Sunday, 6 July 2025
TheStatesTimes

เชียงใหม่- พิธีมอบเงินสงเคราะห์ ให้เเก่บุพพาการีทุพพลภาพ เเละบุตรที่มีความต้องการพิเศษของกำลังพล มทบ.33 ประจำปี 2568

เมื่อวานนี้ (4 ก.ค. 68) เวลา 10.30 น พล.ต.ธีระ ผดุงสุนทร ผบ.มทบ.33 พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา และ พ.อ.หญิง อรอุมา อุตรพงศ์ รองประธานสมาคมแม่บ้าน ทบ. สาขา มทบ.33 พร้อมคณะฯ ร่วมพิธีมอบเงินสงเคราะห์ ให้เเก่บุพพาการีทุพพลภาพ เเละบุตรที่มีความต้องการพิเศษของกำลังพล มทบ.33 ประจำปี 2568 พร้อมทั้งมอบกายอุปกรณ์ ประเภท รถเข็นนั่ง, ไม้ค้ำช่วยเดิน, ของเล่นเสริมพัฒนาการ ณ ศาสนสถานค่ายกาวิละ อ.เมือง จว.ช.ม.

ผู้สูงอายุ และบุตรหลานที่มีความต้องการพิเศษ โดยการมอบสิ่งของและเงินช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

 


  

‘จีน’ ตอบโต้!! ข้อตกลงการค้า ระหว่าง ‘สหรัฐอเมริกา’ กับ ‘เวียดนาม’ ลั่น!! พร้อมตอบโต้อย่างหนัก เพื่อปกป้องสิทธิ ผลประโยชน์อันชอบธรรม

(5 ก.ค. 68) หลังจากที่สหรัฐฯ ประกาศข้อตกลงการค้ากับเวียดนาม จีนกล่าวว่ากำลังพิจารณาข้อตกลงดังกล่าว และจะตอบโต้หากผลประโยชน์ของพวกเขาได้รับผลกระทบ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โพสต์เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมบนแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ Truth Social ของเขาว่า สหรัฐฯ และเวียดนามได้สรุปข้อตกลงการค้าแล้ว

ในอีกโพสต์ ทรัมป์ได้ให้รายละเอียดว่า ข้อตกลงดังกล่าวกำหนดภาษีนำเข้าสินค้าเวียดนามทั้งหมดที่เข้าสู่สหรัฐฯ 20 เปอร์เซ็นต์ และภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศอื่นที่ใช้เวียดนามเป็นทางผ่าน 40 เปอร์เซ็นต์

ในทางกลับกัน เวียดนามให้สิทธิ์สหรัฐฯ เข้าถึงตลาดการค้าได้อย่างเต็มที่ โดยไม่มีภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ

ภาษีการใช้เวียดนามเป็นทางผ่านสินค้า ซึ่งมุ่งเป้าไปที่การส่งออกของจีนไปยังสหรัฐฯ เป็นหลัก เกี่ยวข้องกับบริษัทบางแห่งที่ส่งสินค้าที่ผลิตในจีนผ่านเวียดนาม เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ

จีนได้พูดถึงข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนาม

เหอหยงเฉียน โฆษกกระทรวงพาณิชย์ กล่าวในการแถลงข่าวที่ปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จีน “คัดค้านอย่างหนักแน่นต่อฝ่ายใดก็ตามที่ตกลงกันโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของจีน”

“หากเกิดสถานการณ์เช่นนี้ขึ้น จีนจะตอบโต้อย่างหนักเพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรม” เธอกล่าวเสริม โดยไม่ได้ระบุมาตรการที่จะดำเนินการ

เวียดนามได้รับประโยชน์จากความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน เนื่องจากบริษัทจำนวนมากย้ายฐานการผลิตจากจีนมาที่เวียดนาม เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ตั้งคำถามมาเป็นเวลานานแล้ว เกี่ยวกับการที่จีนใช้ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นทางผ่านสำหรับส่งสินค้า ซึ่งส่งผลให้สินค้าจีนถูกฟอกตัว

ในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการจัดสรรงบประมาณของวุฒิสภาเมื่อเดือนมิถุนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ โฮเวิร์ด ลุตนิก ปฏิเสธแนวคิดข้อตกลงการค้าปลอดภาษีศุลกากรกับเวียดนาม โดยเรียกสิ่งนี้ว่า “สิ่งที่โง่เขลาที่สุดที่เราสามารถทำได้” เขากล่าวถึงการที่จีนใช้เวียดนามเป็นตลาดของบุคคลที่สามเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ

ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านการค้าของทรัมป์ กล่าวถึงเวียดนามว่าเป็น "อาณานิคมของจีนคอมมิวนิสต์" ในบทสัมภาษณ์กับ Fox News เมื่อเดือนเมษายน โดยกล่าวหาว่าจีนใช้เวียดนามเป็น "ช่องทางการส่งสินค้า" เพื่อหลบเลี่ยงภาษีของสหรัฐฯ

“มันทำงานยังไง เวียดนามขายให้เรา 15 ดอลลาร์ต่อ 1 ดอลลาร์ที่เราขาย และประมาณ 5 ดอลลาร์เป็นสินค้าจีนที่เข้ามาในเวียดนาม พวกเขาติดฉลากว่าผลิตในเวียดนาม และส่งต่อให้เราเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี” เขากล่าว

ในระหว่างการเยือนเวียดนามระหว่างวันที่ 14-15 เมษายน ผู้นำจีน สีจิ้นผิง สนับสนุนให้มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเวียดนามมากขึ้น และสนับสนุนการต่อต้าน 'การกลั่นแกล้งฝ่ายเดียว'

ตั้งแต่ทรัมป์เริ่มกดดันจีนในปี 2018 บริษัทจีนก็เข้ามาตั้งรกรากในเวียดนาม โดยสินค้าส่งออกไปยังสหรัฐฯ ของเวียดนามส่วนใหญ่ อย่างเช่น AirPods และโทรศัพท์ ได้ประกอบในเวียดนามโดยใช้ชิ้นส่วนของจีน

ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นข้อตกลงการค้าฉบับที่ 2 ของทรัมป์ นับตั้งแต่เขาประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าในวันที่ 2 เมษายน เมื่อเดือนพฤษภาคม สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรได้ลงนามในข้อตกลงที่มีมาตรการรักษาความมั่นคงที่เข้มงวดสำหรับเหล็กและยา ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อกีดกันจีนจากห่วงโซ่อุปทานของสหราชอาณาจักร

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ หลายคนกล่าวว่า หลายประเทศกำลังเร่งดำเนินการให้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ ก่อนเส้นตายวันที่ 9 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ภาษีศุลกากรต่างตอบแทนที่ทรัมป์ระงับไว้จะเริ่มมีผลบังคับใช้

‘หนุ่มลาว’ ฟาดเดือด!! ตอกหน้า ‘สาวเขมร ปากดี’ ชี้!! ให้ย้อนกลับไปวันแรก ที่เข้ามาของานคนไทยทำ

(5 ก.ค. 68) เพจเฟซบุ๊ก ‘Sarina Hung’ ได้โพสต์คลิป โดยมีใจความว่า ...

‘สาวแรงงานเขมร’ ได้กล่าวกับ ‘หนุ่มแรงงานจากประเทศลาว’ ว่า  

“ทุกวันนี้คนต่างด้าวมาอยู่กินฟรีใช่ไหม ขอข้าวคนไทยกินขอบ้านคนไทยอยู่ใช่ไหม ห้องก็เช่าข้าวก็ซื้อกินเอง ไม่ได้มาอยู่ฟรีกินฟรีเลย แล้วจะให้สำนึกบุญคุณอะไร”

ซึ่งทางด้านหนุ่มลาว ก็ได้ฟาดเดือด!! ตอกหน้าสาวเขมรปากดี ที่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณ กลับไป ว่า

“ต้องย้อนกลับไปวันแรกที่คุณ เข้าประเทศไทยมาคุณพูดภาษาไทยไม่ได้ มีเสื้อผ้ามาแค่ชุดเดียว บางคนใบอนุญาตทำงานก็ไม่มี ลักลอบเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ มาของานคนไทยทำ มายกมือไหว้ มายกมือกราบ”

“ถ้าถามว่าบุญคุณของคนไทยคืออะไร ก็คือบุญคุณ ที่คุณไปฉีดยาไปรักษาพยาบาลอยู่ที่โรงพยาบาลของคนไทยเขา บางคนเข้ามาคลอดลูกอยู่ประเทศไทย เอาลูกไปเข้าโรงเรียนไทย บางคนก็เรียนฟรี นี่แหละคือบุญคุณ”

‘นิพนธ์’ สวนเดือด!! ‘เดชอิศม์’ ย้ำ!! เลือดแท้ ‘ประชาธิปัตย์’ ไม่รับมติโจร ซัดกลับ!! ปมตั้งรัฐมนตรี เป็นมติเฉพาะกิจของบางกลุ่ม ใช้อำนาจสั่งการรวบ

(5 ก.ค. 68) จากกรณีที่กรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์บางคน (เดชอิศม์ ขาวทอง)ออกมาระบุชัดว่า “ใครรับมติพรรคไม่ได้ก็ลาออกไป” ล่าสุด นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคประชาธิปัตย์ ก็ไม่ปล่อยผ่านในประเด็นดังกล่าว พร้อมตอกกลับทันทีว่า สิ่งที่ต้องถามไม่ใช่แค่ว่าใครรับหรือไม่รับมติพรรค แต่ต้องย้อนดูว่า คนพูดเคยขัดมติพรรคหรือเปล่าและมตินั้นชอบด้วยข้อบังคับของพรรคจริงหรือไม่

“เลือดแท้ประชาธิปัตย์ รับมติพรรคได้อยู่แล้ว แต่ถ้ามันเป็นมติที่เกิดจากการรวมกลุ่มของคนบางกลุ่ม ชอบใช้อำนาจสั่งซ้ายหันขวาหัน แล้วบังคับยัดเยียดให้คนอื่นต้องทำตาม แบบนั้นไม่ใช่มติของพรรค แต่เป็นมติของโจร” 

นายนิพนธ์ยังตั้งคำถามสำคัญว่า พรรคประชาธิปัตย์มีข้อบังคับกำหนดไว้ชัดเจนในการคัดเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่งทางการเมือง การเสนอชื่อเข้าดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ต้องผ่านการพิจารณาของกรรมการบริหารแล้วจึงนำรายชื่อที่ืผ่านคณะกรรมการบริหารเข้าสู่ที่ประชุมร่วมกันของคณะกรรมการบริหารกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรค แต่การเสนอชื่อครั้งล่าสุด กลับไม่มีขั้นตอนใดที่เป็นไปตามกติกาที่กำหนดในข้อบังคับพรรค โดยเฉพาะในข้อ 96 (2) 

“ประชาธิปัตย์ดั้งเดิม ที่ผมรู้จัก ไม่ใช่พรรคที่ใครจะใช้อำนาจสั่งการรวบรัดแล้วบอกให้ปฎิบัติ ไม่มีการกลั่นกรอง ไม่มีการประชุมที่ครบถ้วนตามระเบียบ แล้วบอกว่านี่คือมติพรรค  นี่มันมติเฉพาะกิจของบางกลุ่ม ไม่ใช่ประชาธิปไตยในพรรค” 

นายนิพนธ์ ย้ำว่า ผู้บริหารพรรคการเมืองต้องยืนอยู่บนหลักการที่ถูกต้อง ต้องปฎิบัติตามกฎหมายพรรคการเมือง ข้อบังคับพรรค ไม่ใช่ใช้อำนาจเฉพาะกลุ่ม ตามอำเภอใจพร้อมเตือนว่า ถ้าใครเอาคำว่า “มติพรรค” มาใช้ข่มคนอื่น โดยไม่สนว่าตัวเองได้ปฎิบัติถูกต้องตามข้อบังคับแล้วหรือไม่อย่ามาริบังอาจบอกให้คนอื่นทำตามมติที่ตัวเองกำหนด  เพราะผู้บริหารพรรคเองกำลังทำผิดกฎจริยะธรรมของพรรค  

“ถ้าเรายังใช้มติแบบนี้เล่นงานคนเห็นต่าง แล้วบอกว่าคือวินัยพรรค นั่นมันไม่ใช่การสร้างเอกภาพ แต่มันคือการใช้พรรคเป็นเครื่องมือ  ทำลายคนที่เห็นต่างกับตน  ใครที่คิดแบบนี้ต่างหากที่ควรทบทวนตัวเอง ไม่ใช่เอาแต่ไล่คนอื่นให้ออกจากพรรค ซึ่งแม้จะไม่ไล่สมาชิกก็ทยอยออกกัน จะหมดอยู่แล้ว” นายนิพนธ์ กล่าวทิ้งท้าย

‘กระทรวงวัฒนธรรมเขมร’ แถลงโต้!! ‘แพทองธาร’ ยัน!! กลุ่มปราสาทตาเมือน อยู่ในเขตอธิปไตยกัมพูชา

(5 ก.ค. 68) เว็บไซต์ข่าว Khmer Times อ้างคำแถลงจากกระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งกัมพูชาวานนี้ (4 ก.ค.) ซึ่งระบุว่า กระทรวงฯ ขอปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อคำกล่าวอ้างของ น.ส. แพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมของไทย เมื่อวันที่ 4 ก.ค. ที่ระบุว่ากลุ่มปราสาทตาเมือน อยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศไทย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานตั้งแต่ปี พ.ศ. 2505

กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมแห่งกัมพูชาได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เมื่อคืนวันศุกร์ (4) ว่า การที่ไทยอ้างกรรมสิทธิ์เหนือกลุ่มปราสาทตาเมือนเพียงฝ่ายเดียว โดยอาศัยแผนที่ที่ร่างขึ้นฝ่ายเดียวนั้น 'ไม่มีน้ำหนักทางกฎหมาย' หรือความชอบธรรมใดๆ และยังขัดแย้งกับเนื้อหาในบันทึกความเข้าใจ (MoU) ปี 2543 ระหว่างทั้งสองฝ่าย ซึ่งทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเคารพและใช้แผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ตามเจตนารมณ์ของสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยาม ปี ค.ศ. 1907 ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

กระทรวงฯ ยังยืนยันด้วยว่า จากสนธิสัญญาฝรั่งเศส-สยามในปี ค.ศ. 1904 และ 1907 รวมถึงแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ดังกล่าวข้างต้น กลุ่มปราสาทตาเมือนตั้งอยู่ในเขตอธิปไตยของราชอาณาจักรกัมพูชาโดยสมบูรณ์ นอกจากนี้ กลุ่มปราสาทตาเมือนยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ตั้งอยู่ในจังหวัดอุดรมีชัย และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นส่วนหนึ่งของมรดกแห่งชาติกัมพูชาแล้ว

กระทรวงวัฒนธรรมและศิลปกรรมกัมพูชาเรียกร้องให้กระทรวงวัฒนธรรมแห่งราชอาณาจักรไทยเคารพหลักการสากล เพื่อรักษาศักดิ์ศรีและความเป็นมืออาชีพที่ถูกคาดหวังจากสถาบันทางวัฒนธรรมในทุก ๆ ประเทศ

“ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น เราขอแจ้งให้ผู้ชมทั้งในประเทศและต่างประเทศทราบด้วยความเคารพ”

ท่าทีของฝ่ายกัมพูชามีขึ้นหลังจากที่ น.ส. แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี และ รมว.วัฒนธรรม ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อวันศุกร์ (4) และมีการอ้างถึงมติ ครม.สมัยนายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่เห็นชอบให้ส่งมอบโบราณวัตถุ 20 รายการแก่กัมพูชาตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ หลังจากกรมศิลปากรและคณะผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าวัตถุโบราณมีต้นกำเนิดในกัมพูชา และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ในการจัดส่งคืน ซึ่งได้รับรายงานว่า งบประมาณในปีปัจจุบันไม่เพียงพอในการขนส่ง และไม่เป็นเรื่องเร่งด่วนในการของบกลาง จึงอาจจะทบทวนเรื่องนี้ ต้องส่งเรื่องเพื่อขอตั้งงบประมาณของกระทรวงและรายงานต่อครม.เพื่อทราบ ในการหาหน่วยงาน หรือที่มาของงบประมาณที่จะจัดสรรงบประมาณต่อไปในการส่งคืน

“ที่สำคัญเนื่องด้วยสถานการณ์ไทยกัมพูชา ทางกระทรวงวัฒนธรรม จึงมีความเห็นในการทบทวนเรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสมต่อไป บทสรุปคือ ทบทวนก่อนแล้วค่อยว่ากันเรื่องตั้งงบ ที่เหลืออยู่ยังไม่ส่งคืนก่อน"

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวด้วยว่า ประเด็นเรื่องโบราณสถานในกลุ่มปราสาทตาเมือน กระทรวงวัฒนธรรมขอยืนยันว่ากลุ่มปราสาทตาเมือนเป็นโบราณสถานที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย และมีการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานตามกฎหมายว่าด้วยโบราณสถาน พ.ศ. 2505 แล้ว ในส่วนพื้นที่พิพาทอื่นได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า จะเร่งดำเนินการในการรักษาไว้ซึ่งดินแดนและอำนาจอธิปไตยของไทยเช่นกัน


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top