มีโอกาสสัมผัสบุคคคลภายนอก และมิได้อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าพบในห้วงระหว่างการฝึก สำหรับผู้ป่วยติดเชื้อ กองทัพบกได้สั่งการให้กรมการทหารช่างและกรมแพทย์ทหารบก ประสานการรักษาร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด จึงขอแจ้งให้ทราบโดยทั่วกัน

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอเตือนการแชร์ภาพหรือคลิปที่ไม่เหมาะสมบนสื่อสังคมออนไลน์

พ.ต.อ.กฤษณะ  พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณี การโพสต์ การแชร์ ภาพหรือคลิปวิดีโอที่ไม่เหมาะสมบนสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งอาจจะเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมาย ว่าที่ผ่านมามีเหตุการณ์เกิดขึ้น เช่น กรณีเมื่อวันที่ 21 มิ.ย. 64 ในพื้นที่ จ.ชลบุรี เด็กหญิงผู้เสียหายได้ถูกกลุ่มรุ่นพี่รุมทำร้ายร่างกายและถ่ายคลิปวิดีโอไว้ ก่อนจะนำไปเผยแพร่ลงบนสื่อสังคมออนไลน์ จนเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงถึงการกระทำดังกล่าว และกรณีเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.64 ที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ชายวัย 32 ปี ได้ทะเลาะกับภรรยาและเกิดความน้อยใจ ก่อนจะฆ่าตัวตายโดยได้ถ่ายทอดสดการฆ่าตัวตายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ด้วย

ขอเรียนถึงประเด็นของการนำคลิปหรือภาพถ่าย ที่เป็นลักษณะการทำเรื่องที่ไม่ดี  ไม่เหมาะสม กลั่นแกล้ง ส่งต่อข้อความแสดงการเกลียดชัง  คุกคามทางเพศ ล้วนมีผลกระทบต่อสภาพร่างกายหรือจิตใจ ของผู้ถูกกระทำและผู้ที่พบเห็น ซึ่งขณะนี้หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ได้เล็งเห็นความสำคัญและรณรงค์เรื่องนี้มาโดยตลอด อย่างเช่นโครงการล่าสุดที่ทาง สสส. ได้จัดแคมเปญ #UnknownTogether ที่มุ่งเป้าหมายไปที่การลดการกลั่นแกล้งบนโลกออนไลน์ ทำให้ผู้ใช้สื่อเกิดความเท่าทัน มีสติ ไม่กลั่นแกล้งผู้อื่น พร้อมฟื้นฟูจิตใจผู้ที่ตกเป็นเหยื่อให้รู้จักคุณค่าของตัวเอง

ในทางกฎหมายหากคลิปวิดีโอหรือภาพที่เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ผู้ที่แชร์หรือส่งต่อก็อาจจะมีความผิดในลักษณะของการเป็นผู้สนับสนุนซึ่งมีโทษ 2 ใน 3 ส่วนจากโทษของการกระทำความผิดนั้น ๆ

ทั้งนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความสำคัญและกำชับทุกหน่วยงานในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากมีการกระทำความผิดในลักษณะไม่เหมาะสมหรือกระทำผิดกฎหมายบนโลกออนไลน์ ให้ทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีไปตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมสร้างการรับรู้ให้ประชาชนทุกภาคส่วน หยุดการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่ไม่เหมาะสม

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนในเรื่องการกระทำที่ไม่เหมาะสมบนโลกออนไลน์ ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ การโพสต์ แชร์ หรือการแสดงความคิดเห็น ควรทำในทางที่สร้างสรรค์ ไม่เป็นการละเมิดสิทธิหรือไปกระทบผู้อื่นและสุ่มเสี่ยงที่จะเป็นความผิดตามกฎหมาย โดยเฉาะที่เกิดขึ้นกับเด็กซึ่งได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 และตามปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิเด็กและเยาวชนขององค์การสหประชาชาติ

ขอฝากเตือนเพิ่มเติมถึงทุกผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ เมื่อพบเห็นการกระทำในลักษณะดังกล่าว อย่าเข้าไปดู แสดงความคิดเห็น หรือส่งต่อ เพราะยิ่งมีส่งต่อเรื่องราวดังกล่าวก็ยิ่งเป็นการตอกย้ำผู้เสียหายและส่งเสริมการกระทำที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากทุกคนล้วนเป็นส่วนสำคัญในการช่วยกันแก้ไขปัญหาดังกล่าวและทำให้สังคมออนไลน์เป็นสังคมที่น่าอยู่ต่อไป และหากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

'อานนท์' ยันไม่ลดเพดานต่อสู้ อ้างทำให้คนตาสว่างสำเร็จไปแล้ว

นายอานนท์ นำภา แกนนำม็อบเยาวชนปลดแอก โพสต์ข้อความ ผ่านเฟซบุ๊ก "อานนท์ นำภา" ระบุเนื้อหาว่า...เกิดความลังเลว่าการต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่อันนำไปสู่การเสนอให้ลดเพดานการต่อสู้เพื่อให้ง่ายขึ้น ลดเส้นชัยที่จะไปให้ถึง

จริงๆ การต่อสู้ของคนรุ่นใหม่มันสำเร็จไปแล้ว เพียงแต่มันสำเร็จเป็นขั้นๆ

2563 คนรุ่นใหม่ได้ทำลายพรมที่ปกคลุมปัญหาของสังคมมาหลายสิบปี ขยายความคิดที่จะสร้างสังคมอย่างเท่าเทียม สร้างขบวนคนที่จะเปลี่ยนแปลงสังคมอย่างกว้างขวาง ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน แหลมคม

2564 เกิดโควิดระบาดทำให้เกิดข้อจำกัดของการเคลื่อนไหว ซึ่งเราต้องยอมรับให้ได้ว่ามันเป็นข้อจำกัดจริงๆ กรอบการเคลื่อนไหวหลายอย่างต้องขยับและเลื่อนออกไป

ความสำเร็จที่ทำให้คนตาสว่างมันเกิดไปแล้ว และจะไม่กลับไปเหมือนเดิมอีก

ตอนนี้ สิ่งที่เขาจะต้องทำให้เกิดขึ้นให้ได้คือ เมื่อคนตาสว่าง คนต้องออกเดิน ออกถางทาง เพื่อให้ถึงเส้นชัย

อย่ากลัวขวากหนามข้างหน้า ร่วมมือ ลงแรง ช่วยกันสร้างสังคมใหม่

การลดเพดาน คือการยอมรับการวนอยู่ที่เดิม ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เราต้องการ

ส่วนตัว ผมไม่เคยลังเลในเส้นทาง เพราะมันตกผลึกแล้วในเป้าหมาย และหวังว่าเราจะเดินร่วมกันในแนวทางที่เราตั้งไว้อย่างมั่นคง

 

ที่มา : https://siamrath.co.th/n/255176


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

สนง.ศาลยุติธรรม ร่วมมือ สนง.ปลัดกระทรวงกลาโหม ลงนาม MOU มุ่งหวังสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมแก่สังคมอย่างยั่งยืน

วันนี้ (23 มิถุนายน 2564) เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 12 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม และพลเอกประชาพัฒน์ วัจนะรัตน์ เจ้ากรมพระธรรมนูญ ทำการแทนปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง ความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรม กับ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เรื่อง ความร่วมมือ แลกเปลี่ยน สนับสนุนข้อมูลทางวิชาการ และพัฒนาบุคลากรทางวิชาการ

นายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรมและกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ตระหนักถึงความสำคัญของหลักนิติธรรม และหลักธรรมาภิบาล อันเป็นหลักการสำคัญในการปฏิบัติหน้าที่เพื่ออำนวยความยุติธรรมและดำรงไว้ซึ่งความสงบสุขของสังคม อีกทั้ง คำนึงถึงความจำเป็นในการพัฒนาสมรรถนะข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม กับ ตุลาการพระธรรมนูญและข้าราชการสำนักตุลาการทหาร โดยการเพิ่มพูนความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านวิชาการ การบริหารงานยุติธรรม ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ ดังนั้น สำนักงานศาลยุติธรรม และกรมพระธรรมนูญ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีภารกิจลักษณะเดียวกัน คือ งานธุรการที่สนับสนุน และอำนวยความสะดวกแก่ศาลในการพิจารณาพิพากษาคดี รวมถึงงานด้านวิชาการ ตลอดจนการฝึกอบรมบุคลากรในด้านต่าง ๆ จึงได้ร่วมกันจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว เพื่อพัฒนาความร่วมมือทางวิชาการในการแลกเปลี่ยน และสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน อาทิ บทความทางวิชาการ เอกสารงานวิจัย คู่มือการปฏิบัติงาน แนวปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ

รวมถึงคำพิพากษา คำสั่ง หรือคำวินิจฉัยที่สามารถเปิดเผยและเป็นประโยชน์ต่อการเสริมสร้างงานวิชาการ ตลอดจนแลกเปลี่ยน และสนับสนุนการฝึกอบรมและดูงานในหลักสูตรต่าง ๆ ตามความเหมาะสมต่อการปฏิบัติงาน ด้วยความมุ่งหวังที่จะสร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมแก่สังคมอย่างยั่งยืน โดยบุคลากรของทั้งสองหน่วยงานสามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างถูกต้อง และมีประสิทธิภาพ สามารถอำนวยความยุติธรรมให้แก่ประชาชน สร้างความสงบสุขในสังคม ความเชื่อมั่น และความศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมของประเทศไทยต่อไป

สงขลา - แพขนานยนต์ เปิดวิ่งให้บริการเริ่มเช้าวันนี้ หลังหยุดวิ่งมา 2 วัน พนักงานแพขนานยนต์บางส่วนติดโควิค ต้องกักตัวระยะหนึ่ง

เพื่อดูอาการและทางแพขนานยนต์ได้บิ๊กคลีนนิ่งทำความสะอาดแพขนานยนต์ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทั้ง 3 ลำรวมทั้งอาคารสำนักงานบริเวณท่าแพทุกหลังด้วย วันนี้สามารถเปิดให้บริการได้ แต่เปลี่ยนแปลงเวลาให้บริการเป็น 2 ช่วงคือ ภาคเช้าตั้งแต่ 05.00น - 09.00 น. ภาคบ่าย 16.00 น.- 20.00 น.

เช้าวันนี้ (ที่ 23 มิ.ย.64) แพขนานยนต์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาเปิดวิ่งให้บริการแล้ว ตั้งแต่เวลา 05.00 น.เป็นต้นมา มีประชาชนทั้งชาวสงขลาและชาวสิงหนครมาใช้บริการตามปรกติ หลังหยุดวิ่งมา 2 วัน พนักงานแพขนานยนต์บางส่วนติดโควิคต้องกักตัวระยะหนึ่งเพื่อดูอาการและทางแพขนานยนต์ได้บิ๊กคลีนนิ่งทำความสะอาดแพขนานยนต์ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ ทั้ง 3 ลำรวมทั้งอาคารสำนักงานบริเวณท่าแพทุกหลังด้วย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนที่มีความจำเป็น ต้องใช้แพขนานยนต์ ข้ามฟากเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายที่ดีที่สุดในขณะนี้

ในขณะเดียวกัน ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ออกประกาศ ขอเปลี่ยนแปลงเวลาให้บริการแพขนานยนต์เป็น 2 ช่วงเวลา ดังนี้ ช่วงที่ 1 เวลา 05.00 น. - 09.00 น. ช่วงที่ 2 เวลา 16.00 น. - 20.00 น. ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง จึงเรียนมาเพื่อทราบและขออภัยในความไม่สะดวก

สำหรับสาเหตุที่ต้องเปลี่ยนแปลงเวลาจำกัดการให้บริการ สาเหตุเนื่องจากพนักงานแพขนานยนต์บางส่วนติดโควิค ต้องกักตัวระยะหนึ่ง 14 วันเพื่อดูอาการจนกว่าแน่ใจว่าหายดีแล้ว แพขนานยนต์ถึงจะได้มาให้บริการเต็มรูปแบบตามปกติอีกครั้งหนึ่ง โดยในเช้าวันนี้ ใช้แพขนานยนต์ 2 ลำ คือ หมายเลข 9 และหมายเลข 11 โดยหมายเลข 9 บรรทุกรถยนต์และรถจักรยานยนต์บางส่วน ส่วนหมายเลข 11 ใช้บรรทุกเฉพาะรถจักรยานยนต์เท่านั้น เนื่องจาก มีรถจักรยานยนต์ทั้งฝั่งสิงหนครและฝั่งอำเภอเมืองสงขลาที่จะเดินทางไปทำงานเป็นจำนวนมากจึงต้องแยกแพขนานยนต์คนละลำเพื่อความรวดเร็วสำหรับคนทำงาน ที่ใช้รถจักรยานยนต์

อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีประชาชนเดินทางมาใช้บริการแพขนานยนต์เหมือนปรกติไม่ได้ลดน้อยลงเลย เนื่องจากมีความมั่นใจในความปลอดภัยและการปลอดเชื้อเพราะทางแพขนานยนต์ได้บิ๊กคลีนนิ่งทำความสะอาดแพขนานยนต์ ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อแพ ทั้ง 3 ลำรวมทั้งอาคารสำนักงานบริเวณท่าแพทุกหลังด้วย


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ขอนแก่น - ทน.ขอนแก่น อัดงบ 100 ล้านบาท ซื้อวัคซีน “ชิโนฟาร์ม” 100,000 โดส ให้กับคนในชุมชน “ธีระศักดิ์” ย้ำชัดกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ลงลึกถึงกลุ่มเปราะบาง ตามระเบียบที่กำหนด วอนต้นทางชัดเจนและเร่งจัดสรรให้กับ อปท.เร่งด่วน

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.2564 ที่สำนักงานเทศบาลนครขอนแก่น หรือ ทน.นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น ประชุมร่วมคณะทำงานด้านการจัดหาวัคซีนทางเลือก จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ตามระเบียบและข้อบังคับที่กำหนดภายหลังจากที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ได้รับทราบถึงแผนการจัดซื้อดังกล่าวจากเทศบาลฯละพิจารณาอนุญาตให้ทำการจัดซื้อตามระเบียบและขั้นตอนต่าง ๆ ในการนำมาให้บริการกับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลนครขอนแก่น

นายธีระศักดิ์  ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น กล่าวว่า ขณะนี้มีสัญญาณที่ดีที่คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดได้รับทราบและพิจารณาอนุญาตและสนับสนุนการดำเนินงานของเทศบาลฯในการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ สำหรับการนำมาฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เขตเทศบาลฯตามกลุ่มเป้าหมายหลักที่กำหนด โดยขั้นตอนจากนี้ไปคือการจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมตามที่ราชวิทยาลัยฯได้กำหนดออกมา ให้แล้วเสร็จจากนั้นก็จะเข้าสู่ระเบียบของกระทรวงมหาดไทยในการที่จะพิจารณาจ่ายขาดเงินสะสม ซึ่งเทศบาลฯ จะทำการจัดซื้อวัคซีนชิโนฟาร์ม จำนวน 100,000 โดส ในการให้บริการกับประชาชนในพื้นที่ที่รับผิดชอบจำนวน 50,000 คน ประมาณการวงเงินที่ใช้จ่ายประมาณ 100 ล้านบาท

“ผู้ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนในกลุ่มของวัคซีนทางเลือกที่เทศบาลฯจัดซื้อรวมจำนวน 50,000 คนนั้น ได้มีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายไว้ 3 กลุ่มหลัก ประกอบด้วย ครู และบุคลากรทางการศึกษา ,กลุ่มผู้ค้าในตลาดและประชาชนอายุ 18 ปีขึ้นไป และ กลุ่มเปราะบางไม่ต่ำกว่า 5,000 คน ทั้งหมดเป็นไปตามมติที่ประชุมคณะกรรการโรคติดต่อจังหวัดและระเบียบของราชวิทยาลัยฯ ซึ่งขั้นตอนและกระบวนการต่าง ๆ จากนี้ไปคณะทำงานจะประสานงานร่วมทุกฝ่ายเพื่อให้การดำเนินงานนั้นเสร็จสิ้น โดยคาดว่าจะได้รับการส่งมอบวัคซีนในเดือน ต.ค. ซึ่งเทศบาลฯได้ประสานการทำงานร่วมกับ รพ.ศรีนครินทร์ มข.เป็นหน่วยงานบริการทางการแพทย์ในการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มเป้าหมายตามบัญชีรายชื่อที่กำหนดไว้”

นายธีระศักดิ์ กล่าวต่ออีกว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าวัคซีนจากราชวิทยาลัยฯชุดแรก 400,000 โดสได้มีการจัดสรรให้กับหน่วยงานต่าง ๆ แล้วแต่ยังไม่มีปรากฎรายชื่อขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นใดเลย จึงขอให้คณะกรรมการกลางได้พิจารณาจัดสรรวัคซีนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลำดับต้น ๆ ด้วย เพื่อที่จะได้รับวัคซีนทางเลือกมาสนับสนุนวัคซีนหลักที่รัฐบาลจัดสรร จนนำไปสู่การให้ประชาชนทุกพื้นที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 กันให้ได้อย่างครอบคลุมตามสัดส่วนที่รัฐบาลกำหนด ขณะเดียวกันรายชื่อของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ในส่วนที่เทศบาลฯรับผิดชอบนอกจากการลงพื้นที่สำรวจของคณะทำงานแล้ว จะยังคงมีการประสานรายชื่อกับระบบหมอพร้อม และขอนแก่นพร้อม เพื่อดำเนินการจัดระบบการฉีดวัคซีนครอบคลุมเป้าหมายที่กำหนดต่อไป

มานูเอล นอยเออร์ กัปตันทีมเยอรมัน สวมปลอกแขนสีสายรุ้ง ร่วมรณรงค์เดือนแห่ง Pride Month

#เก็บตกยูโร2020 ⚽

หลายคนที่มีโอกาสได้ชมเกมที่ทีมชาติเยอรมันลงแข่งขัน คงแอบสังเกตเห็น มานูเอล นอยเออร์ ผู้รักษาประตูและกัปตันทีมของเยอรมัน สวมปลอกแขนลวดลายเป็นสีรุ้ง ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็นประเด็นดราม่ากันไปเบาๆ

สืบเนื่องจากเดือนมิถุนายน ถูกยกให้เป็นเดือน Pride Month หรือเดือนที่เป็นสัญลักษณ์ของการแสดงออกถึงสิทธิและความเท่าเทียมกันทางเพศ ทำให้ มานูเอล นอยเออร์ ออกมาสวมปลอกแขนกัปตันทีมที่มีสีสันเป็นสีรุ้ง เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญระดับโลกนี้ด้วยนั่นเอง

โดยความตั้งใจของผู้รักษาประตูทีมชาติเยอรมันรายนี้ ต้องการสะท้อนถึงความเท่าเทียมกัน รวมไปถึงการเปิดใจกว้าง และต่อต้านการเหยียดซึ่งกันและกัน แต่ปรากฎว่า นอยเออร์กลับถูกทางสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือยูฟ่า ตั้งทีมงานขึ้นมาสอบสวนถึงการกระทำดังกล่าว เนื่องจากการสวมปลอกแขนกัปตันทีม ถือเป็นกฎระเบียบข้อหนึ่งของนักฟุตบอลที่ต้องทำตามกติกาที่วางเอาไว้

แต่ต่อมา ทางยูฟ่าก็ออกมาให้ข่าวทำนองว่า ได้ล้มเลิกการสอบสวนกับนอยเออร์ไปแล้ว เนื่องจากได้ทราบถึงเจตนารมย์ของผู้รักษาประตูคนดัง ก็เป็นอันเข้าใจได้ แต่! เรื่องมันไม่จบเท่านั้น เพราะคืนนี้เยอรมันจะลงทำการแข่งขันนัดสุดท้าย เพื่อชี้ชะตาเข้ารอบ 16 ทีม โดยจะพบกับทีมชาติฮังการี ซึ่งประเด็นดราม่ามันอยู่ตรงที่ว่า

เยอรมัน ในฐานะเจ้าบ้าน จะขอเปิดไฟที่สนามอัลลิอันซ์ อารีนา ให้เป็นสีรุ้งรอบสนาม เจตนาก็เพื่อต้อนรับเดือน Pride Month นี่ล่ะ แต่มาติดตรงที่ว่า ที่ประเทศฮังการี รัฐสภาของฮังการี เพิ่งผ่านกฎหมายแบนการเผยแพร่เนื้อหาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรักร่วมเพศ พูดง่ายๆ ว่า เยอรมันไปอย่าง ฮังการีไปอีกอย่าง

เรื่องนี้จึงทำให้ยูฟ่า ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลยุโร 2020 ต้องตัดสินใจ เพราะถือว่าเป็นประเด็นอ่อนไหวพอสมควร และอาจจะมีผลกระทบในทางการเมืองโดยไม่จำเป็น สุดท้ายจึงขอไม่ให้ทางนายกเทศมนตรีเมืองมิวนิก ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับทางสนามอัลลิอันซ์ อารีนา ได้เปิดไฟสีสันดังกล่าว

โดยทางผู้หลักผู้ใหญ่ของเยอรมันก็ยินยอม แต่ก็มีแอบประชดเล็กๆ ด้วยการไปเปิดไฟแสงสีรุ้งที่สนามฟุตบอลอื่นๆ ทั้งหมด และประชาชนเยอรมันก็จะพร้อมใจกันโบกธงสีรุ้ง เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์แทน

สรุปเป็นเรื่องคนละมุมมองกันไป แต่สำคัญที่สุด ต้องให้เกียรติซึ่งกันและกัน และหาความเหมาะสมร่วมกันให้ได้


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top