Monday, 28 April 2025
TheStatesTimes

ขอนแก่น – เกาะติดหน้าจอ ลงทะเบียนรับสิทธิ์ยิ่งใช้ยิ่งได้ต่อเนื่อง พบการใช้งานไม่ยาก และมีระยะเวลาการใช้จ่ายชัดเจน วอนรัฐคลายล็อคเพิ่มวงเงินการใช้จ่ายต่อวันให้มากกว่าวันละ 5,000 บาท เพราะสินค้าจำเป็นอย่างเครื่องซักผ้า-ทีวี-ตู้เย็น ราคามากกว่าวงเงินที่กำหนด

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 22 มิ.ย.2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ “ยิ่งใช้ยิ่งได้” ของชาว จ.ขอนแก่น เพื่อรับสิทธิ์ตามมาตรการเยียวยาของรัฐบาลในการให้ความช่วยเหลือและฟื้นฟู้เศรษฐกิจจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังเกิดขึ้น โดยพบว่าวันที่ 2 ของการเปิดให้ลงทะเบียนนั้นยังคงมีประชาชนให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการและขอรับสิทธิ์กันอย่างคึกคัก โดยส่วนใหญ่ไม่ได้ลงทะเบียนในวันแรกเนื่องจากเกรงว่าคนจะเยอะและทำให้ระบบนั้นคลาดเคลื่อนจึงตัดสินใจลงทะเบียนผ่านเวปไซค์ที่กระทรวงการคลังกำหนดในวันนี้แทน ซึ่งก็สามาถลทะเบียนได้ในเวลาไม่นานมากนัก

น.ส.สุนิตรา  อุไกรษา อายุ 40 ปี ชาว จ.ขอนแก่น กล่าวว่า ได้ตัดสินใจเข้าร่วมลงทะเบียนเพื่อขอรับสิทธิ์และใช้สิทธิ์ตามโครงการดังกล่าว เนื่องจากมีการศึกษาแล้วพบว่าเหมาะสมกับตนเองที่สุด เนื่องจากต้องการได้รับเงินคืนจากโครงการ เพื่อนำไปใช้จ่ายในด้านต่างๆเนื่องจากครอบครัวต้องการที่จะซื้อสินค้ามาใช้ในการอุปโภคและบริโภครวมไปถึงสินค้าที่จำเป็นแต่ติดที่ว่าโครงการดังกล่าวนี้นั้นจำกัดวงเงินการใช้จ่ายวันละ 5,000 บาท ซึ่งหากตนเองจะซื้อทีวี ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า หรือแม้กระทั่งเครื่องปรับอากาศขนาดเล็กแม้จะจัดราคาโปรโมชั่นก็ไม่สามารถที่จะเลือกซื้อได้

“ระบบการลงทะเบียน นั้นง่ายมาก และใช้เวลาในการลงทะเบียนไม่นาน ซึ่งเป็นเพราะความคุ้นชินจากการที่ได้ศึกษาโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาลและระบบการลงทะเบียน ที่มีการปรับปรุงแก้ไขและเข้าใจง่าย ซึ่งโครงการเยี่ยวยาที่รัฐบาลกำหนดออกมานั้น ยอมรับว่าสามารถที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับฐานรากได้อย่างมาก และทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเลือกเข้าร่วมโครงการใดก็ได้เพียงโครงการเดียวตามที่ตนเองสนใจและเข้าเงื่อนไข ดังนั้นเมื่อวันนี้ได้สมัครเข้าร่วมโครงการแล้วเสร็จและรอเปิดระบบใช้งานตามระยะเวลาที่กำหนดครอบครัวก็จะไปใช้จ่ายทันที”

น.ส.สุนิตรา กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ ศบค.ได้มีการปรับลดพื้นที่กลุ่มจังหวัด จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 มากขึ้น ขณะที่หลายจังหวัดก็มีมาตรการคลายล็อค โดยเฉพาะร้านอาหาร และกลุ่มผู้ประกอบการด้านการบริการต่าง ๆ จึงขอให้ร้านต่าง ๆ และทุกกลุ่มกิจการ ได้สมัครเข้าร่วมโครงการต่าง ๆที่รัฐบาลกำหนด และขอให้ติดป้ายให้เด่นชด หรือแนะนำลูกค้าเมื่อเข้าไปใช้บริการเพื่อให้ลูกค้าที่ได้รับสิทธิ์ทุกสิทธิ์ได้ใช้จ่ายได้อย่างคล่องตัว ซึ่งจะส่งผลต่อเม็ดเงินหมุนเวียนในระดับพื้นที่ได้อย่างมากขณะที่โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ที่เข้าร่วมโครงการนั้น แม้เงื่อนไขเวลาจะคืนเงินในทุกวันที่ 7 ของเดือน แต่ระยะเวลาใช้งานของโครงการที่สิ้นสุดในช่วงปลายปีและวงเงินคืนคนละไม่เกิน 7,000 บาทนั้นเพียงพอแล้ว

 

ศป.ปส.อ.ขุนหาญ กวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามแผน"ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน"

ภายใต้การอำนวยการของนายวัฒนา พุฒิชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ/ผอ.ศอ.ปส.จ.ศก./นายคมป์ สังข์วงษ์ นายอำเภอขุนหาญ ,พ.ต.อ.ราชศักดิ์ ศรีทองสุข ผกก.สภ.กันทรอม ได้สั่งการให้นายจุติเพชร บุญเนตร ปลัดอำเภอ งานป้องกัน /เจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เลขประจำตัว 620041นำกำลัง จนท.สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน อ.ขุนหาญ ที่ 6 สนธิกำลัง จนท.ตำรวจ สภ.กันทรอม ทหาร ฉก.3 ร่วมกันระดมกวาดล้างอาชญากรรมและการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ตามแผน "ยุทธการ 238 พิทักษ์นครลำดวน" ในพื้นที่รับผิดชอบของ ศป.ปส.อ.ขุนหาญ ผลการดำเนินการ มีดังนี้ เวลาประมาณ 14.00 น. ได้ร่วมทำการจับตัว นายวราเทพ เภาปงทา ชาวตำบลขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีส้มกลมแบน มีอักษร wy ประทับบนเม็ดหนึ่งด้าน จำนวน 392 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีเขียวกลมแบน มีอักษร wy ประทับบนเม็ดหนึ่งด้าน จำนวน 4 เม็ด 

รวมยาบ้าทั้งหมด 396 เม็ด ผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย สถานที่เกิดเหตุ บริเวณถนนสาธารณะกลางหมู่บ้าน บ.ขุนหาญ ม.1 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ  จว.ศรีสะเกษ และ.เวลาประมาณ 15.00 ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายเกษมสันต์ ดีดศรี  ชาวตำบลขุนหาญ อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีส้มกลมแบน มีอักษร wy ประทับบนเม็ดหนึ่งด้าน จำนวน 593 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1(ยาบ้า) ลักษณะชนิดเม็ดสีเขียวกลมแบน มีอักษร wy ประทับบนเม็ดหนึ่งด้าน จำนวน 6 เม็ด รวมยาบ้าทั้งหมด 599 เม็ด ผลตรวจปัสสาวะเป็นบวก

โดยกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย เป็นผู้ขับขี่เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า โดยผิดกฎหมาย เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย สถานที่เกิดเหตุ  บริเวณบ้านเลขที่ 219 บ.ขุนหาญ ม.1 ต.ขุนหาญ อ.ขุนหาญ จว.ศรีสะเกษ เจ้าหน้าชุดจับกุมได้นำตัวส่ง ผู้ต้องหาฯ พร้อมด้วยของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กันทรอม  เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


ภาพ/ข่าว  บุญทัน ธุศรีวรรณ

ศรีสะเกษ - ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 ประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.64 ที่ห้องประชุมเพชร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 พร้อมด้วย น.ส.รุ่งอรุณ เมธาภัทรกุล นายสุเทพ ศรบุญทอง นายคำโพธิ์ บุญสิงห์ รอง ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 และบุคลากรในสำนักงาน ได้ร่วมกันประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ และเพื่อเป็นแบบอย่างให้บุคลากรทุกคนปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น ปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริต ตามโครงการเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม และธรรมาภิบาลในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษา ประจำปีงบประมาณ 2564 โดยมี นางวิไรรัตน์ เครื่องทอง ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ

ว่าที่ ร.ต.ดร.ทวีศักดิ์ นามศรี ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 มุ่งเน้นที่จะบริหารจัดการองค์กรอย่างมีธรรมาภิบาล โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อสร้างความศรัทธาและเชื่อมั่นแก่สังคมว่า สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 เป็นองค์กรธรรมาภิบาล ในฐานะผู้บริหาร สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 จึงขอประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ พร้อมรับผิดชอบและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ

ผอ.สพป.ศรีสะเกษ เขต 1 กล่าวต่อไปว่า ตนขอให้บุคลากรทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริตภายใต้นโยบาย ดังต่อไปนี้ ด้านความโปร่งใส คือ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินภารกิจของหน่วยงาน รวมถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง เปิดโอกาสให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และมีระบบการบริหารจัดการเรื่องร้องเรียนที่ชัดเจน ด้านความพร้อมรับผิด คือ มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติราชการอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้กฎหมาย ระเบียบ วิธีการที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อการตัดสินและการบริหารงาน และความพร้อมที่จะถูกตรวจสอบ เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อ สพป.ศรีสะเกษ เขต 1

ด้านความปลอดจากการทุจริต คือ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือรับสินบน ด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร คือ ไม่ยอมรับการทุจริตทุกประเภทและไม่เพิกเฉยที่จะดำเนินการ เพื่อยับยั้งการทุจริตในหน่วยงาน และด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน คือ กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจน มีความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน อำนวยความยุติธรรมและมีความโปร่งใสในการบริหารงานบุคคล การบริหารจัดการงบประมาณและการมอบหมายงาน ทั้งนี้ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมดังกล่าวภายใต้มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีจุดตรวจวัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ มีการเว้นระยะห่าง และสวมหน้ากากอนามัยทุกคน


ภาพ/ข่าว  ศิริเกษ หมายสุข ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ศรีสะเกษ

ตาก - โรงเรียนราษฎวิทยา จัดกิจกรรมการประกาศ เจตจำนงสุจริตในการบริหารงาน

ที่บริเวณห้องโถงของโรงเรียนราษฎวิทยา เขตเทศบาลนครแม่สอด นายสมศักดิ์ คะวีรัตน์ ผู้จัดการและผู้รับใบอนุญาต ของโรงเรียนราษฎวิทยา ประธานแม่สอดมูลนิธิสามัคคีการกุศล พร้อมด้วยนายวัชรินทร์  ใจยะสิทธิ์ ผู้อำนวยการ รองผู้อำนวยการทุกฝ่าย ตัวแทนคณะครูได้จัดกิจกรรม การประกาศเจตจำนงสุจริตในการบริหารงานภายในองค์กร โรงเรียนราษฎร์วิทยา(ตี่มิ้ง) มุ่งเน้นการบริหารจัดการองค์กร อย่างมีธรรมาภิบาล

โดยให้ความสำคัญกับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ เพื่อสร้างความศรัทธา และเชื่อมั่นแก่สังคมว่าโรงเรียนราษฎร์วิทยา(ตี่มิ้ง) เป็นองค์กรธรรมาภิบาลในฐานะผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนราษฎร์วิทยา(ตี่มิ้ง)จึงขอประกาศเจตจำนงในการบริหารงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตอย่างโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้พร้อมรับผิดชอบและต่อต้านการทุจริตทุกรูปแบบ ทั้งนี้ขอให้บุคลากรทุกคนมุ่งมั่นปฏิบัติงานตามภารกิจด้วยความซื่อสัตย์สุจริต มีคุณธรรม และปราศจากการทุจริตภายใต้นโยบาย ดังต่อไปนี้

1. ด้านความโปร่งใส คือ เปิดเผยข้อมูลการดำเนินภารกิจของหน่วยงาน รวมถึงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง   เปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบ และมีระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน

2. ด้านความพร้อมรับผิด คือ มุ่งมั่นตั้งใจปฏิบัติงานอย่างเต็มประสิทธิภาพภายใต้กฎหมายระเบียบ วิธีการที่ถูกต้อง รับผิดชอบต่อการตัดสินใจและการบริหารงาน  พร้อมที่จะถูกตรวจสอบเพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นต่อโรงเรียน

3. ด้านความปลอดจากการทุจริต คือ ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ใช้ตำแหน่งหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ตนเองหรือรับสินบน

4. ด้านวัฒนธรรมคุณธรรมในองค์กร คือ การทำให้หน่วยงานปลอดจากการทุจริต โดยไม่ยอมรับการทุจริตทุกประเภทและไม่เพิกเฉย ที่จะดำเนินการเพื่อยับยั้งการทุจริตในหน่วยงาน

5. ด้านคุณธรรมการทำงานในหน่วยงาน คือ กำหนดมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ชัดเจนมีความเป็นธรรมในการปฏิบัติงาน อำนวยความยุติธรรมและมีความโปร่งใสในการบริหารงานบุคคล การบริหารจัดการงบประมาณ และการมอบหมายงาน

จึงประกาศให้ทราบและถือปฏิบัติโดยทั่วกัน


ภาพ/ข่าว วรภา พันลุตัน จ.ตาก

ออมสิน รับมอบนโยบายรัฐบาล พักหนี้ให้ SMEs ท่องเที่ยวทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย นาน 6 เดือน เปิดให้ โรงแรม-รีสอร์ต-เกสต์เฮาส์-เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ แจ้งเข้าร่วมมาตรการได้ถึง 23 ก.ค. นี้

นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลและกระทรวงการคลังมอบหมายธนาคารออมสินออกมาตรการช่วยเหลือธุรกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจโรงแรมและที่พัก ที่ขณะนี้ต้องประสบภาวะยากลำบาก ขาดรายได้หล่อเลี้ยงธุรกิจ และไม่สามารถชำระหนี้ได้

ล่าสุดธนาคารออมสินจึงออกมาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย เป็นระยะเวลา 6 เดือน แก่ผู้ประกอบการ SMEs โรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ มีเป้าหมายเพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายแก่ผู้ประกอบการ ให้สามารถประคับประคองธุรกิจจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 จะคลี่คลาย และกิจการกลับมามีรายได้อีกครั้ง

ทั้งนี้ มาตรการยกเว้นการชำระเงินต้นและดอกเบี้ย ทำให้เงินงวดเป็นศูนย์ เป็นระยะเวลา 6 เดือน มีผลตั้งแต่งวดเดือนกรกฎาคม-เดือนธันวาคม 2564 โดยให้สิทธิ์แก่ผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจโรงแรม รีสอร์ต เกสต์เฮาส์ และเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ที่มีวงเงินสินเชื่อรวมไม่เกิน 250 ล้านบาท และมีหนี้ค้างชำระไม่เกิน 90 วัน สามารถแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่บัดนี้ ที่สาขาธนาคารออมสิน หรือศูนย์สินเชื่อธุรกิจลูกค้า SMEs ที่ได้ติดต่อขอสินเชื่อไว้ หมดเขตแจ้งความประสงค์วันที่ 23 กรกฎาคม 2564

อนึ่ง นอกเหนือจากความช่วยเหลือตามมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายแล้ว ที่ผ่านมาธนาคารออมสินได้จัดทำมาตรการเสริมสภาพคล่องโดยการให้สินเชื่อเงื่อนไขผ่อนปรน แก่ผู้ประกอบการ SMEs ธุรกิจท่องเที่ยวอีกหลายมาตรการ โดยปัจจุบันมี 2 มาตรการที่ยังคงเปิดรับลงทะเบียน ได้แก่ มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน วงเงินให้กู้สูงสุดรายละ 500,000 บาท และมาตรการสินเชื่อ SMEs มีที่ มีเงิน สำหรับธุรกิจท่องเที่ยว ใช้ที่ดินเป็นหลักประกัน อัตราดอกเบี้ยปีแรก 0.1% วงเงินให้กู้สูงสุดสำหรับบุคคลธรรมดารายละไม่เกิน 10 ล้านบาท สำหรับนิติบุคคลรายละไม่เกิน 50 ล้านบาท ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถยื่นขอกู้ได้ โดยลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th หรือติดต่อที่ธนาคารออมสินทุกสาขาทั่วประเทศ

 


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

ชุมพร – ยื่นหนังสือ ขอผ่อนคลายให้ร้านอาหารจำหน่ายเครื่องดื่นแอลกอฮอล์ได้

วันนี้ (22 มิย. 64) เวลา 8.30 น นายกฤษฎา ถนอมรักษ์ ตัวแทนชมรมร้านอาหารจังหวัดชุมพรร่วมกว่า 30 ร้าน พร้อมด้วยสมาชิกได้ยื่นหนังสือขอผ่อนคลายให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารได้ เพื่อทำให้เศรษฐกิจของจังหวัดชุมพรเดินหน้าต่อไปได้

ทั้งนี้ปัจจุบันเมื่อลูกค้ามานั่งแล้วสั่งอาหารกลับบ้าน หรือหากจะนั่งก็นั่งไม่นานซึ่งจนทำให้ผู้ประกอบการร้านค้าได้รับผลกระทบแบกภาระค่าใช้จ่ายเช่น ค่าเช่า ,ค่าน้ำค่าไฟ ,ค่าภาษี ,ค่าจ้างค่าเยี่ยวยาพนักงาน ,ค่าดอกเบี้ยธนาคาร และค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ

ทางด้าน นายธีระ อนันตเสรีวิทยา ผวจ.ชุมพร กล่าวว่า ได้คุยกับคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชุมพร เพื่อให้ความช่วยเหลือร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งให้ความร่วมมือทางจังหวัดกันตลอดมา และในวันนี้ก็ได้มีการประชุมของคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดชุมพร ก็จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเพื่อให้ความช่วยเหลือทางชมรมร้านอาหารจังหวัดชุมพร เพื่อให้ทางชมรมร้านอาหารจังหวัดชุมพรยืนอยู่ได้ เพราะเราก็คือ “ชุมพรทีม” เหมือนกัน

ที่ผ่านมาเราก็ได้รับความร่วมมือจากชมรมร้านอาหารจังหวัดชุมพรเป็นอย่างดี และขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือกันตลอดมา จนสามารถให้เราควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ในพื้นที่ชุมพรได้ถึงวันนี้

ราชกิจจานุเบกษาผ่อนคลายมาตรการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. 64 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมาได้มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้ผ่อนคลายในพื้นที่เฝ้าระวังสูงสูด 53 จังหวัดประกอบด้วย กระบี่ ,กาญจนบุรี ,กาฬสินธุ์ ,กำแพงเพชร ,ขอนแก่น ,ชัยนาท ,ชัยภูมิ ,ชุมพร ,เชียงราย ,เชียงใหม่ ,ตราด ,ตาก ,นครนายก ,นครพนม ,นครราชสีมา ,นครสวรรค์ ,น่าน ,บึงกาฬ ,บุรีรัมย์ ,ปราจีนบุรี ,พะเยา ,พังงา ,พัทลุง ,พิจิตร ,พิษณุโลก ,เพชรบูรณ์ ,แพร่ ,ภูเก็ต ,มหาสารคาม ,มุกดาหาร ,แม่ฮ่องสอน ,ยโสธร ,ร้อยเอ็ด ,ลพบุรี ,ลำปาง ,ลำพูน ,เลย ,ศรีสะเกษ ,สกลนคร ,สตูล ,สิงห์บุรี ,สุโขทัย ,สุพรรณบุรี ,สุราษฎร์ธานี ,สุรินทร์ ,หนองคาย ,หนองบัวลำภู ,อ่างทอง ,อำนาจเจริญ ,อุดรธานี ,อุตรดิตถ์ ,อุทัยธานี และอุบลราชธานี


ภาพ/ข่าว  ธนากร โกศลเมธี รายงานศูนย์ข่าวสารจังหวัดชุมพร  

"พรรคกล้า" ร่าง จม.เปิดผนึก ถึง "บิ๊กตู่" หากพบผู้ติดเชื้อ นำตัวแยกจากครอบครัวทันที ป้องกันระบาดแบบทวีคูณ เสนอรัฐจัดยา Favipiravir ให้ผู้ติดเชื้อทันที ไม่ต้องรอได้เตียงก่อน ย้ำต้องรีบรักษา ลดโอกาสอาการหนัก

ทพ.กันตพงศ์ ดีชัยยะ คณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคกล้า และนายณัฐนันท์ กัลยาศิริ ทีมกฎหมายและผู้เสนอตัวสมัครรับเลือกตั้งเขตคลองสามวา พรรคกล้า ร่างข้อเสนอถึงนายกรัฐมนตรี เรื่องมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 แบบทวีคูณ สนับสนุนการเปิดประเทศภายใน 120 วัน ว่า ผู้ติดเชื้อวันนี้ยังสูงมากกว่า 4,000 คน ดังนั้นการจะยับยั้งการแพร่ระบาดและนำไปสู่การเปิดประเทศภายใน 120 วัน ต้องมีมาตรการที่รวดเร็ว ชัดเจน 

1.) เมื่อพบผู้ติดเชื้อ ให้รับการรักษาหรือแยกตัวผู้ป่วยออกจากครอบครัวและคนใกล้ชิด และนำผู้ติดเชื้อไปไว้สถานที่กักตัวทันที หากมารับตัวช้า ผู้ป่วยอยู่บ้านร่วมกับครอบครัว ติดเชื้อทีละคนสองคน สุดท้ายติดยกครัว บางบ้านมี 15 ถึง 20 คน สรุปติดเชื้อจาก 1 คน เป็น 20 คน ติดเชื้อทวีคูณ! 

2.) เมื่อทราบว่าติดเชื้อ แต่อยู่ระหว่างกักตัว รอเข้ารับการรักษา ก็ควรได้ยาต้านไวรัส (favipiravir) ทันที โดยใช้หน่วยแพทย์เชิงรุก, อสส., อาสาสมัครอื่นๆ เพื่อลดโอกาสเชื้อลงปอด ลดโอกาสอาการหนัก ลดโอกาสเกิดการสูญเสีย โดยอ้างอิงจากงานวิจัยหลายๆ ฉบับ จะพบว่า ยิ่งผู้ติดเชื้อเข้าถึงยาต้านไวรัสได้ไว ยิ่งลดความรุนแรงของโรคได้ ลดโอกาสแออัดในโรงพยาบาล ลดภาระของบุคลากรทางการแพทย์ 

"ทำทั้งหมดนี้ไม่ง่าย ต้องใช้ทั้งเงิน และบุคลากรจำนวนมาก แต่ก็ต้องทำครับ รัฐบาลต้องเร่งหาสถานที่กักตัวแยกตัวผู้ป่วยออกจากครอบครัว แยกครอบครัวออกจากกัน โดยใช้โรงแรม หรือสถานที่ราชการต่างๆ และโดยประการสำคัญ ให้ยารักษาทันทีที่ทราบผลการติดเชื้อ เพื่อยุติสถานการณ์โดยเร็วที่สุด หากยังปล่อยให้มีการติดเชื้อเป็นทวีคูณแบบนี้แน่นอนครับว่า เป้าหมายเปิดประเทศ 120 วัน ที่เป็นความมุ่งมั่นร่วมกันของคนไทยคงไม่สามารถสำเร็จได้" นายณัฐนันท์ กล่าว

'บิ๊กตู่' ขู่ใช้กม.ฟันม็อบ 24 มิ.ย. แนะ ปชช.คิดให้ดีก่อนร่วมชุมนุม พร้อมสั่งเข้มดูแลปัญหาทุจริต จากกรณีเสาไฟ บอกปชช.คาใจอะไรต้องทำให้จบ

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามแทนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงการชุมนุมในวันที่ 24 มิถุนายนที่ทำเนียบรัฐบาล ของกลุ่มไทยไม่ทน เพราะยอดติดเชื้อ โควิด-19 ยังสูงอยู่ ว่า 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีความเป็นห่วงประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด โควิด-19 หวังว่าประชาชนจะได้พิจารณาว่าการออกมาร่วมชุมนุมอาจจะทำให้เกิดความสุ่มเสี่ยงติดเชื้อ เพราะคลัสเตอร์ต่างๆ ยังมีเกิดขึ้น จึงอยากให้ประชาชนพิจารณาหลีกเลี่ยงการรวมตัว ทั้งนี้หากเกิดการกระทำความผิด ผ่านการชุมนุมลักษณะต่างๆ ก็คงจะต้องใช้กฎหมายที่มีอยู่พิจารณาต่อไป

นอกจากนี้นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกฯ ให้สัมภาษณ์ตอบคำถามแทน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม กรณีสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินพบข้อมูล องค์การบริหารส่วนตำบลในจ.สมุทรสาครแห่งหนึ่ง จัดซื้อกล้อง ซีซีทีวี ในโรงพยาบาลแพงเกินจริง ว่า 

เรื่องนี้ พล.อ.อประยุทธ์ กำชับทุกหน่วยงานดูแลปัญหาการทุจริต หากพบการร้องทุกข์กล่าวโทษให้นำเข้ากระบวนการสอบสวนอย่างเข้มงวด เช่นเดียวกับปัญหาการจัดซื้ดเสาไฟฟ้าปฏิมากรรมพลังงานแสงอาทิตย์ที่แพงเกินจริงต้องดำเนินการตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดจะต้องเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส โครงการใดที่ยังเป็นข้อกังขาประชาชนยังไม่สะบายใจเจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างชัดเจนเด็ดขาด

เปิดโครงการรถ Mobile พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ครม.อนุมัติวงเงิน 161.3 ล้านบาท

นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยที่ประชุม ครม. อนุมัติโครงการรถ Mobile พาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ภายใต้กรอบวงเงิน 161.324 ล้านบาท ในการใช้รถ Mobile ไม่น้อยกว่า 1,000 คัน ให้บริการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการครองชีพให้กับประชาชน ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดร้อยละ 20-40 ในพื้นที่แหล่งชุมชนและหมู่บ้านต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระยะเวลาดำเนินการ 30 วัน เริ่มเดือนกรกฎาคม 2564  ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มรายได้ 210 ล้านบาท ลดรายจ่าย 90 ล้านบาท เพิ่มการจ้างงาน/รักษาการจ้างงาน 2,385 คน ลดภาระค่าครองชีพให้แก่ประชาชน 3 ล้านคน หรือ 100,000 คน/วัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรียังเผยถึงประโยชน์โครงการฯ ว่า จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากและการบริโภคภาคครัวเรือนรวมทั้งเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับประชาชนเพื่ออำนวยความสะดวกและช่วยลดการเดินทางของประชาชน เพื่อลดความเสี่ยงในการกระจายและการติดเชื้อโควิด-19 ของประชาชนด้วย

กรุงเทพฯ - กองทัพเรือ จัดกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID – 19” ถวายเป็นพระราชกุศล ตั้งครัวสนามเคลื่อนที่แจกจ่ายอาหารให้กับประชาชน”

กองทัพเรือ จัดกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID – 19” ถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในค่าครองชีพ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกองทัพเรือจัดรถครัวสนาม จัดทำอาหารกล่อง และน้ำดื่ม วันละ 690 ชุด พร้อมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค นำไปมอบให้แก่ประชาชน ในทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2564 โดยกำหนดให้การช่วยเหลือประชาชนในชุมชนต่าง ๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับหน่วยงานของกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล พร้อมทั้งจัดกำลังพลจิตอาสากองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือกรุงเทพ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19

“กองทัพเรือเพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID-19 ถวายเป็นพระราชกุศล” จะปฏิบัติภารกิจในการประกอบอาหารช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ไปจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในพื้นที่ต่าง ๆ จะคลี่คลาย โดยในวันนี้ 21 มิ.ย. 64 เวลา 16.30 น. พล.ร.ท.มนตรี รอดวิเศษ ผทค.พิเศษ ทร. และ พล.ร.ต.ณพ พรรณเชษฐ์ รอง ปช.ทร. ผู้แทน ทร. ร่วมด้วย เรือโท ยุทธนา โมกขาว รองผู้อำนวยการ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ร่วมมอบอาหารให้แก่ประชาชน ณ บริเวณลานจอดรถ นันทอุทยานสโมสร กรุงเทพฯ


ภาพ/ข่าว  สมนึก เชื้อสนุก


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top