Monday, 23 June 2025
TheStatesTimes

สงขลา - พลเอกประวิตรฯ ห่วงใยคณะสงฆ์และประชาชนไทยพุทธในชุมชนห่างไกลเมืองจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบโควิด-19 และสิบวันสุดท้ายรอมฎอน 64 พร้อมสั่งการให้ทุกฝ่ายเร่งช่วยเหลือโดยด่วน

วันที่ 7 พฤษภาคม 2564 พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการเร่งด่วนให้  ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ร่วมกับส่วนราชการและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการประสานงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วนที่สุดแก่คณะสงฆ์และประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธที่พักอาศัยบริเวณพื้นที่โดยรอบวัดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเฉพาะในพื้นที่หมู่บ้านและชุมชนรอบวัดที่ห่างไกลเมืองซึ่งมักพบว่ามีประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนน้อยส่งผลให้การส่งเสริมกิจกรรมทางพุทธศาสนาไม่มีความสะดวกเท่าที่ควร บางพื้นที่มีประกาศงดปฏิบัติศาสนกิจของสงฆ์เป็นการชั่วคราว ทำให้พระและลูกวัดมีความเป็นอยู่และการปฏิบัติศาสนากิจประจำวันยากลำบากมากขึ้น ประกอบกับช่วงเวลานี้ เป็นช่วงสิบวันสุดท้ายของเดือนรอมฎอน ประจำฮิจเราะห์ศักราช 1442/2564 ซึ่งมักเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากกว่าในช่วงเวลาอื่น

ในการนี้ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า พลเอก ประวิตรฯ ได้มีความห่วงใยต่อเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก เพราะคณะสงฆ์และประชาชนที่นับถือศาสนาพุทธ โดยเฉพาะที่พักอาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลเมือง ล้วนได้รับผลกระทบ 2 ทาง ทั้งจากสถานการณ์โควิด-19 และเหตุการณ์ความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีการใช้ความรุนแรงเป็นจำนวนมากกว่าเวลาอื่น พร้อมนี้ ได้มอบหมายให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เร่งไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือคณะสงฆ์และประชาชน มีกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการบรรเทาความเดือดร้อนตามปัญหาข้างต้นทั้งในระดับพื้นที่ อาทิ การมอบหมายให้ส่วนราชการในจังหวัดรับผิดชอบดูแลให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของวัดและประชาชนในพื้นที่ห่างไกลในทุกมิติที่เกี่ยวข้อง การจัดตั้งโรงครัวเพื่อจะได้ถวายอาหารแก่พระภิกษุสงฆ์สามเณรที่ไม่สามารถปฏิบัติศาสนากิจได้อย่างเต็มที่ตลอดห้วงเวลานี้ เป็นต้น ขณะเดียวกันก็ได้ประสานให้สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนการปฏิบัติงานให้กับหน่วยงานในระดับพื้นที่ต่อไปโดยไม่ชักช้า ดังนั้น หากคณะสงฆ์และวัดใดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประสบปัญหาและความเดือดร้อนในเรื่องใด ขอให้ประสานงานโดยตรงไปยังจังหวัด สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดและสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดที่ตั้งเป็นลำดับแรก หรือ อาจจะประสานไปที่ ศอ.บต. ทางสายด่วน ศอ.บต. 880

ภายหลังจากที่พลเอก ประวิตรฯ ได้สั่งการในข้างต้นนั้น ศอ.บต. ได้ลงพื้นที่พบปะเจ้าคณะประจำอำเภอในปัตตานี และเสาร์-อาทิตย์นี้ จะส่งทีมบัณฑิตอาสาในหมู่บ้านที่เป็นที่ตั้งของวัดและสำนักสงฆ์เพื่อจัดทำข้อมูลปัญหาและความเดือดร้อนของวัด พระภิกษุสงฆ์ สามเณรและประชาชนในพื้นที่ที่นับถือศาสนาพุทธโดยรอบวัดที่ห่างไกลและการดูแลให้ความช่วยเหลือยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรวบรวมปัญหาและความจำเป็นให้สำนักปลัด    สำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ให้ช่วยเหลือเร่งบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของพระภิกษุสงฆ์ สามเณรและประชาชนตามที่รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตรฯ มอบหมายต่อไป

ทั้งนี้ มีการแสดงข้อมูลของพระอารามหลวง วัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ หรือ เทียบเท่า ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีจำนวนทั้งสิ้น 392 แห่ง แบ่งเป็นวัด จำนวน 309 แห่ง สำนักสงฆ์ จำนวน 11 แห่ง ที่พักสงฆ์ จำนวน 72 แห่ง มีพระภิกษุสงฆ์ รวมทั้งสิ้น 1,509 รูป และสามเณร รวมทั้งสิ้น 33 รูป มีชุมชนไทยพุทธที่อาศัยรอบบริเวณวัดที่เปราะบางและต้องการให้หน่วยงานรัฐเข้าไปช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาความเดือดร้อน มากถึง 26 ชุมชน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันในการให้ความช่วยเหลือเพื่อธำรงไว้ซึ่งความเป็นพหุสังคมและวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ตามนโยบายของรัฐบาล


ภาพ/ข่าว  นายปรีชา สถิตย์เรืองศักดิ์ / หาดใหญ่ จ.สงขลา

ปราจีนบุรี – เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบมือยิงหน้าห้างได้แล้ว พร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพ

จากเหตุการณ์ที่มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงคู่อริ ที่บริเวณหน้าห้างแมคโคร สาขากบินทร์บุรี หมู่ 8 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้ในเวลาประมาณ  23.00 น. บริเวณถนนสายสุวรรณศร ทราบชื่อนายอภินันท์ โสมา จากการตรวจค้นร่างกาย  พบของกลาง ปืนสั้น 1 กระบอก พร้อมกระสุนอีก 4 นัด กระสุนปืน M16 จำนวน 130 นัด กระสุนปืนลูกซอง 5 นัด และระเบิด จำนวน 1 ลูก อยู่ภายในเป้  จึงได้ควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่  สภ.กบินทร์บุรี

เช้าวันนี้ (9 พ.ค. 64) พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง  ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี ได้นำตัวนายอภินันท์ โสมา ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพบริเวณหน้าห้างแมคโคร กบินทร์บุรี โดยมีชาวบ้านมามุงดูเป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ทำแผนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง  ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวถึงสาเหตุในการก่อเหตุในครั้งนี้ โดยคนร้ายได้รับสารภาพว่า ตนเองมีเรื่องขัดแย้งกับนายวัฒนะ เรื่องงานประจำ ก่อนที่จะนัดเคลียร์ปัญญากันในช่วงเย็นเมื่อวาน ที่หน้าห้างแมคโคร  แต่การเจรจาไม่ลงตัว  ผู้ก่อเหตุอ้างว่าฝ่ายตรงข้ามยกพวกมาหลายคน และจะเข้ามาชกต่อยตน จึงได้ใช้อาวุธปืนที่เตรียมมายิงเข้าใส่กลุ่มของนายทรงกลด เพื่อเป็นการป้องกันตนเอง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ก่อนที่จะหลบหนีออกนอกประเทศ ก่อนที่จะถูกจับตัวได้ 

นายอภินันท์  โสมา ผู้ก่อเหตุได้กล่าวขอโทษญาติของผู้สูญเสีย ตนเองทำไปเพราะต้องการป้องกันตัวเอง ไม่ได้คิดจะเอาชีวิตใคร และตกใจที่ฝ่ายตรงข้ามยกพวกมากันหลายคน ส่วนการแจ้งข้อกล้าวหานั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ครอบครองอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต


ภาพ/ข่าว  ณัฐวัฒน์  กุลเศรษฐ์สุวภา ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี

วันทอง สะท้อนไหม? | คิดเพลิน Learn & Play Talk EP.1

คุณอยู่กับ Podcast face to face รายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ฟังง่ายได้สาระ  

พูดคุยประเด็นต่างๆ แบบเพลินๆ พบกันทุกวันจันทร์ - อาทิตย์ เวลา 22.00 น. 

ติดตามชมรายการ “คิดเพลิน Learn & Play Talk” ได้ทาง YouTube และ Facebook Fanpage ของ THE STATES TIMES 

อย่าลืม! กดไลก์ กดแชร์ กด Subscribe 
.

.

องค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ไบออนเทคในเด็กอายุระหว่าง 12-15 ปีเป็นกรณีฉุกเฉิน

องค์การอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐได้อนุมัติให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์ ไบออนเทคในเด็กอายุระหว่าง 12-15 ปีเป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว ซึ่งจะช่วยให้การฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในสหรัฐมีขอบข่ายที่กว้างมากขึ้น แม้อัตราการฉีดวัคซีนในขณะนี้เริ่มชะลอตัวลงก็ตาม

ก่อนหน้านี้ วัคซีนของไฟเซอร์ ไบออนเทคได้รับอนุญาตให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 16 ปีขึ้นไปในสหรัฐ แต่ขณะนี้ FDA ได้ตัดสินใจอนุญาตให้ใช้วัคซีนดังกล่าวเป็นกรณีฉุกเฉินสำหรับเด็กที่มีอายุระหว่าง 12-15 ปี

เจเน็ต วู้ดค็อก รักษาการกรรมาธิการของ FDA กล่าวว่า “การอนุญาตในครั้งนี้จะช่วยให้ประชาชนที่มีอายุน้อยสามารถได้รับการป้องกันจากโรคโควิด-19 อีกทั้งจะทำให้เราสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติและยุติการแพร่ระบาดได้เร็วขึ้น เราอยากให้บรรดาพ่อแม่และผู้ปกครองวางใจว่า FDA ได้ทำการทบทวนข้อมูลทั้งหมดอย่างรอบคอบ และขณะนี้เราได้อนุญาตให้ใช้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินแล้ว”

นอกจากนี้ FDA ยังได้พิจารณาแล้วเห็นว่า ประโยชน์ของวัคซีนที่มีต่อเด็กอายุระหว่าง 12-15 ปีนั้น มีมากกว่าความเสี่ยง จึงได้ตัดสินใจอนุญาตให้ใช้วัคซีนสำหรับเด็กกลุ่มนี้

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้ EP.1/3 ตอน ‘เศรษฐกิจของคนตัวเล็ก’

BizMAX THE TOPIC จับประเด็น เน้นความรู้  EP.1/3 ตอน ‘เศรษฐกิจของคนตัวเล็ก’

พบกับ คุณเอ๋ อรรชวิชช์ สุวรรณภักดี เลขาธิการพรรคกล้า 

ดำเนินรายการโดย หยก THE STATES TIMES 

.

.

เลือก 'โควิด' หรือ 'วัคซีน'

ประเทศอื่นพบผลข้างเคียงทั้งหมด แต่ทุกประเทศต่างยอมรับผลข้างเคียงว่าย่อมเกิดขึ้นได้ โดยสัดส่วนที่พบเท่ากับ 1 ในแสน แต่หากฉีดยาแก้แพ้แล้วหายทุกคน ไม่มีใครตาย อย่างในประเทศไทยเอง ก็ยังไม่มีการเสียชีวิตแม้แต่คนเดียว


ที่มา: ศ.พญ.กุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยคลินิก และ อาจารย์สาขาโรคติดเชื้อ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

https://www.facebook.com/CheckSuthipong/videos/926573338100192/

กางไทม์ไลน์ ‘แอสตราเซเนกา’ เตรียมผลิตฉีดให้คนไทย เป็นจำนวนเท่าไรถึงสิ้นปีนี้

เป็นข่าวดีเมื่อ ‘วัคซีนแอสตราเซเนกา’ ที่ผลิตโดย บ.สยามไบโอไซเอนซ์ ผ่านการตรวจสอบคุณภาพจากห้องปฏิบัติการในยุโรปและสหรัฐอเมริกาแล้ว กระบวนการต่อจากนี้ จะเริ่มต้นทำการส่งมอบวัคซีนลอตแรกให้กับประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา มีการวางแผนการผลิตกันไว้เรียบร้อยแล้ว

เริ่มต้นที่เดือนมิถุนายนนี้ เตรียมจัดมอบกัน 6 ล้านโดส และจะทยอยผลิตออกมาทุก ๆ เดือน เดือนละ 10 ล้านโดส ไปจนถึงพฤศจิกายน กระทั่งเดือนธันวาคมจะลดลงเหลือ 5 ล้านโดส เบ็ดเสร็จรวมทั้งสิ้น (สำหรับปีนี้) 61 ล้านโดส

ถ้าเป็นไปตามเป้าหมายที่ว่านี้ ‘แอสตราเซเนกา’ จะเป็นความหวังที่เห็นเป็นรูปธรรมที่สุดในการจัดหาวัคซีนให้คนไทย ซึ่งขณะนี้ทุก ๆ ฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างใช้ความพยายามในการจัดหาวัคซีนกันเต็มกำลังความสามารถ

สรุปภาพรวมที่มีวัคซีนอยู่ในตอนนี้ 3.5 ล้านโดส และจะได้มาเพิ่มอีก 5 แสนโดสกลางเดือนพฤษภาคม รวมทั้งที่ดำเนินการติดต่อขอซื้อเพิ่มเติม และตั้งเป้าว่าจะหามาเพิ่มให้ได้อีก 35-40 ล้านโดส เมื่อรวมกับลอตของแอสตราเซเนกาอีกกว่า 61 ล้านโดส จบปลายปีนี้ ประเทศไทยต้องมีวัคซีน 100 ล้านโดส เพื่อฉีดให้คนไทยราว 40 ล้านคน หรืออย่างน้อยต้องเกินครึ่งหนึ่งของประชากรของประเทศให้ได้

ไม่ต้องสนใจว่า ‘มาช้า มาเร็ว’ ประเด็นสำคัญคือ ‘ขอให้มา ขอให้ได้ฉีด’ ทีนี้ก็เตรียมรองรับการฉีดกันให้พร้อมสรรพ เตรียมไว้ให้พอ เตรียมไว้เสียตั้งแต่เนิ่น ๆ มิฉะนั้น ปัญหาใหม่ก็จะเกิดอีก เห็นใจและเข้าใจคนหน้างานที่สุด! ส่วนจะเลือกฉีดวัคซีนของยี่ห้อใด คำตอบง่าย ๆ ในช่วงเวลาที่เลือกอะไรไม่ได้อย่างในตอนนี้ คือ ‘เชื่อที่หมอแนะนำ’ จบ! เราต้องรอดเพราะหมอ! และต้องไม่ตายเพราะโซเชี่ยล!

กระบี่ – เตือนภัยรูปแบบใหม่ ดาบตำรวจหนุ่มเมืองกระบี่ โดนหลอกเช่ารถเก๋งป้ายแดงไปถอดชิ้นส่วนอะไหล่ เชื่อทำเป็นขบวนการ

วันที่ 11 พ.ค.2564 ด. ต. ศุภชัย กรรมการ อายุ 44 ปี  ตำแหน่งผบ. หมู่ กก. สส. ภ. จว. กระบี่ อยู่บ้านเลขที่ 296/2 ม.7 ต.ไสไทย อ.เมือง จ.กระบี่  เจ้าของรถเก๋งฮอนด้าซิตี้ สีขาว ป้ายแดงทะเบียน  ก 2331 กระบี่  ได้เข้าไปตรวจสภาพความเสียหาย  ของรถคันดังกล่าวภายในศูนย์ริการฮอนด้ามะลิวัลย์กระบี่ ม.2 ต.กระบี่น้อย อ.เมืองกระบี่ หลังนายพิชานัน  หรือตั้ม  เกียรติโอฬาร  อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 408/13  ถ.อุตรกิจ ต.กระบี่ ใหญ่ อ.เมืองกระบี่   ได้เช่าไปเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา แต่กลับนำไปจอดที่อู่แห่งหนึ่งใน พื้นที่ ม.2 ต.ทับปริก อ.เมืองกระบี่  จึงตามไปเอารถคืนปรากฎว่า รถอยู่ในสภาพห้องเครื่องมีร่องรอยถูกรื้อถอดชิ้นส่วนไปหลายรายการ   จึงได้ติดตามตัวนายพิชานัน มาสอบถาม ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าได้รื้อเอาอุปกรณ์ในรถไปจริง จึงได้แจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สภ.เมืองกระบี่  เมื่อวันที่9 พ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนจะมาตรวจสอบความเสียหายของรถและชิ้นส่วนอะไหล่ที่หายไปเพื่อประเมินควรามเสียหายและแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาลักทรัพย์

เบื้องต้นนายภูวดล ไชยบุญ หัวหน้าช่างประจำศูนย์บริการฯ กล่าวภายหลังการตรวจสภาพรถ ว่า การถอดอะไหล่ในลักษณะดังกล่าวตนไม่เคยเจอมาก่อน เพิ่งพบเป็นเคสแรก จากการตรวจสอบสภาพรถในเบื้องต้น พบว่ามีร่องรอยถอดอุปกรณ์ เช่น  ท่อไอเสีย แคทตาไลติก   และที่ชัดเจนมีชิ้นส่วนถูกถออดออกไป2 รายการ คือ แผ่นกันความร้อนคอท่อหลังเทอร์โบ1 ชิ้น  และแผ่นกันความร้อนเทอร์โบด้านบน 1 ชิ้น ซึ่งจะเกี่ยวเนื่องกับตัวเทอร์โบ แต่ยังไม่ทันได้ถอดเทอร์โบ นอกจากนั้นยังพบว่ามีการใส่อะไหล่มาไม่ครบ และใส่น็อตไม่ตรงด้วย รวมมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น คาดว่าไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นบาท 

ขณะที่ ด.ต.ศุภชัย เล่าให้ฟังว่า ตนเปิดบริการให้เช่ารถเป็นอาชีพเสริมในตัวเมืองกระบี่ก่อนเกิดเหตุ เมื่อช่วงเช้าวันที่ 8 พ.ค.64 ที่ผ่านมา นายพิชานัน ฯ ผู้ต้องหาได้โทรศัพท์ติดต่อมาขอเช่ารถ พร้อมระบุเป็นรถฮอนด้าซิตี้ รุ่นใหม่ ป้ายแดง ซึ่งตนก็นมีรถรุ่นดังกล่าวเพิ่งซื้อมาได้ประมาณ 5 เดือน จึงได้ตกลงทำสัญญาเช่าเป็นเวลา1 วัน ในราคา 900 บาท โดยผู้ต้องหานัดคืนรถในเช้าวันที่ 9 พ.ค.64  โดยผู้ต้องหาได้โอนเงินมัดจำมาให้ 2 พันบาท และนัดมารับรถที่ ถนนปานุราช เขตเทศบาลเมืองกระบี่  เมื่อตรวจสอบรถในสภาพเรียบร้อย ผ็ต้องหาก็ขับรถไปทันที  ต่อมาช่วงเย็นวันเดียวกันตนสังเกตเห็นสัญญาณจีพีเอสที่ติดตัวรถ หยุดนิ่งผิดปกติเป็นเวลา 4 -5ชม.ที่ปั้มน้ำมันปตท.ไสไทย ก่อนเคลื่อนรถไปที่อู่รถยนต์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่ม.2 ต.ทับปริก และรถจอดที่อยู่ดังกล่าวตั้งแต่4โมงเย็นจนถึงเช้า 

ด.ต.ศุภชัย กล่าวอีกว่า ขณะรถจอดที่อู่ดังกล่าว พบความผิดปกติ คือสัญญาณจีพีเอสหายไปประมาณ3 ชม. ตั้งแต่5โมงเย็นถึง3ทุ่ม เมื่อเห็นผิดสังเกตุ จึงโทรศัพท์ไปสอบถามผู้ต้องหาว่าจะคืนรถตามกำหนดหรือไม่ผู้ต้องหาก็รับปาก ตนจึงถามต่อว่าทำไมมาจอดที่อู่ ผู้ต้องหาตอบว่ามาดูรถที่ซ่อมไว้ ตนจึงกำชับว่าอย่าถอดอะไหล่รถที่ให้เช่าเขาก็รับปาก ต่อมาเช้าวันที่9 พ.ค.ถึงเวลานัดรับรถคืนแต่ไม่มาตามนัด  ตนพยายามโทรติดต่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้ประสาน ผช..ผญบ  ม.2 ทับบปริก มาร่วมตรวจสอบที่อู่ดังกล่าวปรากฎว่าพบรถจอดอยู่ในสภาพไม่ล๊อคประตู และเปิดไฟในรถทิ้งไว้ ตัดสัญญานภาพกล่องบันทึก ในรถออก มีร่องรอยการถอดอุปกรณ์ โดยมีน๊อตตกอยู่ในกะโปรงรถ และร่องรอยการขันน๊อตหลายจุด พร้อมพบคราบน้ำมัน ของเหลว ภายในห้องเครื่อง จึงได้นำรถ มาตรวจสอบที่ศูนย์บริการดังกล่าว

เชื่อว่าผู้ต้องหาต้องการจะถอดเทอร์โบแต่ถอดไม่ทัน จากการประมวลเหตุการณ์ตนเชื่อว่านายพิชานันไม่ได้ลงมือเพียงคนเดียว อาจจะมีผู้ร่วมขบวนการ 2-3 คน และทางเจ้าของอู่น่าจะมีส่วนรู้เห็นด้วย ซึ่งหลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานแจ้งความดำดำเนินคดีตามกฎหมาย  และให้เจ้าหน้าที่สืบสวนขยายผลว่ามีผุ้ร่วมขบวนการหรือไม่อย่างไร  และอยากฝากเตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้บริการให้เช่ารถได้ระมัดระวังด้วย เพราะตอนนี้มิจฉาชีพมาในหลายรูปแบบ ด.ต.ศุภชัย กล่าว


ภาพ/ข่าว  ณัฏฐพงษ์ ศรี

 

นราธิวาส - โควิด-19 พ่นพิษ แม่ค้าร้านเสื้อผ้านราธิวาสโอดครวญ เสื้อผ้ารับเทศกาล ’ฮารีรายอ’ ปีนี้ไม่คึกคัก

วันนี้ 10 พ.ค.64  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศร้านเสื้อผ้าย่านถนนพิชิตบำรุง ย่านธุรกิจ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส  ก่อนเทศกาลฮารีรายออิฎิ้ลฟิตรี รีหรือเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ของพี่น้องชาวมุสลิม ที่จะถึง ภายหลังที่ทางสำนักจุฬาราชมนตรีได้ประกาศวันดูดวงจันทร์ เพื่อกำหนดวันฎิ้ลฟิตรี ในคืนวันที่ 11 พ.ค.64 นี้

โดยที่บริเวณถนนสายหอนาฬิกา ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้มีประชาชนออกมาซื้อเสื้อผ้า ผ้าโสร่ง รองเท้า เสื้อโตป หมวกกาปีเยาะ ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายแบบมุสลิม เพื่อใส่ไปละหมาดในวันฮารีรายออิฎิ้ลฟิตรี นี้ ก็มีประชาชนเดินทางมาจับจ่ายซื้อของกันอย่างคึกคัก

ขณะที่ น.ส นิสา นิแมเราะ อายุ 20 ปี พนักงานร้าน ELAMIN (แอลลานมีน) ตั้งอยู่ที่ถนนพิชิตบำรุง เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ให้ข้อมูลว่า ในปีนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีเหมือนปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ที่กำลังระบาดอย่างหนักในตอนนี้ และราคายางพาราที่ตกต่ำ ทำให้ประชาชนออกมาจับจ่ายน้อยกว่าปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะช่วง 10 วัน สุดท้ายของเดือนรอมฎอน จะมีประชาชนออกมาจับจ่ายเลือกซื้อสินค้ากันอย่างคึกคัก และขายได้ดี ซึ่งปีนี้เศรษฐกิจย่ำแย่เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะมีพี่น้องประชาชนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า แต่ส่วนใหญ่จะเลือกซื้อสินค้าที่มีราคาถูกลง เนื่องจากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ทำให้มีกำลังในการซื้อสินค้าน้อยลง ทำให้ร้านค้าจำนวนมากต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่าย่ำแย่

ทั้งนี้ จากการประกาศจากสำนักจุฬาราชมนตรี ให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์  กำหนดวันที่ 1 เดือนเชาวาล (วันอิฎิ้ลฟิตรี)  ฮิจเราะห์ศักราช 1442 ในวันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2564  เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า หากมีผู้เห็นดวงจันทร์ แสดงว่า วันที่ 1 เดือนเชาวาล (วันอิดิลฟิตรี)  ตรงกับวันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2564  หากไม่มีผู้เห็นดวงจันทร์ วันอิดิลฟิตรี ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2564


ภาพ/ข่าว  ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาสรายงาน

สกัดจับรายวัน..!!!! “กกล.สุรสีห์” จับอีกต่างด้าว 49 คน ลอบเข้าเมืองผิด กม.

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2564 จากกรณีตามนโยบาย พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กำชับทุกกองกำลัง (กกล.) ชายแดนและหน่วยทหารสกัดจับป้องกันการลักลอบเข้าเมืองแบบผิดกฎหมายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังสุรสีห์ รายงาน การจับกลุ่มแรงงานต่างด้าว และผู้นำพา รายละเอียดดังนี้

ชุดปฏิบัติการข่าว (ชป.ขว.) ที่ 2 ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า พบเส้นทางเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว (ร่องรอยใหม่) จึงได้ประสานชุดทหารม้าลาดตระเวน (มว.ลว.) ที่ 4 ฉก.ลาดหญ้า จำนวน 4 นาย, สารวัตรกำนันตำบลบ้านเก่า และนายพนมกร คล้ายเมือง ผญบ.หมู่ 7 หนองบ้านเก่า พร้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 2 นาย รวมกำลังทั้งหมด 11 นาย ร่วมกันตรวจสอบเส้นทางและวางแผนซุ่มเฝ้าตรวจ เมื่อเวลา 02.10 น.

สามารถจับกุมผู้นำพา จำนวน 3 คน ทราบชื่อเบื้องต้นนายแป๊ะ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) พี่ชาย นายมนัส ทองเถาว์, นายแอ๊ด อุดเรือน หรือแอ๊ด และนายติ่ง (ไม่ทราชื่อสกุลจริง) พร้อมแรงงานต่างด้าว จำนวน 49 คน (ชาย 25 คน หญิง 24 คน) บริเวณพื้นที่บ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี 

ปัจจุบันยังควบคุมตัวทั้งหมดไว้ในพื้นที่จับกุม ซักถามเบื้องต้นจะมีผู้นำพาชื่อ “ป๊อกเด้ง” เดินพาต่างด้าวตามมาอีก 30 คน ปัจจุบันเจ้าหน้าที่กำลังซุ่มเพื่อจับกุมต่อไป


© Copyright 2021, All rights reserved. THE STATES TIMES
Take Me Top