Thursday, 3 July 2025
TheStatesTimes

นายกฯ มอบ “บิ๊กป้อม” ประชุม รัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน (ADMM ) ครั้งที่ 15 และการประชุม ADMM - Plus ครั้งที่ 8

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกัฐมนตรี เป็นผู้แทนเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน หรือ ADMM ครั้งที่ 15 และการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา หรือ ADMM-Plus ครั้งที่ 8 ระหว่างวันที่ 15-16 มิ.ย. 64  ที่ศาลาว่าการกลาโหม โดยมี กระทรวงกลาโหม บรูไน เป็นเจ้าภาพจัดขึ้น ผ่านระบบ VTC  

โดยจะมีการหารือแลกเปลี่ยนมุมมองด้านความมั่นคงของภูมิภาคและระหว่างประเทศร่วมกัน รวมทั้งร่วมกันพิจารณาเอกสารความร่วมมือริเริ่มใหม่  เพื่อกำหนดกรอบแนวคิดความร่วมมือของ กลาโหมอาเซียนด้านต่างๆ ร่วมกัน
 

กองทัพเรือ จัดกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID-19” ถวายเป็นพระราชกุศล ตั้งครัวสนามเคลื่อนที่แจกจ่ายอาหารให้กับปชช.

เนื่องในโอกาสมหามงคล ในห้วงเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2564 เป็นวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2564 วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จใพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี 3 มิถุนายน 2564 วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2564 และวันคล้ายวันประสูติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครรากุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี 4 กรกฎาคม 2564 กองทัพเรือ จึงได้กำหนดจัดกิจกรรม “กองทัพเรือ เพื่อประชาชน ร่วมใจต้านภัย COVID-19” ถวายเป็นพระราชกุศล เพื่อบรรเทาความ เดือดร้อนของประชาชนในค่าครองชีพ จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยกองทัพเรือจัดรถครัวสนาม จัดทำอาหารกล่อง และน้ำดื่ม วันละ 690 ชุด สมาคมภริยาทหารเรือ พร้อมหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน สนับสนุนสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค นำไปมอบให้ประชาชน

ในทุกวันจันทร์ วันพุธ และวันศุกร์ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2564 โดยกำหนดให้การช่วยเหลือประชาชนในชุมชนต่างๆ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้เคียงกับหน่วยงานของกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งได้ดำเนินการช่วยเหลือประชาชนไปแล้ว จำนวน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน ที่ผ่านมา ในเขตพื้นที่บางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่

ที่บริเวณลานจอดรถ นันทอุทยานสโมสร พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร. )พร้อมด้วย คุณจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคมภริยาทหารเรือ นายทหารชั้นผู้ใหญ่ และ.อุปนายกสมาคมภริยาทหารเรือ ร่วมมอบอาหารและน้ำดื่มจำนวน 1,380 ชุด พร้อมเครื่องอุปโภค บริโภค ให้แก่ผู้แทนชุมชนนำไปแจกจ่ายประชาชนในเขตบางกอกน้อย และเขตบางกอกใหญ่รวม 10ชุมชน และปล่อยขบวนรถจำนวน 4 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ นำอาหารและน้ำดื่ม พร้อมเครื่องอุปโภคและบริโภค ไปมอบให้ประชาชนในพื้นที่ เขตบางกอกน้อย 5 ชุมชนและเขตบางกอกใหญ่ 5 ชุมชน

ทั้งนี้ กองทัพเรือได้ตระหนักและปรับการปฏิบัติให้เป็นไปตามแนวทางการระวังป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 โดยการติดตั้งจุดวัดอุณหภูมิ ติดสติกเกอร์ การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์งดการสัมผัส และเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล

หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ของคณะผู้ควบคุมกฎระเบียบด้านยาแห่งอียู ระบุในวันอาทิตย์ (13 มิ.ย.) เน้นย้ำว่าวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่มีประโยชน์เหนือกว่าความเสี่ยง สำหรับทุกกลุ่มอายุและโดยเฉพาะอย่างยิ่งคนสูงวัยที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป

ก่อนหน้านี้หนังสือพิมพ์ลา สแตมปาของอิตาลี รายงานอ้าง มาร์โก คาวาเลรี หัวหน้าคณะทำงานเฉพาะกิจโควิด-19 ขององค์การยาแห่งยุโรป (EMA) แนะนำว่าประเทศต่างๆ ควรหลีกเลี่ยงฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าให้กับกลุ่มคนอายุ 60 ปีขึ้นไป เพิ่มเติมจากกลุ่มคนหนุ่มสาว หากว่ามีวัคซีนทางเลือก ท่ามกลางความกังวลเกี่ยกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก

อย่างไรก็ตามล่าสุด คาวาเลรี ระบุในถ้อยแถลงที่ส่งถึงสำนักข่าวรอยเตอร์ส ว่า "โชคไม่ดีที่คำพูดของผมไม่ถูกตีความอย่างถูกต้องในการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็วๆ นี้กับลา สแตมปา" เขากล่าว "วัคซีนแอสตร้าเซเนก้ายังคงมีผลได้และความเสี่ยงในทางบวกในทุกกลุ่มอายุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มคนสูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป"

จุดยืนของ EMA คือวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้ามีความปลอดภัยและสามารถใช้กับทุกกลุ่มอายุเกิน 18 ปี อย่างไรก็ตามหลายชาติสมาชิกของสหภาพยุโรปหยุดฉีดวัคซีนตัวนี้ให้กับประชาชนในบางกลุ่มอายุ จำกัดการใช้เฉพาะกับคนสูงวัย สืบเนื่องจากพบเคสผู้ป่วยลิ่มเลือดอุตันซึ่งเกิดขึ้นน้อยมาก แต่ส่วนใหญ่พบในกลุ่มคนหนุ่มสาว

ในช่วงเย็นวันอาทิตย์ (13 มิ.ย.) ลา สแตมปา ปรับแก้พาดหัวข่าวในรายงานข่าวทางออนไลน์และเพิ่มเติมคำชี้แจงของคาวาเลรีเข้าไปในข่าว อย่างไรก็ตาม มัสซิโม จิอันนินี บรรณาธิการของ ลา สแตมปา บอกว่าเขาไม่ขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมในเรื่องนี้

ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ รัฐบาลอิตาลีเผยว่าจะจำกัดการใช้วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเฉพาะกับคนอายุเกิน 60 ปี หลังวัยรุ่นรายหนึ่งที่ได้รับวัคซีนตัวดังกล่าว เสียชีวิตจากภาวะลิ่มเลือดอุดตัน

โรแบร์โต สเปรันซา รัฐมนตรีสาธารณสุขบอกกับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ (13 มิ.ย.) ว่าอิตาลีจะเดินหน้าใช้วัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้าต่อไปกับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป ในนั้นรวมถึงคนที่ยังไม่ได้เข้ารับวัคซีนโดสแรก

เช่นเดียวกับหลายประเทศในยุโรป อิตาลีระงับฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าช่วงสั้นๆ ในเดือนมีนาคม ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่เกิดขึ้นน้อยมาก กระนั้นพวกเขากลับมาใช้วัคซีนตัวดังกล่าวอีกครั้งในเดือนต่อมา ภายในคำแนะนำว่าผลิตภัณฑ์นี้เหมาะใช้กับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป หลังจากองค์การยาแห่งยุโรปเน้นย้ำว่ามันมีประโยชน์เหนือกว่าความเสี่ยง


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2564

Click on Clear เที่ยงตรง ประจำวันที่ 11 มิถุนายน 2564 กับ ประเด็น ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ประจำวันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2564

.

.


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes 
คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

พิจิตร – กรมชลประทาน ทุ่มงบ 580 ล้านบาท สร้างประตูระบายน้ำ ในแม่น้ำยมพื้นที่พิจิตร

กรมชลประทานให้สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่3 นำงบ 580 ล้านบาท ลงมือสร้างประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างในแม่น้ำยมเขตพื้นที่จังหวัดพิจิตร เริ่มลงมือแล้วคาดแล้วเสร็จปี67มั่นใจช่วยชาวนาลุ่มน้ำยมเกือบ 3 หมื่นไร่ ให้มีน้ำอุดมสมบูรณ์ โครงการนี้มีการจ้างแรงงานชาวบ้านนับร้อยคนในท้องถิ่นทำให้มีรายได้มีงานทำในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโควิดอีกด้วย

วันที่ 14 มิ.ย. 2564 นายเสกโสม เสริมศรี ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 กองพัฒนาแหล่งน้ำขนาดกลาง กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้ นายพิรัฐภัช พานทอง หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรม สนง.ก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 3 พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูความคืบหน้าของการก่อสร้างประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างที่ใช้งบประมาณในการก่อสร้าง 580 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการก่อสร้างที่อยู่ในแผนปี64-67 ซึ่งขณะนี้กำลังเร่งดำเนินการ ซึ่งโครงการดังกล่าวเป็นการสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยม พิกัด  ต.ไผ่ท่าโพ  อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งเมื่อสร้างแล้วเสร็จประตูระบายน้ำโพธิ์ประทับช้างแห่งนี้ จะสามารถกักเก็บน้ำไว้ในแม่น้ำยมได้ประมาณ 5.10 ล้านลูกบาสก์เมตร  (ห้าล้านหนึ่งแสนลูกบาศก์เมตร) ระยะกักเก็บน้ำ 19.20 กิโลเมตร พื้นที่รับประโยชน์ครอบคลุม 3 ตำบล 2 อำเภอ ได้แก่ ต.วังจิก  ต. ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง , ต.บางลาย อ. บึงนานาง ครอบคลุมพื้นที่การเกษตร 28,863  ไร่

สำหรับการก่อสร้างที่เห็นในภาพเป็นการก่อสร้างเขื่อนกันแนวตลิ่งบริเวณหน้าวัดประดาทอง ซึ่งอยู่ตอนท้ายของ ปตร.โพธิ์ประทับช้าง โดยการก่อสร้างครั้งนี้มีการแจ้งงานที่เป็นชาวบ้านและคนในท้องถิ่น จำนวนนับร้อยคนที่สลับสับเปลี่ยนกันมาทำงานวันละ 40-50 คน ซึ่งถือเป็นการช่วยเหลือชาวบ้านให้มีงานทำในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจโควิด รวมถึงช่วงนี้นาข้าวของเกษตรกรก็ประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงอีกทั้งน้ำในแม่น้ำยมก็ยังแห้งขอดทำให้เกษตรกรต้องหาอาชีพเสริมด้วยการมาเป็นคนงานก่อสร้างของโครงการดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านที่มาเป็นคนงานก่อสร้างภายในโครงการก็มีมาตรการป้องกันโควิดโดยทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยรวมถึงต้องเอากระติกน้ำหรือน้ำดื่มมาดื่มกินเป็นของส่วนตัวห้ามใช้ภาชนะหรือแก้วน้ำร่วมกัน จึงทำให้การทำงานเป็นไปอย่างราบรื่น

การก่อสร้างประตูระบายน้ำในแม่น้ำยมขณะนี้กรมชลประทานก็กำลังสร้างพร้อม ๆ กันถึง 4 แห่ง คือที่ ปตร.ท่านางงาม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ถัดลงมาก็คือ ปตร.ท่าแห ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม , ปตร.วังจิก ต.โพธิ์ประทับช้าง และ ปตร.โพธิ์ประทับช้าง ต.ไผ่ท่าโพ อ.โพธิ์ประทับช้าง จ.พิจิตร ซึ่งคาดว่าทั้ง 4 แห่ง จะแล้วเสร็จตามแผนในราวปี 2567 ซึ่งจะทำให้พื้นที่ลุ่มน้ำยมของ จ.พิษณุโลก – จ.พิจิตร จะมีน้ำให้นาข้าวนับแสนไร่ได้มีน้ำทำนาอย่างอุดมสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดนี้เกษตรกรต่างขอบคุณรัฐบาลและกรมชลประทานที่ดำเนินการสร้างประตูระบายน้ำทั้ง 4 แห่งดังกล่าว

 


ภาพ/ข่าว  สิทธิพจน์  พิจิตร

 

กาฬสินธุ์ – ผู้ปกครองยังไม่กล้าส่งลูกมาเรียน !! เปิดเทอมวันแรก เข้มมาตรการโควิด-19

บรรยากาศเปิดเทอมวันแรก หลังกระทรวงศึกษาธิการประกาศดีเดย์พร้อมกัน 14 มิถุนายน ทั่วประเทศ หลายโรงเรียนในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์  ยังคงเข้มมาตรการป้องกันโควิด-19 โดยตั้งจุดคัดกรอง แบ่งเลขที่คู่-เลขคี่ สลับวันมาเรียน ขณะที่ยังมีผู้ปกครองบางส่วน ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาโรงเรียน เนื่องจากยังไม่มั่นใจในสถานการณ์ของโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น.วันที่ 14 มิถุนายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งหลายโรงเรียนยังคงยึดมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด ทั้งการตั้งจุดคัดกรอง ให้ครูตรวจวัดอุณหภูมิเด็กนักเรียน และผู้ปกครอง บริเวณทางเข้า พร้อมทั้งให้สวมหน้ากากทุกคน ทั้งนี้หลายโรงเรียน โดยเฉพาะโรงเรียนขนาดใหญ่ ที่มีนักเรียนจำนวนมาก ได้แบ่งนักเรียนออกเป็น 2 ชุด โดยแยกเลขที่คี่และเลขที่คู่อย่างละครึ่ง สลับวันกันมาเรียน เพื่อลดความแออัด

ทั้งนี้ ในภาพรวมยังมีผู้ปกครองบางส่วน ที่ยังไม่กล้าส่งบุตรหลานมาเรียน โดยเฉพาะในกลุ่มเด็กอนุบาล และเด็กประถม เนื่องจากยังห่วงเรื่องการติดโรคโควิด-19 เพราะยังคงมีการแพร่ระบาดอยู่ และเด็กยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ทำให้บรรยากาศเปิดเทอมวันแรกนี้ มีนักเรียนค่อนข้างบางตา ส่วนผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนนั้น หลายคนมีความจำเป็นที่จะต้องส่งมาเรียน แต่ก็ได้มีการป้องกันตนเองเพื่อลดความเสี่ยง โดยห่อข้าว ห่อน้ำเป็นส่วนตัวมาเป็นอาหารกลางวัน ส่วนการเดินทางทั้งรถตู้และรถโดยสารนั้น บางคันยังพบว่ามีการนั่งเบียดกันมาด้วย อย่างไรก็ตาม ในการคัดกรองหลังรถรับส่งนักเรียนและผู้ปกครองมาส่งบุตรหลานนั้น มีคณะครู เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และเจ้าหน้าที่ตำรวจ มาดูแลความเรียบร้อยและอำนวยความสะดวกเท่านั้น

ด้านนายสมพงษ์ หมายเทียนกลาง อายุ 65 ปี บ้านเลขที่ 61 หมู่ 1 บ้านท่าอุดม ต.ลำพาน อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในส่วนของการเปิดเทอมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 นั้น โดยส่วนตัวยังไม่มั่นใจในความปลอดภัยนัก เนื่องจากในพื้นที่และจังหวัดต่าง ๆ ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นรายวัน ทั้งรายบุคคลและกลุ่มก้อน อย่างไรก็ตาม จากการติดตามมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาของทางจังหวัดอย่างเข้มข้นตลอดมา ซึ่งค่อนข้างเป็นที่พอใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ให้คลี่คลายไปได้ ส่วนที่เป็นกังวลบ้างก็ตรงที่เปิดภาคเรียนให้เด็กมาโรงเรียน เนื่องจากจะเกิดความแออัดและมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับเชื้อโควิด-19

นายสมพงษ์กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับวันนี้ซึ่งเป็นวันเปิดเทอมวันแรก ตนให้หลานขึ้นรถตู้ซึ่งเหมารายเดือนมาโรงเรียน ทั้งนี้ก่อนตัดสินใจให้หลานนั่งรถตู้มาโรงเรียนดังกล่าว ก็ได้ตรวจสอบประวัติรถตู้คันดังกล่าวแล้วว่าอยู่ในพื้นที่  ไม่ได้เดินทางมาจากจุดเสี่ยง มีอุปกรณ์ป้องกันโควิดอย่างครบถ้วน และเด็กนักเรียนที่นั่งมาในรถไม่แออัด เพราะมีการจำกัดจำนวนผู้โดยสาร ตามมาตรการรักษาระยะห่าง เพื่อความมั่นใจในมาตรการรักษาความปลอดภัยของทางโรงเรียน ตนจึงเดินทางมาสังเกตการณ์  และอยากสอบถามทางโรงเรียนว่าจะให้ผู้ปกครองมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง ซึ่งหลังจากได้เห็นมีการคัดกรองเด็ก และผู้ปกครองอย่างเข้มข้นแล้วก็อุ่นใจ ว่าบุตรหลานและเด็กนักเรียนจะปลอดภัยจากโควิด-19 ในช่วงเปิดเทอมนี้


ภาพ/ข่าว  ณัฐพงษ์  ประชากูล

สตรีหมายเลข 1 สหรัฐฯ หวาน บอกรักผ่านเสื้อ ร่วมประชุม G7

ภารกิจเยือนต่างประเทศครั้งแรกในฐานะ ‘สตรีหมายเลขหนึ่ง’ ของสหรัฐ คือ การติดตามประธานาธิบดีโจ ไบเดน มาร่วมการประชุม จี7 ครั้งที่ 47 ณ เมืองเซนต์อีฟส์ ในแคว้นคอร์นวอลล์ ของสหราชอาณาจักร ก่อนที่จะไปพบปะกับประเทศในสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซล ประเทศเบลเยี่ยม พร้อมพบเจอกับผู้นำรัสเซีย ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน

การประชุม 7 ประเทศสุดยอดผู้นำเศรษฐกิจโลก เลื่อนมาจากปีที่แล้ว เนื่องจากเกิดการระบาดของไวรัสโคโรน่า จึงอัดแน่นไปด้วยประเด็นที่ต้องพูดคุยกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสภาวะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก หรือโครงการวัคซีน COVID-19

ในวันแรก ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะพบกับนายกรัฐมนตรีอังกฤษแบบทวิภาคีก่อน โดยคาดว่าจะเจรจากันเรื่องการเปิดการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศ เรื่องวิกฤตสภาพอากาศ ที่สำคัญคือ การเจรจาผูกพันเป็นคู่ค้า ‘แอตแลนติก ชาร์เตอร์’ สำหรับยุคอังกฤษหลัง ‘เบร็กซิท’

สำหรับทริปสำคัญครั้งแรก ดร.จิล ไบเดน เลือกสวมใส่เสื้อผ้าสบายๆ อย่างเดรสลายจุดโพลกา-ดอตของ แบรนดอน แมกซ์เวลล์

สตรีหมายเลขหนึ่งของสหรัฐฯ อาศัยแจ็กเก็ตยี่ห้อ ซาดิก เอต์ โวลแตร์ ของฝรั่งเศส บอกสารที่ต้องการสื่อ โดยที่ด้านหลังของเสื้อแจ็กเก็ตปักหมุดเหล็กเป็นคำว่า ‘LOVE’

แจ็กเก็ต ‘รัก’ ของเธอทำให้ทุกคนนึกไปถึงด้านหลังแจ็กเก็ตของเมลาเนีย ทรัมป์ ตัวหนึ่ง ที่มีข้อความเขียนไว้เหมือนกัน แต่เป็นคำที่ไม่ค่อยน่ารัก อย่าง “I Really Don’t Care, Do U?” (“ฉันไม่สนหรอก”) ยิ่งเป็นโอกาสที่เธอสวมใส่ไปเยี่ยมศูนย์กักกันผู้ลี้ภัยด้วย ยิ่งเป็นภาพสะท้อนอะไรได้หลายอย่าง เช่นเดียวกับข้อความบนแจ็กเก็ตของ ดร.จิล ที่แสดงให้เห็นท่าทีของสหรัฐฯ ที่มีต่อโลกได้เปลี่ยนไป

“เรานำพาความรักมาจากอเมริกา” สตรีหมายเลขหนึ่งกล่าว “นี่เป็นการประชุมระดับโลก เราพยายามที่จะสร้างความเป็นเอกภาพให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่โลกใบนี้กำลังต้องการมากที่สุด ฉันรู้สึกได้ว่า โลกของเราจะมีความเป็นหนึ่งเดียว และมีความหวังมากขึ้นหลังโรคระบาดครั้งนี้”

แน่นอนว่า ท่านประธานาธิบดีและสตรีหมายเลขหนึ่ง จะต้องเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 โดยมีหมายกำหนดการในวันที่ 13 มิถุนายนนี้ ประเด็นที่น่าสนใจ นอกจากคาดเดาว่า ดร.จิล ไบเดน น่าจะเลือกสวมชุดของดีไซเนอร์ชาวอเมริกันเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีของอังกฤษแล้ว ยังเนื่องจากสตรีหมายเลขหนึ่ง สนิทสนมกับเจ้าชายแฮร์รีด้วย

ระหว่างที่รอชมว่า ดร.จิล จะสวมชุดไหนเข้าเฝ้าฯ เรามาดูอดีตสตรีหมายเลขหนึ่งรายอื่นๆ ไปพลางๆ ก่อน

สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 ทรงครองราชย์มายาวนานกว่า 7 ทศวรรษ ทรงได้เลี้ยงต้อนรับพระราชอาคันตุกะระดับผู้นำประเทศมาแล้วมากมาย

ในปี 2019 ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เดินทางเยือนสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการ เจ้าแม่แฟชันอย่าง เมลาเนีย ทรัมป์ จัดเต็มลุคเข้าเฝ้าฯ ณ พระราชวังบัคกิงแฮม ด้วยชุดของดีไซเนอร์คนโปรด โดลเช แอนด์ กาบบานา เป็นโค้ตเดรสสั้นสุดเก๋สีขาว มีปกและเข็มขัดสีน้ำเงินเนวีบลู แถมปิดท้ายลุคด้วยหมวกทรงกล่องสีเดียวกับเดรส ของ แอร์เว ปิแอร์

สำหรับงานเลี้ยงพระราชทาน เมลาเนียเลือกชุดราตรีผ้าไหมสีขาวของ คริสเตียน ดิออร์ โอตกูตูร์ และสวมรองเท้า (ที่มองไม่ค่อยเห็น) ของ มาโนโล บลาห์นิค

ด้าน มิเชล โอบามา และบารัก โอบามา เดินทางไปเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ในปี 2011 อดีตสตรีหมายเลขหนึ่งมาในชุดสวยของดีไซเนอร์อเมริกัน ทอม ฟอร์ด ซึ่งอาศัยอยู่ในลอนดอนในขณะนั้น เป็นชุดยาวถึงพื้นสีขาว ผูกโบที่ใต้อก และทำเป็นแถบไขว้คล้องคอแบบเก๋ๆ สวมคู่กับถุงมือสีเดียวกันยาวถึงข้อศอก ดูสง่างามมาก

ราล์ฟ ลอเรน คือดีไซเนอร์อเมริกันที่มิเชลเลือกใช้ในงานเลี้ยงพระราชทานมื้อค่ำ คราวนี้เป็นชุดราตรีสีดำ จับเดรปเปิดไหล่เข้ารูปที่ส่วนบนของชุด ส่วนที่เป็นกระโปรงทำจากผ้ากำมะหยี่ล้อเล่นกับแสงไฟ ที่โดดเด่นคือสร้อยคอและสร้อยข้อมือเพชรที่เข้าชุดกัน ออกแบบโดยดีไซเนอร์ชาวไอริช ทอม บินส์

ขณะที่ เผิงลี่หยวน ภริยาผู้นำสูงสุดของจีน สีจิ้นผิง เดินทางเยือนอังกฤษอย่างเป็นทางการ ในปี 2015 มาดามเผิง สวมชุดโค้ตเดรสสีเนวีบลูสุดสง่างาม มีลูกเล่นที่ปกเป็นกระดุมผ้าสไตล์จีน ประดับด้วยเข็มขัดเส้นเล็กๆ สีขาว ที่เข้ากับกระเป๋าคลัตช์ และต่างหูมุก

ในงานเลี้ยงพระราชทาน มาดามเผิง เลือกชุดเดรสสั้นแค่เข่าสีขาวแบบเรียบๆ ง่ายๆ ที่ยังคงกลิ่นอายของจีน ติดเครื่องประดับเข็มกลัดรูปใบไม้ประดับมุก และรองเท้าส้นเตี้ยสีดำ

สำหรับคนที่เป็นแฟนซีรีส์ The Crown ในเน็ตฟลิกซ์ อาจจะได้ชมฉากตอนที่อดีตประธานาธิบดีจอห์น เอฟ. เคนเนดี และอดีตสตรีหมายเลขหนึ่ง ‘แจ๊คกี้’ แจคเกอลีน เคนเนดี เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ ที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป ณ พระราชวังบัคกิงแฮม ในปี 1961

สตรีหมายเลขหนึ่งคนที่ 35 สวมชุดสีฟ้าอ่อนของดีไซเนอร์ชาวนิวยอร์กคนโปรดของเธอ เชซ์ นินง ที่แจ๊คกีใช้บริการเป็นประจำในช่วงที่เธออยู่ในทำเนียบขาว


โปรเด็ด! เทหมดตัว มาสด้า 2 และ นิสสันอัลเมร่า ทักเลย! ตอบไว! แอดเลย @TheShopsTimes

คลิก????https://lin.ee/vfTXud9

อุทัยธานี – นักเรียนเฮ !! เปิดเทอมวันแรก พบไอเดียเจ๋ง ด่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน เสริมความรู้กับโรคโควิด-19

เมื่อเวลา 07.00 น. ของวันที่ 14 มิ.ย. 64 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังโรงเรียนลานสักวิทยา ต.ลานสัก อ.ลานสัก ไปพบกับไอเดียเจ๋งของคุณครู ด้วยตู้เครื่องวัดอุณภูมิอัตโนมัติ ได้ตัวเดียวครบขั้นตอน ด้วยการล้างมือเจลแอลกอฮอล์ และสแกนคิวอาร์โค้ดด้วยมือถือเพื่อเสริมความรู้ด้านโรคโควิด ได้ทั้งหมดในตัวเดียวกัน และยังช่วยตรวจได้อย่างรวดเร็ด โดยไม่ต้องมีคนมายืนเฝ้าที่เครื่อง โดยโรงเรียนลานสักวิทยา ได้ประดิษฐ์ขึ้นมา เพื่อใช้ในการคัดกรองนักเรียนก่อนเข้าโรงเรียน เพื่อนักเรียน และคณะครู และผู้ที่ผ่านไปผ่านมาอยากจะเข้าพบปะติดต่อกับราชการทางโรงเรียน

โดยนายภาณุพงศ์ มั่นพรม ผู้อำนวยการโรงเรียนลานสักวิทยา พร้อมครูและบุคลากรจำนวน 54 คน รวมนักเรียนจำนวน 779 คน ส่วนบรรยากาศภายในโรงเรียน ได้มีการเปิดภาคเรียนเป็นวันแรก โรงเรียนลานสักวิทยา ได้ตระหนักถึงความปลอดภัยให้กับนักเรียนและบุคลากรทางโรงเรียน ผู้ปกครอง ก่อนเปิดภาคเรียนทางโรงเรียนก็ได้เตรียมความพร้อมของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเข้มงวด ตั้งแต่การประชาสัมพันธ์ให้กับผู้ปกครองเพื่อความมั่นใจกับทางโรงเรียน ทั้งนี้ทางโรงเรียนลานสักได้มีรูปแบบการเรียนแบบผสมผสาน 2 รูปแบบ คือการเรียนแบบออนไซต์ และออนไลน์ ในช่วงป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอีกโรงเรียนที่สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปกครองและสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียน โดยผ่านประตูเครื่องวัดอุณภูมิแบบอัตโนมัติ รวมถึงล้างมือเจล และสแกนมือถือยิงคิวอาร์โค้ดแสดงวิธีการปฏิบัติและเพิ่มความรู้ให้กับนักเรียนเกี่ยวกับโรคโควิด-19 โดยผ่านเครื่องการ์ด ไม่ตก ชกตลอด เครื่องเดียวได้ครบขั้นตอน


ภาพ/ข่าว  ภาวิณี ศรีอนันต์

ชลบุรี - กระทบหนัก ร้านเสริมความงาม ร้านสัก ร้านอินเทอร์เน็ต กว่า 50 คน พบ ผวจ.ชลบุรี ขอผ่อนผันเปิดกิจการ หลังหนี้สินล้น จากพิษโควิด

เจ้าของกิจการสถานเสริมความงาม ร้านอินเตอร์เน็ต ร้านสักผิวหนัง ประมาณ 50 คน ทนไม่ไหว หลังโดนปิดมานานกว่า 7 เดือน ในการระบาดแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 รวม 3 ครั้ง โดนทวงหนี้ค่าเช่าและหนี้สินล้น เดินทางเข้าขอพบผู้ว่าราชการ จ.ชลบุรี ขอผ่อนผันให้เปิดกิจการ โดยยอมทำตามมาตรการของ ศคบ.ทุกอย่าง

เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 มิ.ย. 64 ที่หน้าศาลากลาง จ.ชลบุรี น.ส.ณัฐวรันทร์ ศรีประไหม อายุ 34 ปี เจ้าของสถานเสริมความงามแห่งหนึ่งใน จ.ชลบุรี พร้อมเจ้าของร้านอื่น มีทั้งเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตและร้านรับสักผิวหนัง ในภาคตะวันออก ประมาณ 50 คน ได้นัดรวมตัวกันเดินทางเข้าพบนายภัครธรณ์ เทียนไชย ผวจ.ชลบุรี เพื่อยื่นหนังสือขอผ่อนผันให้เปิดบริการ หลังโดนสั่งปิดกิจการ 3 ครั้ง รวมกว่า 7 เดือน

ต่อมานายนริศ นิรามัยวงค์ รอง ผวจ.ชลบุรี ได้เดินทางลงมารับมอบหนังสือจากตัวแทน และให้ตัวแทนรวม 6 คน เข้าพูดคุยในห้องประชุมศาลากลาง จ.ชลบุรี โดยในหนังสือมีข้อความว่า “เรียน ท่านผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) จังหวัดชลบุรี สิ่งที่แนบมาด้วยมาตรการแนวทางในการ ปฏิบัติตามเงื่อนไข การป้องกันโรคระบาด เนื่องจากในช่วงเวลาที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประสบกับปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสไคโรน่า 2019 จึงส่งผลให้กิจการต่าง ๆ ภายในประเทศ ต้องหยุดกิจการลง เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัส รวมไปถึงกิจการคลินิกเสริมความงาม ที่หยุดกิจการตั้งแต่วันที่ 18 เมษายน 2561 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน เป็นเวลา 2 เดือนแล้ว ซึ่งรวม 3 ครั้ง ปิดไปประมาณ 7 เดือน ทำให้ผู้ประกอบการคลินิกได้รับผลกระทบ จากรายจ่ายของกิจการที่ยังคงดำเนินอยู่ อาทิ ค่าเช่าสถานที่เปิดร้าน ด่าน้ำ ค่าไฟ หรือค่าจ้างพนักงานเฝ้าร้านที่ให้ช่วยสอดส่องคูแลทรัพย์สินภายในร้าน ในช่วงที่ปิดกิจการ ขณะนี้กลุ่มผู้ประกอบการเล็งเห็นว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดภายในประเทศดีขึ้น

โดยพบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนในโรงงานและแคมป์แรงงานต่างด้าว ไม่มีการระบาดเป็นวงกว้างในชุมชนปกติทั่วไป รวมถึงห้างสรรพสินค้า ดังนั้น ข้าพเจ้ากลุ่มผู้ประกอบการผู้ให้บริการคลินิกเสริมความงาม (คลินิกเวชกรรม) จึงใคร่ขอความอนุเคราะห์จากท่าน เพื่อพิจารณาอนุญาตให้ร้านเปิดคำเนินกิจการ โดยกลุ่มผู้ประกอบการได้จัดทำมาตรการ ในการให้บริการภายในร้านดังนี้

ผู้ให้บริการคลินิกเสริมความงาม (คลินิกเวชกรรม)

1.พนักงานประจำร้านสวมหน้ากากอนามัย และ Face Shicd ตลอดเวลาที่ทำงานภายในร้าน และมีการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายผู้เข้าใช้บริการทุกท่าน

2.จัดทำ QR Code ของไทยชนะ เพื่อให้ลูกค้าลงทะเบียนเข้าใช้บริการ

3.มีเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่าง ๆ ภายในร้าน

4.จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้บริการ เพื่อให้มีระยะห่างอย่างเหมาะสม (Social distancing) อย่างน้อย 3 ตารางเมตรเมตรต่อ 1 คนและผู้ใช้บริการ 1 คนต่อ 1 เครื่องเท่านั้น

5.จัดเก็บข้อมูลถูกค้าที่เข้าใช้บริการ ชื่อ-นามสุกล / วัน-เวลาเข้าใช้บริการ และเบอร์โทรศัพท์

6.ทำความสะอาดเครื่องมือทันที และทุกครั้งหลังถูกค้าใช้บริการเสร็จสิ้น หรือทุก 2 ชั่วโมง โดยทำความสะอาดตามจุดสัมผัสต่าง ๆ ภายในร้าน เช่น อุปกรณ์ต่าง ๆ เดียง โต๊ะ เก้าอี้ ที่มีการสัมผัส มือจับประตู ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันและดวบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

ในสถานประกอบการ ร้านเกม/อินเทอร์เน็ต

1.การเว้นระยะห่างเปิดให้บริการแบบเครื่องเว้นเครื่องและทำฉากกั้นที่มั่นคงแข็งแรงโดยมีความสูงไม่น้อยกว่า 50 ซม.และให้บริการลูกไม่เกิน 50% ของจำนวนเครื่องที่ให้บริการ (ร้านขนาดเล็กให้บริการได้ไม่เกิน 10 คน ,ขนาดกลางและขนาดใหญ่ให้บริการได้ไม่เกิน 25 คน)

2.พนักงานและผู้เข้าใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา งดรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่ม ตลอดเวลาที่ใช้บริการ งดการมีปฏิสัมพันธ์ งดผู้ชม ใช้บริการได้เฉพาะผู้เข้าใช้คอมพิวเตอร์เท่านั้น

3.มีการตรวจวัดอุณหภูมิตัดกรอง สแกนไทยชนะ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าใช้บริการ งดให้บริการผู้ที่มีอาการไข้ไอจาม หอบเหนื่อย หรือเป็นหวัด และในระหว่างให้บริการ พนักงานต้องคอยหมั่นสังเกตและสอดส่องอย่างเคร่งครัด หากพบลูกค้ามีอาการไองามสามารถแจ้งให้หยุดใช้บริการได้ทันที

4.ให้มีจุดบริการล้างมือด้วยสบู่หรือแอลกอฮอล์เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่เพียงพอ

5.มีแบบฟอร์มบันทึกการเข้าใช้บริการและแบบสอบถามการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง (โดยทางร้านมีการติดตามข้อมูลรายละเอียดพื้นที่เสี่ยงจากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดชลบุรีทุกวัน)

6.ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อประตูทางเข้าออก ประตูห้องน้ำ ทำความสะอาดทุก 1 ชั่วโมง อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทั้งหมดรวมไปถึงโต๊ะเก้าอี้เช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุก 2 ชั่วโมง และทุกครั้งหลังลูกค้าเลิกใช้บริการ ถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อวันละ 2-3 ครั้งทำความสะอาดห้องน้ำด้วยน้ำยาล้างห้องน้ำทุก 1 ชั่วโมง

7.เปิดประตูเพื่อระบายอากาศทุก 2 ชั่วโมง (เป็นเวลา 10-15 นาที) และทำความสะอาด เครื่องปรับอากาศ แผ่นกรองอากาศให้ได้อย่างสม่ำเสมอ

8.หลีกลี่ยงการสัมผัสเงินโดยตรงโดยใช้ภาชนะเพื่อรับเงินหรือการใช้ e-payment

9.หากผู้ประกอบการ หรือพนักงานให้บริการ หรือผู้เกี่ยวข้องมีอาการไข้หรือเป็นหวัด ให้หยุดงานและ ไปพบแพทย์โดยทันที และ

10.กำชับบุคคลที่เกี่ยวข้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการค้านสาธารณสุข D-M-H-T-T

นายวุฒิพงษ์ หมื่นจำนงค์ อายุ 44 ปี กิจการร้านอินเตอร์เน็ต เผยว่า วอนท่านผู้ว่าได้ทบทวนคำสั่งเพื่อช่วยเหลือพวกเราด้วย เราพร้อมที่จะทำตามคำสั่งขอให้เปิดบริการได้ เพราะเราไม่ไหวแล้วจริง ๆ

น.ส.ศุภนิจ ก๊กรัมย์ อายุ 40 ปี เจ้าของสถานเสริมความงาม เผยว่า อยากให้ท่านผู้ว่าทบทวนคำสั่งใหม่ ขนาดท่านนายกฯยังยอมผ่อนผันในบางแห่งเลย ธุรกิจต้องดำเนินต่อไป เรามาครั้งนี้เพราะทนไม่ไหวแล้ว ปิดนานแต่เรามีรายจ่าย ทุกวันทุกเดือน เพราะต้องจ้างคนดูแลร้าน ส่วนลูกน้องนั้นก็จะโดนยึดหมดแล้วทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ เขาปิดเราแต่ไม่มีการเยียวยาใด ๆ เลย เจ้าของธุรกิจเขาก็ต้องดูแลน้อง ๆ เขา แต่ว่ามาถึงจุดตอแนนี้ก็ดูแลไม่ไหวแล้วเหมือนกันจึงมาของอนุเคราะห์ผ่อนผันให้เปิดได้ด้วยนายนริศ นิรามัยวงค์ รอง ผวจ.ชลบุรี เปิดเผยว่า ก็จะนำหนังสือไปมอบให้ท่านผู้ว่าฯ เพื่อนำเข้าที่ประชุม ศคบ.ชลบุรี ในวันพฤหัสนี้ เพื่อขอผ่อนผันให้เปิดต่อไป ซึ่งก็เห็นใจทุกฝ่าย คาดว่าทางคณะที่ประชุม ศคบ.ชลบุรี ก็คงพิจารณาอีกครั้ง    


ภาพ/ข่าว  นิราช/นันทพล ทิพย์ศรี ก012 ชลบุรี


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top